ระบบลงชื่อเข้าใช้ระดับพระเจ้า เริ่มต้นจาก 100 พันล้าน - ตอนที่ 352 การต่อสู้ที่ไร้ซึ่งสัญญาณใดๆ
- Home
- ระบบลงชื่อเข้าใช้ระดับพระเจ้า เริ่มต้นจาก 100 พันล้าน
- ตอนที่ 352 การต่อสู้ที่ไร้ซึ่งสัญญาณใดๆ
ตอนที่ 352 การต่อสู้ที่ไร้ซึ่งสัญญาณใดๆ
ใบหน้าของ คุณนายฉู่ซีดลง
หญิงชราฉู่ก็ตกใจอย่างมากและโกรธขึ้นมาในทันทีเธอจ้องมองไปที่ฉู่หลินแล้วพูดว่า : “ฉ่หลินเธอท่าได้ดีมาก!”
ฉู่ หลินร้องไห้ออกมาอย่างข่มขื่นแล้วพูดออกมาว่า:“ผมขอโทษคุณยายผมรู้แล้วว่าผมผิดผมขอร้องคุณยายช่วยขอความเมตตาจากคุณหลินให้ปล่อยผมไปด้วยเถอะ!”
ก่อนที่หญิงชราฉู่จะพูดคุณนายฉู่ก็รีบกล่าวว่า“หลินเอ๋อร์ไม่สามารถติดคุกได้และเขาก็ไม่สามารถสู้คดีนี้ได้ด้วยฉันขอให้คุณหลินแสดงความเมตตาในครั้งนี้ด้วยเถอะ”
หลินฟานกล่าวว่า“ทุกคนควรชดใช้ในสิ่งที่ทําผิดไปโดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่านายน้อยฉ่สมควรเข้าไปพิจารณาตนเองแล้วนี่ คุณนายฉู่คิดเห็นอย่างไร?”
คุณนายฉู่ ถึงกลับพูดไม่ออก ..ไม่รู้ว่าจะตอบกลับหลินฟาน อย่างไร
หญิงชราฉู่ โกรธจัดแล้วในเวลานี้: “ฉู่หลินไอ้เด็กสารเลวคุกเข่าลงต่อหน้าฉันซะ!”
ฉู่หลินร้องไห้และคุกเข่าลงเขาไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟังคําสั่งของหญิงชรา
หญิงชราฉู่ดุด่าออกไปว่า : “ฉันได้บอกออกไปแล้วว่าวันนี้จะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกและรอคุณหลินอยู่ที่บ้านแต่แกกลับออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาตและยังสร้างปัญหาใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมาอีกนี่ฉันตาบอดจริงๆหรือเป็นเพราะตาสุนัขของฉัน!(1)”
มาก
หญิงชราฉี่ ดุด่า ฉู่ หลิน ต่อหน้าทุกคน
ฉู่ หลิน ตกใจจนหน้าซีดด้วยความกลัวและคุกเข่าลงกับพื้นไม่กล้าพูดอะไรทุกคนก้มหัวลงและไม่กล้ามองหน้าหญิงชราฉู่เลยหากหญิงชราโกรธมันเป็นเรื่องที่น่ากลัว
แม้แต่คุณนายฉู่ก็ไม่กล้าพูดอะไรแม้ใจจะรีบร้อนอย่างไรก็ตาม นั้นก็เพราะเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะติดคุก
หลังจากหญิงชราฉู่พูดจบเธอหันมามองไปที่หลินฟานอย่างช้าๆ และพูดด้วยรอยยิ้มขอโทษออกมาไปว่า :“คุณหลินหลานชายของฉันคนนี้ไม่รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิดและอาจทําให้คุณขุ่นเคืองฉันต้องขอโทษคุณแทนเขาในครั้งนี้ด้วย”
หลินฟาน กล่าวว่า “ท่านแม่เฒ่าไม่จําเป็นต้องขอโทษผมหรอก แล้วมันก็ไม่ใช่ความผิดของคุณแต่มันเป็นความผิดของเขา”
หญิงชราฉู่ยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า“คุณหลินพูดถูกแล้วฉันจะลงโทษเขาในครั้งนี้และจะให้เขาได้จดจําบทเรียนในครั้งนี้!แต่…เขาก็ยังเด็กอยู่จริงๆถ้าเขามีคดีในขณะที่เขายังอายุน้อยๆเช่นนี้มันก็อาจจะลําบากสําหรับเขาในอนาคตฉันสงสัยว่าถ้าคุณหลินจะสามารถเห็นแก่ใบหน้าของหญิงชราและไว้ชีวิตเขาในครั้งนี้มันพอจะได้ไหม?”
