ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 522 : เปิดรอยแยกมิติ
ตอนที่ 522 : เปิดรอยแยกมิติ
ก้าวแรกนั้น ชูหยุนไม่ได้เห็นตัวเองในตอนนี้ แต่กลับเห็นตัวเองในอดีตเมื่อนานมาแล้ว นั่นก็คืออดีตชาติของเธอ
ไม่มีใครหนีจากโชคชะตาได้
หวังเย่าที่อยากหนีออกมาข้างนอกเพราะความวุ่นวายในเผ่านั้น แต่กลับถูกชูบ้าฝากดูแลลูกสาวของเขา หากเป็นคนอื่นคงไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาคงสนใจแค่ผลประโยชน์ และคงไม่มีใครมาสนใจกับการดูแลชูหยุนที่เป็นลูกสาวของชูบ้า
เมืองนี้คือเมืองที่เคยเจริญที่สุดของเผ่าชูมิ
เมื่อพบประตูหินนั้น หวังเย่าก็เดินเข้าไปโดยไม่ลังเล
ชูหยุนมองไปที่เด็กสาวก่อนจะเห็นอดีตเป็นฉาก ๆ ที่เด็กสาวเคยเผชิญมาราวกับดูหนัง นี่ไม่ใช่สิ่งที่ชูหยุนเคยเจอมากับตัวเอง แต่เธอกลับรู้สึกตามไปกับมัน
ยิ่งดูเท่าไหร่ก็พบว่าเด็กสาวคนนี้คล้ายเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ
ฉิงจีเห็นว่าชูหยุนยืนอยู่กับที่มานานแล้ว เขาก็เริ่มที่จะใจคอไม่ดีขึ้นมา แต่สุดท้ายชูหยุนก็จำเป้าหมายของตัวเองได้ เธอจึงไม่คิดที่จะอยู่เฉยอีกต่อไปและเลือกที่จะเดินเข้าไปหาลูกปัด
มันเหมือนมีเสียงในใจที่ตะโกนบอกเธอให้เดินเข้าไปเอาลูกปัด เพราะหลาย ๆ อย่างอาจจะชัดเจนขึ้นเมื่อเธอได้ลูกปัดนั้นมา
ตะกี้นี้ตอนที่ชูหยุนกำลังเปิดประตูหินออก ตอนนั้นมันกลับมีฉากอะไรหลาย ๆ อย่างโผล่มาในหัวของเธอ
เธอเหมือนได้รับความทรงจำจากคนอื่นมา ตอนนี้เธอแทบไม่รู้แล้วว่าเธอเป็นใครกันแน่
เธอจะรับมือยังไง ? คงมีแค่ลูกปัดเท่านั้นที่จะแก้ปัญหานี้ได้
“ เดินหน้าต่อ” ฉิงจีเตือนขึ้นมา
ชูหยุนรู้ว่าเธอต้องเดินหน้าต่อ ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะเดินต่อไป
เมื่อเดินหน้าต่อ ชูหยุนก็เห็นกับฉากหนึ่ง และฉากนั้นก็มีคนที่หน้าตาคุ้นเคยอยู่ในนั้น มันคือฉิงจี มันแค่ว่าคนในฉากตรงหน้าไม่ได้แก่แบบนี้ บอกได้ว่าฉิงจีหน้าตาดูดีอย่างมากในตอนที่ยังหนุ่ม
ความรัก…….
ชูหยุนได้เห็นความรักของทั้งคู่ สุดท้ายชูหยุนก็เข้าใจแล้วว่าทำไมฉิงจีถึงได้อยู่ที่นี่ ทำไมเธอถึงรู้สึกผูกพันกับฉิงจีอย่างบอกไม่ถูก
ในฉากนี้ชูหยุนเห็นแล้วว่าฉิงจีแข็งแกร่งแค่ไหน
“ชื่อของเธอคือชูโม่” ฉิงจีเตือนขึ้นมา
แม้ว่าห้องนี้เขาจะไม่ได้เป็นคนสร้างขึ้นมา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ฉิงจีก็พอรู้อยู่บ้าง
“ชูโม่ มันเป็นชื่อที่ดี” ชูหยุนพูดขึ้น
เมื่อเดินหน้าต่อ ชูหยุนก็เห็นฉากที่เปลี่ยนไปจากเดิม
คนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมา คนเหล่านี้ต่างก็เป็นคนที่ผูกพันกับชูโม่
ความรักของทั้งสองถูกขัดขวางเพราะฉิงจีนั้นเป็นคนนอก และเพราะชูโม่จะต้องได้ขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่าคนต่อไป !
