ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 413 : การวิวัฒนาการของเสี่ยวซวี
ตอนที่ 413 : การวิวัฒนาการของเสี่ยวซวี
“นี่พวกลุงยังไม่รู้อีกหรือ ? ” เมื่อเห็นเฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ทำท่าแปลกใจ หวังเย่าก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมา
“นายรู้อะไรมา ? ” เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ต่างก็แสดงสีหน้าสงสัยออกมา
เมื่อเห็นว่าพวกเขาดูไม่รู้เรื่องจริง ๆ หวังเย่าจึงเล่าเรื่องที่ได้รู้มาให้ทุกคนฟัง
“นี่มัน…”
“มันกลับมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ”
“แนวคิดเกี่ยวกับความเป็นอมตะ เก็บเกี่ยวโลกที่โตแล้ว อนาคตและสัตว์อสูร…”
“ใช่ นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับมิตินอกนั่น”
เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเย่า ทุกคนก็พากันคิ้วขมวดและแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นในตอนนี้ซะหน่อย…” เฉี่ยนเจินเฉียนถอนหายใจออกมา
ทุกคนต่างก็พยักหน้าตอบรับ
จากนั้นพวกเขาก็พากันมองไปที่หวังเย่า ก่อนที่เฉี่ยนเจินเฉียนจะพูดขึ้น “เมื่อนายรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว งั้นเราก็บอกเรื่องนี้กับนายได้ ”
หวังเย่าตั้งใจฟังทันที เขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในมิติลับนั้นบ้าง
ตามที่ข้อมูลที่เฉี่ยนเจินเฉียนบอกมา เมื่อเข้าไปในมิตินั้นทุกคนก็มุ่งหน้าไปที่ลานที่เห็นในคลิปวีดีโอนั้นทันที
ก่อนหน้าที่พวกเขาเดินทางเข้าไป มันไม่ได้มีเรื่องไม่คาดคิดอะไรเกิดขึ้นก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปถึงลานที่สัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามคอยดูแลอยู่
แม้ว่าพวกเขาจะพากันซ่อนตัว แต่ก็ถูกพบโดยสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม
เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ร่วมมือกันเพื่อรับมือกับสัตว์อสูรทั้งสาม ซึ่งนี่มันถือเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอย่างมากก็ว่าได้
การต่อสู้นี้แม้ว่าเฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ จะร่วมมือกันแต่ก็ใช้ความพยายามอย่างมากเหมือนกัน กว่าที่จะทำให้สัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามและกองทัพสัตว์อสูรต้องบาดเจ็บ
จากนั้นตอนที่สัตว์อสูรทั้งสามฟื้นฟูร่างกายของตัวเองอยู่นั้น พวกเขาก็ได้มุ่งหน้าไปที่ลาน
ทุกคนทำการสำรวจลานอยู่สักพักแต่ก็ไม่ได้พบอะไรพิเศษเลย
แต่ทันใดนั้น จู่ ๆ ลานก็เกิดมีการทำงาน พวกเขาได้ถูกปกคลุมด้วยพลังบางอย่างก่อนจะถูกส่งออกจากลานไป
และได้เข้าไปในมิติสีเทาก่อนจะพบว่ามีการต่อสู้เกิดขึ้นตรงหน้าพวกเขา
นี่คือการต่อสู้ระหว่างอสูรมิติกับหนวดปีศาจ
อสูรมิติที่ดูแข็งแกร่ง แต่ตอนนี้ไม่อาจจะรับมือกับหนวดปีศาจนั้นได้เลย
เพียงไม่กี่นาทีก็รู้ผลลัพธ์แล้ว ร่างของอสูรมิติได้ระเบิดออก
กรงเล็บข้างหนึ่งของมันเหมือนจะมีจิตวิญญาณและได้พุ่งเข้าโจมตีใส่พวกเขา
การที่พวกเขาหลุดมาที่นี่เป็นธรรมดาที่จะทำให้หนวดปีศาจนั่นสนใจ
