ระบบลงชื่อเข้าใช้ระดับพระเจ้า เริ่มต้นจาก 100 พันล้าน - ตอนที่ 310 200 พันล้าน! กําเนิดชายที่ร่ำรวยที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในหยุนเฉิง
- Home
- ระบบลงชื่อเข้าใช้ระดับพระเจ้า เริ่มต้นจาก 100 พันล้าน
- ตอนที่ 310 200 พันล้าน! กําเนิดชายที่ร่ำรวยที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในหยุนเฉิง
ตอนที่ 310 200 พันล้าน! กําเนิดชายที่ร่ำรวยที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในหยุนเฉิง
ตลาดเปิดในวันถัดมาและมูลค่าตลาดของจงเหว่ย,หัวซินและหยงจิ๋วก็ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มหยงจิ่วที่มีเทคโนโลยีในการผลิตชิป ขนาด 5 นาโนเมตรจริงๆทําให้มีมูลค่าการเติมโตของตลาดเพิ่มขึ้นจาก 100 พันล้านเป็น 200 พันล้านในหนึ่งวัน!หยุนเฉิง,บริษัทแรกที่มีมูลค่าตลาดถึง 200 พันล้านได้ถือกําเนิดขึ้น!
ในจังหวะเดียวกันก็ได้แซงหน้าห้างสรรพสินค้ายี่ต้าที่มีมูลค่าตลาดกว่า 180 พันล้านหยวนทําให้หลินฟานได้เข้ามาแทนที่หวังไห่หลิน และกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในหยุนเฉิง!สร้างความตื่นเต้นให้กับคนทั้งเมือง
จากการเติบโตของหลินฟานจนถึงช่วงเวลาที่หลินฟานได้กลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในหยุนเฉิงก็ใช้เวลาแค่เพียงไม่ถึงครึ่งเดือน
มันคือปาฏิหาริย์แห่งปาฏิหาริย์
ปฏิกิริยาจากทุกฝ่ายจึงเพิ่มความสนใจมากขึ้น
คนส่วนใหญ่ในหยุนเฉิงต่างชื่นชมและคุกเข่าลงให้กับหลินฟาน
คนส่วนใหญ่ในโลกธุรกิจ ต่างก็คุกเข่าลงเช่นกันเมื่อพวกเขาคิดว่าพวกเขาได้ผูกมิตรกับหลินฟานเมื่อวานนี้พวกเขาก็รู้สึกว่าพวกเขามีวิสัยทัศน์ที่ดีกลุ่มหยงจิ๋วในตอนนี้ได้สร้างแรกกดดันมากมาย ใครจะไปรู้มันถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะเข้าไปประจบให้เร็วที่สุด
ซ่งทรงเหมาประธานหอการค้ามีความสุขมากเขาแสดงออกถึงความภาคภูมิใจเล็กน้อยเมื่อวานนี้เขาได้เชิญหลินฟานเข้าร่วมสโมสรแสนล้านโดยไม่ลังเลเขามองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับหลินพ่าน และวิสัยทัศน์ของเขาก็ดีเสมอมา
เหอเฉา ซีอีโอ ของ จงถงเอ็กเพรสก็รู้สึกตื่นเต้นมากเช่นกัน
เหอเฉาได้ลงทุนในเทียนต้าแอร์ไลน์ไปล่วงหน้าแล้วเพราะเขามองเห็นความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นกับเทียนต้าแอร์ไลน์และในตอนนี้มันก็ทําเงินได้มากมายให้กับเขาในวันนี้
ทรัพย์สินส่วนตัวของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!
บางคนมีความสุข และบางคนก็อาจจะเศร้า..
หวังไห่หลินเกือบจะเป็นลมเมื่อเขารู้ว่ามูลค่าตลาดของกลุ่มหยงจิ๋วนั้นเกิน 2 แสนล้านไปแล้วในเวลานี้
เขาเดิมพันกับ เหอเฉา เมื่อวานนี้ และปฏิเสธที่จะฟังคําแนะนําใดๆ ของเหอเฉากลับเลือกที่จะรอดูเพราะเขากังวลว่ากลุ่มหยงจิ่ว จะเป็นเพียงก้อนฟองสบู่ขนาดยักษ์ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ ลงทุนในกลุ่ม หยงจิ๋ว
แต่ผลลัพธ์ที่ปราก คือมูลค่าตลาดที่พุ่งสูงขึ้นถึงหลายแสนล้าน ภายในหนึ่งวัน!ถ้าเขาได้ซื้อมันไว้ล่วงหน้าเขาจะทําเงินได้อย่างมหาศาลอย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ทํามัน…ไป..
