ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 458 : รอ
ในตอนที่ทุกคนเดินทางไปถึงยอดเนิน ซือคงเป่าก็เอาเครื่องบิน
ออกมาจากถุงมิติ
พื้นที่นี้ปลอดภัย ดังนั
้
นพวกเขาจึงไม่อยากเสียเวลาที่นี่ แต่ทุกคนก็
ยังมองไปที่ริฮันน่าด้วยความสงสัยอยู่ดีว่าสิ่
งที่เธอพูดออกมานั้
นจะเป็น
เรื่องจริงหรือไม่ที่ว่าที่นี่ปลอดภัย
ในเมื่อเธอรู้เรื่องนี้แล้วทําไมถึงไม่บอกพวกเขาตั้
งแต่แรก โดย
เฉพาะเฉี่ยนเจินเฉียนที่หงุดหงิดกับคําพูดของริฮันน่า
ไม่คิดเลยว่าเธอจะปิดบังเรื่องนี้เอาไว้เพราะเฉี่ยนเจินเฉียนรู้สึกว่า
ตัวเองหน้าแตก
“มีอะไร ทําไมต้องมองฉันแบบนั้
น ? ” ริฮันน่าสับสนเมื่อเห็น
สายตาของหวังเย่า
เธอยังไม่รู้ตัวอีก แต่หวังเย่าก็แค่พูดขึ้
นมา “ไม่มีอะไร ขึ
้นเครื่อง
เถอะ เราจะเดินทางกันต่อแล้ว ! ”
“ได้” สุดท้ายริฮันน่าก็ไม่ได้คิดอะไรมากและขึ้นเครื่องบินไป
หลังจากที่ปิดประตูเครื่องแล้ว ซือคงเป่าก็คุมเครื่องทะยานขึ้นไป
บนท้องฟ้าก่อนจะมุ่งหน้าไปที่โซเวียตทันที
ที่ภูเขาด้านล่างนั้
นมีพวกที่โดนกลุ่มของหวังเย่าอัดก่อนหน้านี้เงย
หน้าขึ
้
นมองด้วยความแปลกใจ
“ไม่ใช่ว่าริฮันน่าอยู่บนเครื่องบินลํานั้
นด้วยหรือ ? ” ชายคนหนึ่ง
ถามขึ
้
นมา
“เธออยู่บนเครื่อง เธออยู่กับพวกนั
้
น ” ชายอีกคนพูดขึ
้
น
“พวกนี้น่าจะเป็นคนหัวเซี่ย เราไม่อาจจะหาเรื่องพวกนี้ได้แต่ที่
ประเทศของเราคงไม่ต้อนรับพวกเขาเป็นแน่” ชายตัวสูงพูดขึ
้
นมา
ด้านหลังชายคนที่พูดคือคนจากตระกูลเกียร์ที่โดนอัดมาเมื่อวานนี้
….
