ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 440 : จุดจบ
“ อยากจะหนีงั้นหรือ ? ” หวังเย่ามองไปที่อีกฝ่ายและราวกับรู้ ความคิดของอีกฝ่าย
แต่การจะหนีต่อหน้าเขานั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทําได้อย่างแน่นอน
“ฮึ่ม ! ” หัวหน้าทีมฮึดฮัดออกมา จากนั้นเขากับอสูรข้างกายก็ กลายเป็นลําแสงพุ่งออกไปทันที
อีกทั้งมันยังมีลําแสงที่พุ่งเข้าโจมตีหวังเย่าด้วย
ตูม !
พื้นดินสั่นไหวพร้อมกับฝุ่นที่ตลบไปทั่ว แต่หวังเย่าก็ยังไร้รอยขีด ข่วนและมองไปยังอสูรและศัตรูที่หนีไปด้วยท่าทีเฉยเมย
ยังไงซะพวกนี้ก็ไม่อาจจะหนีไปไหนได้
ร่างของเขาได้หลอมรวมเข้ากับมิติและหายตัวไป
เสี่ยวซวีได้หลอมรวมเข้าไปกับมิติและตามหวังเย่าไปด้วย
เมื่อฝุ่นที่ตลบหายไป หลี่ว่านเฟิงและพวกก็ได้แต่มองไปข้างหน้า พวกเขาถึงกับเหม่อไปสักพักกับฉากที่เห็น
แต่จากนั้นหลี่ว่านเฟิงก็ได้สติกลับมา เขามองไปยังลูกน้องอีกสี่คน ที่ยังนอนหมอบอยู่กับพื้น
ที่ทางตะวันออกของภูเขาอนันต์ อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ได้เดินทาง ออกไปด้วยความเร็วสูงโดยมีชายสวมหน้ากากนั่งอยู่บนตัวมัน
เงาของอสูรนั้นเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วตามการสั่งการของ เจ้านายมัน พวกเขาต้องรีบหนีออกจากที่นี่และกลับไปรวมตัวกันกลุ่ม นรกทมิฬให้ได้
ไม่งั้นแล้วพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับหวังเย่าและเสี่ยวซวีซึ่งพวก เขาไม่มีโอกาสที่จะชนะเลย
มีแค่การร่วมมือกับกลุ่มนรกทมิฬเท่านั้นที่พอจะมีโอกาสชนะได้ บ้าง
หัวหน้าทีมหันกลับไปมองด้านหลังและพบว่าไม่มีใครตามมา
เมื่อเห็นแบบนั้นอสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ก็รีบเร่งความเร็วทันที
ตอนที่หัวหน้าทีมกําลังจะบ่นบางอย่างออกมานั้นกลับมีสองร่าง ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขาซึ่งทําให้อสูรของเขาต้องหยุดทันที
หวังเย่าและเสี่ยวซวีได้ปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้าอีกฝ่ายและมองไป ที่อีกฝ่ายด้วยสายตาเฉยเมยก่อนที่หวังเย่าจะพูดขึ้นมา “อยากกลับไป หากลุ่มนรกทมิฬงั้นหรือ ? ” ทั้งหัวหน้าทีมและอสูรพากันแสดงสีหน้ากังวลขึ้นมา “ถ้าแกคิดแบบนั้น ฉันว่าแกควรจะเลิกคิดไปซะดีกว่า” “ฮึ่ม ! ” เมื่อได้ยินคําพูดของหวังเย่า หัวหน้าทีมก็ฮึดฮัดออกมา “ไม่เชื่อรึไง ก่อหน้านี้รังของกลุ่มนรกทมิฬโดนฉันทําลายไปแล้ว ตอนนี้ไม่มีใครเหลือรอดแล้ว” หวังเย่ามองไปที่อีกฝ่ายและพูดขึ้นมา ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นหัวหน้าทีมก็ต้องหรี่ตาลงอีกครั้ง “เป็นไปไม่ได้ ! แกล้อเล่นสินะ ? ” สุดท้ายหัวหน้าทีมก็ต้องตะโกน ออกมา เพราะเขาไม่เชื่อคําพูดของหวังเหยาเลยแม้แต่น้อย “จะเชื่อรึไม่ก็แล้วแต่แกเลย ตอนนี้ถึงเวลาที่แกต้องชดใช้แล้ว” หวังเย่าแสดงสีหน้าเย็นชาออกมา “มันไม่ง่ายหรอกที่จะกําจัดฉัน ! ” หัวหน้าทีมตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง หวังเย่าไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เขาไม่อยากจะเสียเวลาไป มากกว่านี้ เขากับเสี่ยวซวีได้ลงมือทันที…
