ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 352 : เก็บตัว
ตอนที่ 352 : เก็บตัว
ครืด ครืด ครืด
มันอาจจะฟังเป็นเสียงแปลก ๆ แต่นี่คือเสียงของเสี่ยวซวี
ตอนนี้จ้าวเมิ่งซีได้อุ้มเสี่ยวซวีเอาไว้โดยไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยมันลงเลย
มันทำให้เสี่ยวซวีร้องออกมาไม่หยุด แต่มันก็ไม่มีทางเลือกอื่นเพราะมันเป็นคำสั่งของเจ้านายของมัน
อสูรมิติในตำนานถูกลูบไล้ไปมาและบ่นออกมาไม่หยุด มันถึงกับกรอกตาใส่ด้วยความไม่พอใจ
“น่ารักจริง ๆ เลย”
แต่มันก็ทำให้จ้าวเมิ่งซีนั้นดูสดใสกว่าเดิม
“ฉันคิดว่าเธอคงไม่พูดแบบนี้ตอนที่มันโตขึ้นมาหรอก” หวังเย่านอนนิ่งไม่คิดจะขยับตัวและพูดขึ้นมา
ตอนที่อสูรมิติยังเล็กอยู่นั้นมันก็ดูน่ารักจนผู้หญิงทุกคนไม่อาจจะต้านทานได้ไหว ถึงหวังเย่าจะไม่เคยเห็นตัวโตเต็มวัยของมัน แต่ตามที่เฉี่ยนเจินเฉียนบอกมาแล้ว มันคงไม่ได้น่ารักแบบที่จ้าวเมิ่งซีพูดในตอนนี้แน่
“โตแล้วยังไง ตอนนี้มันน่ารักอยู่ไม่ใช่รึไง ? นายไม่อยากยอมรับมากกว่า” จ้าวเมิ่งซีได้ยินแบบนั้นก็เถียงขึ้นมา
เธอไม่ได้แสดงนิสัยแบบนี้มาสักพักแล้ว อย่างน้อยหวังเย่าก็ไม่ได้เห็นด้านนี้ของเธอมานานแล้ว
“นายมองอะไร ! ” เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาที่หวังเย่ามองมา จ้าวเมิ่งซีก็หน้าแดงขึ้นมาทันที
“เธอเองก็ดูน่ารักเหมือนกัน” หวังเย่าหัวเราะออกมา
“นาย ! ” ตอนแรกจ้าวเมิ่งซีแค่อายแต่ตอนนี้หน้าเธอแดงก่ำราวกับจะมีไอน้ำลอยออกมาจากตัว
“ฮึ่ม ! ฉันไม่สนใจนายแล้ว” สุดท้ายจ้าวเมิ่งซีก็ฮึดฮัดใส่หวังเย่าก่อนจะวางเสี่ยวซวีลงแล้วเดินออกจากห้องไป
เธออายเกินไป เพราะอย่างนั้นเธอต้องไปเรียกสติตัวเองก่อน
ในห้องทำงานนั้น หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตลกไปตาม
เสี่ยวซวีเองก็ไม่ได้สนใจอะไร ยังไงซะนี่ก็ไม่ใช่เรื่องของมัน
หวังเย่าเอาน้ำยาพลังออกมาวางไว้บนโต๊ะจนทำให้เสี่ยวซวีตาเป็นประกาย
ถึงในสายตาของมันจะแสดงความไม่พอใจอยู่แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความต้องการ
“นี่น่ะของแกหมดเลย” หวังเย่ามองไปที่เสี่ยวซวีแล้วพูดขึ้นมา
เมื่อได้ยินที่หวังเย่าพูด เสี่ยวซวีก็รีบพุ่งไปที่โต๊ะและรีบกินน้ำยาพลังทันที
“แกนี่น่าตลกนะ” หวังเย่าส่ายหน้าและพูดขึ้นมา
เมื่อเห็นเสี่ยวซวีเริ่มกินน้ำยา หวังเย่าก็รู้สึกอยากกลับไปนอนอีกครั้งแต่เมื่อคิดถึงธุระอื่น สายตาเขากลับดูจริงจังขึ้นมา
เขาลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกับเก็บเสี่ยวซวีที่กำลังดื่มน้ำยาพลังเข้าไปในกำไลอสูร
หวังเย่าเอาโทรศัพท์ออกมาและส่งข้อความหาจ้าวเมิ่งซีกับฟ่านฉิงเหมย หลังจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไป
“หัวหน้า” หลงปู้หยู๋ทักทายทันทีที่พบกับหวังเย่า
“เตรียมห้องให้ฉันหน่อย ฉันจะเก็บตัวสักพัก” หวังเย่าบอกกับหลงปู้หยู๋
“ ได้ มันมีห้องว่างอยู่ เชิญทางนี้” แม้หลงปู้หยู๋จะไม่รู้ว่าทำไมหวังเย่าถึงคิดจะเก็บตัวในตอนนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไร ตอนนี้เขาแค่ต้องพาหวังเย่าไปที่ห้องลับ
ไม่นานทั้งสองก็มาถึงห้องลับ
“อย่าให้ใครมารบกวนฉันเด็ดขาด” หลังจากที่พูดจบ หวังเย่าก็เดินเข้าไปในห้องทันที
“ดูเหมือนว่าฉันเองก็ต้องบ่มเพาะด้วยเหมือนกัน ฉันต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเองมากกว่านี้เสียแล้ว” หลงปู้หยู๋แสดงสายตามุ่งมั่นออกมา
“รองหัวหน้า หัวหน้าจะเก็บตัวงั้นหรือ ? ” ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง เมื่อหลงปู้หยู๋หันกลับไปก็พบกับ ลัวจ้าวฮว่า, โจวอวิ๋น, พี่หลงและคนอื่น ๆ
“หัวหน้าบอกว่าอย่าให้ใครมารบกวนเขา พวกนายจำไว้ว่าอย่าไปรบกวนเขา เข้าใจรึเปล่า ? ” หลงปู้หยู๋พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“เข้าใจแล้ว” พี่หลงพูดขึ้น
“ไม่คิดเลยว่าหัวหน้าจะเก็บตัวอีกแล้ว ไม่ใช่ว่าหัวหน้าคงจะทะลวงผ่านขึ้นไประดับ S หรอกนะ” ลัวจ้าวฮว่าพูดขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย
ทันทีที่ได้ยินที่ลัวจ้าวฮว่าพูดมา ทุกคนก็พากันพึมพำออกมา
“แน่นอน ฉันเชื่อว่าหัวหน้าน่ะต้องทะลวงผ่านขึ้นไประดับ S ได้แน่” พี่หลงพูดขึ้นมาโดยไม่ลังเล ดูเหมือนว่าเขาจะเชื่อในตัวหวังเย่าอย่างมาก
“ใช่ ด้วยความสามารถของหัวหน้าแล้ว ระดับ S คงไม่อาจจะหยุดเขาได้” เจ้าหนูเองก็มั่นใจในตัวหวังเย่าอย่างมาก ดูเหมือนว่าเขาเชื่อมั่นในตัวหวังเย่ามากกว่าเชื่อในตัวเองเสียอีก
เมื่อเห็นแบบนั้นหลงปู้หยู๋ก็ไม่อยากพูดอะไรต่อถึงจะไม่รู้สึกแบบเดียวกันก็ตาม แต่เขาก็ไม่อยากทำลายความมั่นใจของทั้งสองคน
“ฉันคิดว่าการทะลวงจากระดับ A ไป S นั้นยากมาก ไม่ใช่แค่สะสมพลังให้หนาแน่นแต่ยังต้องพึ่งโชคอีกด้วย ฉันเคยได้ยินผู้อาวุโสในสำนักแปดหมัดที่เคยทะลวงผ่านขึ้นไประดับ S บอกว่าโชคคือองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้เขาทะลวงผ่านไประดับ S ได้ เขาบอกว่าเขาล้มเหลวอยู่กว่าสิบครั้ง ก่อนจะทะลวงผ่านไปได้โดยบังเอิญ”
“โชคคือสิ่งสำคัญก็จริง แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง” อันตงจ๋าพูดขึ้น
เมื่อได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็พากันเงียบไป
“งั้นเราคงได้แต่ภาวนาให้หัวหน้าทะลวงผ่านไปได้”
ทุกคนต่างก็พากันมองไปที่ประตูห้องด้วยสายตาคาดหวัง…