ตอนที่เสียงคำรามดังขึ้นมาอีกครั้ง มิติรอบตัวของพวกเขาก็บิดเบี้ยวไปก่อนที่พวกเขาจะถูกส่งออกมาจากที่นั่น
ทั้งห้าคนได้กลับมาที่ลานอีกครั้งพร้อมกับกรงเล็บของอสูรมิติ
เวลาในมิติสีเทาเหมือนจะต่างจากโลกที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้อย่างมาก เวลาไม่กี่นาทีในมิติสีเทาแต่ไม่รู้เลยว่าด้านนอกนั้นผ่านไปนานแค่ไหน
การกลับมาของพวกเขาทำให้สัตว์อสูรทั้งหมดหันมาสนใจทันที
แต่สัตว์อสูรทั้งสามไม่คิดที่จะสู้ พวกมันพากันคุกเข่าให้กับลานพร้อมสีหน้าที่แสดงความโศกเศร้าออกมา
ไม่รู้เลยว่ากรงเล็บนี่มีความพิเศษอะไรถึงได้ทำให้สัตว์อสูรทั้งสามสงบลงแบบนี้ จนทำให้พวกมันปล่อยพวกเขาพร้อมกับกรงเล็บออกมาจากมิตินั้นมา
ตอนนั้นแม้ว่าจะสับสน แต่เฉี่ยนเจินเฉียนกับคนอื่น ๆ ก็ได้เก็บกรงเล็บนั่นและออกจากมิติลับมา
สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นพวกเขาไม่ได้รู้อะไรมาก พวกเขารู้แค่ว่ามิตินั้นเกิดการสั่นไหวก่อนที่พวกเขาจะออกมา
นี่คือข้อมูลส่วนมากที่เกิดขึ้นกับการที่พวกเขาเดินทางเข้าไปในมิตินั้น
เมื่อได้ยินแบบนั้นหวังเย่าก็เงียบไป เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องจะวุ่นวายมากขึ้นไปเรื่อย ๆ แบบนี้
ดูเหมือนว่าปีศาจนั่นจะตื่นขึ้นมาแล้ว
“กรงเล็บของอสูรมิตินี้ตอนแรกไม่ได้ถูกหมอกดำกัดกิน มันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเช้านี้เอง” เมื่อมองไปที่กรงเล็บซึ่งมีหมอกดำลอยออกมา เฉี่ยนเจินเฉียนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
“หลังจากที่ศึกษามันมาหลายวัน เราก็ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับกรงเล็บนี้เลย”
“เราคิดว่ามันน่าจะเป็นทางเลือกสุดท้ายของอสูรมิติ ดูเหมือนว่ามันตั้งใจทิ้งกรงเล็บนี้เอาไว้เพราะเหตุผลบางอย่าง” ซือคงเป่าพูดขึ้นมา
“แล้วทำไมลุงเฉี่ยนถึงได้บอกให้ผมมาที่นี่ ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
“นายทำสัญญากับอสูรมิติ ฉันคิดว่าอสูรมิติทั้งสองน่าจะเกี่ยวข้องกัน ” เฉี่ยนเจินเฉียนมองไปที่หวังเย่าแล้วพูดขึ้น
หวังเย่าเข้าใจว่าหากเขาเป็นอีกฝ่าย เขาก็คงคิดแบบนี้เช่นกัน
หวังเย่าโบกมือและเรียกเสี่ยวซวีออกมาจากกำไล
เสี่ยวซวีได้ลดขนาดร่างของตัวเองลง แต่คลื่นพลังของมันก็ยังน่ากลัวจนทำให้เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ พากันใจสั่น
เมื่อเสี่ยวซวีปรากฏตัว กรงเล็บที่ไม่เคลื่อนไหวมานานกลับสั่นไหวเล็กน้อย
ฉากนี้ทำให้ทุกคนพากันแสดงสีหน้ายินดีออกมา แน่นอนว่าพวกเขาเดาถูกแล้ว
ลำแสงได้ระเบิดออกมาจากกรงเล็บและได้ชำระล้างหมอกดำภายในกรงเล็บออกไปโดยไม่เหลือร่องรอย
หลังจากนั้นสักพักแสงก็ดับลง ทุกคนต่างก็พากันมองไปที่กรงเล็บนั่น
ไม่นานกรงเล็บก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
หวังเย่าเห็นว่าที่หน้าผากของเสี่ยวซวี เหมือนจะมีเครื่องหมายสีทองกระพริบไม่หยุด
คลื่นพลังอันน่ากลัวแผ่ออกมาราวกับจะระเบิดออกจากร่างเสี่ยวซวี
ฉากนี้ทำให้ทุกคนกังวลเป็นอย่างมาก
กรร !
เสี่ยวซวีคำรามออกมาเบา ๆ พร้อมกับทำการกลับร่างเดิม