หลี่ว่านเฟิงและทหารที่อยู่ข้างๆ บ่อน�าไม่ได้ออกจากที่นั่น พวกเขา ได้ทําการจับกุมโจรทั้งสี่คนเอาไว้ หน้ากากพวกนั้นถูกถอดออกเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงแต่ใบหน้า พวกนี้ดูอัปลักษณ์จนทําให้ทหารคนอื่นๆ พากันใจสั่น หลี่ว่านเฟิงมองไปที่ใบหน้าทั้งสี่คนก่อนจะมองไปยังทหารรอบตัว แล้วตัดสินใจใส่หน้ากากให้พวกนั้นอีกครั้งเมื่อพบว่าเขาไม่ได้รู้จักทั้งสี่ คนนี้ ใบหน้าของพวกนี้น่ะน่ากลัวจริงๆ ใบหน้าครึ่งหนึ่งถูกทําลาย มันมี แต่เส้นเลือดปูดนูนขึ้นมา พร้อมใบหน้าที่ตอบจนเห็นกระดูก มันอาจจะทําให้หลายคนฝันร้ายไปอยู่นาน ทั้งสี่คนยังไม่ได้สติกลับมา มันไม่แปลกเลยที่หวังเย่าไม่ได้ฆ่าพวกนี้ เขาแค่จํากัดการเคลื่อนไหวของพวกนี้เอาไว้ก็เท่านั้น เดาว่าอีกสักพักกว่าที่ทั้งสี่จะได้สติกลับมา ไม่รู้เลยว่าพวกนี้เป็นใคร แม้ว่าจะค้นตัวพวกนี้ก็ยังไม่พบอะไรที่มี ประโยชน์ ดังนั้นจึงไม่อาจจะบอกตัวตนได้ ตอนนั้นมิติตรงหน้าพวกเขากลับสั่นไหวก่อนที่หวังเย่าและเสี่ยวซวี จะปรากฏตัวขึ้นมา
ในมือหวังเย่านั้นจับตัวหัวหน้าทีมมาด้วยแม้ว่าสภาพจะดูน่าอนาถ แต่ก็ยังไม่ถึงกับตาย ปากของเขายังคงพะงาบเหมือนจะอยากพูดอะไร บางอย่าง
หวังเย่าไม่ได้ฆ่าอีกฝ่ายแต่ทําให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหนัก แต่การที่ไว้ ชีวิตชายคนนี้ก็ไม่ได้หมายถึงการไว้ชีวิตอสูรของอีกฝ่าย
แค่ได้ตัวชายคนนี้ก็เพียงพอแล้ว อสูรน่ะไม่จําเป็น ดังนั้นจะเกิด อะไรขึ้นกับมันก็คงคิดภาพออกได้
มันถูกเสี่ยวซวีจัดการเองกับมือ
เมื่อเห็นหวังเย่าและเสี่ยวซวีกลับมา แม้ว่าหลี่ว่านเฟิงจะเป็นห่วง แต่เมื่อดูจากความสามารถของเสี่ยวซวีและหวัง
เย่าแล้ว เขาก็ไม่ได้ถามอะไรออกมามากนัก
ทุกคนพากันมองไปยังคนที่หวังเย่าจับตัวกลับมาแทน
นักรบระดับ SSS กลับตกอยู่ในสภาพแบบนี้ได้ด้วยฝีมือของคน สองคน
เมื่อคิดถึงสิ่งที่หวังเย่าบอกพวกเขาในมิติลับก่อนหน้านี้ที่ว่า หวังเย่าได้ทําลายรังของกลุ่มนรกทมิฬไปและได้ฆ่าหัวหน้ากลุ่มรวมถึง
หัวหน้าสาขา ตอนแรกทุกคนก็ไม่เชื่ออะไรมาก แต่ตอนนี้เมื่อดูจากที่ หวังเย่าจับตัวหัวหน้าทีมกลับมาได้ พวกเขาก็เริ่มที่จะเชื่อกันแล้ว
หวังเย่าได้แสดงความแข็งแกร่งระดับนี้ออกมารวมถึง เสี่ยวซวีที่ แผ่พลังระดับศักดิ์สิทธิ์ออกมา มันสามารถทําแบบที่เขาบอกได้จริงๆ
เมื่อคิดแบบนั้นพวกเขาก็ยิ่งเคารพหวังเย่ายิ่งขึ้นไปอีก
ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็รู้ว่าหลังจากจบเรื่องนี้แล้วชื่อเสียงของ หวังเย่าจะโด่งดังไปทั่วทั้งหัวเซี่ยอย่างแน่นอน บางทีเขาอาจจะมีชื่อใน หอเกียรติยศเลยก็ได้…
หวังเย่าโยนหัวหน้าทีมลงไปที่พื้นก่อนจะมองไปที่หลี่ว่านเฟิง
หลี่ว่านเฟิงเองก็มองไปที่หวังเย่าด้วยเช่นกัน
“ลุงหลี่ จะเอายังไงต่อ ? ” หวังเย่ามองไปที่หลี่ว่านเฟิง ก่อนจะเกา หัวแล้วถามขึ้นมา
“เอ่อ …” เมื่อได้ยินคําถามนั้นหลี่ว่านเฟิงก็ดูสับสนขึ้นมาทันที “ฉันคิดว่านายมีแผนอยู่แล้ว”
“ผมเองก็ไม่มี ” หวังเย่าตอบกลับ
“ …”
“งั้นก็ออกจากภูเขานี่ไปก่อน” สุดท้ายหลี่ว่านเฟิงก็พูดขึ้นมา หวังเย่าไม่ได้คัดค้านอะไร พวกทหารเองก็เช่นกัน คําสั่งของหัวหน้าคือคําสั่งสูงสุดที่พวกเขาต้องทําตาม