เครื่องบินยังคงบินข้ามภูเขาอย่างต่อเนื่อง
มันจริงตามที่ริฮันน่าบอกมา การเดินทางบนท้องฟ้าที่นี่น่ะ
ปลอดภัย
หลังจากที่บินมาได้กว่า 30 นาทีสุดท้ายพวกเขาก็บินออกจาก
ภูเขาได้ที่ด้านหน้าของพวกเขาเป็นทุ่งหญ้าปรากฏขึ้นพร้อมกับเมืองที่
ใหญ่โต
ขนาดของมันไม่ได้เล็กกว่าเมืองย่อยของหัวเซี่ยเลย แต่มันก็ยังมี
ความต่างกันอยู่บ้าง
ลักษณะของเมืองนั
้
นเป็นแบบทันสมัย ส่วนเมืองย่อยในหัวเซี่ยนั้
น
ยังเป็นแบบเก่าอยู่ บอกได้ว่าถึงจะเป็นแค่เมืองเดียวแต่ก็ยังแสดงถึง
ความงดงามของประเทศได้อยู่ ยังไงซะเมืองนี้ก็ถูกสร้างขึ้นเมื่อหลาย
สิบปีก่อน
สุดท้ายภายใต้การเตือนจากริฮันน่า พวกเขาก็ไม่อาจจะบินต่อได้
เพราะที่นี่คือพื้นที่ห้ามบิน
ซือคงเป่าต้องเอาเครื่องลงจอด เมื่อทุกคนลงจากเครื่องแล้ว ซือคง
เป่าจึงเก็บเครื่องใส่ถุงมิติ
มันต้องเดินทางอีกสักพักกว่าที่จะถึงเมือง ดังนั
้
นพวกเขาจึงต้อง
เดินเท้ากันต่อ
“พูดไปแล้วพวกคุณเป็นคนหัวเซี่ย พวกคุณไม่มีบัตรยืนยันตัวตน
ของเรา ดูเหมือนว่าจะเข้าเมืองไม่ได้” เมื่อคิดถึงปัญหานี้ริฮันน่าก็พูด
ขึ
้
นมา
ทุกคนเข้าใจปัญหานี้ดีพวกเขาไม่ได้แย้งอะไรแต่จากคําพูดของ
เธอแล้วก็ทําให้พวกเขากังวลกันขึ้
นมา
“แล้วกําไลสถานะนี่ล่ะ ? ” หวังเย่าถามขึ
้
นมา
“นี่น่ะหรือ ? ” ริฮันน่ายกมือขึ
้นพร้อมกับโชว์กําไลสถานะที่คล้าย
กับสายรัดข้อมือของหัวเซี่ย
“มันมีทางที่จะเข้าไปในเมืองโดยไม่ต้องอาศัยกําไลนี่รึเปล่า ? ”
หวังเย่าถามขึ
้
นอีกครั
้
ง
“ฉันจําได้ว่าถ้าได้รับการรับรองจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในสาม
พันธมิตร, เก้าตระกูลใหญ่และยี่สิบเอ็ดสํานัก ก็สามารถเข้าไปในเมือง
ได้โดยไม่ต้องใช้กําไลสถานะ แต่ก็มีเวลาจํากัดที่จะอยู่ในเมือง” ริฮันน่า
พูดขึ
้
น
“ฉันจะให้พ่อฉันรับรองพวกคุณ เขาเองก็ชอบคนหัวเซี่ยเหมือนกัน
ถ้าไม่ได้จริงๆ ฉันจะไปขอร้องปู่ เขาเองก็เหมือนกับฉัน เขาน่ะชอบ
วัฒนธรรมหัวเซี่ย” ริฮันน่าบอกด้วยความภูมิใจจนทําให้อกของเธอ
กระเพื่อมไปตาม
แต่ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้หลังจากที่ได้ยินคําพูดของเธอ ทุกคนก็พา
กันสีหน้าหม่นลง
“เธอลองดูก็ได้ถ้าเราเข้าไปไม่ได้เราก็ไม่ต้องเข้าไป” สุดท้าย
เฉี่ยนเจินเฉียนก็พูดขึ้
น
“ฉันรับปากว่าจะพาพวกคุณเข้าไปให้ได้” ริฮันน่ามั่
