ระบบลงชื่อเข้าใช้ระดับพระเจ้า เริ่มต้นจาก 100 พันล้าน - ตอนที่ 346 ผมเป็นใคร? ผมชื่อ หลิน ฟาน
- Home
- ระบบลงชื่อเข้าใช้ระดับพระเจ้า เริ่มต้นจาก 100 พันล้าน
- ตอนที่ 346 ผมเป็นใคร? ผมชื่อ หลิน ฟาน
ตอนที่ 346 ผมเป็นใคร? ผมชื่อ หลิน ฟาน
หลินฟาน ขับรถ Rolls-Royce ไปมหาวิทยาลัย เพื่อรับ ชู เสี่ยวเซียว และขับรถไปที่บ้านของ ครอบครัวฉู่
คฤหาสถ์ตระกูลฉู่ สร้างขึ้นในพื้นที่ที่อุดมไปด้วยสภาพแวดล้อมที่ดีมาก
ย่านนี้ส่วนใหญ่มักจะพบเห็นรถหรูได้บ่อยครั้ง โดยปกติแล้วคนที่อยู่ในย่านนี้มักจะเป็นคนรวย เสียส่วนใหญ่ ซึ่งก็ขับรถสปอร์ตหรูๆ ราคาแพง ถ้ามองหารถธรรมดาๆ ก็หาได้ยากมาก โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่ขับรถธรรมดามักจะเป็นคนขับแท็กซี่ คนส่งอาหาร และอื่นๆ
หลินฟาน ขับรถ Rolls-Royce ไปตามถนน ข้างหน้าเป็นทางแยก หลินฟาน เห็น Ferrari วิ่ง มาด้วยความเร็วมากกว่ารถของเขา หลินฟาน เหยียบเบรก และหยุดรถทันที
มีความเป็นไปได้สูงที่คนขับรถคันนี้จะเป็นคนรวยรุ่นที่สอง แต่ หลินฟาน ไม่ต้องการเสี่ยงชีวิต
กับคนแบบนี้
อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้โชคดีนัก เมื่อเห็นรถยนต์ไฟฟ้าที่กําลังไปส่งอาหาร จากสี่แยกข้างหน้า พนักงานส่งอาหารไม่คิดว่าซูเปอร์คาร์คันนี้จะวิ่งเร็วขนาดนี้ เขาจึงหักหัวรถเข้ามุม แล้ว พยายามที่จะหลบ แต่ก็ยังช้าเกินไป…
รถยนต์ไฟฟ้า และซูเปอร์คาร์สุดหรู วิ่งส่วนกัน และรถยนต์ไฟฟ้าพลิกคว่ําในที่เกิดเหตุ รถสปอร์ตหรู อย่าง Ferrari หยุดทันทีที่ข้างถนน ด้านหนึ่งของประตูเห็นได้ชัดว่ามีร่องรอย ของการเสียดสีอย่างชัดเจน และชิ้นส่วนของสีก็หลุดลอกออกไปบ้างส่วน
ด้านข้างของรถยนต์ไฟฟ้าล้มนอนอยู่กับพื้น ก็พบกล่องอาหารอยู่ 1 กล่องที่ดูบู๊บี้ และน้ําผล
ไม้ที่หกไปทั่วพื้น
คนส่งอาหารกระเด็นไปล้มลงกับพื้น ดูจากที่เห็นแล้ว คงลุกเดินลําบากนิดหน่อย เท้าของเขา อาจจะบาดเจ็บ คงฝืนเดินไม่ได้สักพัก
“แกตาบอดหรือไง!”
ในที่นั่งคนขับของ Ferrari ชายหนุ่มยื่นหัวออกมา และชี้นิ้ว ไปที่คนส่งอาหาร และสบถด่า
ออกมา
ชายหนุ่มรีบเปิดประตูรถ และลงมาจากรถในทันที
ชายหนุ่มคนนี้แต่งตัวตามแฟชั่น ย้อมผมสีเหลือง และดูเหมือนพวกอันธพาล แต่ก็ดูแตกต่าง จากพวกอันธพาล เพราะทั้งตัวของเขาก็เต็มไปด้วยแบรนด์ดัง อย่างน้อยๆ ทั้งตัวของเขาก็ต้องใช้ เงินเกือบแสน หากจะใส่ให้ครบทั้งตัวขนาดนี้ แล้วนี้ก็ไม่ใช่ สิ่งที่พวกอันธพาลธรรมดาๆ สามารถ หาซื้อได้ด้วย
แล้วนี่ก็แน่ชัดแล้วว่า ต้องเป็นคนรวยรุ่นที่สอง.. อย่างแน่นอน
เมื่อเห็นรอยขีดข่วนที่ประตูรถ ชายหนุ่มรุ่นที่สอง ก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาในทันที และเอามือมา กุมมือของเขาเอง แล้วสบถออกมาว่า : “ฟัค…ฟัค…แม่มัน.. ดูรถของ เล่าจื๊อ สิ ว่าแกท่าอะไรลง ไปกับรถของฉัน!”
