ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 540 : การเปลี่ยนแปลงที่เหมือนเดิม
ตอนที่ 540 : การเปลี่ยนแปลงที่เหมือนเดิม
หลังจากที่ฆ่าฮาลิเฟคไปได้ ก็มีเสียงเพลงดังขึ้นมา ทุกคนต่างก็ลงไปคลานกับพื้นทันที
แต่เมื่อหลังจากที่เพลงจบลง หวังเย่าก็เลือกที่จะหายตัวไปจากสายตาของทุกคน
การต่อสู้ในวันนี้ทำให้ชื่อเสียงของหวังเย่าโด่งดังอย่างมาก ไม่มีใครกล้าดูถูกเขาอีก ไม่มีใครกล้าคิดทำอะไรเขาง่าย ๆ
ในใจของทุกคนตอนนี้แล้วเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกระดับ A เลย !
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะอยู่แค่ระดับ C แต่อนาคตของเขาก็ไร้ขีดจำกัด
แม้ว่าจะรู้ว่าไม่มีใครตามเขามา แต่หวังเย่าก็ยังระวังตัวอย่างมาก เขาเดินทางผ่านป่าก่อนจะสร้างภาพลวงตาขึ้นมาและไปพบกับฟอเนอร์ในที่ที่ตกลงกันไว้
ในคืนที่มืดมิดบนหน้าผาไกลออกไป ฟอเนอร์ได้ไปรอเขาอยู่ที่นั่นแล้ว
“น้องหวังเย่า ยินดีด้วยกับความแข็งแกร่งที่พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นายขึ้นมาถึงระดับ C ได้แล้ว ! ” เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ามาที่ด้านหลัง ฟอเนอร์ก็หันกลับแล้วพูดขึ้นมา
หวังเย่ายิ้มออกมาอย่างขมชื่นและพูดขึ้นมา “ฉันจำได้ว่านายรับปากกับฉันว่าจะจับฮาลิเฟคและส่งให้ฉันด้วยตัวเองแล้วให้ฉันจัดการกับมัน แต่มันไม่เป็นตามที่ตกลงกันไว้ ชัดแล้วว่ามันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย”
ฟอเนอร์หัวเราะออกมา “น้องหวังเย่า อย่าสนใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน แต่ผลลัพธ์ก็เป็นแบบที่ตกลงกันไว้ไม่ใช่รึไง”
“ฉันเองก็อยากให้มันเป็นตามที่เราตกลงกันไว้ แต่เมื่อนายผิดคำพูดและฉันต้องมีปัญหาในอนาคต นายก็ต้องชดใช้ให้กับฉัน”
“งั้นนายบอกมาว่าจะให้ฉันชดใช้ยังไง ?”
“1,500 เหรียญ อย่าบอกนะว่านายไม่มีเงิน วันนี้นายเปิดพนันและทำเงินมาได้ไม่ใช่น้อย คิดว่าฉันไม่รู้รึไง” หวังเย่า พูดขึ้น
ฟอเนอร์พูดขึ้นมา “พระเจ้า วันนี้ฉันได้เงินมาแค่ 2,500 เหรียญ นายจะเอาไปมากกว่าครึ่งเลย นายนี่ใจดำจริง ๆ ”
“งั้นก็ตามใจนาย ฉันว่าเรายกเลิกการร่วมมือกันเถอะ” หวังเย่าทำท่าจะเดินหนี
“เดี๋ยว น้องหวังเย่า” ฟอเนอร์รีบดึงถุงเงินออกมาจากแหวนมิติแล้วส่งให้กับหวังเย่า
หลังจากที่ได้เงินมาแล้ว หวังเย่าก็ยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้น “สิ่งนี้แหละที่จะเหมือนเดิม”
“มาคุยกันว่าเราจะไปที่บึงตอนไหน ? ” ฟอเนอร์หันกลับไปมองภูเขาที่อยู่ไกลออกไป
