ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 382 : หมอกหนา
ตอนที่ 382 : หมอกหนา
ไม่นานคอของมังกรก็มีเลือดพุ่งออกมา ตัวของมันล้มลงไปกองกับพื้นจนทำให้พื้นดินสั่นไหว
“ ฮึ่ม ! แกทำให้ฉันโกรธเองนะ” เมื่อมองไปยังศพมังกรที่ไม่ขยับเขยื้อน หวังเย่าก็หน้าซีดไปเล็กน้อยเพราะการใช้สกิลตัดมิตินั้นทำให้พลังกายของเขาถูกใช้ไปจำนวนมาก
หวังเย่ารีบเอาน้ำยาอาหารออกมาดื่มเพื่อฟื้นฟูพลังทันที จากนั้นไม่นานสีหน้าของเขาก็ดูดีขึ้นมาเล็กน้อย
สกิลตัดมิติคือหนึ่งในไพ่ลับของเขา แต่มันก็ใช้พลังไปจำนวนมาก หากใช้มันแล้วมันจะทำให้เขาเสียแรงกายไปจำนวนมากเช่นกัน
หวังเย่าไม่อยากจะใช้สกิลนี้แม้แต่น้อย นอกซะจากว่าจะไม่มีทางเลือกจริง ๆ
แต่ตอนนี้เวลาคือสิ่งจำเป็น หวังเย่าจึงต้องใช้สกิลนี้ออกมา
บอกได้ว่าแม้แต่สกิลตัดมิติเลเวล 1 ก็ยังมีพลังที่น่ากลัวแบบนี้แล้ว กระทั่งมังกรพิภพขั้นราชันย์ก็ยังไม่อาจจะต้านทานได้ เกล็ดมังกรที่แข็งแกร่งของมันเปราะบางไม่ต่างอะไรจากเต้าหู้เมื่ออยู่ต่อหน้าการสกิลนี้
หลังจากที่ฟื้นฟูพลังขึ้นมาบ้าง หวังเย่าก็ไม่คิดอยู่ที่นั่นต่อ เขารีบเก็บร่างของมังกรเข้าไปในกระเป๋ามิติก่อนจะรีบออกจากที่นั่นโดยเร็วที่สุด
หลังจากนั้นสักพักก็มีคนกลุ่มหนึ่งมุ่งหน้ามาที่นั่น
“เคยมีการต่อสู้ที่นี่มาก่อน มันไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างสัตว์อสูรด้วยกันเองแต่เป็นคนกับสัตว์อสูร” เมื่อเห็นกองเลือดที่พื้นที่ยังไม่แห้ง พวกเขาก็เดาได้ทันที
ผู้หญิงที่สวมหน้ากากมองไปยังรอยเลือดก่อนจะมองด้านหน้าแล้วพูดขึ้นมา “ดูเหมือนว่าจะมีคนนำหน้าเราอยู่ เราต้องรีบแล้ว”
“ได้” ฟางอี้และคนอื่น ๆ พยักหน้า
แม้ว่าจะไม่รู้ว่าใครนำหน้าพวกเธออยู่ แต่การมาถึงที่นี่ได้นั้นก็ใช่ว่าจะไร้ความสามารถ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นมิตรหรือไม่ แต่พวกเธอก็ต้องระวังตัวไว้
แต่เมื่อฟางอี้มองไปยังผู้หญิงที่สวมหน้ากาก เธอก็รู้สึกใจเย็นขึ้นมา ยังไงซะนี่ก็เป็นไอดอลที่เธออยากจะเดินตามรอย
ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่าตี้เว่ยจื๊อ แต่ทุกคนมักเรียกเธอว่าจักรพรรดินี !
