ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 543 :อำพราง
ตอนที่ 543 :อำพราง
“หวังเย่า เจ้าช่างหาเรื่องเจ็บตัวเก่งจริง ๆ ”
หวังเย่าได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ออกมา อสูรของเขาแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ และดูหยิ่งทะนงมากขึ้นเรื่อย ๆ มันไม่เรียกเขาว่านายท่านเหมือนเดิมอีกต่อไป
แลมเบิตมองไปที่แฟนธอมแล้วพูดขึ้น “ปลุกสายเลือดอสูรได้เร็วแบบนี้ แต่เลเวลของมันยังไม่ถึง 90 อสูรของนายนี่น่าสนใจจริง ๆ ”
ตอนแรกแฟนธอมไม่ได้สนใจแลมเบิต แต่เมื่อได้ยินแบบนั้น มันก็เปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อยก่อนจะมองไปที่แหวนของ แลมเบิต
“ข้าได้กลิ่นของพลัง เจ้าเอามันออกมาสู้กับข้าสิ”
กรร…
เสียงคำรามดังออกมาจากแหวน เสือขาวแทบหลุดออกจากการควบคุมของแลมเบิต มันพยายามจะออกมาจากแหวนเพื่อสู้กับแฟนธอม
“นี่คือเพื่อนของเรา ใจเย็น ๆ เอาไว้” หวังเย่าบอกกันแฟนธอม
กรร…
เสือยังคงคำรามออกมาแต่ก็ยังยอมอยู่ในแหวนต่อ
แฟนธอมแสดงท่าทีเสียดายออกมา “น่าเสียดาย มันไม่ง่ายที่จะเจอกับอสูรที่แข็งแกร่ง แต่ข้ากลับไม่ได้สู้กับมัน”
“ตอนที่นายออกจากเหมืองไป ฉันจะให้พวกนายได้สู้กัน” แลมเบิตหัวเราะออกมา
“นายดูเจ้าของนายไปเถอะ แล้วเจอกันใหม่ในอีก 7 วัน” แลมเบิตชี้ไปที่หวังเย่าก่อนจะเดินออกมาจากถ้ำ
“นายยึดบึงได้รึยัง ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
“แน่นอน อสูรที่นั่นทั้งหมดเป็นข้ารับใช้ของข้าแล้ว ถ้าข้าสั่งอะไร พวกมันก็จะทำตามเช่นนั้น” แฟนธอมพูดขึ้นมาอย่างภูมิใจ
“มันไม่ได้ยากที่จะออกไปจากเหมือง แต่ก็ไม่ง่าย เท่าที่ฉันรู้มาซิดดี้มีสัตว์อสูรเลเวล 90 ตอนนี้นายไม่อาจจะสู้กับมันได้”
“เจ้าเคยเห็นสัตว์อสูรนั้นหรือไม่ ? ” ถึงแฟนธอมจะหยิ่งทะนงแต่ก็ยังระวังตัวอยู่
“ไม่ ยังไงซะตอนนี้ก็ยังไม่มีใครกล้าสู้กับผู้คุม”
แฟนธอมยิ้มออกมา “บางทีมันคงอีกไม่นาน…”หวังเย่านั่งขัดสมาธิอยู่ในถ้ำโดยมีแฟนธอมที่ห้อยหัวลงมาจากเพดานราวกับค้างคาวที่กำลังนอนอยู่
อิ๊ด…อิ๊ด
นี่คือเสียงร้องของสัตว์ตัวน้อยที่เหมือนกับกระรอกโผล่หัวออกมา มันมองมาที่หวังเย่าเมื่อมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่เจอตัวมัน มันก็ได้ขุดรูออกมาและเผยขนาดตัวเท่ากับหนูของมัน
หลังจากนั้นสักพักมันก็ได้ขุดเอาผลไม้ออกมาและมองมาที่หวังเย่าอีกครั้ง ก่อนจะมุดกลับเข้าไปในรูเหมือนเดิม
กระรอกนี่ฉลาด มันคิดว่าหวังเย่าคงหาตัวมันไม่เจอง่าย ๆ แต่ตอนที่มันกำลังจะกลับเข้าไปในรูนั้นก็มีเงาหนึ่งโผล่มาขวางหน้ามันเอาไว้