“รออีก 2-3 วัน รอให้บาดแผลที่ศีรษะของฉันหายดีก่อน”
ฟอเนอร์พยักหน้า “นายมั่นใจแค่ไหนกับการเดินทางครั้งนี้ ? ”
หวังเย่าพูดขึ้นมาตามตรง “90 เปอร์เซ็นต์ ยังไงซะนายก็เห็นความแข็งแกร่งของฉันแล้ว อีกอย่างแล้วสัตว์อสูรของฉันก็แข็งแกร่งเพียงพอแล้ว”
“เราต้องเตรียมการอย่างอื่นอีกไหมนอกจากกำลังคน ? ”
หวังเย่าคิดสักพักแล้วตอบกลับ “ฉันเห็นซากฟาโรห์ เขาอยู่ในโลงหยก ถ้าจะเข้าไปในสุสานก็ต้องดำน้ำลงไป จากนั้นก็ต้องว่ายน้ำไปต่อจนกว่าจะขึ้นถึงผิวน้ำก่อนจะไปถึงโลงศพนั่น”
“การจะเอาร่างนั้นมานายต้องเอาโลงศพมาด้วย มันถือว่าเป็นงานใหญ่ ยังไงซะฉันก็ไม่เคยเป็นโจรปล้นสุสานมาก่อน นายลองกลับไปปรึกษาคนอื่น ๆ ดูว่าต้องใช้เครื่องมือและต้องเตรียมการแบบไหน”
“ ใช่สิ จำไว้ว่าอย่าสร้างปัญหา อย่าให้โดนจับได้ รอจนกว่าทุกอย่างจะเข้าที่แล้วค่อยติดต่อกัน”
หวังเย่านิ่งไปสักพักแล้วพูดขึ้น “ฉันไม่ต้องกังวลเรื่องนักโทษคนอื่นแล้ว ฉันกังวลแค่ซิดดี้ เดาว่าเรื่องของฮาลิเฟค อาจจะทำให้เขาสนใจฉันขึ้นมา ยังไงซะเขาก็รู้ความลับของบึงนี้”
ฟอเนอร์พยักหน้า “นายก็ควรระวังตัวจริง ๆ ตอนนี้นายเด่นขึ้นมาแล้ว ถ้าซิดดี้รู้เรื่องฉันผ่านนาย งั้นผลกระทบคงคาดไม่ถึง”
เมื่อคิดแบบนั้น ฟอเนอร์ก็พูดขึ้นต่อ “นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะมาพบกัน จากนี้ฉันจะส่งคนมาติดต่อกับนายแทน”
“ได้ งั้นก็ต้องตั้งรหัสลับเอาไว้”
“รหัสอะไร ? ”
“ การเปลี่ยนแปลงที่เหมือนเดิม” หวังเย่าพูดขึ้น
ฟอเนอร์ถามต่อ “แล้วยังไงต่อ”
“เครื่องหมายวงกลม นายจำได้รึเปล่า ? ” หวังเย่าหัวเราะออกมา
“ได้ แล้วค่อยเจอกันในบึง !”
หลังจากที่คุยธุระเสร็จสิ้น ทั้งสองก็แยกย้ายกันออกไปเช้าวันต่อมาเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นในเหมือง
ตัวละครหลักในเรื่องนี้คือหวังเย่า !
จอบนหอคอยนั้นชื่อของหวังเย่าได้ขึ้นไปอยู่ระดับ A !
“มันคือเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นในเหมืองมาหลายพันปีแล้ว คนที่เข้าคุกมาแค่เดือนเดียวแต่กลับขึ้นไประดับ A ได้ เป็นการเลื่อนอันดับโดยผู้คุม ทำได้ดีมากไอ้ลูกชาย ! ”
เมื่อเห็นข้อความนั้น หวังเย่าก็แทบจะสบถออกมา
นี่แปลว่าผู้คุมได้หันมาสนใจเขาแล้วและถือว่าเขาโดดเด่นอย่างมากในตอนนี้
แม้ว่าตอนนี้หวังเย่าจะแกร่งกว่าเดิม แต่เขาเพิ่งขึ้นมาระดับ C ได้ ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขายังไม่เพียงพอ หลังจากที่เอาชนะฮาลิเฟคมาได้ หวังเย่าก็คิดว่าเขาจะได้พักและไม่ต้องกังวลอะไรอีก ไม่คิดเลยว่าซิดดี้จะโยนเขาเข้าหาฝูงหมาป่าด้วยการเลื่อนระดับให้กับเขา
