ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 499 : การสั่ งสอน
“ในฐานะผู้หญิงแล้ว เธอจะเอาแต่ใจก็ได้ แต่มันก็ใช้ได้กับแค่บาง
คนเท่านั้น” หวังเย่าไม่ชอบคนที่เอาแต่ใจตัวเอง เพราะคนแบบนี้นั้น
มักจะสร้างปัญหาและเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง
“ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อของเธอขอมา ฉันคงไม่ช่วยเธอ ! อย่าหวังพึ่ง
แค่ความสวยของเธอ เธอควรจะมีความแข็งแกร่งด้วย ! ” คําพูดของ
หวังเย่าแทงใจดําชูหยุนเป็นอย่างมาก
“เธอลองคิดดูว่าด้วยความแข็งแกร่งที่ฉันมี ฉันสามารถฆ่าแมลง
ป่องตัวนี้ได้ ถ้าอย่างนั้นในเผ่าของเธอ มันจะมีผู้หญิงคนไหนที่ฉันจะ
เอามาไม่ได้ล่ะ ? เธอคิดว่าฉันจะหลงเธอจนให้ฉันตามใจเธอรึไง ? ”
ชูหยุนได้แต่ต้องก้มหน้าลง
“ฉันแค่อยากบอกเธอว่า จากวันนี้ไปถ้าเจอสัตว์อสูร เธอต้องเชื่อ
ฟังคําส่งฉัน นอกซะจากว่าเธอจะเอาชนะฉันได้ เธอถึงจะเอาแต่ใจ
ตัวเองได้ แต่ด้วยความแข็งแกร่งที่เธอมีในตอนนี้แล้ว ฉันใช้แค่นิ้วเดียว
ก็สามารถฆ่าเธอได้”
หวังเย่าถือว่าไว้หน้าชูหยุนมากแล้ว แต่นี่คือสิ่งที่เขาจําเป็นจะต้อง
พูดการเดินทางยังอีกยาวไกล เขายังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ
ชูหยุนพยักหน้าตอบรับ
เมื่อเห็นท่าทีของเธอ หวังเย่าก็รู้ว่าเธอเปลี่ยนความคิดแล้ว
หวังเย่าลุกขึ้นและพูดต่อ “ไปกันต่อ เราจะไปหาสัตว์อสูรมาย่าง
กินกัน ! ”
ชูหยุนลุกขึ้นยืนและเดินตามหวังเย่าเข้าไปในทะเลทราย พวกเขา
ได้เริ่มการเดินทางที่แท้จริงแล้ว แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเนื้อย่างที่หวังเย่า
พูดมานั้นหมายถึงอะไร แต่เธอก็ยังเดินตามหวังเย่าไป เพราะ
หวังเย่าน่ะช่วยชีวิตเธอได้จริงๆ
หลังจากที่หวังเย่าพาชูหยุนเดินออกไปแล้ว ประตูด้านหลังก็เปิด
ออก
มันมีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาก่อนจะมองไปรอบๆ สุดท้ายพวกเขา
ก็พบกับซากแมลงป่องที่หวังเย่าจัดการเอาไว้
“หัวหน้า ภารกิจนี้ถือว่ายากอย่างมาก” คนกลุ่มนี้คือพวกที่ฮันกูส่ง
มา เป้าหมายของพวกเขาคือไม่ให้หวังเย่าและชูหยุนรอดกลับมาได้
“ตรวจสอบว่าแมลงป่องนี่โดนฆ่ายังไง”หัวหน้าทีมนี้ชื่อเมิ่ง ชายคนนี้มีแผลเป็นอยู่บนใบหน้า และเขาคือ
คนที่ฮันกูไว้ใจมากที่สุด
ส่วนที่น่าปวดหัวที่สุดของภารกิจนี้ก็ไม่ใช่การฆ่าเพียงอย่างเดียว
แต่เป็นการฆ่าหวังเย่าแล้วเอาตัวชูหยุนกลับไป
แม้ว่าฮันกูอยากจะให้ทั้งสองคนให้ตาย แต่ฮันมิตนั้นกลับสั่งให้ฆ่า
แค่หวังเย่าเท่านั้น
นี่แหละคือเรื่องที่ทําให้เมิ่งปวดหัวมากที่สุด
บอกได้ว่าเมิ่งต้องฟังคําสั่งของฮันกูอยู่แล้ว แต่เพราะเหตุผลที่ฮันกู
ต้องไปสู้กับชูบ้ามันก็เพื่อฮันมิตไม่ใช่รึไง ?
