ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 374 : เมืองตัดขวาง
ตอนที่ 374 : เมืองตัดขวาง
ฟางอี้หน้าแดงและตัวแข็งทื่อไปทันที
เมื่อเห็นแบบนั้นหวังเย่าก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เมื่อตะกี้เธอคิดจะแกล้งเขาไม่ใช่รึไง
หวังเย่าเห็นว่าฟางอี้ไม่พูดอะไรออกมาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “คุณหนูฟางอี้ คุณจะยืนเฉย ๆ แบบนี้หรือ ? ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ฟางอี้ก็มองไปรอบ ๆ ก่อนจะพูดขึ้น “งั้นนายก็ขยับเท้าออกไปสิ ฉันจะได้เข้าไปนั่งข้างในได้ ”
“ที่นั่งของเธออยู่ข้าง ๆ ฉันงั้นหรือ ? ” หวังเย่าแปลกใจนิด ๆ
“แน่นอน ฉันไม่จำเป็นต้องหลอกนาย ฉันต้องเอาตั๋วออกมาให้นายดูไหม ? ” ฟางอี้ก้มลงไปมองหวังเย่า
“ไม่ต้องหรอก เข้ามาสิ” เมื่อเห็นท่าทีของฟางอี้ หวังเย่าก็กระแอมออกมาเบา ๆ ก่อนจะดึงขาหลบทางให้กับเธอ
ตอนที่ฟางอี้เดินผ่านก็ได้กลิ่นหอมจากตัวเธอ
ไม่คิดเลยว่าเธอจะได้มานั่งข้างเขา มันทำให้หวังเย่ารู้สึกปวดหัวขึ้นมานิด ๆ
“นายจะไปทำอะไรที่เมืองตัดขวาง ? ” นั่งได้ไม่นานฟางอี้ก็ถามขึ้นมา
หวังเย่าหลับตาลงอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเขาไม่คิดจะตอบอะไรกลับ
“ฉันถามนายไม่ใช่รึไง ? อย่าทำเป็นเมินฉันนะ” เมื่อเห็นแบบนั้นฟางอี้ก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันขอบอกก่อน อย่างแรกคืออย่าเรียกชื่อฉันห้วน ๆ อย่างที่สองฉันจะนอน อย่ารบกวนฉัน” เมื่อได้ยินคำถามจากฟางอี้ หวังเย่าก็พูดขึ้นมา
ฟางอี้ยิ่งหงุดหงิดขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้ยินหวังเย่าพูดแบบนั้น
เธอกัดฟันแน่นและมองไปที่หวังเย่า “งั้นรบกวนถามคุณหวังเย่าทีว่าคุณจะไปทำอะไรที่เมืองตัดขวาง ? ”
ครั้งนี้หวังเย่าพยักหน้าแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับ
จริง ๆ แล้วเขาไม่อยากยุ่งกับฟางอี้เท่าไหร่
แม้ว่าเธอจะสวยและเป็นลูกสาวของเจ้าเมืองรวมถึงเป็นสเปคแบบที่หวังเย่าชอบก็ตาม แต่นิสัยของฟางอี้ไม่ใช่แบบที่เขาจะทนไหวแน่ มันดีกว่าที่จะเว้นระยะห่างกับเธอ
เมื่อเห็นว่าหวังเย่าไม่สนใจเธอ ฟางอี้ก็ยิ่งกัดฟันแน่นขึ้นไปอีก สุดท้ายเมื่อเห็นว่าหวังเย่าอยากจะนอน ฟางอี้ก็ไม่คิดจะถามอะไรต่ออีก
เธอละสายตากลับมาพร้อมกับดึงเอาหนังสือออกมาจากกระเป๋ามิติก่อนจะอ่านมัน
ตอนนี้เธอสงบลงอย่างมาก มันทำให้เธอดูสงบเสงี่ยมเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยก็ว่าได้
เธอเอาผมทัดหูเผยให้เห็นใบหน้าด้านข้างอันงดงามและจริงจังของเธอ
ต้องบอกว่าด้านนี้ของฟางอี้น่ะทำให้คนใจละลายได้เลย
หวังเย่าแอบลืมตาและมองไปข้าง ๆ เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ฟางอี้อยู่สักพัก
ฟางอี้ก็ดูน่าหลงใหลถ้าอยู่เงียบ ๆ เป็นบ้าง
หวังเย่ารู้สึกทึ่งในใจ ต้องบอกเลยว่านิสัยของฟางอี้ดูผิดกันคนละขั้ว
“ท่าทางของเธอตอนนี้น่าสนใจจริง ๆ ” หวังเย่าหลับตาลงอีกครั้ง ตอนนี้ในใจเขาเริ่มคิดถึงภาพของฟางอี้ขึ้นมา…
ไม่นานเครื่องก็ออกและมุ่งหน้าไปที่เมืองตัดขวาง
เมื่อขึ้นมาถึงระดับความสูงที่ 10 กิโลเมตร ท้องฟ้าในวันนี้แจ่มใส แสงแดดได้สาดส่องลงมาราวกับเป็นคำทักทายจากโลก
แสงแดดได้ส่องผ่านเข้ามาจากทางหน้าต่างกระทบถึงตัวฟางอี้ เธออดไม่ได้ที่จะมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ แต่เธอกลับเผยรอยยิ้มที่ดูมีความสุขออกมา
ฉากนี้ทำให้หวังเย่าต้องแปลกใจอีกครั้ง เขาอดไม่ได้ที่จะแอบลืมตามองดูเธอ
เธอเหมือนจะรู้สึกได้ว่ามีคนมอง ดังนั้นเธอจึงหันกลับมาและมองมาที่หวังเย่า
“นาย…นายมองอะไร ? ” ฟางอี้แสดงท่าทีหงุดหงิดออกมาอีกครั้ง
“ …” หวังเย่าหลับตาลงและไม่คิดจะบอกว่าเขาคิดอะไรอยู่ก่อนจะพูดขึ้น “ ไม่มีอะไร ฉันแค่รู้สึกว่ารอยยิ้มของเธอน่ะสวยดี”
“อะไรนะ…” ฟางอี้หน้าแดงขึ้นมา “ ขะ…ขอบคุณที่ชม” สุดท้ายฟางอี้ก็ไม่กล้ามองหน้าหวังเย่า เธอได้แต่ก้มหน้าลงเพื่อปกปิดความเขินอายและไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็น
เมื่อได้ยินแบบนั้นหวังเย่าก็ต้องแปลกใจ แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาแค่มองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อชมวิวเท่านั้น
เมื่อหวังเย่าไม่พูดอะไรออกมา ฟางอี้ก็เรียกสติตัวเองกลับมาก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
ความเงียบในตอนนี้มาพร้อมกับบรรยากาศที่อธิบายไม่ได้
เวลาผ่านไปพวกเขาก็เดินทางกันอย่างปลอดภัย แม้ว่าจะเจอกับนกยักษ์หลายครั้งแต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
โชคดีที่พวกสัตว์อสูรไม่คิดจะโจมตีเครื่องบิน
หลังจากที่เดินทางมาได้ 2-3 ชั่วโมง สุดท้ายท้องฟ้าก็เริ่มหม่นลง ที่ด้านล่างนั้นเริ่มพอมองเห็นเมืองได้แล้ว
เพราะความสูงระดับ 10 กิโลเมตร จึงทำให้มองเห็นเมืองไม่ชัดเจนนัก
แต่หลังจากที่เครื่องบินลดระดับการบินลง เมืองก็เริ่มชัดเจนขึ้นมาเรื่อย ๆ
เมืองแห่งนี้มีสัตว์อสูรมากมายอยู่รอบเมือง
การป้องกันรอบเมืองแทบไม่ด้อยไปกว่าเมืองหัวเซี่ยเลย นี่คือเมืองที่เป็นรองแค่เมืองหัวเซี่ยเท่านั้น
มันคือเมืองที่มีบทบาททางการทหารเป็นอย่างมากสำหรับประเทศหัวเซี่ย
ส่วนหนึ่งก็เพราะที่ตั้งของเมืองนี้ด้วย
เมืองนี้คอยรับมือกับสัตว์อสูรที่มาจากภูเขานับไม่ถ้วนรวมถึงสัตว์อสูรทางทะเล
บอกได้ว่าความสำคัญของที่นี่ทัดเทียมกับเมืองหัวเซี่ยได้เลย