หวังเย่ากำหมัดแน่นและได้แต่แค้นอยู่ในใจ
“หวังเย่าเกี่ยวข้องยังไงกับผู้คุม ? ”
“เขาคือคนของผู้คุม แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าผู้คุมจะทิ้งเขาให้ตาย”
“นายบอกว่าเขาคือคนของผู้คุม การทดสอบของหวังเย่านั้นเขาผ่านมาได้ยังไง แล้วเมื่อคืนก็ไม่มีผู้คุมออกมาช่วยเขาด้วย สถานการณ์แบบนี้มันยากจะอธิบายได้”
“แต่..ทุกอย่างก็เป็นไปได้ทั้งนั้น”
บางคนพึมพำออกมา “ผู้คุมอยากจะโยนเขาทิ้งแล้วหาของเล่นใหม่ ดังนั้นจึงจงใจทิ้งให้หวังเย่าเป็นที่จับตามองของคนที่แข็งแกร่งยังไง”
“ฉันก็เชื่อว่าน่าจะเป็นแบบนั้น ! ”
“หวังเย่ายินดีด้วย ตอนนี้นายอยู่ระดับ A แล้ว มากับฉันสิ ฉันจะพาไปเอาชุดใหม่”
ผู้คุม 2 คนเดินเข้ามาหาหวังเย่าแล้วพูดขึ้นมาอย่างสุภาพ
“เห็นไหม หวังเย่าจะได้เป็นหัวหน้านักโทษคนใหม่จริง ๆ ! ”
นักโทษทั่วไปนั้นคงยากที่จะมีผู้คุมมาหาถึงที่ แต่หวังเย่ากลับมีผู้คุมมาหาถึงที่ถึง 2 คนและยังแสดงท่าทีเคารพต่อเขาอย่างมาก
ข่าวที่ว่าหวังเย่าจะได้เป็นหัวหน้านักโทษคนต่อไปได้กระจายไปทั่ว หลายคนพร้อมจะพากันประจบเขาและรอให้เขาปรากฏตัวออกมา !
ซิดดี้ที่อยู่บนหอคอยนั่งดื่มกาแฟและมองท่าทีของนักโทษด้วยความพอใจ
“บทความขัดแย้งแบบนี้น่าสนใจจริง ๆ เราเติมเชื้อไฟพอแล้ว ฉากสุดท้ายต้องออกมาพิเศษแน่ ๆ ”หวังเย่าเปลี่ยนไปใส่ชุดระดับ A และถูกผู้คุมพาไปยังที่พักที่จัดไว้ให้กับเขา
ผู้คุมเดินนำหน้าเขาแล้วอธิบายออกมา “นักโทษระดับ A สามารถมีสัตว์อสูรได้ แต่ระดับของสัตว์อสูรนั้นต้องต่ำกว่าระดับเทพ ”
“เพราะนักโทษระดับ A แกร่งเกินไป เราจึงต้องจับตาดูอยู่ตลอด ดังนั้นนายต้องมารายงานตัวทุกวัน”
ระหว่างทางเดินไปที่พัก เขาก็พบกับอุปกรณ์ตรวจจับระดับสูงติดตั้งเอาไว้
“ก่อนจะกินมื้อเช้า นายต้องมาที่นี่เพื่อตรวจสอบสถานะ ถ้าไม่งั้นแล้วนายจะโดนลงโทษด้วยการช็อตไฟฟ้า โอกาสตายสูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ จำไว้ให้ดี”
ภายใต้การนำทางของผู้คุม หวังเย่าก็เข้าไปในลิฟต์ เขาได้ทำการเปิดการทำงานของเครื่องก่อนที่จะมีเข้มขัดมารัดตัวของหวังเย่าเอาไว้ แล้วแสดงค่าความสามารถของเขาออกมาผ่านหน้าจอ
หมายเลข : 2020423 ชื่อ : หวังเย่า เผ่าพันธุ์ : มนุษย์เลเวล : 82 (อ้างอิงจากระดับสัตว์อสูร )คะแนนยีนส์ : 45 (เต็ม 100)ค่าความแข็งแกร่ง : E ระดับ 5 ทำสัญญากับสัตว์อสูร : สำเร็จ1
แน่นอนว่ายีนส์บกพร่องส่งผลต่อคะแนนโดยรวม แต่หวังเย่าแปลกใจที่เครื่องนี้สามารถตรวจสอบได้ด้วยว่าเขาทำสัญญากับสัตว์อสูรรึไม่ โชคดีที่มันตรวจสอบชนิดของสัตว์อสูรไม่ได้ ไม่งั้นแล้วเขาคงมีปัญหาตามมาอย่างแน่นอน
