ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 439 : ต้องหนี
พลังอันกระหายเลือดปะทุออกมาจากอสูรทั้งสี่ตัวที่พุ่งเข้าใส่ หวังเย่า พวกมันอ้าปากออกมาเพื่อคิดจะฉีกเนื้อหวังเย่าเป็นชิ้นๆ
หลี่ว่านเฟิง เห็นแบบนั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไป แม้ว่าหวังเย่าจะบอกถึง ความแข็งแกร่งที่มีแล้วแต่เขาก็ไม่อาจจะวางใจได้
เมื่อเห็นหวังเย่าเผชิญหน้ากับอันตราย หลี่ว่านเฟิงก็อยากจะเข้า ไปช่วย
ไม่ว่าจะสายเกินไปรึไม่แต่เขาก็ต้องไปช่วยหวังเย่า
แต่กลับมีร่างของเสี่ยวซวีเดินมาขวางหน้าหลี่ว่านเฟิงเอาไว้
“แค่ดูก็พอ ท่านไม่ต้องกังวลไป” เสี่ยวซวีพูดขึ้นมาด้วยท่าทีเฉย เมยราวกับมั่นใจในตัวหวังเย่าอย่างมาก
หลี่ว่านเฟิงอยากจะพูดบางอย่าง แต่อยู่ๆ กลับมีพลังอันน่ากลัว ระเบิดออกมา
ตูม !
ไฟมังกรได้เข้ากลืนกินร่างของอสูรทั้งสี่ที่พุ่งเข้ามาหาหวังเย่า ภายในพริบตา
อสูรทั้งสี่ร่วงลงไปกับพื้นและกลิ้งไปมาอีกทั้งยังกรีดร้องราวกับว่า จะดับไฟที่เผาไหม้ตัวพวกมันได้อย่างไรอย่างนั้น
สักพักกลิ่นเหม็นไหม้ก็ลอยคละคลุ้งไปทั่ว
อสูรทั้งสี่ตอนนี้โดนเผาและกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“หยุด ! ” เมื่อเห็นเหตุการณ์นั้นชายทั้งสี่คนก็พากันพุ่งออกมาเพื่อ หวังว่าจะหยุดหวังเย่าเอาไว้
แต่หวังเย่ารึจะหยุด ?
ก่อนที่ทั้งสี่จะมาถึงตรงหน้าหวังเย่า อสูรของพวกมันก็ตัวแข็งทื่อ และนิ่งไป เปลวไฟอันน่ากลัวได้หายไปเผยให้เห็นซากศพที่โดนเผาเป็น ตอตะโก
อสูรระดับสวรรค์ทั้งสี่ได้จากโลกนี้ไปแล้วภายในเวลาเพียงไม่กี่ นาทีเท่านั้น
เมื่อเห็นซากศพของอสูรทั้งสี่ ลูกน้องที่พุ่งเข้ามาก็พากันมองไปที่ หวังเย่าด้วยความโกรธแค้น พวกนี้เหมือนจะเสียสติไปแล้ว
หวังเย่าฆ่าอสูรทั้งสี่ไปได้อย่างง่ายดาย แต่ทั้งสี่คนก็ยังพุ่งเข้าหา หวังเย่าอยู่ดี
บอกได้ว่านี่คือการกระทําที่โง่เง่าที่สุดเลยก็ว่าได้
หัวหน้าทีมเห็นแบบนั้นก็ไม่อาจจะนิ่งเฉยได้ เขาไม่อาจจะปล่อยให้ คนของเขาตายไปต่อหน้าต่อตาเหมือนอสูรพวกนั้นอีก
เขาได้สั่งการอสูรของตัวเองให้พุ่งเข้าใส่หวังเย่า
ทั้งสี่คนได้ทําการโจมตีด้วยทักษะของตัวเองเพราะหวังว่าจะฆ่า หวังเหยาได้
“ ฮ่าฮ่า ! ตายไปซะ ! ”
ทั้งสี่คนยังไม่ทันได้ลงมือก็ถูกหวังเย่าโจมตีใส่พวกมันก่อนแล้ว
ที่อกของทั้งสี่คนมีรอยข่วนปรากฏขึ้นมาพร้อมกับเลือดที่สาด กระเซ็นออกมา มันเผยให้เห็นกระดูกอย่างชัดเจน
หวังเย่ายังปล่อยให้พวกนี้ยังมีชีวิตรอดต่อไปเพื่อเค้นเอาข้อมูล ไม่ งั้นแล้วพวกนี้คงโดนฆ่าไปแล้วและไม่มีโอกาสที่จะรอดชีวิตแบบนี้
ด้วยอาการบาดเจ็บแบบนี้ทั้งสี่คนก็ไม่อาจจะสู้ต่อได้และได้แต่ต้อง นอนหมอบลงไปกับพื้น
“บังอาจ !” เมื่อเห็นแบบนั้นหัวหน้าทีมก็พุ่งเข้าใส่หวังเย่าและทํา การโจมตีทันที ตัวของเขาแผ่พลังระดับศักดิ์สิทธิ์ออกมาอย่างชัดเจน
ในเวลาเดียวกันอสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ยกอุ้งมือหวังจะตบเข้าใส่ หวังเย่าเช่นกัน
ต่อหน้านักรบระดับศักดิ์สิทธิ์และอสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ หวังเย่าก็ยัง แสดงสีหน้าเฉยเมยอยู่ดี ไฟในมือเขาปะทุขึ้นมา มือหนึ่งได้ทําการโจมตี ใส่หัวหน้าทีม อีกมือได้ทําการโจมตีใส่อสูรของอีกฝ่าย