ชายหนุ่มรุ่นที่สอง ชี้ไปที่หน้าของ คนส่งอาหาร และสบถด่าออกมา
คนส่งอาหารสังเกตเห็นว่ารถ Ferrari มีรอยขีดข่วน ขาของเขาก็อ่อนแรงลงจนเกือบล้ม แล้ว ใบหน้าของเขาก็ซีดเซียวลง ชิบหายแล้วไหมล่ะ! ต่อให้เขาใช้เวลาเป็นหลายร้อยหลานพันวัน
แล้วจะหาเงินหลายแสนได้จากที่ไหนกัน!
แน่นอนว่าเขาไม่สามารถจ่ายได
แม่มันเถอะ! เขาไม่ควรมาส่งอาหารในย่านคนรวยบ้าๆ นี้ เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งก็เตือนเขาแล้ว ว่าเมื่อส่งอาหารในแถบที่อยู่คนรวย ก็ต้องระวังตัวให้มาก หากทําให้รถของพวกคนรวยเกิดรอยขีด
ข่วน มันก็จะกลายเป็นบาดแผลฝังใจไปจนเกือบทั้งชีวิตของคุณ…
ไม่คิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่เลวร้ายที่สุด นี่คือสิ่งที่เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้น
หม้อนี้ พนักงานส่งอาหาร ไม่ต้องการแบกรับมัน…(1)
คนส่งอาหาร พูดว่า “เรื่องนี้.. มันไม่ใช่เรื่องของฉัน คุณขับรถเร็วเกินไป ในสถานที่แบบนี้ คุณ ไม่ควรขับรถเร็ว”
รอ?”
“ว่าอะไรนะ?” ชายหนุ่มรุ่นที่สอง โกรธ “แกทําให้รถฉันพัง แกกําลังเล่นตลกกับฉันอยู่งั้นเห
คนส่งอาหาร รีบกล่าวว่า “ฉันไม่ได้จะเล่นตลกอะไรกับคุณ นี่มันไม่ใช่ความผิดของฉันเลย ฉัน ขับรถของฉันมาดีๆ และมันก็เป็นความผิดของคุณ ที่ขับรถเร็ว”
เขาไม่สามารถยอมรับความผิดนี้ ไม่ว่ายังไง ถ้าเขายอมรับความผิดนี้ไป เขาก็ต้องชดใช้ให้อีก ฝ่ายหนึ่ง แล้วเขาจะไปมีเงินจ่ายค่าเสียหายของรถ Ferrari คันนี้ .. ได้อย่างไร?
ชายหนุ่มรุ่นที่สอง พูดออกมาอย่างโกรธเคืองว่า : “ได๋ ดี ดีมาก แกต้องการเล่นกับฉัน อย่าไป ไหน แกต้องอยู่ที่นี่!”
ชายหนุ่มรุ่นที่สองหยิบมือถือออกมาโทรออกไปเพื่อหากําลังเสริมมาช่วย
ไม่มีทางที่ชายหนุ่มรุ่นที่สอง หากมาเปรียบเทียบตัวเขาเองกับคนส่งอาหารคนนี้ ในแง่ของรูป ร่างแล้ว เขากลัวที่จะแพ้คนส่งอาหารคนนี้ และเขากลัวว่าเขาจะเสียหน้า ทั่งอาจจะพ่ายแพ้จาก
การต่อสู้กับคนส่งอาหารคนนี้
เมื่อพนักงานส่งอาหารเห็นว่าอีกฝ่ายโทรหาใครซักคน เขาจะกล้าดียังไงที่จะอยู่ที่นี่ได้อีก เขา
อดทนต่อความเจ็บปวด แล้ววิ่งอย่างรวดเร็วไปที่รถยนต์ไฟฟ้าของเขา และคิดที่จะหลบหนีออก
ไป
อย่างไรก็ตาม มันดีที่จะตาย(2)… รถยนต์ไฟฟ้าของเขาเสีย สตาร์ทเท่าไหร่ก็สตาร์ทไม่ติด พนักงานส่งอาหารก็มีเหงื่อออกมากขึ้นในเวลานี้
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ชายหนุ่มรุ่นที่สองก็หัวเราะ เย้ยหยัน ออกมาในทันที : “แกไม่ต้องการที่จะหนี แล้วเหรอ ฮ่าๆ ยอมแพ้เถอะน่า แกหนีไม่พ้นหรอก!”