“คิดซะว่ามันเป็นการวิเคราะห์ไม่ว่าจะทำสัญญากับสัตว์อสูรรึไม่ก็ตาม” หวังเย่าพูดขึ้น
“หวังเย่า การที่นายทำสัญญากับสัตว์อสูรได้ นายต้องเอาสัตว์อสูรของนายมาทดสอบระดับเลือดในทุก ๆ 3 วัน ถ้ามันอยู่ระดับเทพ นายต้องส่งมันให้เราไม่ก็ทำลายมัน นายเข้าใจรึเปล่า ? ” ผู้คุมพูดด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้แปลกใจกับการที่หวังเย่า มีสัตว์อสูร
“เข้าใจแล้ว” หวังเย่ายังแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมา แต่ในใจของเขากลับเต้นรัวไปหมด “จะทำยังไง ? ฉันจะรอดไปได้ยังไง ? อสูรเงาน่ะจะขึ้นไประดับเทพแล้ว ! ”
หวังเย่าได้ขึ้นไปที้ชั้นบนของหน้าผาที่มีห้องพักอยู่
“เด็กนั่นมาแล้ว”
“เหยื่อรายใหม่มาแล้ว” บางคนพูดขึ้นมา
ทุกคนพากันไปยืนที่ประตูห้องขังและมองมาที่หวังเย่า
“ใครจะแบ่งห้องกับเขา ? ไอ้หนูนี่ดูดี ใครจะโชคดีได้มันไป ? ”
“ไม่ใช่ทุกคนที่จะจัดการกับฮาลิเฟคได้”
หวังเย่าเดินผ่านห้องขังก่อนจะมองไปตรงหน้า จากนั้นเขาก็ชะงักไป
“มันยังมีห้องอื่นอีกไม่ใช่รึไง …”
ไกลออกไปมีชายตัวสูงกว่า 2 เมตรยืนถืออาวุธแล้วยิ้มให้กับหวังเย่า
ชายคนนี้คือเอเดรียน นักโทษอันดับ 1 ของที่นี่ เขายืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับลูกน้อง
ที่ทางซ้ายของทางเดินมีนักโทษอันดับ 2 แลมเบิต เขาเป็นชายแก่ในชุดผ้าคลุมนั่งพิงกำแพงพร้อมกับสูบบุหรี่มองมาที่ หวังเย่า
ที่ทางขวามีนักโทษอันดับ 3 เจฟ ที่ตอนนี้ยืนขวางอยู่ตรงกลาง
“เจฟน่ะมีที่กว่าสิบห้อง นายเลือกได้เลยว่าจะอยู่ห้องไหน”
“ใช่ ฉันเกือบลืมบอกนายไปว่าทุกครั้งที่นักโทษระดับ A ได้ทำการตรวจร่างกาย พวกเขาจะฉีดยาเข้าไปในตัวที่สามารถควบคุมจิตใจได้ถ้าหากว่าต้องการ”
ผู้คุมยิ้มออกมา เขาไม่ได้ไปส่งหวังเย่าแต่กลับหันกลับแล้วเดินหนีไปทันที
อยู่ ๆ เขาก็ปวดหัวขึ้นมา !
มันราวกับมีมดเป็นพันตัวกำลังกัดที่หัวของเขาอยู่ ตอนนี้หวังเย่าต้องกุมหัวแล้วนอนลงไปกองอยู่กับพื้น
“ฮ่าฮ่า…”
“แบกมันเข้าไป ”
รองเท้าเบอร์ 55 เหยียบเข้าที่หน้าของหวังเย่าอย่างจัง พร้อมกับนักโทษหลายคนที่พากันเอาท่อนเหล็กมาฟาดเข้าที่หัวของหวังเย่า
ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ …
ท่อนเหล็กฟาดเข้าที่หัวของหวังเย่าจนโค้งงอ แต่หวังเย่าไม่อาจจะตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อย
“นี่สินะหัวหน้าในอนาคต ! ”
“แกโง่รึไง ตอนนี้ยังไม่ถึงคิวแก ! ”
“ไม่รู้ว่าผู้คุมคิดจะทำอะไร แต่รอดูละกัน”
นักโทษระดับ A บางคนพึมพำออกมา
ปัง !
