ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 425 : ทําลาย
ป้อมปราการแห่งนี้มีสิ่งอํานวยความสะดวกสบายทุกอย่าง
ในห้องโถงนั้นหลี่เกอและหัวหน้าของอีกทีมได้ทําการแลกเปลี่ยน ข้อมูลกัน
“ตามหามานานขนาดนี้แต่ยังไม่รู้ข้อมูลของหลี่ว่านเฟิงเลย ” หลี่ เกอบ่นออกมา
“หัวหน้าได้สั่งการเราแล้ว เราต้องหามันให้เจอภายใน 3 วัน ตอนนี้ วันแรกเกือบจะหมดลงแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย” หัวหน้าทีมอีก คนพูดขึ้นมา
“ถ้าหาร่องรอยของมันไม่เจอ…”
ทุกคนคิดถึงความน่ากลัวของหัวหน้าและพากันใจสั่นขึ้นมา
“เราต้องหาข้อมูลของมันให้เจอ มันบาดเจ็บหนักเพราะหัวหน้า คนของมันไม่อาจจะหนีจากภูเขานี้ไปได้แน่”
“เราต้องหามันให้เจอโดยเร็วที่สุด ตอนนี้ข่าวที่มันโดนโจมตี อาจจะเผยแพร่ไปถึงเมืองแล้ว ถ้านานกว่านี้สถานการณ์จะเปลี่ยนไป นี่ เป็นโอกาสเดียวของเราเท่านั้น”
สายตาของหลี่เกอและหัวหน้าทีมอีกคนสั่นไหว พวกเขาไม่รู้เลยว่า เหลือเวลาอีกเท่าไหร่กัน
“โชคร้ายที่พวกแกไม่มีโอกาสนั้นแล้ว…”
ตอนนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในหูของทุกคน ตามมาด้วยร่างที่ โผล่ออกมาจากมิติ
หวังเย่ามองไปรอบๆ ด้วยสายตาที่เย็นชา
เขาซ่อนตัวอยู่ที่ด้านหลังหลี่เกอ แต่อยู่ในอีกมิติหนึ่งตั้งแต่แรกแล้ว
หวังเย่าตามมาตั้งแต่การใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายจนถึงตอนนี้ ทุก อย่างราบรื่นอย่างมากไม่มีใครรู้การมาของเขาเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าพวกนี้จะระวังตัวกันมากแต่ก็ไม่รู้ตัวเลยว่าหวังเย่าตามมา
ไม่ใช่แค่ความสามารถในการใช้พลังมิติ แต่เป็นเพราะความ แข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายก็ต่างกันจนเกินไป
“นายคือหวังเย่างั้นหรือ ? นายมาที่นี่ได้ยังไง ? ”
ด้วยการที่หวังเย่าปรากฏตัวขึ้นมา ทุกคนก็พากันระวังตัวขึ้นมา ทันที
หลี่เกอจําหวังเย่าได้ทันที
สําหรับพวกโจรแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาต้องเคยตรวจสอบข่าวสาร ในอินเตอร์เน็ต
พวกเขาสนใจเกี่ยวกับอัจฉริยะของประเทศ ยังไงซะนี่ก็ถือว่าเป็น เสาหลักของประเทศในอนาคต หากจัดการอีกฝ่ายได้ ไม่ต้องเดาเลยว่า จะส่งผลดีต่อพวกเขาอย่างมาก
การที่พวกโจรรู้จักเขานั้นหวังเย่าไม่ได้แปลกใจ เขาแค่มองไป รอบๆ ด้วยสายตาไม่พอใจ
“แม้ฉันจะไม่รู้ว่าทําไมแกถึงเข้ามาที่นี่ได้ แต่เมื่อเข้ามาในป้อม ปราการนี้แล้ว ถึงจะมีปีกแต่ก็ยากที่จะหนีไปได้ น่าเสียดายที่เราต้องฆ่า แกก่อนเวลาอันควร ! ” โจรคนหนึ่งพูดขึ้นมา
หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าเยาะเย้ยออกมา เขาเข้ามาที่นี่ได้ โดยที่ไม่มีใครรู้ตัวก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ธรรมดา
มีแค่หลี่เกอและหัวหน้าทีมอีกคนที่มองหวังเย่าด้วยสายตากังวล รวมถึงมองไปที่เสี่ยวซวีที่อยู่ข้างๆ ด้วย
ด้วยความแข็งแกร่งระดับ S ของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็รู้ว่าคน ตรงหน้าพวกเขานั้นแข็งแกร่งกว่า
ทั้งสองไม่เหมือนกับคนอื่นที่เดินหน้าเข้าหาหวังเย่า แต่ทว่าทั้งสอง กลับถอยหลังกลับไป
หวังเย่ารู้ข้อมูลที่พวกนี้พูดคุยกันแล้ว ตอนนี้เขาไม่จําเป็นต้องเค้น ข้อมูลอะไรจากพวกนี้ต่อไป
เขาดีดนิ้วก่อนจะพุ่งออกไปข้างหน้าทันที
หวังเย่าไม่คิดจะใจอ่อนกับโจรที่ไม่รู้ว่าฆ่าคนมามากเท่าไหร่กัน
ตูม !