เท้าของเขาบังตรงหน้ารูเอาไว้ทำให้กระรอกไม่อาจจะเข้าไปได้
แฟนธอมก้มตัวลงแล้วจับหางกระรอกนั้นยกขึ้นมา
อิ๊ด…
มันร้องออกมาราวกับร้องขอความเมตตา
แฟนธอมลองดมกลิ่นกระรอกแล้วพูดขึ้น “กลิ่นหญ้า เจ้ามีพลังงานไม่น้อยเลย”
เขามองไปที่หวังเย่า แล้วคิดจะกินกระรอกนั้น แต่เมื่อคิดทบทวนอีกทีแล้ว เขาก็เลือกให้หวังเย่าตัดสินใจจะดีกว่า
เขาจับกระรอกนั้นแล้วเอาไว้วางที่หิน เขาตั้งใจจะใช้หินทุบกระรอกตัวนี้เผื่อว่าพรุ่งนี้อาจจะให้หวังเย่ากินเนื้อมัน
เมื่อเห็นหินที่กำลังจะทุบลงมา กระรอกก็ร้องขอความเมตตาอีกรอบ
หวังเย่าลืมตาขึ้น เมื่อเห็นฉากตรงหน้าเขาก็พูดขึ้นมา “แฟนธอม นายคิดจะทำอะไร ? ”
แฟนธอมยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ “ข้าจับอสูรที่มีพลังเยอะได้ ข้าคิดว่าจะฆ่ามัน พรุ่งนี้มันจะได้เป็นอาหารให้กับเรา”
กระรอกกลัวจนฉี่ราดเลอะมือของแฟนธอมเต็มไปหมด
“แต่ตอนนี้ ข้าคงต้องฆ่ามันจริง ๆ แล้ว ! ” แฟนธอมปล่อยมือทำให้กระรอกร่วงลงไปที่หิน มันอยากจะหนีกลับไปที่รัง แต่หางของมันถูกแฟนธอมเหยียบเอาไว้
“ข้าไม่เคยปล่อยให้ใครหนีไปได้” แฟนธอมพูดขึ้น
หวังเย่ายังไม่อาจจะขยับตัวได้ แต่เขาเหมือนจะเข้าใจภาษาของกระรอก
“ถ้าปล่อยแกไป แล้วเราจะได้อะไร ? ”
อิ๊ด อิ๊ด…
กระรอกไม่ได้หนีแต่กลับมองไปที่หวังเย่าเพื่อขอความเมตตาแทน
“เป็นสัตว์อสูรจริง ๆ ” หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดขึ้น “แกจะเอาอะไรมาแลก ? ”
อิ๊ด อิ๊ด..
กระรอกร้องออกมาพร้อมกับทำท่าทางกินบางอย่าง
“แกหมายความว่ามีทางรักษาให้ฉันหายทันทีงั้นหรือ ? ”
อิ๊ด อิ๊ด…
กระรอกรีบพยักหน้าตอบรับ
“แฟนธอม ปล่อยมันไป ฉันอยากเห็นว่ามันจะมียาแบบไหน”
แฟนธอมยิ้มออกมา “ถึงเจ้าจะหนีและไปซ่อนตัวที่ไหน แต่ข้าก็หาเจ้าเจอ เจ้าอย่าคิดที่จะหนีเชียวล่ะ”
กระรอกเข้าใจคำพูดของแฟนธอมเป็นนอย่างดี มันรีบพยักหน้าตอบรับ
แฟนธอมปล่อยหางกระรอก ก่อนที่มันจะทำท่าขอบคุณหวังเย่าและแฟนธอม
หลังจากนั้นสักพักกระรอกก็กลับมา
มันกระโดดขึ้นไปที่เข่าของหวังเย่าก่อนจะยื่นผลไม้เล็ก ๆ 2 – 3 ผลให้กับเขา
หวังเย่ารับมันมา ผลไม้นี้แผ่หมอกสีดำออกมา เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็พูดขึ้นมาทันที “ไม่คิดเลยว่าในเหมืองจะมีผลไม้ดี ๆ แบบนี้ด้วย”
อิ๊ด…
กระรอกเชิดอกด้วยความภูมิใจ
“หมายความว่ารูหนูพวกนี้นำไปสู่ชั้นใต้ดินที่มีผลไม้พวกนี้จำนวนมากงั้นหรือ ? ”
กระรอกพยักหน้า
“แล้วใช้ผลไม้นี้ยังไง ? ”