นใจอย่างมาก
แต่หวังเย่าไม่คิดแบบนั้
น
แค่ว่าที่หัวหน้าตระกูลของ 1 ใน 9 ตระกูลใหญ่ในเมืองคงไม่มี
อํานาจมากมายอะไรขนาดนั้
น แต่คิดไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ขึ
้
นมา พวกเขาแค่ต้องรอฟังคําตอบ
ทุกคนพากันมุ่งหน้าไปที่ชานเมืองกันต่อ ไม่ห่างจากพวกเขานักก็มี
คนกลุ่มหนึ่งเดินออกมา พวกนั
้
นก็เข้ารับการตรวจสอบเหมือนกับที่
ประเทศหัวเซี่ยทํา
คนเหล่านั
้
นมองมาที่กลุ่มของหวังเย่า เมื่อเห็นว่ากลุ่มของหวังเย่ามี
ผมและตาสีดําเหมือนคนหัวเซี่ยที่พวกเขาเคยอ่านเจอ ทุกคนก็แสดงสี
หน้าแปลกใจออกมา
ยังไงซะในอาณาเขตของพวกเขา พวกเขาก็ไม่ได้เจอคนหัวเซี่ยมา
หลายสิบปีแล้ว
เมื่อกลุ่มของหวังเย่าปรากฏตัวขึ
้นที่นี่ มันก็เป็นธรรมดาที่พวกเขา
จะกลายเป็นเป้าสายตาของทุกคน แต่ถึงแม้ว่าพวกนั
้
นจะมองมาที่กลุ่ม
ของหวังเย่าด้วยความแปลกใจ แต่ก็ไม่มีใครเดินเข้ามาคุยด้วย และไม่มี
ใครคิดจะมาหาเรื่องพวกเขา
จางจื้อเฉียงไม่พอใจนิดๆ เพราะเขารู้สึกว่าสายตาที่พวกนั้
นมอง
มาที่พวกเขานั้
นไม่ต่างอะไรจากมองลิงในกรง เขาแทบอดทนไม่ไหว
แต่ก็ยังยั้
งใจไว้ได้ยังไงซะนี่ก็เป็นประเทศอื่น ไม่ใช่อาณาเขตของ
หัวเซี่ย เมื่อเขาลงมือ มันอาจจะส่งผลกระทบต่อทั
้
งประเทศ
ไม่นานหลังจากนั้
นคนกลุ่มนั
้
นก็ออกมาจากเมืองได้พวกนั
้
นยืนอยู่
หน้าประตูและคอยตรวจสอบอุปกรณ์ของตัวเองอีกครั้
ง
“งั
้
นฉันจะไปถามพ่อก่อน พวกคุณรอกันที่นี่ ฉันจะรีบกลับมา”
ริฮันน่าพูดจบก็เดินเข้าไปที่ประตูเมืองทันที
หวังเย่าและคนอื่นๆ ได้แต่รออยู่ด้านนอก
คนที่เดินทางเข้าออกเมืองต่างก็มองมาที่พวกเขาด้วยความแปลก
ใจ…
ตอนที่ 459 : ความขัดแย้ง
“พวกแกมาจากไหนกันพวกลิงเหลือง โซเวียตไม่ต้อนรับพวกแก !
”
ที่ประตูเมืองกลุ่มของหวังเย่ายืนอยู่ที่นั่
น ไม่นานก็มีเสียงตะโกนดัง
ขึ
้
นมาจนทําให้สีหน้าของพวกเขาหม่นลง
นี่ไม่ใช่ภาษาต่างชาติแต่เป็นภาษาจีน
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาจากประตูเมือง ตาของเขาสีฟ้า
ใบหน้าดูอ่อนเยาว์แต่เต็มไปด้วยความอคติชายคนนั
้
นมองมาที่กลุ่ม
ของหวังเย่าด้วยความไม่พอใจ
“ทําไมไม่ตอบ พวกลิงเหลือง ! ใช่สิลืมไป ลิงจะพูดได้ยังไง รีบ
กลับรังพวกแกได้แล้ว ! โซเวียตของพวกเราไม่ให้ลิงอย่างพวกแกเข้า !
