ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 390 : ทะเลทรายอันกว้างใหญ่
ตอนที่ 390 : ทะเลทรายอันกว้างใหญ่
ทุกคนไม่ได้รีบเดินหน้าต่อเพราะมัวแต่มองไกลออกไปเพื่อรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเฮลิคอปเตอร์นั่น
เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้พวกเขาตัดสินใจว่าพวกเขาควรจะบินตามไปหรือว่าเดินเท้าต่อดี
สุดท้ายเฮลิคอปเตอร์ก็เดินทางไปยังหุบเขาได้อย่างปลอดภัย
นี่มันอะไรกัน ?
ไม่ใช่ว่าเฮลิคอปเตอร์ต้องถูกโจมตีรึไง ?
มันน่าจะมีฉากแบบที่พวกเขาเคยเห็นมาในอดีตไม่ใช่หรือ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ผิดกับที่พวกเขาคาดเอาไว้อย่างมาก เฮลิคอปเตอร์ได้บินไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย
นี่มันบ้าอะไร ?
ทุกคนต่างก็แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
รึว่าในมิติแห่งนี้การบินนั้นไม่มีอันตราย ?
คนจำนวนมากอยากที่จะลองทำตามบ้าง แต่ด้วยผลลัพธ์มากมายในอดีตก็ทำให้พวกเขาต้องลังเล
ลำนั้นอาจจะไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย แต่หากลำของพวกเขาเกิดถูกการโจมตีขึ้นมาล่ะ ? หากพวกเขาเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดตอนบินล่ะ ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะต้องตายรึยังไง ?
ไม่มีใครกล้าเอาชีวิตของตัวเองมาเดิมพัน
เมื่อคิดได้แบบนั้น พวกเขาก็ต้องยอมแพ้และเลือกที่จะเดินหน้าต่อ
อย่าเดาว่าตัวเองจะเดินทางได้อย่างปลอดภัยเหมือนกับคนอื่น หากคิดแบบนั้นหายนะมักจะมาเยือนเสมอๆ
เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตได้กลายเป็นบทเรียนให้กับพวกเขาแล้ว มันไม่คุ้มที่จะเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงและตายอยู่ที่นี้
มีแค่พวกคนใจกล้าและบ้าบิ่นเท่านั้นที่จะทำได้
เพราะแบบนี้มันจึงทำให้พวกเขาพากันสนใจคนที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์นั้นขึ้นมา เพราะความสนใจนั้นจึงทำให้พวกเขาเร่งความเร็วกันมากขึ้นเพื่อที่จะไปยังหุบเขาแห่งนั้นโดยเร็วที่สุด
…
ที่ทางเข้าหุบเขา หวังเย่าก็ได้เก็บเฮลิคอปเตอร์ของตนเองใส่ในกระเป๋ามิติก่อนจะมองท้องฟ้าด้วยความแปลกใจเมื่อพบว่าเขาเดินทางมาได้อย่างปลอดภัยได้อย่างไร
เขาเตรียมจะใช้สกิลเพื่อหนีแต่โชคดีที่เขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น มันจึงทำให้หวังเย่า โล่งอกอย่างมาก
หวังเย่ากลับเป็นคนแรกที่มาถึงหุบเขาแห่งนี้ได้
แม้ว่าจะพอมองเห็นได้อยู่แต่ก็ต้องบอกว่าหุบเขาแห่งนี้น่ะใหญ่โตอย่างมาก
ด้านในหุบเขานั้นมีแต่กำแพงหินซึ่งทำให้หวังเย่าต้องแปลกใจ
มันดูต่างกันเป็นคนละโลกกับบึงหนองน้ำก่อนหน้านี้อย่างมาก
อุณหภูมิที่นี่สูงอย่างมาก ความชื้นน้อยนิด แค่ยืนอยู่ไม่นานก็ทำให้รู้สึกคอแห้งได้แล้ว
ระหว่างทางหวังเย่าไม่พบกับสัตว์อสูรใด ๆ ราวกับว่าที่นี่ไม่มีสิ่งมีชีวิต มันราวกับดินแดนแห่งความตาย
หลังจากที่เดินทางมาได้ 10 นาทีสุดท้ายหวังเย่าก็ออกมาจากหุบเขาได้