รายได้ของเขาเป็นศูนย์ และเขาก็ไม่ได้อะไรจากมันเลย
หวัง ไห่หลิน รู้สึกเสียใจจนถึงลําไส้และมันก็แทบจะเป็นสีเขียว และมหาเศรษฐีผู้สง่างามในตอนนี้กําลังทุบหน้าอกของตัวเองในบริษัท ซึ่งทําให้พนักงานที่พบเห็นรู้สึกหวาดกลัวเจ้านายไม่ใช่คิดว่า บริษัท กําลังล้มละลาย ใช่ไหม
…
ที่แย่ไปกว่านั้นหวังไห่หลินไม่สามารถทําเงินได้แต่เป็นเหอเฉาที่ทํามันได้
แม้ว่าโลกภายนอกจะยังไม่รับรู้แต่หวังไห่หลินรู้ดีว่าหลังจากนี้เขาจะถูกแทนที่โดยหลินฟานในฐานะของชายที่ร่ำรวยที่สุดตําแหน่งรองลงมาก็อาจจะถูกเหอเฉาแย่งชิงไป… แน่นอนหวังไห่หลิน ไม่ใช่คนที่แย่ที่สุด ณ เวลานี้หนึ่ง
อย่างน้อยในบรรดามหาเศรษฐีพันล้านในหยุนเฉิงก็มีเฟิงว่านชานที่ดูแย่ยิ่งกว่าเขา ..อีกคน
เมื่อรู้ว่ามูลค่าตลาดของ หยงจิ่ว กรุ๊ป เกิน 200 พันล้านหลินฟาน ก็กลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในหยุนเฉิงเฟิงว่านซานในตอนนี้แทบอยากจะอาเจียนเป็นเลือดถึงสามถังทันทีและดวงตาของเขาก็มืด จนแทบจะดับลง เขาก็เกือบจะเป็นลมแล้ว ในเวลานี้
ระเบิดลูกนี้มันขนาดใหญ่เกินไปและเขายังไม่พบวิธีที่จะโจมตีกลุ่มหยงจิ๋วแต่มูลค่าตลาดของมันกลับสูงขึ้นถึง 2 แสนล้าน!
มันทําได้ยังไง!
เขาไม่ต้องการเล่นอีกแล้ว หลินฟานแข็งแกร่งมากในอนาคตเขาจะหาทางอยู่รอดได้อย่างไร..
เมื่อบริษัทมีขนาดถึง 200 พันล้าน ความยากในการสอดแนมก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับ100 พันล้าน
ลืมมันไปเถอะ วันนี้เขาเฟิงว่านซานคนนี้โดนอีกแล้ว
ผลกระทบจากเรื่องอื้อฉาว ในครั้งก่อน ทําให้ตลาดหุ้นของ เซ็งซี กรุ๊ปซบเซาลงอย่างมาก และวันนี้มันได้สร้างจุดต่ำสุด ครั้งใหม่ ซึ่งมันตกลงมาต่ำกว่า 100 พันล้าน!
นี่คือ การฟาดฟันอย่างหนักหน่วง …อย่างแท้จริงเฟิงว่านซานก๋าลังจะกลายเป็นบ้า
ต่อมาเฟิงว่านซานได้รับคําเตือนจากสโมสรแสนล้านมูลค่าตลาดของเซิงซีกรุ๊ปลดลงมาต่ำกว่า 100 พันล้านเฟิงว่านซานเข้าสู่ช่วงตรวจสอบแล้วหากมูลค่าตลาดของเซ็งซีกรุ๊ปไม่สามารถตีกลับขึ้นมาได้มากกว่า 100 พันล้านในช่วงเวลาตรวจสอบเฟิงว่านซานจะถูกขับออกจากสโมสรแสนล้าน!