ในระยะยาวแล้วเมิ่งก็ต้องเชื่อฟังคําสั่งของฮันมิต ยังไงซะนี่ก็คือว่า
ที่หัวหน้าเผ่าในอนาคต
ทุกคนต่างก็รู้ความคิดของฮันมิตดี ถ้าพวกเขาฆ่าชูหยุนตามคําสั่ง
ของฮันกูแล้ว เมื่อฮันกูตายไป สุดท้ายปัญหาก็จะตกมาที่พวกเขา ฮันมิต
ไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่ แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว
“ หัวหน้า เปลือกของมันโดนเอาออกไปหมด มันไม่มีเหลือให้เห็น
เลย ” ลูกน้องคนหนึ่งกลับมารายงาน
เมิ่งได้เดินไปตรวจสอบศพของแมลงป่องใกล้ๆยิ่งมองเท่าไหร่ เขาก็ต้องคิ้วขมวดและสับสนเท่านั้น
มันไม่ใช่ว่าเขาไม่เห็นอะไรแต่สิ่งที่เขาเห็นกลับทําให้เขาตกใจแทน
แมลงป่องนี่อยู่ระดับสวรรค์ จากข้อมูลที่ได้มาจากการวิเคราะห์
แล้ว แมลงป่องนี้โดนฆ่าจากการโจมตีแค่ 2-3 ครั้งเท่านั้น
หนึ่งคือตัดหางของมันออก สองคือปักมันลงกับพื้น
เมิ่งได้จําลองการต่อสู้ระหว่างหวังเย่าและแมลงป่องในหัว แม้ว่า
ความแข็งแกร่งจะต่างกันแต่ก็พอมองภาพของการต่อสู้ออก
“เด็กนี่แข็งแกร่ง” เมิ่งคิดในใจ
พวกเขาเองก็สามารถจัดการแมลงป่องนี้ได้แต่ต้องใช้เวลานาน
ไม่ใช่การโจมตีแค่ 2-3 ครั้งอย่างนี้แน่นอน
“เด็กนี่จะแข็งแกร่งสักแค่ไหนกันเชียว ? ” ลูกน้องคนหนึ่งถาม
ขึ้นมา
เขาถือว่าใจกล้าอย่างมากที่กล้าถามแบบนี้ออกมา
ในเผ่าชูมิแล้ว พวกเขาถือว่าเป็นนักรบที่แข็งแกร่งแต่ความ
แข็งแกร่งของพวกนี้ก็ยังมีขีดจํากัดอยู่ดี“แข็งแกร่งแค่ไหนงั้นหรือ ? เขาสามารถฆ่านายได้ในเวลาไม่กี่
วินาที ! ” เมิ่งบอกกับอีกฝ่าย
มันไม่ใช่ว่าเมิ่งไม่ให้เกียรติอีกฝ่าย หากไม่ใช่เพราะความต่างในผล
การต่อสู้ที่เขาคิดเมื่อตะกี้นี้
หวังเย่าที่ดูเป็นเด็กหนุ่มอยู่นั้น มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะบด
ขยี้ทุกคนที่นี่ได้
มันมีคนแข็งแกร่งแบบนั้นอยู่ได้ยังไง !
เมิ่งสงสัยว่าหวังเย่านั้นมีต้นกําเนิดยังไง
แน่นอนว่ามันยังมีความต่างในการต่อสู้ระหว่างหวังเย่ากับแมลง
ป่องตามที่เมิ่งคิดกับความเป็นจริงอยู่ ภาพที่เมิ่งคิดออกมานั้นเป็น
วิธีการต่อสู้ที่เรียบง่าย แต่ความจริงนั้นกลับแตกต่างออกไป
แม้ว่าภารกิจนี้จะยากแต่เขาก็ต้องทําภารกิจนี้ให้สําเร็จ
ยังไงซะทะเลทรายแห่งนี้ก็ถูกสัตว์อสูรยึดเอาไว้
มันมีความเป็นไปได้มากมายที่นี่ ถึงจะแข็งแกร่งแต่ก็ยังโดนล่าโดย
พวกสัตว์อสูรอยู่ดี
อะไรก็เป็นไปได้หากถึงเวลาหวังเย่าไม่รู้เลยว่าเขาจะโดนตามมาเร็วแบบนี้ แม้ว่าเขาจะเดาไว้ก็
ตามว่าจะต้องโดนติดตามมา
แน่นอนว่าหนึ่งสิ่งที่หวังเย่าคิดไม่ถึงคือเขาไม่คิดว่าเป้าหมายแรก
ของคนพวกนี้คือเขา ไม่ใช่ชูหยุน
เนื้อย่างของหวังเย่านั้นเป็นที่ยอมรับจากหลายคน ตอนแรก
หวังเย่าตั้งใจจะหาเนื้อสัตว์อสูรที่นี่มากิน แต่หลังจากที่ฆ่าแมลงป่องไป
แล้ว เขาก็ไม่พบสัตว์อสูรตัวอื่นๆ อีก มันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก
ต้องใช้เนื้อที่เขาเก็บเอาไว้ออกมาแทน
หวังเย่าหาที่ปลอดภัยก่อนจะทําการตั้งไฟเพื่อย่างเนื้อ
ชูหยุนไม่เคยเห็นเนื้อย่างมาก่อน เธอสงสัยอย่างมาก เธอสลัด
ความไม่พอใจทั้งหมดที่มีทิ้งและเดินตามหวังเย่าไปพร้อมกับคอยถาม
คําถามอยู่ตลอด คําถามที่เธอถามก็มีประมาณว่า
“นี่คืออะไร ? ”
“มีอะไรในขวด ? ”
“เนื้อย่างหมายถึงอะไร ? ”
“เนื้อเอาไปเผาได้ด้วยหรือ ? ”แน่นอนว่าหวังเย่าก็ตอบคําถามทั้งหมดที่เธอถามมา
หลังจากที่กินเสร็จ ชูหยุนก็ได้ถามว่าหวังเย่านั้นมาจากไหน
“หัวเซี่ย ! ” ทุกครั้งที่มีคนถามคําถามนี้ หวังเย่าจะพูดออกมาอย่าง
ภูมิใจเสมอ
“หัวเซี่ยอยู่ที่ไหน ? ” ชูหยุนถามขึ้นมา
หวังเย่าอธิบายถึงบ้านเกิดตัวเองอย่างละเอียด รวมถึงเรื่องของ
เนื้อย่างด้วย