เมื่อเดินหน้าอีกก้าว ชูหยุนก็เห็นการต่อสู้เกิดขึ้น
ฉิงจีได้สู้กับคนในเผ่าชูมิ
การต่อสู้นี้ดุเดือดจนสุดท้ายฉิงจีก็โดนต้อนจนมุม คนนับไม่ถ้วนล้อมเขาเอาไว้
ร่างของฉิงจีเต็มไปด้วยบาดแผลพร้อมกับมีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง มันแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเผ่าชูมิในตอนนั้นว่าแข็งแกร่งกว่าตอนนี้มากแค่ไหน
ตอนนั้นชูหยุนอยากจะหันกลับไปถามฉิงจี ว่าทำไมถึงได้เกิดการต่อสู้ที่รุนแรงแบบนี้ขึ้น เพราะชูหยุนเห็นว่ามีหมู่บ้านและเมืองนับไม่ถ้วนถูกทำลายไปเพราะการต่อสู้นี้ ภูเขาถล่มลงไป จนผู้คนที่ไม่เกี่ยวของต้องหนีตายกันพัลวัน
ชูหยุนเริ่มหลั่งน้ำตาออกมา
“มันคุ้มค่ารึไง ?” ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินหน้าต่อ
“ไม่มีอะไรที่ไม่คุ้มค่า” ฉิงจีรู้ว่าชูหยุนเห็นอะไร เขายังแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมา“ ถ้าวันหนึ่งเธอรู้จักความรัก เธอจะไม่สนใจเรื่องอื่น บางทีเธออาจจะทำมากกว่าฉันเสียอีก”
ชูหยุนส่ายหน้า “แต่มีคนมากมายต้องตาย คนที่เป็นต้นเหตุก็คือคุณ ! ”
“ในสายตาฉันมีแต่ชูโม่ ! ” ฉิงจีโกรธขึ้นมา “ฉันไม่ได้สนใจใคร ใครก็ตามที่ขวางทางฉันแม้ว่าจะมีเป็นล้าน ๆ คน แต่ก็ต้องตาย ! ”
การต่อสู้ในฉากยังดำเนินต่อไป
แม้ว่าฉิงจีจะหมดแรงแล้ว แต่คนในเผ่าชูมิก็ไม่กล้าที่จะประมาทเขาแม้แต่น้อย
มีหลายคนที่ตายไป
ยอดฝีมือหลายคนต้องตายด้วยฝีมือของฉิงจีอย่างน่าอนาถ
ฉิงจีที่โดนล้อมอยู่ก็เริ่มหอบหายใจออกมา
“เลือดต้องล้างด้วยเลือด” ฉิงจีมองไปที่เลือดตัวเองที่หยดลงไปกับพื้นและรู้ว่าคงไม่รอด “ประตูสู่โลก ! ”
เมื่อพูดจบก็มีพลังที่มองไม่เห็นดึงฉิงจีขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับดึงเลือดออกจากตัวของเขาด้วย
ในท้องฟ้ากลับเกิดรอยแตกขึ้นมา
“ไปสิ ไปเอาลูกปัดมา” ฉิงจีพูดขึ้น
ชูหยุนไม่อยากเห็นฉากนองเลือดแบบนี้อีก เธอจึงเลือกที่จะเดินหน้าต่อ
ซากปรักหักพังและเสี่ยงคร่ำครวญของคนในเผ่าชูมิดังเข้ามาในหูของเธอ แม้ว่าใจเธอจะพอยอมรับได้แต่ในใจก็ยังเจ็บปวด การรุกรานของสัตว์อสูรเริ่มต้นขึ้น
“นี่คือประวัติของเผ่าชูมิงั้นหรือ ? ” สุดท้ายชูหยุนเริ่มรู้แล้วว่าทำไมเผ่าเธอถึงต้องไปอยู่ในโลกใต้ดิน
“ทำไมคุณยังมีชีวิตอยู่ ? ” ตอนที่ชูหยุนเดินไปถึงที่นั่น ฉากก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง แต่เธอก็ยังไม่เห็นจุดจบ
“เพราะฉันมีภารกิจ ฉันจะช่วยเผ่าเธอทวงคืนดินแดนกลับมา ! ฉันต้องการแค่อย่างเดียว เธอรีบไปเอาลูกปัดนั้นมา ลูกปัดนั้นจะพาให้พวกเธอทวงคืนดินแดนกลับมาได้” ฉิงจีพูดขึ้น “จำประตูหินนั้นได้ไหม ? มันคือสมบัติที่บรรพชนของเธอทิ้งเอาไว้ มันมีคลังสมบัติอยู่ ด้วยของเหล่านั้นบวกกับการที่เธอมีลูกปัดนี้แล้ว ไม่นานเธอจะกำจัดสัตว์อสูรเหล่านั้นได้”
ชูหยุนรู้ต้นกำเนิดของการรุกรานแต่ไม่รู้ว่าโลกด้านนอกเป็นยังไง
“คุณเป็นคนเปิดรอยแยกมิตินี้ไม่ใช่รึไง ? ” ชูหยุนเริ่มสงสัยในสิ่งที่ฉิงจีทำ
“ใช่ ” ฉิงจี ไม่ได้ปฏิเสธ “แต่ฉันก็ได้ทำการขัดขวางมันเอาไว้ ”
“ทำไมตลอดหลายปีมานี้คุณไม่กำจัดสัตว์อสูรพวกนั้น ! ”
“ฉันบาดเจ็บ” ฉิงจีพูดขึ้น “การต่อสู้ครั้งนั้นผลาญพลังของฉันไปอย่างมาก ฉันต้องรอจนกว่าเธอจะมาถึง ถ้าฉันตายไป งั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าจะมาที่นี่รึเปิดประตูนี้ยังไง รวมถึงการเอาลูกปัดนี้มาด้วย ”
“เดินหน้าต่อ ฉันมีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ฉันหวังว่าทุกอย่างที่ฉันทำไปจะชดเชยเรื่องในอดีตได้”
สุดท้ายหวังเย่าก็มาถึงที่นั่น
“แกทำอะไรกับชูหยุน ! ”