นั้นทําให้เฟิงว่านชานตกอยู่ในความวิตกกังวลในทันที
เขาไม่มีเวลาและไม่สามารถโจมตีกลุ่มหยงจิ่วได้และเขาไม่สามารถปกป้องตัวเองได้เช่นกันในเวลานี้เขาต้องการทําให้มูลค่าตลาดของเซ็งซีกรุ๊ปฟื้นตัวโดยเร็วที่สุดขณะที่กลุ่มหยงจิ๋วได้สร้างตํานานตลาดหุ้นที่น่าอัศจรรย์ขึ้นมหาเศรษฐีทั้งสามของหยุนเฉิง ถูกเปลี่ยนมือภายในหนึ่งวัน
หลินฟาน ในฐานะมหาเศรษฐีหน้าใหม่ได้กลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในหยุนเฉิง และหวังไห่หลินอดีตชายที่ร่ำรวยที่สุดในหยุนเฉิง กลายเป็นอันดับสามเหอเฉายังคงเป็นอันดับสอง เพราะ เขาได้แซงหน้า หวัง ไห่หลิน ไปแล้ว
และ เฟิง ว่านซาน ถูกผลักออกไป
นี่เป็นเพียงการสับเปลี่ยนครั้งใหญ่ สําหรับโลกธุรกิจในหยุนเฉิง มันไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นแบบ นี้ มาเป็นเวลานานแล้ว ทั้งโลกธุรกิจกําลังพูดถึงเรื่องนี้
และด้วยการเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนของบริษัท 200 พันล้านในหยุนเฉิง ชื่อของ หลินฟาน ถูกพบเห็นโดยเจ้านายใหญ่เป็นครั้งแรก
เว่ย เทียนเฉิง มหาเศรษฐีทางตอนใต้ของแม่น้ําแยงซี เป็น ซีอีโอ ของ วั่นกู่ กรุ๊ป!
วั่นกู่ กรุ๊ป บริษัทขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตลาด 350,000 ล้าน
ในฐานะที่ร่ำรวยที่สุดทางตอนใต้ของแม่น้ําแยงซี แววตาของ เว่ย เทียนเฉิง อยู่ที่ตลาดขนาด ใหญ่ภายในประเทศ และพยายามที่จะไปให้ไกลกว่าเดิม เว่ย เทียนเฉิง ไม่สนใจ โลกธุรกิจ ในหยุนเฉิง
แต่คราวนี้ กลับเป็นข้อยกเว้น ชื่อของ หลินฟาน เข้ามาในดวงตาของ เว่ย เทียนเฉิง ในเวลานี้
หนานเฉิง เมืองหลวงของเจียงหนาน
ตึกสูงที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน ตึกวั่นกู่
ที่ชั้นบนสุด
เว่ย เทียนเฉิง นั่งอยู่ในห้องทํางานอันกว้างขวางของเขา จ้องมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ และ ใบหน้าที่หล่อเหลา ก็ปรากฏให้เห็น
ดวงตาของเขาดูประหลาดใจเล็กน้อย จนเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา และเขาก็อดพึมพํา
ไม่ได้ว่า : “หลินฟาน…อายุแค่ 21 ปี…กลับมีคนแบบนี้.. ในหยุนเฉิง?”
ในเวลาเดียวกัน
หยุนเฉิง ภายในหมู่บ้าน ภายในอพาร์ตเมนต์ธรรมดาๆ
“อ๊ะ ฮัดเช่ย!”
หลินฟาน เพิ่งตื่นจากการนอน และเกิดจามขึ้นมา
“ใครมาสนเรื่องของฉันอีกล่ะ” หลินฟาน พึมพํา แล้วลุกขึ้น
สองวันมานี้ เขาเหนื่อยจนเกินไปแล้ว
หลังจากไปเยี่ยม หลิน ต้าเหว่ย ที่โรงพยาบาลเมื่อวานนี้ หลินฟาน ก็ออกจากโรงพยาบาล และยุ่งเรื่องเกี่ยวกับบริษัท เขาทํางานเสร็จช้ามาก และขี้เกียจเกินไปที่จะกลับไปที่ หยุนติงวิลล่า
เขาจึงกลับมาที่อพาร์ตเมนต์เล็กๆ แห่งนี้ เพื่อนอน สักคืนหนึ่ง
เมื่อเขาตื่นขึ้นมา หลินฟาน พบว่า โทรศัพท์มือถือของเขาแทบจะระเบิด มีสายเข้า และก็มี
ข้อความเข้ามาจํานวนมาก
เมื่อมองดูในแวบแรก ปรากฎว่า มูลค่าตลาดของ เทียนต้า แอร์ไลน์ ทะลุ 200 พันล้านแล้ว!
