ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 384 : สัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ในหมอก
ตอนที่ 384 : สัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ในหมอก
เมื่อเห็นหยดน้ำสีขาวที่ลอยอยู่ที่พื้น หวังเย่าก็ต้องคิ้วขมวดเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าหยดน้ำนี่คืออะไร ก่อนหน้านี้มันเป็นอสูรหมอกที่ตัวสูงกว่า 10 เมตร แต่ตอนนี้กลับเป็นแค่หยดน้ำที่ตกลงมาตรงหน้า
“ฉันน่าจะทำลายมัน” เขามองไปที่หยดน้ำนั้นสักพักก่อนที่จะพูดขึ้นมา
ตอนนั้นการ์ฟิลด์และตือโป๊ยก่ายก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าหยดน้ำนั้นทันที
ด้วยพลังสัญญาแล้ว หวังเย่ารู้ว่าทั้งสองต้องการมัน
เขามองไปที่หยดน้ำนั่นสักพักก่อนที่สุดท้ายจะยอมให้ทั้งสองกินมัน
ในพริบตาอสูรทั้งสองก็ไม่อาจจะอดใจไหว มันรีบกินหยดน้ำนั้นทันที
“หวังว่าจะไม่มีอะไรแย่นะ” เมื่อเห็นแบบนั้น หวังเย่าก็อดคิดไม่ได้เพราะเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าหยดน้ำนี่คืออะไรกันแน่ แต่เมื่อดูจากท่าทีของการ์ฟิลด์และตือโป๊ยก่ายแล้ว มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
หลังจากนั้นสักพักอสูรทั้งสองก็กินน้ำนั่นจนหมด
หวังเย่ามองไปยังทั้งสองด้วยความกังวล เขาอยากเห็นว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่เขากลับรู้สึกว่าทั้งสองกลับพอใจอย่างมาก
“เมื่อไม่มีอะไรแย่ ๆ เกิดขึ้นก็ไม่เป็นไร” หลังจากนั้นสักพักหวังเย่าก็มองไปรอบ ๆ
รอบ ๆ นั้นยังมีหมอกหนาที่เกิดการเคลื่อนไหวอยู่
ตูม !
สุดท้ายหวังเย่าก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นไม่ไกลจากตัวเขาอีกครั้ง
“ดูเหมือนว่าคนอื่นคงจะเจอกับอสูรหมอกเหมือนกัน” หวังเย่าคิดแต่ก็ไม่ได้มั่นใจนัก
งั้นพื้นที่นี้คงเป็นรังของอสูรหมอก
แต่ตอนนั้นเองอสูรหมอกก็ปรากฏตัวออกมา มันไม่ใช่แค่ 1-2 ตัวแต่กลับมีถึง 5 ตัวที่เข้ามาล้อมหวังเย่าเอาไว้ มันไม่ได้ต่างจากตัวที่หวังเย่าเจอตอนแรกมากนัก
หวังเย่าตาเป็นประกายพร้อมกับเปลวไฟในมือที่ลุกโชนขึ้นมา
การ์ฟิลด์และตือโป๊ยก่ายปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าอสูรหมอกทั้งห้าและเข้าโจมตีทันที
ห่างออกไป จักรพรรดินีได้จัดการกับอสูรหมอกที่ตัวสูงกว่า 50 เมตร และสุดท้ายมันก็กลายเป็นหยดน้ำจำนวนมาก
พวกเธอรีบเก็บหยดน้ำพวกนั้นเข้าไปในถุงมิติทันที
“ครั้งนี้เราได้หยดน้ำนี่มาจำนวนมาก”
“มันคือของหายากและมีแต่ในภูเขาอนันต์เท่านั้น”
จากนั้นพวกเธอมองหน้ากันด้วยความพอใจก่อนจะยิ้มออกมา
ครืน !
