ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 398 : ตัดสินใจ
ตอนที่ 398 : ตัดสินใจ
นี่คือหัวหน้าผู้ตรวจสอบ
นี่คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหัวเซี่ย แต่ตอนนี้เขากลับปรากฏตัวอยู่ข้างชายหนุ่ม
“เป็นไปได้ยังไง ? ทำไมหัวหน้าผู้ตรวจสอบถึงได้มาอยู่ที่นี่ ! ”
“หัวหน้าผู้ตรวจสอบกับชายหนุ่มคนนั้นรู้จักกันงั้นหรือ ?”
“น่าจะเป็นแบบนั้น…”
ด้วยการปรากฏตัวของหัวหน้าผู้ตรวจสอบ ทุกคนบนลานต่างก็พากันตัวสั่นและคิดถึงเหตุผลต่าง ๆ นานา
“ครั้งนี้ฉันกับเสวียนจู่อยากให้พวกนายได้เห็นต้นกำเนิดหายนะจึงได้พาพวกนายมาที่นี่”
ตอนที่ทุกคนแปลกใจกันอยู่นั้น หัวหน้าผู้ตรวจสอบก็ได้ให้คำตอบกับทุกคน
“นี่มัน…”
ทุกคนต่างก็พากันโล่งอกขึ้นมา ในที่สุดพวกเขาก็เชื่อคำพูดของชายหนุ่ม
ยังไงซะเมื่อหัวหน้าผู้ตรวจสอบมาที่นี่แล้ว งั้นก็ไม่มีอะไรที่พวกเขาจะไม่เชื่อ
ในหัวเซี่ย คำพูดของหัวหน้าผู้ตรวจสอบคือคำประกาศิตก็ว่าได้ นี่คือเสาหลักของชาวหัวเซี่ย เชื่อได้ว่าคำพูดของเขานั้นผู้คนส่วนมากคงจะเชื่อ
“นี่…”
เมื่อได้ยินคำพูดของหัวหน้าผู้ตรวจสอบ ทุกคนต่างก็พากันเงียบไป
พวกเขายังช็อกกันอยู่ ตอนนี้พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรคิดยังไง ยังไงซะพวกเขาก็เพิ่งได้ยินข้อมูลที่น่าตกใจมา
มันไม่เกินไปเลยที่จะบอกว่าหากเรื่องนี้เผยแพร่ออกไปแล้ว แน่นอนว่าจะต้องทำให้ผู้คนลนลาน
“ดูเหมือนว่าพวกนายคงคิดอะไรกันไม่ออก งั้นก็ลองกลับไปคิดทบทวนดูให้ดี ๆ ข้อมูลนี้บอกได้แค่พวกระดับสูงเท่านั้น จำไว้ว่าอย่าเผยแพร่ออกไป” หัวหน้าผู้ตรวจสอบเห็นว่าทุกคนยังช็อกอยู่จึงได้ถอนหายใจแล้วพูดขึ้นมา
“ได้ ! ” ทุกคนต่างก็พยักหน้า ถึงหัวหน้าผู้ตรวจสอบจะไม่พูดแบบนั้นแต่พวกเขาคงไม่เอาข่าวที่น่าตกใจแบบนี้ไปบอกกับคนทั่วไป อย่างมากก็คงบอกแค่พวกระดับสูงเท่านั้น
หากเรื่องนี้เผยแพร่ออกไปทั่วโลกแล้ว แน่นอนว่าต้องเกิดความวุ่นวายอย่างแน่นอน
หัวหน้าผู้ตรวจสอบไม่อยากเห็นเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น เป็นธรรมดาที่พวกเขาก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเช่นกัน
แม้จะไม่ใช่ขุมกำลังเดียวกัน แต่ทุกคนก็คือชาวหัวเซี่ย !
