ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 419 : ตาย ?
ทางตะวันออกของภูเขาต้าเหยียนเต็มไปด้วยเนินเขาและป่าที่รก ทึบ ที่นี่ยากจะหาใครพบได้ มันราวกับงมเข็มในมหาสมุทร แต่หวังเย่าก็ ไม่ได้ท้อใจกับเรื่องนี้แต่อย่างใด เขาต้องหาหลี่ว่านเฟิงให้พบเพื่อดูว่า อีกฝ่ายตายไปแล้วรึไม่
จากนั้น….
ตามข้อมูลที่หลี่ว่านเฟิงบอกมา กลุ่มนรกทมิฬคือคนร้ายที่ฆ่าพ่อ แม่เขา
นี่คือมะเร็งร้ายของประเทศกว่าสิบปีแล้ว พวกนี้คือต้นกําเนิด ความเลวร้ายของประเทศก็ว่าได้
มันไม่มีใครทําอะไรพวกนี้ได้แม้แต่น้อย
แต่ตอนนี้หวังเย่าตัดสินใจที่จะกําจัดมะเร็งร้ายของประเทศทิ้งให้ สิ้นซาก และเขามั่นใจว่าจะทําได้
การทําแบบนี้ถือว่าช่วยประเทศไว้ได้อย่างมาก
พวกนี้สูญเสียความเป็นมนุษย์ไปแล้ว ไม่จําเป็นต้องสงสารคนพวก นี้แต่อย่างใด
เงาขนาดใหญ่ทับผ่านป่าด้านล่างโดยมีหวังเย่ายังยืนอยู่บนหัวของ เสี่ยวซวี เขามองลงไปด้านล่างเพื่อหาเบาะแสต่างๆ
การบินอยู่บนภูเขาต้าเหยียนแห่งนี้ไม่ต้องเดาเลยว่ามันอันตราย มากแค่ไหน
มันถือว่าเป็นเป้าเดินได้เลยทันที ไม่ต่างอะไรกับการหาเรื่องใส่ตัว แต่ตอนนี้หวังเย่าไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลยแม้แต่น้อย
พลังของระดับศักดิ์สิทธิ์ได้แผ่ออกมาจากตัวเสี่ยวซวี พลังนี้ทําให้ ทุกคนใจสั่นได้
สัตว์อสูรในภูเขาเมื่อรับรู้ถึงแรงกดดันจากพลังนี้ต่างก็ไม่กล้าแม้แต่ จะเคลื่อนไหว นี่ไม่ต้องนับการเข้าโจมตีเลย
ดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นไม่มีปัญหาใดๆ บางที อาจจะมีสัตว์อสูรที่บ้าคลั่งรึสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์เท่ากันเท่านั้นที่จะ กล้าลงมือกับเสี่ยวซวี
สําหรับสัตว์อสูรระดับเทพแล้ว….มันไม่ได้มีข้อมูลสัตว์อสูรพวกนั้น อยู่ในดินแดนของหัวเซี่ยเลย
มันมีความเป็นไปได้น้อยนิดที่จะมีพวกมันอยู่ในมิติโลกระดับสูงทั้ง สามนี้
แม้ว่าภูเขาต้าเหยียนจะอันตรายแต่มันก็ไม่มีสัตว์อสูรระดับเทพอยู่ สําหรับหวังเย่าแล้วที่นี่จึงไม่ได้เป็นปัญหากับเขาเลย
เมื่อบินมาได้ครึ่งชั่วโมง หวังเย่าก็เห็นเลือดที่พื้นซึ่งยังไม่แห้ง รวมถึงศพที่ถูกสัตว์อสูรกินด้วย
เขาคิดว่าที่นี่คงเป็นที่ที่กองกําลังของหลี่ว่านเฟิงได้ต่อสู้กับกลุ่ม นรกทมิฬ
สัตว์อสูรที่กําลังกินศพก็พากันหนีออกไปเมื่อรับรู้ได้ถึงแรงกดดัน จากเสี่ยวซวี
กลิ่นเลือดลอยคลุ้งไปทั่ว เมื่อเห็นศพเหล่านั้น หวังเย่าก็ต้องกํา หมัดแน่น ในใจของเขารู้สึกแค้นเคืองกลุ่มนรกทมิฬยิ่งกว่าเก่า
เมื่อคิดถึงข่าวที่ได้อ่านมาก่อนหน้านี้ที่มีกลุ่มอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย จนทําให้หลี่ว่านเฟิงพ่ายแพ้ไป ไม่ว่ากลุ่มนั้นจะเป็นกลุ่มไหน แต่ หวังเย่าก็ตัดสินใจที่จะกําจัดพวกนั้นไปด้วยเช่นกัน
