ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 391 : เหตุไม่คาดคิด
ตอนที่ 391 : เหตุไม่คาดคิด
มีบางอย่างได้พุ่งมาตรงหน้าของหวังเย่าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมุดขึ้นมาจากดิน
ร่างขนาดใหญ่ของมันปกคลุมไปด้วยเปลือกหนาและมีขาจำนวนมาก
มันคือตะขาบยักษ์ที่มีความยาวหลายสิบเมตร เมื่อมันยืดตัวขึ้นก็ดูคล้ายกับตึกสูงระฟ้า ภายใต้เงาขนาดใหญ่ของมัน เงาของหวังเย่าก็ไม่ต่างอะไรจากมดปลวกเลย
หวังเย่ารู้สึกว่าตะขาบนี้สร้างแรงกดดันให้กับเขาอย่างมาก
ความแข็งแกร่งของเขากับมันในตอนนี้ก็แตกต่างกันไม่น้อย
ต้องบอกว่าความแข็งแกร่งของตะขาบนี่ต้องสูงอย่างมาก หากวัดตามการอ้างอิงของหวังเย่าแล้วมันน่าจะอยู่ระดับศักดิ์สิทธิ์
มันเป็นศัตรูที่ทำให้หวังเย่าหนักใจได้ไม่น้อย
และตอนนี้หวังเย่าก็เครียดอย่างมาก คู่ต่อสู้ของเขาในครั้งนี้อาจจะเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยเจอมาก็ว่าได้
ดังนั้นเขาจึงไม่อาจจะประมาทได้
เมื่อคิดแบบนั้น หวังเย่าจึงมีสีหน้าเคร่งเครียดยิ่งกว่าที่เคย
ยังไงซะนี่ก็อาจจะตัดสินความเป็นความตายได้เลย
แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่หวังเย่าจะได้เอาจริงสักทีหลังจากที่เพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายขึ้นมาอยู่ที่ระดับ S
แต่ตะขาบตัวนั้นเพียงแค่ยืดตัวสูงขึ้นไปเท่านั้นและจ้องมองมาที่หวังเย่าอย่างเงียบ ๆ และไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร
บรรยากาศมาคุระหว่างทั้งสองเริ่มเบาบางลงเล็กน้อย
หวังเย่าไม่รู้เลยว่าตะขาบนี่มีสกิลอะไรบ้าง แต่เขาก็ยังไม่คิดจะลดการระวังลง ตราบใดที่จัดการกับตะขาบนี่ไม่ได้ งั้นความอันตรายของมันก็ไม่ได้ลดลงเลย
“เจ้าแข็งแกร่งไม่น้อย”
สุดท้ายตะขาบยักษ์ตัวนี้ก็เอ่ยปากชมหวังเย่าออกมา
มันทำให้หวังเย่ามีสีหน้ามึนงงเป็นอย่างมาก
นี่มันบ้าอะไรกัน ตะขาบนี่มองเขาอยู่นานแต่สุดท้ายกลับพูดแบบนี้ออกมาเนี่ยนะ ?
นี่มันจงใจจะปั่นหัวเขาอย่างนั้นหรือ
“ข้ากับเจ้าไม่ได้มีเรื่องผิดใจกัน เจ้าไม่จำเป็นจะต้องกังวลไป” ตะขาบพูดขึ้นมา
ถึงจะได้ยินแบบนั้นแต่การที่หวังเย่าจะกังวลก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ไม่ว่าจะเป็นใครหากตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็ต้องกังวลและเครียดเป็นเรื่องธรรมดา คนที่ไม่กังวลเลยนั่นแหละที่ประหลาด ?
อีกอย่างตอนที่มันปรากฏตัวออกมาก็ดูแข็งแกร่งไม่ใช่รึไง การเข้ามาของมันก็เหมือนจะพุ่งตรงมาหาเขาอย่างกับว่าต้องการจะโจมตี ?
ใครบ้างที่จะลดการระวังตัวลง ?
แต่ฟังจากคำพูดของมันและรับรู้ได้ถึงพลังที่ลดลงไปนั้น สุดท้ายหวังเย่าก็ใจเย็นขึ้นมาได้
หวังเย่าผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อยแต่ก็ยังระวังตัวอยู่ หากเกิดอะไรไม่คาดคิดขึ้นเขาจะหนีเข้าไปในอีกมิติทันที
ยังไงซะก็ไม่อาจจะเชื่อใจสัตว์อสูรที่ดูเจ้าเล่ห์แบบนี้ได้
แม้จะบอกว่าไม่มีเรื่องผิดใจกัน แต่หวังเย่าก็ไม่เชื่อคำพูดของมันมากนัก
หากมันลอบโจมตี งั้นผลลัพธ์ที่รอเขาอยู่ก็คงเป็นความตาย
ดังนั้นหวังเย่าจึงไม่มีทางไว้ใจสัตว์อสูรนี่เลยแม้แต่น้อย
เขาไม่ใช่คนเลือดร้อนและโง่เขลาที่จะเชื่อคำพูดของสัตว์อสูรง่าย ๆ
ในโลกแบบนี้จะมีคนไร้สมองแบบนั้นอยู่อีกรึไง ?
