ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 381 : มังกรพิภพ
ตอนที่ 381 : มังกรพิภพ
ที่ด้านนอกป่า หวังเย่ายังไม่ทันได้ขยับไปไหนก็มีเสียงคำรามดังขึ้นมาข้างหลังของเขา หลังจากนั้นก็มีบางอย่างปรากฏตัวขึ้นมาขวางหน้าหวังเย่าเอาไว้
แค่มองก็รู้ว่ามันคือหมาป่า มันมีทั้งหมาป่าดิน, หมาป่าเงินและหมาป่าชนิดต่าง ๆ จำนวนของพวกมันไม่ใช่น้อย ๆ เลย
หวังเย่าไม่คิดว่าเขาจะพบกับฝูงหมาป่ามากมายแบบนี้
หมาป่าพวกนี้มีร่างกายที่ใหญ่กว่าหมาป่าทั่วไป พวกมันดูแข็งแกร่งอย่างมาก
กรงเล็บของมันสามารถทำลายเกราะระดับต้นได้อย่างง่ายดาย หมาป่าพวกนี้ถึงกับมีพลังเหนือธรรมชาติอยู่กับตัว
มันสามารถใช้การโจมตีทางเสียงได้ ยิ่งมาเป็นฝูงก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้นไปอีก
หลังจากใช้ระบบตรวจสอบแล้วก็พบว่าหมาป่าพวกนี้มีเลเวลสูง แต่หวังเย่าไม่ได้กังวลเลยแม้แต่น้อย ยังไงซะเขาก็อยู่ระดับ S แล้ว หมาป่าพวกนี้ไม่อาจจะมาเทียบกับเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังมีร่างมังกรอยู่ เขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร
ตอนนั้นหัวหน้าฝูงหมาป่าเหมือนจะทำการโจมตีออกมาทำให้หมาป่าตัวอื่น ๆ พากันโจมตีออกมาตาม
ตูม !
เปลวไฟได้ก่อตัวขึ้นพร้อมกับเผาพวกหมาป่าไปในทันที
เปลวไฟนี้ได้เผาหมาป่าจนกลายเป็นตอตะโก นอนเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นเป็นจำนวนมาก
กลิ่นเนื้อย่างลอยขึ้นมาเตะจมูกหวังเย่า จนทำให้เขารู้สึกหิวขึ้นมาตาม แต่หวังเย่าไม่ได้ใส่ใจนัก เขายังคงโจมตีหมาป่าที่เหลือรอดอยู่ต่อไป
ทันใดนั้นหมาป่าพวกนั้นก็ได้กลายเป็นเถ้า
แค่พริบตาเดียวกลุ่มหมาป่าก็กลายเป็นกองเนื้อย่างไป แม้แต่การโจมตีทางเสียงที่พวกมันภูมิใจก็ยังไม่ทันได้ใช้
“สมแล้วที่เป็นเพลิงมังกร” เมื่อเห็นเปลวไฟที่สั่นไหวไปมาในมือของเขา หวังเย่าก็เผยสีหน้าพอใจออกมา
นี่คือเพลิงมังกรที่เขาได้มาพร้อมกับร่างมังกร
มันมีพลังทำลายล้างที่สูง
เมื่อปราบหมาป่าพวกนั้นเสร็จสิ้น หวังเย่าก็ไม่คิดเสียเวลาและเลือกที่จะเดินหน้าไปยังยอดเขาต่อ
ไม่นานหลังจากนั้นหวังเย่าก็เดินทางขึ้นไปบนภูเขาก่อนจะมองไปรอบ ๆ แล้วได้ยินเสียงการต่อสู้ดังขึ้นมา
“ดูเหมือนว่าไม่ใช่แค่กลุ่มของฟางอี้ที่มาที่นี่ มันคงมีกลุ่มอื่นขึ้นมาที่ยอดเขานี้ด้วย” หวังเย่า ลูบคางแล้วพึมพำออกมา
จากนั้นเขาก็ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ แต่ก็ไม่อาจจะรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังของปีศาจอีกเลย
เขาไม่ได้วางแผนว่าจะไปยังภูเขาลูกอื่น เขาเดินหน้าต่อไป และต้องการที่จะซ่อนตัวเพื่อแอบดูว่าคนพวกนั้นทำอะไรกันบ้าง
คนที่อยู่บนภูเขาต่าง ๆ นั้นไม่รับรู้การมาของหวังเย่าด้วยซ้ำ
การซ่อนตัวของหวังเย่าถือว่าอยู่ในระดับสูงจนพวกนั้นไม่อาจจะรับรู้ได้
ตอนที่เดินทางขึ้นไปบนยอดเขานั้น หวังเย่าก็ยังตรวจสอบรอบ ๆ รวมถึงพยายามหาคลื่นปีศาจด้วย โดยหวังว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ตูม ตูม ตูม !