ตอนนี้สีหน้าของหวังเย่ากลับดูผ่อนคลาย และมันเหมือนจะไม่ใช่ เรื่องใหญ่สําหรับเขาเลยสักนิด
ไฟมังกรในมือได้ปะทุออกมา ก่อนจะเข้าโจมตีใส่คนและอสูรที่พุ่ง เข้าโจมตี
หัวหน้าทีมได้ถอยออกไปกว่า 10 เมตร เสื้อของเขาโดนเผา ที่ตัว เขามีรอยไหม้อยู่หลายจุด
มันเห็นได้ว่าแค่การโจมตีครั้งเดียวก็ทําให้เขาบาดเจ็บได้แค่ไหน
อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ดีกว่ากันมากนัก ขนบนตัวมันโดนเผา เกรียม หากไม่ใช่เพราะใช้พลังเฮือกสุดท้ายเพื่อดับไฟมังกรไป งั้นเดาว่า ขนบนตัวมันคงโดนเผาไปหมด แต่มันไม่รู้ตัวเลยว่าที่ตัวมันมีควันลอย ออกมา ขาของมันข้างหนึ่งโดนเผาจนเกิดรอยไหม้ขึ้น ขานั้นถึงกับไม่ อาจจะใช้งานได้อีก มันทําให้อสูรบาดเจ็บอย่างหนัก และไม่อาจจะใช้ ขานี้กับการต่อสู้ต่อไปได้
คนและอสูรต่างก็มองไปที่หวังเย่า สีหน้าของหัวหน้าทีมแสดง ความตะลึงออกมา
หลี่ว่านเฟิงและทหารเองก็แสดงสีหน้าตะลึงออกมาเช่นกัน
นักรบระดับ SSS และอสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ร่วมมือกันแต่ก็ยังได้รับ บาดเจ็บกลับไปไม่น้อย
นี่มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว
หวังเย่าเหนือกว่าหลี่ว่านเฟิงด้วยซ�าในตอนนี้
ความเร็วในการพัฒนานี้เร็วเกินไป มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หาก เรื่องนี้เผยแพร่ออกไปคงสร้างความวุ่นวายขึ้นมาแน่ๆ
หลี่ว่านเฟิงมองไปที่แผ่นหลังของหวังเย่าด้วยความตะลึง แต่ในใจ เขากลับรู้สึกโล่งอก
ตอนนี้ดูเหมือนว่าหลี่ว่านเฟิงจะไม่ต้องคอยปกป้องหวังเย่าอีกแล้ว
ตอนนี้หวังเย่าได้เติบโตเป็นคนที่แข็งแกร่งแล้ว
เชื่อว่าแม้แต่พ่อแม่ของหวังเย่าที่อยู่บนสวรรค์ก็คงภูมิใจ…
ในตอนที่เหม่ออยู่นั้น หลี่ว่านเฟิงก็คิดถึงคนสองคน สองคนนี้คือ พ่อแม่ของหวังเหยา…
หัวหน้าทีมมองไปที่หวังเย่า ในใจเขาคิดถึงความเป็นไปได้ทุกอย่าง ที่อาจจะเกิดขึ้นในตอนนี้
ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เขาจะเข้าใจผิดไป คนที่เขาควรจะระวังนั้น คือหวังเย่า แต่เขากลับไปสนใจเสี่ยวซวีแทน
ชายคนนี้นี่แหละคือปีศาจที่แท้จริง
การโจมตีแค่เพียงครั้งเดียวก็ทําให้เขารู้ว่าไม่อาจจะเป็นคู่มือของ หวังเย่าได้ แม้ว่าเขาจะร่วมมือกับอสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม
ไม่เห็นรึไงว่าแม้ว่าเขาจะร่วมมือกับอสูรของเขาแต่ก็ไม่อาจจะทํา อะไรหวังเย่าได้ ?
กลับกันแล้วกลายเป็นพวกเขาที่ได้รับบาดเจ็บกลับมาแทน
ยิ่งไปกว่านั้นเสี่ยวซวีที่เขารู้สึกว่าอันตรายก็ยังไม่ได้ลงมือเลย
ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเสี่ยวซวีลงมือขึ้นมาอีกคน ?
ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีหลี่ว่านเฟิงและทหารของเขาอยู่อีก
เมื่อคิดได้แบบนั้น ในหัวของหัวหน้าทีมก็คิดจะหนีออกจากที่นี่ เขา คิดจะไปสมทบกับกลุ่มนรกทมิฬ หากร่วมมือกับโจรพวกนั้น พวกเขาก็ อาจจะเอาชนะหวังเย่าได้
แต่ที่เขาไม่รู้คือกลุ่มนรกทมิฬนั้นโดนหวังเย่าทําลายไปแล้ว….