การเคลื่อนไหวที่นี่ได้ดึงดูดผู้คนโดยรอบ
ไม่นานก็มีรถสายตรวจไฟฟ้าขับผ่านเข้ามา ซึ่งปกติจะพบเห็นได้ในสนามกอล์ฟ
ชายร่างใหญ่สี่คนกระโดดลงมาจากรถ ทุกคนดูมีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง
เมื่อเห็นเช่นนี้ ชายหนุ่มรุ่นที่สอง ก็มีความสุขขึ้นมาในทันที และชี้ไปที่คนส่งอาหารคนนั้น แล้วกล่าวว่า : “ผู้ชายคนนี้ชนรถของฉัน แล้วยังพยายามที่จะหลบหนี จับเขามาให้ฉัน!” ชายร่างใหญ่สี่คนรุมล้อมคนส่งอาหาร
ชายร่างใหญ่คนหนึ่งยื่นมือออกไปเพื่อจะจับคนส่งอาหารคนนี้ จากนั้นดึงคนส่งอาหารออก
จากรถยนต์ไฟฟ้าของเขา
“แม่มึง คุกเข่าลงไป!”
ชายร่างใหญ่เตะขาคนส่งอาหาร คนส่งอาหารไม่สามารถทําอะไรได้ จึงล้มลงคุกเข่าไปใน ทันที และถูกชายร่างใหญ่กดร่างของเขาอีกทีหนึ่ง จนขยับตัวไม่ได้กลัว
คนส่งอาหาร ตกใจมาก จนหน้าเขาซีดเผือกไปทั้งตัว
“ขอโทษ ขอโทษที มันไม่ใช่ความผิดของฉัน.. จริงๆ” คนส่งอาหารร้องไห้ออกมาด้วยความ
“ให้ตายสิ แกขับรถชนรถฉัน วันนี้หากแกไม่คิดที่จะจ่ายค่าเสียหายมาให้ฉัน ก็อย่าแม้แต่จะคิด ที่ออกไปเลย ฉันจะทุบตีแกให้ตายตรงนี้แหละ!” ชายหนุ่มรุ่นที่สอง คํารามออกมา ชายหนุ่มรุ่นที่สองคนนี้ กําลังขับรถสปอร์ต Ferrari คันนี้ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ๆ เดิมที เขาต้องการ จะลองขี่ม้าตัวใหม่ตัวนี้กับผู้หญิงคนใหม่ของเขา ใครจะไปรู้ว่ามันจะเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ จะไม่ให้
เขาโกรธได้อย่างไร?
เขาตั้งใจจะอวดทักษะของเขา แต่ต่อมาเขาก็สูญเสียการควบคุม และไถลไปชนกับรถยนต์ ไฟฟ้าของคนส่งอาหารเข้า
ในอีกด้านหนึ่ง ชายหนุ่มรุ่นที่สอง ก็รู้สึกเสียหน้า ทั่งอับอายอย่างมาก แล้วในทางกลับกัน เขา ก็โกรธมากเช่นกัน
แต่คนส่งอาหารก็ตัดสินใจเช่นกัน และเขาไม่มีทางที่จะยอมรับในเรื่องนี้ว่าเขาผิด “ถ้าอยากให้ ฉันเสียเงิน ทําไม่คุณไม่ปล้นฉันเสียเลยล่ะ ไม่ต้องพูดถึงว่าคุณขับรถโดยประมาทก่อน แล้วฉันก็ ไม่ได้ขอให้คุณจ่ายค่าชดใช้ให้รถไฟฟ้าของฉันเลยด้วย! ฉันมีจ่ายให้คุณแค่ไม่เกินสองสามร้อย
หยวน เอาไหมหะ!”
ชายหนุ่มรุ่นที่สอง เริ่มโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้ว : “คุณรู้หรือไม่ว่ารถของฉันคันนี้มันแพงแค่ไหน 4 ล้าน! ไม่กี่ร้อยหยวน ทําไม.. ทําไมแกถึงคิดว่าฉันขับรถเก่าๆ พักๆ เหมือนแกงั้นเหรอ!.. อย่าง น้อยแกต้องจ่ายให้ฉันมา 200,000 หยวน และฉันจะได้เรียกเก็บเงินจากแก สําหรับค่าชดใช้ให้ ฉัน 200,000 หยวน มันก็ถูกสําหรับแกแล้ว แล้วถ้าแกยังไม่จ่ายเงินมา เชื่อหรือไม่… ว่าฉันจะฆ่า
แก!”