บอกได้ว่านี่คือชื่อที่คนหัวเซี่ยส่วนใหญ่ล้วนรู้จัก ชื่อเสียงของจักรพรรดินีสร้างความประทับใจให้กับกลุ่มทหารรับจ้างอื่น ๆ มากมาย เพราะเธอคือผู้ก่อตั้งและเป็นหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างกุหลาบ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกลุ่มทหารรับจ้างนี้รับแต่ผู้หญิงและต้องเป็นผู้หญิงที่สวยด้วย
จำนวนคนในกลุ่มทหารรับจ้างนั้นมีไม่มากนัก แต่พวกเธอแต่ละคนแข็งแกร่งกันอย่างมาก
ระดับของกลุ่มทหารรับจ้างขึ้นไปถึงขั้นที่ 5 เมื่อปีที่แล้ว สำหรับตอนนี้จะไปถึงระดับไหนนั้นคนนอกก็ไม่รู้ สมาคมกลุ่มทหารรับจ้างก็ไม่รู้ เพราะกลุ่มทหารรับจ้างกุหลาบไม่ค่อยปรากฏตัวออกมานัก
บางที กลุ่มทหารรับจ้างกุหลาบนั้นน่าจะเกินขั้นที่ 5 แล้ว และอาจจะขึ้นไปถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นได้
พื้นที่โดยรอบกลับเริ่มมีหมอกขาวปรากฏขึ้นมาพร้อมกับร่างหนึ่งปรากฏตัวอยู่ในหมอก
ร่างนั้นเคลื่อนที่ไปมาในหมอกราวกับเป็นหนึ่งเดียวกัน และร่างนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือหวังเย่า
หวังเย่าตื่นตัวขึ้นมาทันทีแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่พบอะไรก็ตาม การที่หมอกปรากฏขึ้นมาแบบนี้คือเรื่องที่ต้องกังวล
หากหมอกนี่มีอะไรผิดปกติ งั้นคงเป็นปัญหาใหญ่
หลังจากนั้นสักพักหมอกก็ลอยสูงขึ้น ด้วยการรับรู้ของหวังเย่าก็พบว่าหมอกนี้ครอบคลุมระยะโดยรอบออกไปถึง 100 เมตร
หวังเย่าไม่กล้าจะเดินทางต่อเร็วนัก เขาลดความเร็วลงก่อนจะพบว่าตัวเองยืนอยู่ในบึง ตอนนั้นเองหวังเย่าก็กวาดตามองไปรอบ ๆ ทันที เพราะหากเขาเจอกับสัตว์อสูร เขาก็พร้อมที่จะสู้ ยังไงซะการเข้ามาในมิติลับนั้นก็อาจจะเกิดการต่อสู้ขึ้นได้ทุกเมื่อ
เขาไม่อาจที่จะประมาทได้
หวังเย่าคิดจะเรียกตือโป๊ยก่ายและการ์ฟิลด์ออกมา
สำหรับหงอคงและเสี่ยวซวีนั้น หวังเย่ายังไม่คิดจะเรียกออกมาในตอนนี้
เพราะเขาเพิ่งทำสัญญากับเสี่ยวซวีได้ไม่นาน เลเวลของมันจึงยังไม่สูงนัก และที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ที่ดีที่จะเรียกมันออกมา
สำหรับหงอคงแล้ว หงอคงคือไพ่ลับของหวังเย่า เผื่อว่าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น
หวังเย่าให้การ์ฟิลด์เดินนำหน้า ส่วนตือโป๊ยก่ายนั้นแฝงอยู่ในเงาของเขา
สกิลของตือโป๊ยก่ายนั้นพิเศษ มันสามารถตรวจสอบรอบข้างได้ว่าเกิดอะไรขึ้น นี่เท่ากับตาที่สามของหวังเย่าเลยก็ว่าได้
เมื่อเห็นตือโป๊ยก่ายหายเข้าไปในเงา หวังเย่าก็ได้ตรวจสอบรอบข้างอีกครั้งและพบว่าตอนนี้ยังไม่พบอะไร ตอนนั้นเองเขาถึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
หากในหมอกหนานี่มีสัตว์อสูรอยู่ งั้นมันคงน่ากลัวอยู่ไม่น้อย
โชคดีที่มันไม่มีสัตว์อสูรอยู่ด้วย มันจึงทำให้หวังเย่าคลายความกังวลขึ้นมาได้บ้าง
การ์ฟิลด์นั้นมีสัญชาตญาณของสัตว์ป่าอยู่กับตัว มันยังคงมองไปรอบ ๆ อยู่ตลอด
หากพบกับอันตรายใด ๆ การ์ฟิลด์จะเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน
เพราะความแข็งแกร่งที่พัฒนาขึ้นมาและการอยู่ในป่ามานานจึงทำให้สัญชาตญาณสัตว์ป่าในตัวมันตื่นขึ้น ตอนนี้มันไม่ต่างอะไรจากเสือเลย
ตอนนั้นเองตือโป๊ยก่ายก็ได้ส่งข้อความตอบกลับมา
“ทุกอย่างปลอดภัย ตอนนี้ยังไม่มีภัยอะไรเข้ามา…”
เมื่อมองไปที่หมอกหนาสักพักและพบว่าไม่มีอันตรายเข้ามาหาตัวเขา หวังเย่าก็ต้องขมวดคิ้ว
“แต่มันก็ดูจะผิดปกติ มันต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่ …”
นี่คือลางสังหรณ์ของหวังเย่า ซึ่งเขาเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง
ตอนนี้เขามองเห็นแค่ระยะ 50 เมตรเท่านั้น
ทันใดนั้นหมอกหนาก็กลับสั่นไหวราวกับมีบางอย่างกำลังมุ่งหน้ามาหาเขา…