พื้นดินสั่นไหวอยู่หลายครั้งก่อนที่จะมีอสูรหมอกสูง 50 เมตร กว่า 6 ตัวปรากฏขึ้นมา
ตอนนั้นพวกเธอก็พากันแสดงสีหน้าหนักใจขึ้นมาและเตรียมพร้อมที่จะสู้ต่อ
จักรพรรดินีมองไปยังอสูรหมอกทั้ง 6 ตัวตรงหน้าโดยไม่เกรงกลัว ก่อนที่จะมีคลื่นพลังอันน่ากลัวระเบิดออกมา
เธอยกมือขึ้นพร้อมกับดอกบัวหิมะที่สูงหลายสิบเมตรปรากฏขึ้นมาก่อนที่จะฟาดเข้าใส่อสูรหมอกทั้งหก
ดอกบัวหิมะนี้ทำให้อสูรหมอกทั้งหกตัวระเบิดออกกลายเป็นหยดน้ำอีกครั้ง
“นี่..”
แม้ว่าจะเห็นการโจมตีนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ฟางอี้กับคนอื่น ๆ ก็ยังแสดงสายตาชื่นชมออกมาอยู่ดี
อสูรทั้งหมดในโลกนั้นสามารถทำสัญญาด้วยได้ หนึ่งในอสูรที่โด่งดังที่สุดก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเธอแล้ว นี่คือดอกบัวที่งดงามที่สุดก็ว่าได้ ความแข็งแกร่งนี้เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าเลเวลของมันสูงถึง 89
มันขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของระดับศักดิ์สิทธิ์แล้ว
พลังที่ระเบิดออกมาตะกี้เป็นพลังของดอกบัวหิมะ
ด้วยการปรากฏตัวของดอกบัวหิมะนี้ก็ทำให้อสูรหมอกเหมือนจะลนลาน
หมอกโดยรอบเริ่มปั่นป่วนก่อนที่จะปรากฏร่างคนขึ้นมาภายในหมอก แต่ทันใดนั้นหมอกโดยรอบก็เริ่มหนาขึ้นอีกครั้งจนไม่อาจจะมองเห็นในระยะ 1 เมตรได้
ในที่แห่งหนึ่ง
หมอกพัดโหมกระหน่ำจนผู้คนไม่อาจจะได้ยินเสียงของคนใกล้ ๆ ได้
นอกจากเสียงลมแล้ว พวกเขาไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย พวกเขาไม่อาจจะรู้ทิศทางได้ด้วย ราวกับว่าโดนตัดขาดจากเพื่อนตัวเอง
“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกัน ! ? มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ! ? ”
“ทำไมมันถึงเปลี่ยนไปแบบนี้ ! ”
….
ตอนที่หมอกเกิดการเปลี่ยนแปลงนั้น หวังเย่าก็รีบเรียกการ์ฟิลด์และตือโป๊ยก่ายกลับเข้าไปในกำไลอสูร
จากนั้นเขาก็ไปหลบหลังก้อนหิน แม้ว่าสถานการณ์โดยรอบจะดูวุ่นวาย แต่เขาก็ยังคงจับตาดูอยู่เงียบ ๆ ไม่คิดจะถอยกลับไป
อยู่ ๆ ท้องฟ้าก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น หวังเย่าถึงกับสะดุ้งไปตาม
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เขาก็พบว่าตอนนี้หมอกได้ครอบคลุมระยะการมองเห็นทั้งหมดแล้ว
มันไม่อาจจะเห็นอะไรได้ชัดเจน หากไม่ใช่เพราะอยู่หลังก้อนหิน หวังเย่าคงคิดว่าเขาอยู่ในโลกสีขาวไปแล้ว
ตอนนี้แม้ว่าสายตาไม่อาจจะมองเห็นได้ แต่หวังเย่าก็ยังรู้สึกว่ารอบตัวนั้นมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่
พวกมันแผ่พลังที่ไม่ได้อ่อนแอกว่ามังกรเพลิงที่เขาเคยเจอมาก่อนเลย ความแข็งแกร่งของพวกมันอยู่ระดับศักดิ์สิทธิ์ที่หวังเย่าไม่อาจจะรับมือไหว