ในที่สุดเธอก็เปิดปากของเธอเพื่อที่จะขอร้องอ้อนวอนเธอเองก็มักจะตามใจฉู่หลินอยู่แล้ว… แล้วเธอจะเอาเขาเข้าคุกได้อย่างไร ถึงเธอจะดุด่าฉู่หลินต่อหน้าหลินฟานโดยส่วนใหญ่ก็เพื่อให้หลินฟานได้เห็น
หลินฟานแค่มองดูก็รู้แล้ว.. เขายิ้มแล้วพูดออกไปว่า“ถ้าผมจะส่งเขาเข้าไปจริงๆ.. ผมคงโทรแจ้งตํารวจไปนานแล้วและที่ผมมาที่นี่ เพื่อขอคําแนะนําจากหญิงชราแต่เนื่องจากหญิงชราพูดออกมาอย่างนี้แล้วก็ได้ครับครั้งนี้ผมจะยอมปล่อยผ่านไป
หญิงชราฉี่ มีความสุขมากแล้วพูดว่า:“ขอบคุณคุณหลินฉู่หลินรีบเข้ามาขอบคุณคุณหลินเร็ว ๆเข้า!”
ฉู่ หลิน รู้สึกเบิกบานในใจ และกล่าวขอบคุณเขาอย่างรวดเร็ว : “ขอบคุณคุณหลินขอบคุณคุณหลินครับ!”
คุณนายฉู่ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและก้าวไปข้างหน้าเพื่อขอบคุณเขา :“ขอบคุณ คุณหลินสําหรับความกรุณาของคุณในครั้งนี้”
หญิงชราฉู่ ตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง : “ไอ้เด็กเวร แกรีบกลับไปที่ห้องของแกเลยไป วันนี้อย่าออกจากห้องแม้แต่ครึ่งก้าวให้ฉันเห็นจงไตร่ตรองดูในสิ่งที่แกทํา! ฮ่าวเทียนส่งบอดี้การ์ดสองคนไปเฝ้าเขาด้วย ถ้ามีใครยินยอมให้เขาออกจากห้องมาได้เพียงครึ่งก้าวก็ให้จัดการมันได้เลย!”
ฉู่ หลิน ล้มลงไป.. ด้วยความสิ้นหวังแม้ว่าเขาจะถูกคุณยายทําโทษ แต่มันก็ยังดีกว่าที่จะติดคุก…
หลังจากที่ฉู่หลินถูกพาตัวไปบรรยากาศในที่นี่มันก็น่าอึดอัดเล็กน้อย เหตุการณ์ของฉู่หลินในครั้งนี้มันออกจะน่าอายเกินไปจริงๆต่อหน้าคุณหลินทุกคนในตระกูลฉี่รู้สึกว่ามันเป็นการเสียมารยาทไปมาก
หลินฟานยิ้มแล้วกล่าวว่า“อย่างไรก็ตามนายหญิงฉู่ก็ได้กล่าวถามผม ..ว่าที่ผมมาที่นี่ยังมีสิ่งอื่นใดอีกหรือไม่มันบังเอิญ.. จริงๆที่ผมได้รู้เกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตของเสี่ยวเซียวและรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของคุณฉู่ดังนั้นผมจึงตั้งใจจะมาส่งเธอกลับบ้านผมสงสัยว่า ท่านแม่เฒ่าฉู่จะคิดเห็นอย่างไร.. เกี่ยวกับเรื่องนี้?”
จุดประสงค์หลักของการมาเยี่ยมเยียนในครั้งนี้ของหลินฟานคือส่ง ชูเสี่ยวเซียวกลับไปหาครอบครัวฉู่และในที่สุดมันก็ถึงเวลาแล้ว
หญิงชราฉู่และคุณนายฉู่มองหน้ากันแต่ละคนดูค่อนข้างอึดอัดใจ
เมื่อครู่นี้พวกเขาเพิ่งวิงวอนขอร้องกับหลินฟานเพื่อให้อภัยฉู่ หลิน มาทีนี้เมื่อพูดถึงชูเสี่ยวเซียวพวกเขารู้สึกอับอายที่จะให้พูดคัดค้านออกไปได้อย่างไร
อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่ต้องการให้ชูเสี่ยวเซียวกลับเข้ามาจริงๆ
ชู
คุณนายหู่ไม่กล้าพูดอะไรออกไปเพราะเธอกลัวว่าถ้าเธอพูดปฏิเสธหลินฟานออกไปหลินฟานจะกลับมาเข้าเรื่องของฉู่หลินอีกครั้ง
ตอนนี้.. มันขึ้นอยู่กับหญิงชราฉู่ที่จะจัดการกับมันอย่างไร
เมื่อเห็นสิ่งนี้ฉู่ฮ่าวเทียนและฉู่หยูเฟยที่อยู่ข้างๆก็แอบหัวเราะในใจแผนการของคุณหลินนั้นช่างแยบยลจริงๆ
หญิงชราฉี่กระแอมไอเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า“ฉันเคยได้ยินฮ่าวเทียน พูดถึงเสี่ยวเซียวมาแล้วขอกล่าวโดยไม่ปิดบังกับคุณหลิน เลยว่า เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่โชคร้ายของตระกูลฉู่ของฉันและมันก็เป็นเรื่องอื้อฉาวในครอบครัวฉันอายจริงๆ ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ต่อหน้าคุณหลิน ในตอนนั้นฮ่าวเทียนและผู้หญิงคนนั้นได้กระทําเรื่องที่ผิดพลาดขึ้นมา….”
เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของชูเสี่ยวเซียวก็มืดลงและดวงตาของเธอก็แดงเล็กน้อยนั่นคือวิธีที่ครอบครัวฉู่ปฏิบัติต่อแม่ของเธอ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หญิงชราฉู่ก็กล่าวต่อ:“แน่นอนเด็กคนนี้เป็นผู้บริสุทธิ์ หากมองย้อนกลับไปแล้วเป็นผู้หญิงคนนั้นเองที่เข้ามาขอเงินค่าเลี้ยงดูแล้วพรากเสี่ยวเซียวไปเลี้ยงดูด้วยตัวเองหลังจากผ่านไปหลายปีจู่ๆเธออยากจะกลับมาไม่ต้องพูดถึงเรื่องนั้นเรื่องภายในครอบครัวฉู่นี่น่าอับอายเยี่ยงนี้ก็จะถูกเผยแพร่ออกไปแล้วนี่.. เสี่ยวเซียวเองเธออยากจะกลับมาไหม?”
ฉู่ ฮ่าวเถียน รีบพูดขึ้นว่า “ท่านแม่ผมได้ตกลงกับเสี่ยวเซียวไปแล้ว และผมต้องการพาเธอกลับบ้าน”
ฉู่หยูเฟยยังกล่าวอีกว่า:“ใช่ค่ะคุณยายหนูพูดเสมอว่าจะให้ เสี่ยวเซียวกลับมาบ้านนะค่ะ.. เธอเป็นคนของครอบครัวฉู่ของเรา”
เมื่อหญิงชราฉู่เห็นพวกเขาพูดออกมาด้วยความกระตือรือร้นเช่นนี้.. ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าทําไมฉู่ฮ่าวเทียนก่อนหน้านี้ที่ยืนยัน และปฏิเสธที่จะยอมรับชูเสี่ยวเซียวแต่กลับมาเปลี่ยนใจเมื่อวานนี้ได้ทั้งหมดก็เป็นเพราะหลินฟาน!
หญิงชราฉี่กล่าวว่า:“ฉันเอง.. ต้องการได้ยินความคิดของเสี่ยวเซียวเอง”ขณะที่เธอพูดหญิงชราฉู่ก็มองไปที่ชูเสี่ยวเซียวดวงตาของเธอดูกดดันทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ
เป็นครั้งแรกที่ชูเสี่ยวเซียวต้องเผชิญหน้ากับหญิงชราฉู่และเธอก็กลัวอย่างอธิบายไม่ถูกหญิงชราคนนี้ไม่ง่ายเลยที่จะรับมือนับตั้งแต่แรกเห็นเธอได้ยินเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรกที่เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตของเธอและมันก็เป็นหญิงชราฉู่และคุณนายฉู่ที่ได้ขับไล่แม่ และลูกสาวอย่างเธอออกจากตระกูลฉิ่
ชูเสี่ยวเซียวยอมรับว่าแม่ของเธอเหอเหม่ยฟางก็ไม่ใช่คนดีเช่นกันย้อนกลับไปแล้วเหอเหม่ยฟางจงใจเข้าหาฉู่ฮ่าวเทียนเพื่อพยายามที่จะปีนป่ายขึ้นไป
เรื่องนี้ยิ่งทําให้ชูเสี่ยวเซียวรู้สึกหมดหนทางเมื่อเผชิญหน้ากับสายตาที่จ้องมองจากหญิงชราฉี่เธอรู้สึกกดดันและพูดไม่ออกครู่หนึ่ง : “ฉัน…”
หญิงชราฉู่กล่าวว่า“ดูเหมือนว่า..เสี่ยวเซียวเอง.. จะไม่ค่อยเต็มใจที่จะกลับมาอ่า..