เดินหน้าต่อได้ไม่นาน หวังเย่าก็ต้องหยุดและทําการหลอมรวมกับ มิติ
ในป่าด้านนอกหุบเขา หวังเย่าได้หายตัวไปทันที
ชายที่อยู่ในป่าเมื่อเห็นฉากเช่นนี้ก็ต้องสีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง เขา ไม่ได้สนใจอะไรอีกและรีบหันกลับก่อนจะวิ่งหนีไป “ทําไมมันถึงมีสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ที่นี่ แล้วชายหนุ่มคนนั่นคือ อะไรกัน เขาเหมือนกับเป็นเจ้าของ ของสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์เลย” “ในหัวเซี่ยมีผู้ใช้อสูรที่ดูเด็กแต่แข็งแกร่งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉัน ต้องรีบกลับไปรายงานหัวหน้า…” นี่คือสิ่งที่ชายคนนี้คิด เขาทําได้แค่หนีแต่เขาอาจจะหนีไปไหนไม่รอด มิติเกิดการสั่นไหว ตอนนั้นชายหนุ่มที่วิ่งหนีก็รู้ว่าหนีไปก็ไม่มี ประโยชน์ เขาจึงได้แต่หยุด เขาหวาดกลัวอย่างมาก สายตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล “นายคิดจะไปไหน ? ” หวังเย่าปรากฏตัวขึ้นมาที่ด้านหลังของอีก ฝ่ายพร้อมกับมองไปที่อีกฝ่ายด้วยสายตาแค้นเคือง ชายคนนั้นทําอะไรไม่ได้นอกจากต้องหยุด สายตาของเขามองหวังเย่าด้วยความกลัว
“ไม่หนีต่อรึไง ? แต่ก็ช่างเถอะ ฉันถามนายหน่อยว่านายเป็นคน ของใคร ? ” หวังเย่าถามขึ้นมาอย่างใจเย็นแต่เสียงของเขากลับแฝงไป ด้วยการข่มขู่
แม้จะรู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นคนของใครแต่หวังเย่าก็ยังถามออกมา
ชายคนนั้นไม่ได้พูดอะไร เขาเตรียมพร้อมที่จะสู้ เขาเหมือนไม่คิด จะตอบคําถามของหวังเย่า
“แม้ว่านายจะไม่บอกแต่ฉันก็พอเดาออก นายคือคนจากกลุ่มนรก ทมิฬใช่ไหม ? ” หวังเย่ามองไปที่อีกฝ่าย
“ถูกแล้ว” เมื่อได้ยินคําพูดของหวังเย่า ชายหนุ่มก็รู้ชะตาของ ตัวเองแล้ว
“บอกมาว่าหลี่ว่านเฟิง ผู้ตรวจสอบ 4 ดาวที่สู้กับกลุ่มนรกทมิฬอยู่ ที่ไหน ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
“ฮ่าฮ่า นายมาตามหาเขานี่เอง ฉันบอกนายก็ได้ว่าเขาตายเพราะ หัวหน้าของฉันแล้ว ฮ่าฮ่า” ชายคนนั้นกลับหัวเราะออกมา
ตูม !
แรงกดดันมหาศาลได้กดทับร่างกายของชายหนุ่มเอาไว้จนทําให้ เขาทรุดลงไปกับพื้น
พื้นดินโดยรอบถึงกับสั่นไหวไปด้วย “บอกความจริงมา ! ” หวังเย่าจ้องไปที่อีกฝ่ายและพูดขึ้น “ฮ่าฮ่า….นี่แหละความจริง หัวหน้าฉันฆ่าเขาแล้ว ฉันบอกนายก็ได้ ว่าเขาตายอย่างน่าอนาถ ฮ่าฮ่า…” “อย่างนายจะทําอะไรได้ ? ” แม้ว่าจะโดนกดลงกับพื้นแต่เขาก็ยัง หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งอยู่ดี เขาเหมือนจะรู้ชะตาตัวเองอยู่แล้ว สีหน้าในตอนนี้จึงเต็มไปด้วย ความบ้าคลั่ง….