ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 409 : ปิดเส้นทาง
ตอนที่ 409 : ปิดเส้นทาง
เมื่อเห็นกัปตันทำความเคารพเขา หวังเย่าก็ได้พูดขึ้น “ไม่จำเป็นหรอก เราต่างก็เป็นคนหัวเซี่ยเหมือนกัน นี่คือสิ่งที่ผมควรจะทำ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นกัปตันก็มองไปที่หวังเย่าด้วยความเคารพยิ่งกว่าเดิม
“เมื่อพวกเขาอยากจะเที่ยวชมโลกนี้ก็ปล่อยพวกเขาเถอะ หากพวกเขาไม่รีบ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร” หวังเย่าพูดแล้วมองออกไปรอบตัว
จากนั้นหวังเย่าก็นั่งลงกับพื้นพร้อมกับมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
กัปตันเองก็นั่งลงไปข้าง ๆ ด้วยเช่นกัน
“หวังเย่า ถ้าฉันบอกนายว่าโลกมนุษย์อาจจะถูกทำลายในอนาคต นายจะเชื่อรึเปล่า ? ” กัปตันที่นั่งข้าง ๆ หวังเย่าได้พูดขึ้นมา
“ผมเชื่อ ผมรู้แล้วแต่ผมคิดจะต้านทานมันให้ได้” หวังเย่าพูดขึ้นพร้อมกับชูกำปั้นขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับว่าเขาต้องการจะจับบางอย่างเอาไว้ให้ได้
กัปตันมองไปที่หวังเย่าแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมา “ดูเหมือนว่านายจะพอรู้เรื่องแล้ว…”
หวังเย่าไม่มีทางจะมองข้ามความเป็นไปได้ทุกอย่าง เขานอนลงกับพื้นปล่อยให้แสงสาดใส่บนตัวของเขา
หวังเย่ารู้ว่าอนาคตของโลกมนุษย์นั้นจะยากลำบากแค่ไหนแต่เขาไม่คิดจะยอมแพ้ แน่นอนว่าเขาต้องคว้าความหวังเอาไว้…เขาต้องช่วยโลกนี้เอาไว้ !
…
หลังจากนั้นหลายสิบนาทีทุกคนก็กลับมา
พวกเขารู้แล้วว่าพวกเขาควรจะทำยังไงต่อ
หลังจากที่ทุกคนมารวมตัวกันแล้ว พวกเขาก็พากันเดินเข้าไปในค่ายกล จากนั้นไม่นานทุกคนก็หายตัวไปจากโลกนี้
ภายในเมืองตัดขวางที่ที่ไม่มีคนพลุกพล่านมากนัก ตอนนั้นเองแร่ไฟที่พื้นก็ได้ส่องแสงขึ้นมาพร้อมกับหวังเย่าและคนอื่น ๆ ได้ปรากฏตัวขึ้น
ทุกคนพากันนึกย้อนถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาที่ตอนนี้พวกเขายังใจสั่นไม่หาย
“ครั้งนี้หวังเย่าได้ช่วยเราไว้มาก ฉันติดค้างนาย หากมีอะไรจำเป็นเราก็พร้อมยินดีช่วย”
“ใช่ ถ้าไม่ใช่เพราะนายช่วยเรา เราคงเถียงกันอยู่ว่าจะเลือกทางไหน”
“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนี้ เราเต็มใจจะช่วยนายเต็มที่”
….
ทุกคนพากันเข้ามาขอบคุณหวังเย่า ถ้าไม่ใช่เพราะหวังเย่าบางทีพวกเขาอาจจะยังเถียงกันไม่หยุดจริง ๆ
ครั้งนี้หวังเย่าได้ช่วยพวกเขาเอาไว้มาก นับว่าเป็นบุญคุณชีวิตเลยก็ว่าได้
พวกเขาไม่ใช่คนเนรคุณ
ทุกคนพากันมาขอบคุณและบอกลาหวังเย่า ตอนนี้พวกเขาแค่อยากจะกลับไปพักผ่อน
สุดท้ายกัปตันและพนักงานคนอื่น ๆ ก็พากันมาขอบคุณหวังเย่า
หลังจากที่ขอบคุณกันเสร็จแล้วกัปตันก็ได้พาคนของเขากลับไป
เพราะตอนนี้พวกเขาต้องรีบกลับไปรายงานเรื่องเครื่องบินตกให้กับสถานีรับทราบ
เส้นทางการบินจะถูกปิดจนกว่าจะตรวจสอบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก่อน
ยังไงซะก็ไม่มีใครกล้าเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยง
หลังจากที่บอกลาทุกคนแล้ว หวังเย่าก็ได้กลับไปที่โรงแรม
เรื่องไม่คาดคิดในวันนี้ได้ขัดจังหวะแผนการของเขาที่วางไว้จนหมด