นอกจากนี้แล้วเมื่อเธอไม่กลับมาแล้วเรื่องอื้อฉาวของตระกูลอู่ของฉันก็สามารถปกปิดเอาไว้ได้และเพื่อประโยชน์ของทุกคนฉันคิดว่าควรหาวิธีที่เหมาะสมในการจัดการกับเรื่องนี้”
ในที่สุดคุณนายฉู่ก็มีโอกาสได้พูดแล้วเธอก็พูดว่า“คุณแม่พูดถูกแล้วไม่ใช่ว่าเราจะไม่อยากให้เธอกลับมาบ้านแต่เราควรคิดไตร่ตรองเรื่องนี้ในระยะยาว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ชูเสี่ยวเซียวก็ยิ่งรู้สึกกดดันมากขึ้นไปอีกและร่างกายที่บอบบางของเธอก็สั่นเล็กน้อย
ทันใดนั้น มือใหญ่ของหลินฟานก็เอื้อมมือไปกดที่ไหล่ของเธอเบาๆ
“อย่าได้กังวลใดๆ ใจเย็นๆ แล้วค่อยพูดช้าๆ”หลินฟานเอ่ยปลอบโยนเบาๆ
เสียงปลอบโยนเบาๆของครูหลินทําให้ชูเสี่ยวเซียวรู้สึกราวกับว่ามีกระแสน้ำอุ่นไหลเข้าสู่ร่างกายของเธอ และเธอก็ไม่รู้สึกประหม่า หรือกดดันอีกต่อไป
ชู เสี่ยวเซียว นั่งตัวตรง และเงยหน้าขึ้น และมองตรงไปที่ หญิงชราฉี่ แล้วกล่าวว่า : “คุณยายหนูอยากกลับ”
นี่คือการตัดสินใจของเธอ หลังจากพูดคุยกับ หลินฟาน เธอไม่ต้องการกลับไปที่บ้านของพ่อเลี้ยงหรือครอบครัวฉู่แต่หลังจากชั่งน้ำหนักแล้วเธอต้องการกลับไปที่ครอบครัวฉู่เพื่อต่อสู้เพื่อเอาอะไรก็ตาม ที่เป็นของเธอ!
ทันทีที่คําพูดนี้ออกมา ทุกคนในตระกูลฉู่ ก็เปลี่ยนสีหน้าไปในทันที
โดยเฉพาะหญิงชราอู่และคุณนายฉู่ใบหน้าที่ดูออกจะน่าเกลียดเล็กน้อยทั้งพยายามที่จะควบคุมอารมณ์ของพวกเธอนี่มันช่างน่าดูยิ่ง…
หลินฟาน ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า “แม้ว่าผมจะเป็นคนนอกในเรื่องนี้ แต่ผมอยากจะพูดอะไรสักสองสามคำ.. สําหรับเสี่ยวเซียวแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้นไม่ว่าใครจะเป็นคนผิดแต่สําหรับเสี่ยวเซียวแล้วเธอเป็นผู้บริสุทธิ์กระทั่งเธอเองก็ยังไร้เดียงสาและเธอเองก็ไม่ควรแบกรับความผิดใดๆในเรื่องของผู้ใหญ่ยังไงเธอก็เป็นลูกสาวของคุณฉู่และเป็นลูกหลานคนหนึ่งของตระกูลฉี่ผมคิดว่ามันสมเหตุสมผลแล้วที่เธอจะกลับมาบ้านของเธอเองท่านแม่เฒ่า คิดเห็นอย่างไรครับ?”
ทุกคนมองไปที่หญิงชราอยู่ครู่หนึ่งและรอฟังคําตอบของเธอนี่เป็นการต่อสู้ที่ไร้ซึ่งสัญญาณ
ใดๆ ทุกคนสงสัยว่าหญิงชราที่เป็นราวกับจิ้งจอกเฒ่าจะพ่ายแพ้ในครั้งนี้หรือไม่? (1)[นี่ฉันตาบอดจริงๆหรือเป็นเพราะตาสุนัขของฉัน (HERE 7893988)] – “ฉันตาบอดจริงๆหรือเพราะตาสุนัขของฉัน” – มาจากบทประพันธ์ ในหนังสือเรื่อง“H #79 8”หนังสือเรื่องนี้เป็นหนังสือรวมมุขตลกเรื่องขําขันล้อเลียนและในความหมายของประโยคนี้มันคือหลงคิดหลงไว้ใจหลงภูมิใจแต่สุดท้ายกลับทําให้ผิดหวังครับ
[คุยกันสักนิดนะครับ] ในเรื่องนี้ผู้แต่งยังไม่ได้พูดถึงความสัมพันธ์เพิ่มเติมใดๆเกี่ยวกับ “ฉู่ หลิน”จึงอาจจะสรุปให้ไม่ได้มากนักครับ วาฉู่หลินมีความเป็นมาอย่างไร… แต่ที่แน่ๆในเนื้อเรื่องเคยบอกไว้ว่าฉู่หลินเป็นบุตรของหญิงชราฉู่แต่ไม่ได้พูดอะไร
มากไปกว่านั้นและถูกส่งต่อ ให้ฉู่ ฮ่าวเทียน และคุณนายฉู่ ดูแล
<