เสียงประตูเหล็กอัดเข้ากับกำแพงพร้อมเสียงของเจฟที่ดังขึ้นมา “เอามันเข้ามา”
ชายตัวสูงได้ลากหวังเย่าที่ตอนนี้ไม่อาจจะต่อต้านอะไรได้ โยนเขาเข้าไปในถ้ำ
ห้องขังของเจฟนั้นหรูหรา มันมีพรมนิ่ม ๆ ปูอยู่ที่พื้น มันมีการตกแต่งตามกำแพงและมีน้ำพุอยู่ด้วย มันราวกับบ้านหลังหนึ่งก็ว่าได้
เจฟนั่งแช่น้ำอยู่ในอ่าง
หวังเย่าเหงื่อชุ่มตัวด้วยความเจ็บปวด ตอนที่เขาเข้ามาในถ้ำนี้ความเจ็บปวดก็ทุเลาลง สายตาเขาเริ่มชัดเจนขึ้นมา
“เอาตัวมันลุกขึ้น”
ลูกน้องสองคนจับเอาหวังเย่าไปนั่งที่เก้าอี้
ชายตัวสูงลากผมของหวังเย่าให้โน้มไปหาเจฟ
“แกรู้รึเปล่าว่าฮาลิเฟคเป็นคนของฉัน ? ” เจฟยกกาแฟขึ้นจิบแล้วถามขึ้นมา
หวังเย่ายิ้มออกมา “คนของแกแล้วฆ่าไม่ได้รึไง ? ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆ ก็ได้ตบปากหวังเย่าอย่างแรงจนทำให้เขาปากแตก
หวังเย่าแลบลิ้นออกมาเลียเลือดพร้อมแสดงสีหน้าไม่พอใจ “แกมีความสามารถนี่ ทำไมไม่ฆ่าฉันซะเลย ? ”
หวังเย่ารู้สถานการณ์ตอนนี้ดี ตราบใดที่เขาไม่ทำผิดพลาดชัดเจน งั้นมันก็ไม่มีใครกล้าฆ่าเขา !
เจฟหรี่ตาลงแล้ววางแก้วกาแฟ “แกคิดว่าผู้คุมคอยดูแลแกอยู่รึไง แกสบายใจได้ แม้ว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ แต่ฉันก็มีเป็นพัน ๆ วิธีที่ทำให้แกร้องขอความเมตตา ! ”
เขาใช้มือซ้ายล้วงลงไปในบ่อน้ำก่อนจะดึงบางอย่างขึ้นมา
เสียงกรีดร้องดังขึ้น ชายคนนั้นเกาะขาของเจฟไว้แน่น ที่ตัวมีรอยเชือกมัดและรอยแผล ร่างกายส่วนล่างเต็มไปด้วยบาดแผล ดูเหมือนว่าเขาจะโดนทรมานมาไม่น้อย
“แกรู้จักเขาไหม ? ” เจฟยิ้มออกมา
“มิเชล ! ” หวังเย่าคิดในใจ จากนั้นเขาก็ยักไหล่แล้วพูดขึ้น “ เขาเป็นใคร ? ”
“โอ้ แกจะให้เขาไปรับใช้แกไม่ใช่รึไง แกลืมเขาแล้วหรือ ? ”
“ทุกคนที่นี่เคยได้มันมาครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้มันพร้อมใช้งานแล้ว”
“ฮ่าฮ่า…” พวกนักโทษรอบ ๆ พากันหัวเราะออกมา
เจฟจับคางของมิเชลให้เชิดขึ้น ก่อนจะถามออกมา “ฉันจะถามแกอีกครั้ง แกไม่รู้จักเขาจริง ๆ หรือ ? ”
หวังเย่ายังแสดงสีหน้าเฉยเมย ก่อนจะพูดออกมาว่า “ขอโทษด้วยนะ ฉันไม่รู้จัก”
“ก็ดี”
“อ๊า…” มิเชลเบิกตากว้าง เขาร้องออกมาสุดเสียง
สีหน้าความเจ็บปวดนั้นคงอยู่ไม่นาน ก่อนที่เขาจะหมดสติไป
เมื่อมองไปที่ต้นขาตัวเอง หวังเย่าก็พบว่าตัวเองโดนมีดแทง ก่อนที่เลือดจะไหลไปอาบถึงเท้าของเขาและหยดลงไปในบ่อน้ำ
“หวังเย่า ฉันชื่นชมแกจริง ๆ ฮาลิเฟคตายไปแล้ว แกขึ้นมาแทนที่เขาได้ แกมาเป็นลูกน้องของฉัน ถ้าแกยอม เรื่องในอดีต ฉันจะไม่เอาความ ! ”
“แล้วถ้าฉันปฏิเสธล่ะ ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
เจฟหัวเราะออกมา “ถ้าแกปฏิเสธ มันก็พิสูจน์แล้วว่าแกอยู่ฝ่ายไหน แกอยากเป็นหัวหน้านักโทษ จากนั้นศัตรูของแกก็จะไม่ได้มีแค่ฉัน เอเดรียนกับแลมเบิตคงไม่ปล่อยแกไว้ แม้ว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ แต่พวกนั้นก็มีวิธีการมากมายที่จะทำให้แกหายตัวไป”
หวังเย่ายิ้มออกมา “สมองแกนี่มีแต่เรื่องแปลก ๆ จริง ๆ ฉันไม่เข้าใจ หากฉันปฏิเสธเป็นลูกน้องแก แล้วทำไมถึงคิดว่าฉันอยากเป็นหัวหน้านักโทษ ? ”
“ไม่สำคัญว่าแกจะเข้าใจรึไม่ แค่คนอื่นคิดแบบนั้นก็พอแล้ว” เจฟยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ
“แกไม่อยากได้ไอ้หน้าหวานนี่รึไง ? ”
“แกอาจจะเข้าใจผิด ฉันไม่ได้สนใจของแบบนั้น” หวังเย่าพูดขึ้น
“งั้นหรือ ? น่าเสียดาย ฉันคิดว่าไอ้เด็กนี่จะใช้เป็นเครื่องต่อรองได้ซะอีก ฉันจะให้เขาอยู่กับแก ตอนนี้ดูเหมือนว่าไอ้นี่ไม่จำเป็นอีกแล้ว”
ฟรืด !