กระรอกทำการข่วนผลไม้ก่อนจะทามันลงไปที่บาดแผลให้กับหวังเย่า ไม่นานหวังเย่าก็รู้ถึงบทบาทของผลไม้
“ผลฟื้นฟู มันฟื้นฟูบาดแผลบนตัวได้อย่างรวดเร็ว”
“ผลปลอมแปลง มันสามารถปกปิดความแข็งแกร่งของตัวเองได้ แต่ไม่อาจจะหลอกเครื่องทดสอบได้ มันได้แต่หลอกสายตาคน”
“ผลลดพลัง ลดค่าสถานะของเป้าหมายในช่วงเวลาหนึ่ง”
“ดีจริง ๆ แกไปได้แล้ว” หวังเย่ายื่นมือออกมาลูบหัวกระรอกน้อย
กระรอกหรี่ตาลง เหมือนกับว่ามันพอใจกับการโดนลูบหัวแบบนี้
กระรอกได้กระโดดลงมาจากตักของหวังเย่า แล้วกลับไปที่รูของมันดังเดิม
หวังเย่ากินผลฟื้นฟูเข้าไปก่อนที่แผลของเขาจะหายทันที !
หวังเย่าถอดผ้าพันแผลออก ก่อนจะพบว่าผิวของเขากลับมาเนียนราวกับผิวเด็ก เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างมากในตอนนี้
“โชคดีที่นายไม่ได้ฆ่ากระรอกนั่น ไม่งั้นแล้วฉันคงไม่หายเร็วแบบนี้”
แฟนธอมหัวเราะออกมา “ข้าเองก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ ถ้ากระรอกนั่นเป็นหมอ มันอาจจะมีพลังอย่างอื่นอยู่อีก ยังไงซะมันอาจจะมีสมุนไพรดีกว่าที่มันเอาให้เจ้าก็ได้ ”
หวังเย่ามองไปที่แฟนธอม ก่อนจะส่ายหน้าแล้วยิ้มออกมา “นายนี่ไม่มีความเป็นมนุษย์เอาซะเลย”
“เจ้ามีอย่างนั้นหรือ ? ” แฟนธอมแสดงสีหน้าเฉยเมย
“ฉันจะไปเข้ารับการทดสอบ หวังว่านายจะไม่เปิดเผยตัวตน”
“ทำไมต้องซ่อนตัว ? เจ้ากลัวพวกนั้นรึไง ? ”
“ฉันไม่ได้กลัว ฉันแค่ต้องระวัง ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่นายจะแสดงตัว”
หวังเย่าเก็บผลไม้ในมือแล้วพูดขึ้น “ตอนแรกฉันกังวลอย่างมาก แต่เมื่อมีผลไม้สองอย่างนี้ ฉันก็มั่นใจว่าจะผ่านการทดสอบไปได้”
เช้าวันต่อมา หวังเย่าก็ปรากฏตัวขึ้นที่เหมือง
เขาได้เข้าไปที่ศูนย์ทดสอบและโดนฉีดยาควบคุม จากนั้นเขากับแฟนธอม ก็ได้เดินทางไปยังศูนย์ทดสอบร่างกาย
ระหว่างทางนักโทษคนอื่น ๆ ได้หยุดและมองมาที่ร่างที่ลึกลับที่อยู่ด้านหลังของหวังเย่า
“นั่นสัตว์อสูรของเขางั้นหรือ ? มันอยู่ในร่างมนุษย์ด้วย”
“ฉันได้ยินมาว่าเขามีสัตว์อสูร แต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นความจริง”
“ถ้าเป็นสัตว์อสูรระดับเทพ มันจะถูกบังคับเลิกสัญญาไม่ก็โดนฆ่า”
แฟนธอมเก็บเคียวไว้ในแหวนมิติ เขายังใส่ผ้าคลุมสีดำไม่อาจจะเห็นใบหน้าของเขาได้
มือของเขายังล้วงกระเป๋าเดินตามหวังเย่า เขาทำเป็นไม่ได้ยินที่คนอื่นพูด
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงตรงจุดตรวจร่างกาย
ภายใต้การนำทางของพนักงาน หวังเย่ากับแฟนธอมก็ได้เข้าไปยืนในห้องกระจก
ติ๊ง ติ๊ง !