แน่นอนว่าคงยากจะมีคนแบบนั้น
“ดูเหมือนว่าข้าจะทำให้เจ้ากังวลสินะ ใช่สิ ร่างกายของข้าอาจจะทำให้ข้าดูเป็นสัตว์อสูรชั่วร้าย งั้นข้าจะเปลี่ยนร่างกลับเป็นมนุษย์”
เมื่อพูดจบตัวของตะขาบก็สั่นไหวก่อนที่ร่างขนาดใหญ่ของมันจะหายไปและแทนที่ด้วยชายกำยำหัวล้านแทน
ร่างกายส่วนบนของเขากำยำเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ แขนเขาหนายิ่งกว่าขาของหวังเย่าซะอีก
ต้องบอกว่าภาพลักษณ์ของชายคนนี้ดูน่าตกใจยิ่งกว่าพวกนักกล้ามเสียอีก
“ร่างนี้พอรับได้รึยัง ? ” ชายคนนั้นเดินเข้ามาหาหวังเย่าพร้อมกับยิ้มให้
“ก็ดีกว่าตะกี้เยอะ” หวังเย่าพยักหน้าไม่มีท่าทีลนลาน
ภาพลักษณ์นี้ดีกว่าสภาพเมื่อตะกี้จริง ๆ
“ท่านมาชมผมแบบนี้แล้วยังเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์อีก ผมอยากรู้ว่าท่านมีเหตุผลอะไรถึงได้ทำแบบนี้ ? ” หวังเย่ามองไปที่อีกฝ่ายก่อนจะถามขึ้นมา เขายังไม่ลดการระวังตัวลง
“ข้ารอเจ้าอยู่ ไม่สิ ข้ารอพวกเจ้าอยู่” ชายคนนั้นมองไปที่ทางออกของหุบเขาด้านหลังของหวังเย่า
“รอพวกผม ? ท่านหมายถึงอะไร ? ” หวังเย่าสับสนขึ้นมา
“ก็ไม่มีอะไร นายท่านของข้าต้องการจะตรวจสอบบางอย่าง” ชายกำยำพูดขึ้น
“นายท่าน ? พวกท่านมีเจ้านายด้วยงั้นหรือ ? ” หวังเย่าแทบทำใจเชื่อไม่ได้ “แล้วต้องการตรวจสอบอะไร ? ” หวังเย่าเริ่มสงสัยเกี่ยวกับประโยคหลัง
คนที่อยู่เบื้องหลังชายคนนี้ต้องการตรวจสอบหวังเย่าและคนอื่น ๆ จึงได้ส่งชายคนนี้มา
น่าทึ่งจริง ๆ
“ถามเยอะจริง ๆ เลย หลังจากที่เจ้าเห็นทุกอย่างแล้ว นายท่านของข้าจะบอกเจ้าเอง” ชายกำยำไม่ได้ตอบคำถามของหวังเย่า
แต่จากคำพูดของเขาแล้วก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่ามันคือเรื่องใหญ่
มันทำให้หวังเย่านึกถึงคลื่นพลังของปีศาจที่เขารับรู้ได้ก่อนหน้านี้ในตอนที่เขาเข้ามายังมิติแห่งนี้
เขาสงสัยว่ามันเกี่ยวข้องกันรึไม่ หรือว่าบางทีอีกฝ่ายอาจจะอยากแสดงบางอย่างให้พวกเขาเห็น
หวังเย่าเริ่มกลัวความคิดของตัวเอง
แม้จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีเป้าหมายอะไรไม่ว่าดีรึแย่ แต่ก็ต้องรอให้คนอื่น ๆ มาถึงที่นี่ก่อนถึงจะรู้ข้อมูลได้
ตอนนี้ชายร่างกำยำไม่คิดที่จะโจมตีเขา แต่คำพูดของอีกฝ่ายก็ไม่รู้ว่าจริงรึไม่ ทว่าดูจากสถานการณ์แล้วคงไม่ใช่เรื่องแย่นัก ถึงอย่างนั้นหวังเย่าก็ยังต้องระวังอยู่ดี
ตูม !
ที่ทะเลทรายไกลออกไปได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับร่างขนาดใหญ่ใต้ผืนทรายที่โผล่ขึ้นมา
มันต่างจากตะขาบที่โผล่มาก่อนหน้านี้
ตัวตนนี้ดูแข็งแกร่งและดูกระหายเลือด
ก่อนที่มันจะมาถึง หวังเย่าก็รับรู้ได้ถึงความอาฆาตที่แผ่มาถึงตัวเขาได้