ที่ด้านหลังผู้คนก็เริ่มเดินทางมาถึงทางเข้าหุบเขานั้นแล้ว
ตอนที่พวกเขามาถึงที่นั่นพวกเขาก็ต้องหยุด ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในหุบเขาแห่งนี้ เพราะเวลาที่มีจำกัดพวกเขาจึงต้องทำการสำรวจที่นี่ก่อน
อีกอย่างพวกเขาจะอยู่ในมิติแห่งนี้ได้แค่ไม่กี่วันเท่านั้น
ทุกคนที่เข้ามาที่นี่ไม่รู้เลยว่าควรจะไปทางไหนดี
เพราะยังไงซะที่นี่ก็เหมือนกับอยู่อีกโลก
มันคือที่ที่พวกเขาไม่รู้จัก เพราะคนส่วนมากที่เข้ามาในหุบเขานี้ก่อนไม่เคยได้กลับออกไปเลย จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่กล้าอยู่ที่นี่นานนัก
ดังนั้นจึงต้องรีบเข้าและออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทางเข้ามิติลับเสถียรเป็นบางวัน และไม่รู้เลยว่าทางเข้านั้นจะสั่นไหวขึ้นมาตอนไหน
ถึงทางเข้าจะเสถียรและดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนี้ตลอด แต่ก็ไม่มีใครกล้าวางใจได้ แม้แต่ผู้ตรวจสอบสูงสุดเองก็ยังประกาศเตือนเรื่องนี้ออกมาเช่นกัน
นี่คือเรื่องที่ทำให้กองกำลังต่าง ๆ พากันเป็นกังวล พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมผู้ตรวจสอบสูงสุดถึงได้ทำแบบนั้นแต่เมื่อแม้แต่คนระดับสูงก็ยังประกาศเตือนเรื่องนี้ออกมา งั้นก็ไม่มีใครกล้าที่จะประมาท
ในฐานะคนที่เคยเข้ามาที่นี่ก่อนแล้ว มันก็ทำให้ผู้คนเชื่อคำพูดของเขา
นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมอัจฉริยะจากเมืองต่าง ๆ ถึงได้มาที่นี่
แน่นอนว่านั่นคือความสงสัย เพราะพวกเขาสงใสมากว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับที่นี้ สงสัยมากว่าเพราะเหตุใดสัตว์อสูรถึงหยุดรุกรานและหนีกลับไป
แต่มันก็ยังมีเหตุผลที่สำคัญกว่านั้นอยู่อีก
แม้ว่าพวกเขาจะพอมีข้อมูลของมิติส่วนแรกอยู่บ้าง แต่ในส่วนกลางนั้นพวกเขาไม่มีข้อมูลใด ๆ เลย
พวกเขามีข้อมูลแค่ตรงส่วนพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยหมอกเท่านั้น แต่หลังจากพื้นที่หมอกไปแล้วพวกเขาไม่มีข้อมูลใด ๆ
ดังนั้นทุกคนจึงต้องระวังตัวกันตลอดเวลา
ตอนนี้การสำรวจพื้นที่คือเรื่องสำคัญ แต่ชีวิตก็สำคัญมากกว่า
มันอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมาตอนไหนก็ได้
ต่อจากนี้พวกเขาอาจจะเจอกับภัยที่ไม่คาดคิด ดังนั้นพวกเขาจึงพากันจับกลุ่มและระวังตัวกันอย่างมาก
พวกอัจฉริยะเองก็เช่นกัน
การเดินทางนี้อาจจะเป็นจุดสำคัญที่จะพลิกผันชะตาชีวิตของพวกเขาก็เป็นได้
เมื่อพวกเขามาที่นี่แล้ว พวกเขาก็ไม่คิดจะหันหลังกลับ และเลือกที่จะเดินหน้าเข้าไปต่อ
…
สายลมพัดผ่านมาพร้อมกับพัดพาทรายสีเหลืองกระจายไปทั่ว นี่คือทะเลทรายที่ไกลสุดลูกหูลูกตา
“ทะเลทรายงั้นหรือ มันราวกับเป็นคนละโลกกันเลย”
น่าทึ่งที่สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
ในตอนที่หวังเย่าครุ่นคิดอยู่นั้นก็มีบางอย่างเกิดขึ้นขัดความคิดของเขา ที่ทรายไกลออกไปดูเหมือนจะมีบางอย่างกำลังมุดออกมา
มันกำลังมุ่งหน้าเข้ามาหาหวังเย่า