หลินฟาน อดไม่ได้ที่จะดีใจ และรีบตรวจสอบความคืบหน้าของภารกิจ
“ภารกิจหลัก : สร้างกลุ่มล้านล้าน
ระดับภารกิจ : สําคัญ
ความคืบหน้าภารกิจ : 20/100
ใช่ ความคืบหน้าเช่นนี้ คือ ดีมาก ถ้ายัง คงใช้เวลาไม่นานในการทําภารกิจหลักเช่นนี้ คงจะ
สําเร็จในไม่ช้า
ในเวลานี้ มีสายโทรเข้ามา เป็นพี่สาวที่ร่ำรวยที่สุด เพิ่ง รั่วหลาน
หลินฟาน กดรับสาย
“เสี่ยวฟาน ฉันต้องต้องพูดว่าไงดีล่ะ จริงอยู่ที่เราไม่ได้เจอกันมาตั้งสามวันแล้ว พี่สาวอย่างฉัน ไปทําธุรกิจมาสองวัน ไม่คิดว่ามูลค่าตลาดของบริษัทของเธอจะเกิน 200 พันล้านแล้ว ยินดีด้วย
ตอนนี้เธอกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในหยุนเฉิง” เฟิง รัวหลาน หัวเราะ
เนื่องจากเธอต้องเดินทางไปทําธุรกิจ เธอจึงไม่ได้เข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจ ในครั้งที่ผ่าน มานี้ แต่เมื่อเธอกลับมาในวันนี้ เธอกลับพบว่า หลินฟาน ได้กลายเป็นจุดเด่น ในการประชุมทาง
ธุรกิจ เมื่อวานนี้
หลินฟาน ยิ้ม แล้วพูดว่า “ขอบคุณพี่สาว พี่สาวกลับมาที่หยุนเฉิงหรือยัง?”
เพิ่ง รั่วหลาน กล่าวว่า : “กลับมาแล้ว แล้วจะอย่างไร พ่อคนที่ร่ำรวยที่สุดในหยุนเฉิง คุณมี
เวลาว่าง มาทานอาหารกับฉันตอนเที่ยงหรือไม่?”
หลินฟาน มองดูเวลา เกือบจะได้เวลาทานอาหารกลางวันแล้ว แล้วพูดออกไปว่า “ตกลงครับ
พี่สาวของผมอยู่ที่ไหน เดี๋ยวผมจะไปรับเอง”
เพิ่ง รั่วหลาน กล่าวว่า “ฉันอยู่ในบริษัท มาที่นี่เลย”
หลงเหิง กรุ๊ป
หลินฟาน ขับรถ Rolls-Royce มาที่ชั้นล่างของบริษัท หลงเหิง
เพิ่ง รั่วหลาน กําลังรอเขาอยู่ที่ชั้นล่าง ดังนั้นเธอจึงเข้าไปในรถของเขา และนั่งในตําแหน่ง
ข้างคนขับ ทุกครั้งที่ หลินฟาน เห็น เพิ่ง รั่วหลาน หัวใจของเขาก็จะเต้นเร็วขึ้น พี่สาวที่ร่ำรวยที่สุด ช่าง สวยเกินไปจริงๆ ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะอธิบายว่าเป็นความงามของชาติ เลยด้วยซ้ํา
“พี่สาว เราจะไปกินข้าวกันที่ไหน?” หลินฟาน ถาม
เฟิง รั่วหลาน กล่าวว่า “ฉันมีเพื่อนสาวที่ดีคนหนึ่ง เธอเพิ่งเปิดร้านอาหาร เธอบอกกับฉันเสมอ
ว่า รสชาติดีมาก.. เราจะไปลองดูกันไหม?”
เมื่อพูดถึงเพื่อนสาวที่ดี หลินฟาน อดไม่ได้ที่จะนึกถึง ฟ่าน เสี่ยวเสวี่ย เพื่อนซี้ชาเขียวของ เพิ่ง รั่วหลาน และเขาก็ค่อนข้างกลัวพี่สาวที่ดีคนนี้ ขึ้นมานิดหน่อยแล้ว… อย่างไรก็ตาม หลินฟาน ไม่ต้องการทําให้พี่สาวของเขาหมดความสนุกไป จึงตอบไปว่า
“โอเค”
ด้านหน้าถนน ซึ่งเป็นร้านอาหารที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นคือจุดหมายของพวกเขา หลินฟาน จอดรถไว้บนถนน และเดินเข้าไปในร้านอาหารกับ เพิ่ง รั่วหลาน อย่างไรก็ตาม
ทันทีที่พวกเขามาถึงประตู พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างในประตู กลุ่มคนได้มารวมตัวกัน และดูเหมือนว่าจะมีการโต้เถียงกัน เกิดขึ้น..