เจฟสะบัดดาบก่อนจะมีเลือดพุ่งออกมาจากคอมิเชล
เขาโดนตัดคอและตายไปทันที !
เร็วจริง ๆ !
ถ้าไม่มีนาฬิกาคอยช่วยหวังเย่าเอาไว้ คงยากที่จะมองเห็นการเคลื่อนไหวของเจฟได้ทัน
“ปล่อยเขาไป”
เจฟกลับไปนั่งสูบบุหรี่ตามเดิม
หวังเย่าลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ตอนที่เขาเดินออกไปนั้นเขาก็ได้ยินเจฟพูดขึ้นมา “แกจะกลับมาตอนที่ร่างกายแกไม่ไหว แล้วอย่าลืมทำความเคารพตอนที่เข้ามาด้วย ”
“ทำไมต้องทำความเคารพแก ? ” หวังเย่าแสดงสีหน้าสับสนออกมา
เจฟยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่ล้ำลึก ก่อนที่จะดีดนิ้ว หัวของหวังเย่าว่างเปล่าไปทันที ก่อนที่ขาของเขาจะอ่อนยวบและต้องคุกเข่าให้กับเจฟ
“นี่ไงคือการทำความเคารพ เข้าใจรึยัง ? ”
หวังเย่าถึงกับช็อก เขาแทบไม่เชื่อว่าตัวเองคุกเข่าอยู่
“แกเคยได้ยินเรื่องการกดดันทางสายเลือดรึเปล่า มันเหมือนกับหมาในที่เห็นเสือแล้วต้องเยี่ยวราด หนูที่เห็นแมวแล้วต้องหนี นี่คือสิ่งที่สะท้อนออกมาในยีนส์ ! ”
“ยีนส์ระดับสูงมีโอกาสกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ที่จะปลุกสายเลือดขึ้นมาได้ ทำให้พวกระดับต่ำกว่าไม่อาจจะต้านทานได้”
“เท่าที่ฉันรู้มา แกเป็นแค่มนุษย์เครื่องมือนี่ ฉันลดตัวแสดงท่าทีเท่าเทียมกับแก แต่ไม่คิดเลยว่าแกจะหลงตัวเองแบบนี้”
“ออกไปได้แล้ว ! ”
ครืน !
มันราวกับภูเขาที่กดทับหวังเย่าอยู่และหายไป มันราวกับมีมือที่มองไม่เห็นได้ตบเข้าที่อกของเขาก่อนที่หวังเย่าจะกระเด็นออกไป
“ออกไปจากที่นี่ซะ ฮ่าฮ่า…”
เสียงคนหลายสิบคนหัวเราะออกมา
หวังเย่าลุกขึ้นพร้อมกับปัดฝุ่นตามตัว เขามองไปที่นักโทษพวกนั้นก่อนจะยิ้มออกมา “ดีมาก ฉันหวังว่าพวกแกจะสนุกแบบนี้ต่อไปได้นาน ๆ ”
“ไม่ให้เราสนุกแล้วจะให้เราร้องไห้รึไง ? ฮ่าฮ่า..”
“อีกไม่นานพวกแกก็จะรู้” หวังเย่ากำหมัดแน่นแล้วเดินออกไป