ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 166 วิถีไร้ใจ
บทที่ 166 วิถีไร้ใจ
บทที่ 166 วิถีไร้ใจ
ถึงแม้เสียงของลู่หยวนจะไม่ดังนัก แต่มันก็มากพอที่จะให้ทุกคนในที่นี้ได้ยินชัดเจน
ทุกคนย่อมรู้ดีว่า คนที่ชายหนุ่มพูดถึงคือหยางอวิ๋น
ผ่านไปสักพัก สีหน้าของทุกคนก็เรียบเฉย แม้กระทั่งสายตาของอวี๋ฉู่ผู้อยู่ด้านข้างยังกระตุกสองถึงสามครั้ง
ความจริงแล้วสิ่งที่ลู่หยวนพูดนับว่ามีเหตุผลยิ่ง เรื่องนี้ หากว่ากันตามตรง มันคือเรื่องส่วนตัวระหว่างหลิงอวิ๋นกับเจียงเชียนชิว ต่อให้เกิดเรื่องใหญ่ มันก็ยังเป็นเรื่องการหมั้นหมายระหว่างตระกูลหลิงกับตระกูลเจียง
แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอะไรกับเจ้าหนูหยางอวิ๋นด้วย? เขาคิดว่าตัวเองสุดยอดจนถึงขั้นออกโรงปกป้องได้หรืออย่างไร
บุตรแห่งโชคชะตาหยางผู้ยืนอยู่หน้าอาจารย์ เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หัวใจก็เต็มไปด้วยโทสะ
ในฐานะศิษย์เอกของหลิงอวิ๋น ตอนนี้อาจารย์สำนักถูกข่มเหงเช่นนี้ เขาไม่ควรลุกขึ้นมายืนหยัดหรือ?!
ลู่หยวนผู้นี้มันเกลือเป็นหนอน มีความเกี่ยวข้องกับอาจารย์สำนัก แต่กลับมาที่นี่เพียงเพื่อชมเรื่องสนุกอย่างนั้นหรือ?!
หยางอวิ๋นยกหอกขึ้น เตรียมที่จะชี้ลู่หยวนอย่างเกรี้ยวกราดพร้อมสบถออกมา แต่เจียงเชียนชิวผู้อยู่ด้านข้างกลับถามขึ้นมาว่า “เจ้าคือศิษย์ของหลิงอวิ๋นงั้นหรือ?”
หยางอวิ๋นหันหอกไปข้างหน้า ถามกลับอย่างเย็นชาว่า “ถ้าใช่แล้วจะทำไม?”
“เหอะ”
แววตาของคู่กรณีเย็นชา จิตสังหารนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น “คนที่หลิงอวิ๋นพูดถึง คือเจ้าเองสินะ!”
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา แม้แต่หยางอวิ๋นก็สับสน
โดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบสนอง เจียงเชียนชิวพลันแผ่พลังออกมา จนแรงกดดันทั้งหลายพุ่งมาจากทุกทิศทางราวกับหินถล่ม
ไม่ว่าใครก็มองออกว่าพละกำลังของเจียงเชียนชิวแข็งแกร่งกว่าหยางอวิ๋นในตอนนี้มาก
ครั้นบุตรแห่งโชคชะตาจะชูหอกขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด ก็พบว่าตนถูกพลังของคู่ต่อสู้กดข่มเอาไว้หมดแล้ว
เพียงพริบตา พลังของเจียงเชียนชิวก็เข้าถึงตัว! ฝ่ามือขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นตรงหน้าชายหนุ่ม แค่พริบตาเดียว หยางอวิ๋นก็อยู่ในรัศมีการโจมตีแล้ว
เจียงเชียนชิวสะบัดมือ พลังฝ่ามือขนาดใหญ่ที่อยู่กลางอากาศปรากฏขึ้นอีกครั้ง
“หยางอวิ๋น ตายเพื่อข้าซะ!”
เจียงเชียนชิวทิ้งฝ่ามือลง ฝ่ามือในอากาศก็พุ่งมาเช่นกัน แรงกดดันมหาศาลบดขยี้ความว่างเปล่าตรงเข้าหาหยางอวิ๋นในทันที
ตูม! ตูม! ตูม!
อากาศสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง เกิดเสียงสั่นสะเทือนกึกก้อง แรงกดดันมากพอที่จะกวาดล้างทั้งจัตุรัส แรงสั่นสะเทือนกระจายไปรอบข้างเช่นกัน
แรงกดดันทรงพลังสะกดศิษย์จำนวนมากในทันที เมื่อหลายคนเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี จึงพากันถอยคนแล้วคนเล่า บางส่วนรักษาการบ่มเพาะเอาไว้เพื่อยืนหยัดอยู่กับที่ แต่ยังรู้สึกถึงความเจ็บปวดบริเวณหน้าอกที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของแรงกระแทกอันทรงพลังนี้
ผู้มาใหม่บางส่วนไม่อาจเข้าใจสถานการณ์นี้ได้ จึงพากันตกตะลึงก่อนจะล้มลงจนกระอักโลหิตออกมา
เมื่อเห็นว่าฝ่ามือขนาดใหญ่กำลังจะฟาดลงมาตรงหน้าหยางอวิ๋น เขาก็เค้นการบ่มเพาะทั่วร่างหมายจะพุ่งเข้าปะทะอย่างอาจหาญ แต่กลับไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ทันทีที่พลังของอีกฝ่ายเคลื่อนลงมา เขาเห็นเพียงรัศมีสีทองกำลังพวยพุ่ง พลังทั่วร่างพลันเปลี่ยนไป
ลู่หยวนผู้อยู่ไม่ไกลนักอยู่ภายใต้การปกป้องของอวี๋ฉู่ จึงไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่นิดเดียว หลังเห็นรัศมีสีทองกำลังพุ่งออกจากร่างของหยางอวิ๋นก็หรี่ตาลงเพื่อพินิจอย่างละเอียด
บุตรศักดิ์สิทธิ์ทราบทันทีว่า นี่อาจจะเป็นความสามารถของหยางอวิ๋นในฐานะบุตรแห่งโชคชะตา!
แสงสว่างสีทองบนร่างของหยางอวิ๋นแผ่ออกไป เขาเงยหน้าขึ้น เผยแสงสีทองสั่นไหวในดวงตา
พริบตานั้นเอง หอกเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามาจากด้านข้างเขา กระแทกเข้าใส่ฝ่ามือขนาดใหญ่
ตูม!
หอกและฝ่ามือขนาดใหญ่กระหน่ำเข้าใส่กัน เจตจำนงหอกทั้งหลายสะกดฝ่ามือขนาดใหญ่ในทันที
กลิ่นอายสีทองบนร่างกายของหยางอวิ๋นจางหายไปอีกครั้ง ประกายสีทองในดวงตาหายไปในบัดดล ราวกับไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน
ลู่หยวนเห็นดังนี้จึงเดาะลิ้น หรี่ตามองเจ้าของหอกด้วยสายตาไม่พอใจ… เป็นหลิงอวิ๋นนั่นเอง
อาจารย์สำนักเลือกช่วงเวลาขัดขวางได้เหมาะเจาะเสียจริง!
ขอเพียงหยางอวิ๋นลงมือ ชายหนุ่มก็จะรู้ทันทีว่าพลังแบบไหนกำลังสนับสนุนเจ้าหนุ่มนี่อยู่
หลังเจียงเชียนชิวเห็นดังนั้น เขาก็ยิ่งเดือดดาลจนดวงตาแดงก่ำ แหกปากตะโกนว่า “หลิงอวิ๋น เจ้ายังเห็นคู่หมั้นอยู่ในสายตาหรือไม่? ยังเห็นการหมั้นหมายระหว่างตระกูลหลิงกับตระกูลเจียงอยู่ในสายตาบ้างหรือเปล่า?!”
“ก่อนหน้านี้เห็นบอกว่ามีคนที่นับถืออยู่ เพราะอย่างนั้นเลยอยากทำลายการหมั้นของข้า ข้าเลยคิดว่าคนที่หลิงอวิ๋นจะสามารถนับถือได้ย่อมต้องเป็นยักษ์ใหญ่ทรงอำนาจ แต่พอมาเห็นในวันนี้ กลับกลายเป็นแค่ขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น!”
ดวงตาของเจียงเชียนชิวหันไปจับจ้องหยางอวิ๋นอย่างละเอียด จิตสังหารเจือในน้ำเสียงอย่างไม่ปิดบัง “เจ้ามันก็แค่ขยะชิ้นหนึ่ง แต่อยากเป็นศัตรูกับตระกูลเจียงของข้าอย่างนั้นหรือ?! เจ้าอยากตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลหลิงกับตระกูลเจียงอย่างนั้นหรือ?!”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ สีหน้าของทุกคนเริ่มเปลี่ยนไป แม้แต่อวี๋ฉู่ก็มองหลิงอวิ๋น หยางอวิ๋น และเจียงเชียนชิวด้วยสายตาเคร่งขรึม
ดูท่าว่าหายนะภายในครั้งนี้จะไม่ง่ายเสียแล้ว!
เมื่อเผชิญกับสายตาของทุกคน หลิงอวิ๋นจึงก้าวมาข้างหน้าด้วยสายตาสงบนิ่ง “เจียงเชียนชิว คนที่ข้านับถือไม่ใช่หยางอวิ๋น แต่เป็นวิถีแห่งหอกต่างหาก”
“ก่อนหน้านี้ข้าก็บอกเจ้าไปแล้วว่า ชั่วชีวิตนี้ ข้าแค่ต้องการศึกษาวิถีแห่งหอกเท่านั้น ไม่คิดเรื่องอื่นอีก มันทำให้ข้าเลิกคิดถึงความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่เจ้าก็เอาแต่หมกมุ่น จนถึงขั้นถลำลึกมากยิ่งขึ้น เพราะแบบนี้ ข้าถึงทำได้เพียงยุติการหมั้นหมายเท่านั้น”
ดวงตาของเจียงเชียนชิวกลายเป็นสีชาด เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อสิ่งที่นางกล่าว “หลิงอวิ๋น อย่ามาโกหกข้า เจ้ามันก็แค่ผู้หญิงใจง่าย วิถีแห่งหอกอะไรกัน ทั้งหมดก็แค่ความแพศยา! เจ้าก็แค่มีใจให้คนอื่นเท่านั้นแหละ!”
“ในด้านภูมิหลัง ข้าคือคุณชายแห่งตระกูลเจียงในแดนมัชฌิม! แล้วเจ้าหยางอวิ๋นนี่มันเป็นใคร? ในด้านการบ่มเพาะ ข้าไปถึงขั้นเทียมเทพระดับสูง ส่วนเจ้านี่เพิ่งเข้าขั้นเทียมเซียนระดับรากฐานเท่านั้น”
“หลิงอวิ๋น ระหว่างเขากับข้า เจ้าถึงกับเลือกขยะชิ้นนั้น นี่มันดูถูกตระกูลเจียงของข้าชัด ๆ!”
“ในเมื่อเจ้าตัดสินใจเลือกแล้ว เจ้าก็ต้องแบกรับผลลัพธ์ไว้ด้วย!”
หลังจากสิ้นเสียง ดวงตาสีแดงฉานของเจียงเชียนชิวกลับเป็นปกติ แต่ในทางกลับกัน ขณะนี้ทั่วร่างของเขาเริ่มถูกอาบย้อมด้วยสีแดง
พลังนับไม่ถ้วนถูกดึงดูดมารวมกันที่ร่างของเจียงเชียนชิวอย่างบ้าคลั่ง ชุดคลุมของเขาสะบัดไหว ชั้นสีแดงแปลกประหลาดปรากฏขึ้นบนผิว เส้นชีพจรปั่นป่วน ดูน่าสะพรึงนัก
ส่วนหลิงอวิ๋นผู้อยู่ฝั่งตรงข้ามขมวดคิ้วเช่นกัน ก่อนจะถอนหายใจอย่างแผ่วเบา “เจียงเชียนชิว ทำไมถึงดื้อดึงนัก ไม่เห็นต้องสนใจข้าเลยก็ได้”
“ข้าไม่ต้องการเจ้าก็จริง แต่ว่านะหลิงอวิ๋น ในเมื่อเจ้าปฏิเสธการหมั้นหมาย แล้วเจ้าจะเอาหน้าตระกูลเจียงไปไว้ที่ไหน? ถ้าเจ้าไม่สามารถหาคำอธิบายกับโลกได้ กองกำลังในโลกจะไม่คิดว่าจะทำอะไรกับตระกูลเจียงของข้าอย่างไรก็ได้หรอกหรือ?! เจ้าคิดว่าดูหมิ่นข้า เจียงเชียนชิวได้ง่ายหรืออย่างไร?!”
หลิงอวิ๋นขมวดคิ้ว ตั้งแต่ยกเลิกการหมั้นหมายมา นางก็รู้ว่ามันจะนำมาสู่ผลลัพธ์ในวันนี้
ทว่าไม่มีสิ่งใดในโลกจะหยุดยั้งนางไม่ให้ยกเลิกการหมั้นหมายได้
ตอนนี้บรรพชนหอกเพิ่งก้าวเข้าสู่วิถีแห่งหอก จึงมองเห็นความลึกลับเพียงน้อยนิดเท่านั้น
วิถีแห่งหอกที่หลิงอวิ๋นเลือกในตอนนี้ คือวิถีไร้ใจ
ในเมื่อเป็นวิถีไร้ใจ เป็นธรรมดาที่จะตัดขาดความรัก จนดูไร้หัวใจ
อันที่จริงนางสามารถปล่อยให้เจียงเชียนชิวรอต่อไปได้ แต่นางตัดสินใจแล้วว่าจะฝึกฝนวิถีไร้ใจ หากยังปล่อยให้เจียงเชียนชิวรอ ย่อมเท่ากับเป็นการให้ความหวังอย่างไม่มีสิ้นสุด
การตัดไฟแต่ต้นลม… ถอนหมั้นเพื่อให้เขาไปเจอคนใหม่น่าจะดีกว่า