“เอ่อ หัวหน้าผู้ตรวจสอบ ฉันขอถามอะไรได้รึไม่ ? ”
ตอนนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา เมื่อทุกคนหันไปมองก็พบว่าเป็นตี้เวยจื๊อที่ถามขึ้นมา
“ได้ ถามมาสิ” หัวหน้าผู้ตรวจสอบมองไปที่ตี้เวยจื๊อด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเยือกเย็น
ยังไงซะ ตี้เวยจื๊อก็อายุแค่ 27-28 ปีแต่ความแข็งแกร่งนั้นขึ้นมาถึงระดับศักดิ์สิทธิ์แล้ว นี่ถือว่าโดดเด่นตั้งแต่ที่เกิดหายนะขึ้นมา บอกได้ว่าตี้เวยจื๊อคือดาวรุ่งที่โดดเด่นก็ว่าได้
เป็นธรรมดาที่หัวหน้าผู้ตรวจสอบจะให้ค่าคนแบบนี้ ในอนาคตเธออาจจะก้าวข้ามเขาไปก็ได้
“ทำไมถึงไม่อาจทำลายมันตอนนี้ได้ ? ” ตี้เวยจื๊อถามคำถามที่สำคัญที่สุดออกมา
เรื่องนี้คือเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ หวังเย่าเองก็เช่นกัน
หัวหน้าผู้ตรวจสอบมองไปที่ตี้เวยจื๊อและพูดขึ้นมา “เพราะมนุษย์ในตอนนี้ไม่อาจจะทำอะไรมันได้ แม้ว่าจะร่วมมือกับเทพอสูรอย่างเสวียนจู่ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างไปจากเดิม”
นี่คือข่าวที่น่าตกใจ
นี่คืออีกข้อมูลที่ทำให้ทุกคนตกใจ เสวียนจู่คือเทพอสูรในตำนาน !
พวกเขาได้รู้ถึงข้อมูลที่น่าตกใจจำนวนมากในเวลาอันสั้น
ผลก็คือคำพูดของหัวหน้าผู้ตรวจสอบนั้นทำให้พวกเขารับรู้ถึงความลับระดับสูงรวมถึงการมีอยู่ของเทพอสูรด้วย
“เมื่อลงมือแล้วเราอาจจะต้องเปิดสงครามกับมัน ซึ่งจะทำให้มันหันมาสนใจพวกเรามากไปอีก บางทีนั่นยิ่งจะเป็นการสร้างปัญหาให้กับโลกของเราเร็วกว่าเดิม พวกนายเข้าใจใช่รึเปล่า ? เราไม่อาจจะเสี่ยงได้ มนุษย์ไม่อาจจะรับความเสี่ยงนี้ได้ เราได้แต่ต้องค่อย ๆ ฝึกฝนตัวเองเพื่อก้าวข้ามระดับเทพ บางทีตอนนั้นอาจจะมีหวังอยู่บ้าง ” สีหน้าของหัวหน้าผู้ตรวจสอบหม่นลงไป
เสวียนจู่ที่อยู่ข้าง ๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ต้องบอกว่าเราได้แต่รอจนถึงตอนนั้นและฝึกฝนตัวเองไปเรื่อย ๆ ตอนนี้โลกของเรายังไม่เติบโตเต็มที่ เรายังพอมีเวลาอยู่”
ทุกคนบนลานเงียบไปและแสดงสีหน้าหนักใจออกมา ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันในใจ
เมื่อหัวหน้าผู้ตรวจสอบได้เผยความจริงทุกอย่างให้พวกเขารู้ มันก็หมายความว่านี่เท่ากับการฝากความหวังไว้กับพวกเขาผู้ที่มีพรสวรรค์สูงสุด
พวกเขาต้องรับมือกับหายนะในอนาคต
ถึงได้ยินแบบนั้นพวกเขาก็ไม่ได้สิ้นหวัง แต่มันกลับทำให้พวกเขารู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมา
นี่ไม่ใช่ความหัวร้อนของพวกเขาแต่เป็นความมุ่งมั่นในฐานะอัจฉริยะ
ตี้เวยจื๊อได้ยินแบบนั้นก็กำหมัดแน่น
ในฐานะนักรบระดับ SSS ที่เด็กที่สุดแล้ว เธอน่ะรับรู้ได้ถึงความรับผิดชอบที่เธอต้องแบกรับ
หวังเย่าเองก็กำหมัดแน่น คนอื่น ๆ ได้ยินแบบนี้ยังไม่สิ้นหวังแล้ว เขาจะสิ้นหวังได้ยังไง
ตอนนั้นสายตาของเขาได้แสดงความมุ่งมั่นออกมา
เมื่อเขามีระบบอยู่กับตัว มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะก้าวข้ามสัตว์อสูรระดับเทพไปได้
ในอนาคตเขาอาจจะทำลายปีศาจนั่นได้และช่วยโลกทุกใบได้
เมื่อคิดได้แบบนั้นหวังเย่าก็ตัดสินใจ จากนี้เขาจะพยายามเป็นสองเท่าจากเดิม
ยังไงซะมันก็ไม่มีใครรู้ว่าโลกจะเติบโตเต็มที่ตอนไหน ตอนนี้เขาไม่อาจจะเสียเวลาทิ้งไปเปล่า ๆ ได้….