เพลิงมังกรสีแดงอันน่ากลัวพุ่งออกไปข้างหน้าทันทีพร้อมกับเผา พวกโจรที่ยังไม่ทันได้ขยับตัว
เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วป้อมปราการพร้อมเสียงสัญญาณเตือนที่ ดังขึ้นไปทั่ว
ในพริบตาโจรคนอื่นๆ ก็พากันแห่เข้ามาที่ห้องโถง
เพลิงมังกรนี้ราวกับจะกลืนกินทุกอย่างได้ พวกโจรที่โดนเผาใน ตอนแรกตอนนี้ได้กลายเป็นเถ้าไปแล้ว
แม้แต่หลี่เกอและหัวหน้าทีมอีกคนที่ถอยกลับไปก็เช่นกัน
ตอนที่โจรกลุ่มหลังมาถึงและเห็นฉากตรงหน้า พวกนั้นก็ตัวแข็งทื่อ และมองไปยังสองร่างที่ยืนอยู่ใจกลางห้องโถง
“บังอาจ ! แกกล้าทําแบบนี้กับกลุ่มนรกทมิฬ แกหนีไม่รอดแน่ ! ” ชายที่มีแผลเป็นบนหัวได้ตะโกนออกมา
หวังเย่าไม่ได้สนใจอีกฝ่าย เขาแค่สะบัดมือพร้อมกับส่งเพลิงมังกร ไปเผาคนพวกนั้น
ตอนที่ไฟสลายไปก็เหลือแค่เถ้าที่ปลิวว่อนไปตามลมเท่านั้น มัน ยืนยันได้ว่าโจรพวกนี้ได้หายไปจากโลกนี้แล้ว
ถึงจะฆ่าโจรพวกนี้ไปหลายคน แต่หวังเย่าก็ไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่ น้อย
ก่อนที่จะมาถึงที่นี่ เขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องกําจัดพวกนี้ให้สิ้น ซาก
หวังเย่าเดินออกจากห้องโถงพร้อมกับทําการสํารวจป้อมปราการ แห่งนั้น
ไม่ว่าเขาจะเจอใครระหว่างทาง เขาก็ได้ฆ่าพวกนั้นทิ้งทั้งหมดโดย ไม่ปราณี
สุดท้ายในส่วนลึกสุดของป้อมปราการ หวังเย่าก็ได้พบกับคนที่ แกร่งที่สุดของที่นี่
ชายคนนี้อยู่ระดับ SS แม้แต่ในหมู่กลุ่มนรกทมิฬแล้ว เขาก็มีฐานะ ที่สูง เขาถือว่าเป็นหนึ่งในตัวหลักก็ว่าได้
เพราะความแข็งแกร่งนี้จึงทําให้เขาได้เป็นหัวหน้าของป้อมแห่งนี้
ชายคนนี้อายุประมาณ 50 ปี เขามีใบหน้าที่ดูเป็นมิตร
ไม่คิดเลยว่าภายใต้ใบหน้าที่เป็นมิตรนี้กลับแฝงไปด้วยความชั่ว ร้ายอยู่
แต่แม้ว่าจะมีความแข็งแกร่งระดับ SS แต่เมื่อเผชิญหน้ากับ หวังเย่าก็ไม่อาจจะรอดไปได้ เขาโดนฆ่าในเวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น
“รังหลักของกลุ่มนรกทมิฬอยู่ที่ไหน ? ” แม้ว่าจะมีความหวังแค่ น้อยนิดแต่หวังเย่าก็ยังถามออกมา
“หึ ! ” ชายแก่ได้เผยรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา เขาเหมือนเลือกที่จะ ตายเสียมากกว่าที่จะบอก
เมื่อเห็นว่าชายแก่คนนั้นตายไป หวังเย่าก็ได้ทําการเก็บถุงมิติของ อีกฝ่ายเอาไว้
บางทีมันอาจจะมีข้อมูลที่มีประโยชน์อยู่ในถุงมิติ
หวังเย่ายังไม่คิดที่จะค้นถุงมิติตอนนี้ เขาเลือกที่จะทําลายป้อม ปราการแห่งนี่ก่อน
หลังจากที่ไม่อาจหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้ หวังเย่าจึงเดินทาง ออกมาจากที่นั่น