” ชายหนุ่มพูดขึ
้
นอีกครั
้
ง ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้
มเยาะเย้ยออกมา
ในสายตาของเขาแล้ว กลุ่มของหวังเย่าน่ะไม่ใช่มนุษย์ด้วยซ�า
เมื่อได้ยินที่ชายหนุ่มคนนี้พูดมา บรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้
นมาทันที
ราวกับว่าจะเกิดการระเบิดขึ
้นตอนไหนก็ได้คนที่เดินเข้าออกเมืองต่าง
ก็พากันเว้นระยะห่างออกไปเพราะกลัวว่าจะมีปัญหาไปด้วย พวกเขา
ไม่ได้หนีออกไปแต่กลับรอดูอยู่ห่างๆ
แม้ว่าคนส่วนมากจะไม่เข้าใจภาษาจีนแต่ก็พอเข้าใจได้ว่าเกิดอะไร
ขึ
้
น นายน้อยของตระกูลเกียร์กําลังด่าทอคนที่มาจากฝั่งตะวันออกอยู่
กลุ่มของหวังเย่าเมื่อได้ยินแบบนั้
นก็พากันโกรธขึ้
นมา มีพลังปะทุ
ออกมาจากตัวพวกเขา มันทําให้บรรยากาศดูน่าอึดอัดขึ
้นไปอีก
“กล้าดียังไง ! พวกลิงเหลือง แกทําให้ฉันโกรธ ! ”
“พวกลิงเหลือง ! …”
ครั
้
งนี้ชายหนุ่มยังพูดไม่ทันจบ เขาก็ถูกหยุดเอาไว้ก่อน เพราะตอน
นั
้
นมีมือหนึ่งพุ่งออกมากําคอของเขาเอาไว้จนหน้าของเขาแดงก�าและ
พูดอะไรไม่ออก
สิ่
งที่เกิดขึ้นนี้ชายหนุ่มไม่อาจจะตั้
งรับได้ทันรวมไปถึงคนคุ้มกัน
รอบตัวด้วย
ตอนที่พวกนั้
นได้สติชายหนุ่มก็สีหน้าซีดราวกับกําลังจะตายแล้ว
เมื่อเห็นแบบนั้
นคนคุ้มกันก็พากันโกรธขึ้
นมา การที่เจ้านายของ
ตัวเองตกอยู่ในอันตรายแบบนี้ถือว่าเป็นความผิดของพวกเขา !
กว่าที่พวกนั้
นจะได้สติก็ตอนที่หวังเย่ากําลังกําคออีกฝ่ายอยู่ แต่
ก่อนที่พวกนั้
นจะได้ลงมือก็มีสายลมอันน่ากลัวก่อตัวขึ้
นพร้อมกับหมัด
อันรวดเร็วดั่
งสายฟ้าอัดกระหน�าใส่ร่างของเหล่าคนคุ้มกัน จนทําให้
พวกนั
้
นล้มลงไปกองกับพื้น
“ไอ้พวกนี้กล้าดูถูกเรา นี่แค่ชานเมืองเองนะ พวกแกคงหลงตัวเอง
จนไม่รู้สินะว่าหาเรื่องใครอยู่” จางจื้อเฉียงมองไปที่เหล่าคนคุ้มกันแล้ว
พูดขึ
้
นมา
เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่นๆ ก็แสดงท่าทีโมโหออกมาเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าคนคุ้มกันคิดจะลุกขึ้
นยืน พวกเขาก็พากันโจมตีพวกนั้
น
อีกครั
้
ง
หวังเย่ายังคงกําคอของชายหนุ่มเอาไว้แน่น
“แกว่าใครเป็นลิงเหลืองนะ ? หือ ? ” หวังเย่ามองไปที่ชายหนุ่ม
พร้อมมือที่กําแน่นกว่าเดิม เขาถึงกับยกตัวชายหนุ่มขึ
้นจากพื้น
ชายหนุ่มสีหน้าบิดเบี้ยวราวกับหมูจะโดนเชือด เท้าของเขาเตะไป
มา มือทั