ตอนนั้นหวังเย่าก็ได้ยินเสียงระเบิดขึ้นมา
เมื่อไปที่นั่นเขาก็พบกับบึงที่มีจระเข้ขนาดใหญ่ที่กำลังสู้กับผู้คนอยู่
คนที่มันสู้อยู่ด้วยคือผู้หญิงที่สวมหน้ากากโดยมีฟางอี้ยืนอยู่ที่นั่นด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีผู้หญิงอีกสามคนที่คอยให้การสนับสนุน
พวกนั้นไม่ได้เข้าไปสู้ด้วย มีแค่ผู้หญิงที่สวมหน้ากากคนเดียวเท่านั้นที่กำลังสู้กับจระเข้อยู่
สถานการณ์นั้นดูเหมือนว่าผู้หญิงสวมหน้ากากจะได้เปรียบ หากไม่ใช่เพราะจระเข้มีผิวที่หนาแล้วล่ะก็ มันคงแพ้ไปนานแล้ว
ด้วยความช่วยเหลือจากระบบ หวังเย่าก็พบว่าจระเข้นั้นอยู่ขั้นจักรพรรดิ มันเทียบกับคนก็คือนักรบระดับ S มันแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผู้หญิงคนนั้นว่าสูงแค่ไหน
เธอสามารถเอาชนะจระเข้นี้ได้อย่างง่าดาย เธอต้องแกร่งกว่านักรบระดับ SS แน่
หวังเย่าไม่คิดเลยว่าเธอจะแข็งแกร่งกว่าเขาขนาดนี้ได้ ไม่แปลกเลยที่ก่อนหน้านี้เธอเกือบจะรู้ว่าเขาซ่อนตัวอยู่
ในตอนที่มองดูเธอสู้กับจระเข้นั้น ปากของหวังเย่าก็กระตุก เขารีบไปซ่อนตัวและจากไปทันที
ตูม !
เมื่อเดินออกมาและได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับพื้นดินที่สั่นไหว หวังเย่าก็รู้ได้ทันทีว่าจระเข้นั้นโดนจัดการไปแล้ว
“ พวกนี้มีเป้าหมายอะไรถึงได้มาที่นี่ ?” หวังเย่าหันกลับไปมองและพบว่าตอนนี้ยังไม่มีใครตามมาก่อนจะรีบเร่งความเร็วเพื่อเดินทางต่อ
เขาไม่อยากพบกับคนอื่น
และเขาต้องหาต้นตอของคลื่นปีศาจนี้ให้ได้
เพราะเป้าหมายของเขาคือส่วนลึกของมิติแห่งนี้
ไม่นานหลังจากนั้นหวังเย่าก็ต้องหยุดเพราะเขามาถึงอาณาเขตของมังกรพิภพ
ที่นี่คือรังของสัตว์อสูรขั้นราชันย์ที่กำลังจะขึ้นไปขั้นจักรพรรดิ
แม้ว่าหวังเย่าจะไม่อยากสู้ในตอนนี้ แต่เป้าหมายสำคัญของเขาก็คือการรวบรวมข้อมูล
แต่หลังจากที่เห็นว่ามังกรนั้นไม่คิดจะปล่อยเขาไป หวังเย่าก็หงุดหงิดขึ้นมา
ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก หวังเย่าพุ่งออกไปก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นบนหลังมังกร
เขายกมือขวาขึ้นก่อนที่จะมีพลังผันผวนจะก่อตัวขึ้นมา พลังนี้ดูอันตรายอย่างมาก
สุดท้ายร่างของมังกรก็ถูกตัดออกเป็นชิ้น ๆ พร้อมกับหัวที่ถูกตัดขาดออกจากตัว