แผ่นรองที่เท้าพวกเขาเริ่มหมุน
การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของทั้งสองเสร็จสิ้นและตัดสินว่าแฟนธอมนั้นเป็นสัตว์อสูรของหวังเย่า
หวังเย่าลืมตาขึ้นและใช้ระบบ เขาเลือกให้ระบบเปิดใช้งานประโยชน์ของผลไม้
“ผลของมันจะอยู่ที่ 30 วินาที หลังจากที่กินผลไม้ระดับต่ำเข้าไป ค่าสถานะจะลดลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์”
“ยืนยันรึไม่ ? ”
“ ผลอำพรางจะทำให้แฟนธอมลดระดับลงมาเหลือที่ระดับศักดิ์สิทธิ์ ผลของมันคงอยู่ได้ 20 วินาที”
“ยืนยันรึไม่ ? ”
ผลของผลไม้ทั้งสองอยู่ได้ไม่นานหลังจากที่กินไป แต่เพื่อที่จะหลอกการทดสอบนี้และดึงความสามารถของผลไม้ออกมาให้ได้มากที่สุด เขาจึงต้องใช้ฟังก์ชันปรับเปลี่ยนของระบบ หลังจากที่กินผลไม้นี้เข้าไป ผลของผลไม้นี้ก็จะให้ประโยชน์มากกว่าเดิม
คอมเริ่มประมวลผลการทดสอบออกมา ชนิด : อสูรเงาปีศาจเจ้าของ : หวังเย่า (ตอนนี้สัตว์อสูรแค่เพียงตัวเดียว)ระดับ : ศักดิ์สิทธิ์เลเวล : 85 สกิล : ไม่ทราบค่าการทดสอบการต่อสู้ : ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยผลประเมิน : โดยรวมแล้วมันเป็นสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป ความสามารถในการต่อสู้ไม่ได้สูง มันอาจจะมองว่าเป็นผู้ช่วยที่ดี ตอนที่รายงานถูกส่งออกมาเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการส่งรายงานนี้ไปที่หอคอยทันที
ซิดดี้มองดูรายงานและพูดขึ้นมาด้วยความแปลกใจ “ ไม่ใช่ระดับเทพงั้นหรือ”
เขายิ้มออกมาด้วยความโล่งอก “มันพิสูจน์แล้วว่าหวังเย่ายังไม่ได้เข้าไปในพีระมิด เขายังไม่ได้เจอสัตว์อสูรระดับเทพรึศพของฟาโรห์ ฉันล่ะโล่งอกจริง ๆ ”
เขาวางรายงานลงแล้วหันไปหาเลขาสาว “ไมรอนยังไม่กลับมาอีกหรือ ? ”
เลขาในชุดดำได้ตอบกลับ “กลับมาแล้ว แต่…เป็นศพ”
ซิดดี้คิ้วขมวดและมองไปที่หวังเย่าที่อยู่ในจอ ก่อนจะพูดขึ้น “การที่ไมรอนตาย ได้พิสูจน์ว่าคนที่หนุนหลังหวังเย่าน่ะคือนักโทษระดับสูง ฉันมองข้ามไปอีกแล้ว” ซิดดี้หันกลับก่อนจะบอกกับเลขา “เรียกเจฟให้ฉันหน่อย ฉันจะไปพบเขาด้วยตัวเอง”
“ได้ ” เลขาสาวตอบกลับก่อนจะรีบเดินออกไป