้
งสองข้างจับแขนของหวังเย่าเอาไว้แน่นพยายามจะง้างมือ
หวังเย่าออก แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ไม่อาจจะง้างมือหวังเย่า
ออกได้มันราวกับคีมเหล็กที่บีบคอเขาอยู่
การเคลื่อนไหวนี้ทําให้ชายหนุ่มรู้สึกอึดอัดกว่าเดิม ไม่นานเขาก็เริ่
ม
หายใจไม่ออก
ชายหนุ่มรู้สึกว่าเขากําลังจะตายซึ่งทําให้เขาเตะเท้าไปมายิ่
งกว่า
เก่า
ไกลออกไปคนอื่นๆ เห็นแบบนั้
นก็เผยสีหน้าช็อกออกมา
ทุกคนต่างก็แสดงท่าทีหวาดกลัวออกมา
มันแสดงให้เห็นแล้วว่าชายหนุ่มคนนี้มีอํานาจแค่ไหนในสายตา
ของคนเหล่านี้
ทหารตรงหน้าประตูรีบวิ่
งเข้ามาแต่ก็ไม่กล้าจะเดินหน้าเข้ามาต่อ
พวกเขาไม่ได้มีความแข็งแกร่งมากไปกว่าคนคุ้มกันของชายหนุ่มเลย
เมื่อเห็นสีหน้าโกรธเกรี้ยวของกลุ่มหวังเย่า ทหารเหล่านั
้
นก็ได้แต่
แจ้งเรื่องนี้กับหัวหน้าตัวเองให้รีบมาที่นี่ นี่ไม่ใช่สิ่
งที่พวกเขาจะรับมือ
ไหว
แม้แต่การเกลี้ยกล่อมคนพวกนี้พวกเขาก็ยังไม่กล้าทํา ถ้าทําให้คน
เหล่านี้โกรธขึ้
นมา พวกเขาก็มองภาพออกว่าจะเกิดอะไรขึ้
นกับตัวเอง
ทหารที่วิ่
งออกมาได้แต่ยืนรอด้วยความกังวล
ปัง !
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเหมือนจะหมดลมหายใจแล้ว หวังเย่าก็ปล่อย
มือของเขาและปล่อยให้อีกฝ่ายตกลงไปนอนกองกับพื้น
หากเขาไม่ปล่อยมือ เดาว่าหวังเย่าคงฆ่าอีกฝ่ายไปแล้ว แต่นั่
น
ไม่ใช่สิ่
งที่เขาคิด เขาไม่ได้อยากฆ่าชายหนุ่มคนนี้เขาแค่อยากสั่
งสอน
อีกฝ่ายที่ปากเสียก็เท่านั้
น
“แค่ก แค่ก แค่ก ! ” ชายหนุ่มที่นอนกองกับพื้นเอามือกุมที่คอ
ตัวเองแล้วไอออกมา
ไม่นานหลังจากนั้
นเขาก็รู้สึกดีขึ้นก่อนจะมองมาที่หวังเย่าด้วย
สายตาอาฆาตแล้วตะโกนออกมา “แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ? ! ฉันคือ
นายน้อยของตระกูลเกียร์! แกกล้าทําแบบนี้กับฉันได้ยังไง ? แกตายแน่
! ”
“งั
้
นหรือ…” เมื่อได้ยินแบบนั้
นหวังเย่าก็เดินเข้าไปหาอีกฝ่ายจนทํา
ให้อีกฝ่ายได้แต่คลานถอยกลับไป แต่ถอยกลับไปได้ไม่นานเขาก็ชนกับ
บางอย่าง เมื่อหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นร่างของคนคุ้มกันที่นอนร้อง
โอดครวญอยู่ที่พื้น
“ตระกูลเกียร์ไม่ปล่อยพวกแกไปแน่ ! ”
แม้แต่ตอนนี้ชายหนุ่มก็ยังปากดีเหมือนเดิม
หวังเย่ายกนิ
้
วกลางให้กับอีกฝ่ายก่อนจะอัดอีกฝ่ายซ�าจนเกิดเสียง
ร้องดังก้องขึ
้
นมา