หวังเย่านอนลงบนโซฟาและล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาพร้อมกับไล่ดูข่าว
เนื้อหาของข่าวเป็นธรรมดาที่จะเกี่ยวข้องกับเครื่องบินที่เดินทางจากเมืองตัดขวางไปยังเมืองหัวเซี่ย เครื่องบินได้ประสบอุบัติเหตุและตกไป
กัปตันได้รายงานเรื่องนี้รวมถึงเหตุผลที่พวกเขาเดินทางกลับมาที่เมืองตัดขวางได้อย่างปลอดภัย
ตอนนี้เรื่องค่ายกลเคลื่อนย้ายของหวังเย่าก็ถูกรายงานในข่าว มันทำให้หวังเย่ากลับมาโด่งดังอีกครั้งหนึ่ง
“กัปตันนี่รายงานข่าวเร็วจริง ๆ แยกตัวกันได้ไม่นานเขาก็รายงานเรื่องนี้ทันที ”
เมื่อเห็นข้อความด้านล่างที่ชมเขา เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดี
ไม่นานก็มีข้อความอีกอันถูกส่งมา มันคือแผนการที่ศาลสูงสุดได้ประกาศออกมา
ไม่ใช่แค่เส้นทางของเมืองตัดขวางไปยังเมืองหัวเซี่ยที่ถูกปิดชั่วคราว แต่เส้นทางเดินทางไปยังเมืองอื่น ๆ ก็ถูกปิดไปด้วยเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ไม่คาดคิด พวกเขาอาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนกับครั้งนี้
เรื่องนี้คือเรื่องที่ทุกคนยอมรับได้
พวกเขาต้องหาสาเหตุและทางแก้ปัญหาเพื่อทำการเปิดเส้นทางอีกครั้ง
และนี่คือทางเลือกที่ดีที่สุด
สุดท้ายศาลสูงสุดก็ได้ออกปากชมกัปตันและหวังเย่า
ทั้งสองมีบทบาทอย่างมากกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดในครั้งนี้ ถ้าไม่มีพวกนี้อาจจะส่งผลกระทบเกินกว่าจะคาดถึง
แน่นอนว่าต้องชมลูกเรือคนอื่น ๆ และผู้โดยสารด้วย ต่อหน้าวิกฤตแบบนี้พวกเขาก็ยังไม่ลนลาน ดังนั้นพวกเขาควรจะได้รับคำชม
ตอนนี้ศาลสูงสุดได้ส่งคนจำนวนมากออกไปตรวจสอบเรื่องนี้ พวกเขาเชื่อว่าอีกไม่นานจะได้รับข้อมูลกลับมา
ตอนนั้นโทรศัพท์ของหวังเย่าก็ดังขึ้น มันคือจ้าวเมิ่งซีที่โทรมา เดาว่าเธอคงเห็นข่าวแล้วจึงโทรเข้ามาหาหวังเย่า
เมื่อรับสายแล้วก็ได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลของจ้าวเมิ่งซี
“หวังเย่า นายอยู่ในข่าวจริง ๆ ใช่ไหม ? นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม ? บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า ? ” จ้าวเมิ่งซีถามขึ้นมารัว ๆ จนหวังเย่าตอบแทบไม่ทัน
“ฉันไม่เป็นอะไร สำหรับข่าวแล้ว…” หวังเย่าได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้จ้าวเมิ่งซีฟัง
จากนั้นเมื่อจ้าวเมิ่งซีวางสายไป ฟ่านฉิงเหมยก็ได้โทรเข้ามาหาเขา
หลังจากที่รับสายแล้วก็มีคำถามที่ถามออกมาด้วยความกังวล หวังเย่าจึงได้อธิบายทุกอย่างกับฟ่านฉิงเหมยเช่นกัน
หลังจากที่ปลอบฟ่านฉิงเหมยเสร็จก็มีคนโทรมาอีก ครั้งนี้เป็นหลี่ว่านเฟิงที่โทรมา
ดูเหมือนว่าข่าวนี้จะเป็นที่รู้กันไปทั่วทั้งหัวเซี่ยแล้ว ทุกคนต่างก็สนใจมันอย่างมาก เป็นธรรมดาที่หลี่ว่านเฟิงจะรู้เรื่องนี้
หลี่ว่านเฟิงถามมาไม่มากนักก่อนที่จะวางสายไป
จากนั้นก็มีคนโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้คือคนจากกลุ่มทหารรับจ้าง
ไม่นาน เฉี่ยนเจินเฉียนก็ได้โทรมา ผู้ตรวจสอบทั้งสี่คนเป็นห่วงหวังเย่าอย่างมาก และได้ถามเขาถึงเรื่องค่ายกลเคลื่อนย้าย
แต่พวกนั้นไม่ได้ถามถึงมิติลับที่ทุกคนเข้าไป
บางทีนี่อาจจะถูกปิดไว้เป็นความลับ