คนส่งอาหารดูหวาดกลัวมาก และรีบพูดไปว่า “คุณก็รีบทุบตีฉันให้ตายเสียตรงนี้เลย ฉันมีเงิน ไม่มาก ถึงอย่างไรฉันก็ไม่มีจ่าย.. งั้นก็รีบทุบตีฉันให้ตายเลย”
ชายหนุ่มรุ่นที่สอง โกรธมาก แล้วพูดไปว่า : “ทุบตีเขา.. ทุบตีเขาให้ตาย!” เมื่อเห็นว่าชายร่างใหญ่สองสามคนกําลังจะเข้ามาทุบตีคนส่งอาหารอีกครั้ง
“เฮ้..! หยุดก่อน!”
จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น
หลินฟาน ลงจากรถ Rolls-Royce และเข้ามาหยุดพวกเขาไว้
ไม่มีทางอุบัติเหตุนี้ได้ปิดกั้นทางแยก รถของเขาก็ไม่สามารถผ่านไปได้ มีเพียงต้องแก้ไข
ปัญหานี้เท่านั้น เขาถึงสามารถผ่านไปได้
หลินฟาน เคยส่งอาหารมาก่อน และเขาก็รู้สึกสนิทสนมคุ้นเคยกับคนส่งอาหาร นอกจากนี้ เขา เพิ่งได้เห็นอุบัติเหตุด้วยตาของเขาเอง และเขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยให้คนส่งอาหารที่ไม่ได้ทํา อะไรผิดถูกทุบตีโดยเปล่าประโยชน์
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่ หลินฟาน
ชายหนุ่มรุ่นที่สองมองขึ้นลง และพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “แล้ว.. แกเป็นใคร?”
หลินฟาน ขับรถ Rolls-Royce ที่มีราคา 8 ล้านต่อคัน แต่รถหรูประเภทนี้ดูไม่สะดุดตานัก.. ยิ่ง
ในย่านคนรวยเช่นนี้ ซึ่งมีรถยนต์หรูหราวิ่งผ่านให้เห็นอยู่บ่อย
หลินฟาน ยิ้ม แล้วพูดว่า “ผมแค่ผ่านมา แล้วเห็นพวกคุณชนกัน ผมแค่คิดว่าผม.. สามารถพูด
อะไรได้”
ฉัน?”
ชายหนุ่มรุ่นที่สอง กล่าวว่า : “ฉันถามว่าแกเป็นใคร แล้วแกมีคุณสมบัติอะไรมายุ่งเรื่องของ
หลินฟาน กล่าวว่า “ผมเป็นใคร? โอ้.. ได้ ผมชื่อ หลินฟาน”
(1)[หม้อนี้ พนักงานส่งอาหาร ไม่ต้องการแบกรับมัน (X #### zhe ge guô wó bù bēi)] – มันคือวลีหนึ่งที่ใช้กันบ่อยมากในจีน คือการไม่รับอย่างหนึ่งอย่างใด ในนาม ของผู้อื่น ซึ่งในกรณีของ คนส่งอาหารในตอนนี้ เขาไม่ได้ทําอะไรผิด เขาจะไปรับผิดได้
อย่างไร
(2)[มันดีที่จะตาย (“3969/hāo sī bù si)] – มันเป็นคําพูดในสํานวน และวลี หรือ ประโยค เกี่ยวกับความตาย แต่จริงๆ แล้วมันกับใช้ในคํา หรือรูปประโยคไม่คาดฝัน จริงๆ หรือใช้กับเหตุบังเอิญ เช่นในตอนนี้ คนส่งอาหารกําลังรีบวิ่งไปที่รถของเขา แต่สุดท้าย “มันดีที่จะตาย” รถกลับสตาร์ทไม่ติด คือ “เหตุการณ์ที่เสี่ยงต่อความตายอยู่ตรงหน้า กลับเกิดเหตุการณ์ที่นําไปสู่ความตายขึ้นมาได้พอดี” ประมาณนี้ครับ
ต่อมารถสายตรวจไฟฟ้า คิดว่าหลายๆ คนคงไม่คุ้นเคย ไม่รู้ว่าลงภาพได้ไหมนะครับ
มันคือรถที่ให้ใช้กับกองกําลังในเขตการปกครอง
ภาพนี้เป็นของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน