ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 23 ผู้อาวุโสเทียนเหยียน (ปลาย)
บทที่ 23 ผู้อาวุโสเทียนเหยียน (ปลาย)
บทที่ 23 ผู้อาวุโสเทียนเหยียน (ปลาย)
สิ่งที่คุณชายตำหนักธารสุญญะกล่าวออกมา มีหรือที่เทียนเหยียนจะไม่ทราบ?
หากเพียงแค่หมัวเทียนตายตก มันก็ยากที่จะได้พบเจอกับบุคคลที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ภายในสำนักฟ้าประทาน
“ข้าทราบดี แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าหมัวเทียนคือบุคคลที่เหมาะสมที่สุดแล้ว”
“ผู้อาวุโสไม่ทราบงั้นหรือว่ามีสตรีคนหนึ่งในสำนักฟ้าประทานที่มีร่างหยินบริสุทธิ์? ร่างกายนี้เต็มไปด้วยหยินโดยสมบูรณ์ และเหมาะสมที่จะครอบครองกระบี่รุ้งคราม”
“บุคคลที่เจ้ากล่าวถึง …ข้ารู้จักอยู่เช่นกัน”
เมื่อครั้งที่ซวี่รั่วหลิงพยายามเข้าใจเจตจำนงกระบี่เป็นครั้งแรก ผู้อาวุโสเทียนเยียนสังเกตเห็นและเกือบจะส่งมันให้กับนาง
“ร่างหยินบริสุทธิ์แท้จริงแล้วหาพบได้ยากยิ่ง แต่ร่างกายของสตรีผู้นั้นกลับมีข้อบกพร่อง มันน่าจะเป็นความบกพร่องตั้งแต่กำเนิด ข้าเกรงว่ามันจะยากต่อการรักษา หากเทียบกันแล้วหมัวเทียนยังคงเหมาะสมกว่าอยู่ดี”
“ถ้าหากฟังจากที่ผู้อาวุโสกล่าวคำ ตราบใดที่ร่างกายของซวี่รั่วหลิงไม่บกพร่อง จะนับว่านางเหมาะสมใช่หรือไม่?”
ผู้อาวุโสเทียนเหยียนเลิกคิ้วสูง “เจ้าหนู เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
“หากข้าผู้นี้สามารถฟื้นฟูร่างกายของซวี่รั่วหลิงได้ ผู้อาวุโสยินดีส่งมอบมันให้กับนางหรือไม่?”
ผู้อาวุโสเทียนเยียนกล่าวตอบอย่างไม่ลังเล “หากร่างกายของสตรีผู้นั้นกลับมาสมบูรณ์ ข้าจะเลือกนางแน่นอน!”
เพราะนั่นคือร่างหยินบริสุทธิ์!
มันคือร่างหยินบริสุทธิ์ที่สุดในโลกหล้า ด้วยกระบี่รุ้งครามนี้ นางจะสามารถดึงเจตจำนงแห่งกระบี่ออกมาได้จนถึงขีดสูงสุด ยิ่งเข้าใจมันได้ดี ก็จะสามารถต่อยอดและพัฒนาทักษะต่อไปได้อีกไกล
“อย่างไรก็ตาม เมื่อซวี่รั่วหลิงมาที่นี่ในตอนนี้ และข้าได้ลองตรวจสอบร่างกายของนางดู เห็นได้ว่ามันกำลังดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่”
ชายหนุ่มเรียกระบบออกมาจากห้วงความคิด “ระบบ เรียกสมบัติที่สามารถรักษาร่างกายของซวี่รั่วหลิงออกมา”
พึ่บ!
[คัมภีร์เร้นลับ ต้องการค่าชะตาวายร้าย 2,000 แต้ม!]
ลู่หยวนชำเลืองมองคำแนะนำ และเห็นว่ามันสามารถรักษาปัญหาของร่างกายซวี่รั่วหลิงได้
“แลกเปลี่ยน!”
[การแลกเปลี่ยนสำเร็จ โปรดตรวจสอบ]
ลู่หยวนหยิบคัมภีร์เร้นลับออกมา และกล่าวกับผู้อาวุโสเทียนเหยียนว่า “นี่คือคัมภีร์เร้นลับ เป็นสมบัติของตระกูลลู่ มันสามารถแก้ไขความบกพร่องของร่างกายนางได้แน่นอน”
ผู้อาวุโสเทียนเหยียนโบกมือ คัมภีร์เร้นลับพลันทะยานสู่มือ เขาชำเลืองมองมันสักครู่ด้วยความประหลาดใจ
คัมภีร์เล่มนี้สามารถแก้ไขอาการบกพร่องของซวี่รั่วหลิงได้จริง ๆ!
หากเป็นเช่นนั้นแล้ว หมัวเทียนก็ไม่ใช่บุคคลที่น่าสนใจอีกต่อไป…
จิตวิญญาณในกระบี่คืนม้วนตำรา ก่อนที่ร่างจำแลงของเขาจะออกจากร่างของตู้เหิงอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เศษเสี้ยวจิตวิญญาณของเทียนเหยียนเคลื่อนไหว มันก็กลับไปที่กระบี่รุ้งคราม “เจ้าหนุ่มลู่ พาสาวน้อยคนนั้นมาใกล้ ๆ ข้า”
ขณะนั้น ตู้เหิงฟื้นคืนสติกลับมาแล้ว เขาได้ยินเสียงของผู้อาวุโสเทียนเหยียนเรียกตนเอง
“ตู้เหิง…”
แม้ร่างกายของประมุขตู้แห่งสำนักฟ้าประทานจะถูกควบคุม แต่เขาทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แน่นอนว่าเขาทราบด้วยว่าบุคคลที่ยึดครองร่างของตนเมื่อครู่คือผู้อาวุโสเทียนเหยียน ผู้เป็นอาจารย์ผู้อาวุโสของสำนัก
เขาคุกเข่าลงหน้ากระบี่รุ้งครามทันที ก่อนจะกล่าวอย่างเคารพว่า “ศิษย์อยู่ที่นี่แล้วขอรับ”
“จากนี้ไป ซวี่รั่วหลิงจะเป็นนายหญิงแห่งสำนักฟ้าประทาน สืบทอดเจตจำนงกระบี่แห่งข้า และถือครองกระบี่รุ้งคราม!”
“ขอรับ!” ตู้เหิงตอบกลับทันที ก่อนจะถามด้วยความลังเลว่า “แล้วหมัวเทียนล่ะ?”
“ปล่อยให้เจ้าหนุ่มลู่จัดการเสีย”
ประมุขตู้ไม่กล้าขัดคำสั่ง “ทราบแล้วขอรับ!”
ครืนนน…
จิตสังหารแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ
ลู่หยวนยกกระบี่ในมือพร้อมเดินตรงเข้าหาบุตรแห่งโชคชะตาด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
แม้กายเนื้อของเขาจะร้าวรานจนแทบแตกสลาย แต่หมัวเทียนพยายามอย่างยิ่งที่จะถอยหนี แม้จะไม่สามารถส่งเสียงออกมา แต่ความหวาดกลัวก็ฉายชัดในแววตา
ลู่หยวนเหวี่ยงกระบี่ในมือเพื่อตัดแขนของหมัวเทียน จนอีกฝ่ายถึงกับเผยสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แขนของเขาร่วงหล่นสู่พื้น และเวลานั้นมือยังคงกำยันต์เคลื่อนย้ายพริบตาไว้แน่น
“อะไร? อยากจะหนีตอนนี้งั้นหรือ? สายไปแล้ว!”
โลหิตสาดกระเซ็นไปทั่ว และศีรษะของหมัวเทียนก็หลุดออกจากบ่า สิ้นลมหายใจในทันที!
[ระบบแจ้งเตือน : หมัวเทียน บุตรแห่งโชคชะตา ถูกสังหารแล้ว!]
[ขอแสดงความยินดีกับท่านในการสังหารบุตรแห่งโชคชะตา!]
[ได้รับค่าชะตา 3,000 แต้ม! พร้อมรางวัลสองชิ้น ได้แก่เนตรเทวะ และถุงน้อยโชคดี! โปรดตรวจสอบ!]
ลู่หยวนเก็บกระบี่ในมือ เขาพลันรู้สึกว่าดวงตาพร่าเบลอเล็กน้อย จนอดไม่ได้ที่จะยกมือขยี้ตา
เขาลดมือลงอีกครั้ง หลังจากมึนงงสักครู่หนึ่ง ลู่หยวนถึงรู้สึกว่าสายตากลับมาเป็นปกติ จนสามารถมองเห็นมดในพงหญ้าได้ชัดเจน
ในมุมลับไม่มีผู้ใดเห็น รูม่านตาของลู่หยวนค่อย ๆ แยกออกจากกันอย่างเชื่องช้า และเวลานี้เนตรเทวะของเขาได้ปรากฏขึ้นอย่างงดงาม
ชายหนุ่มควบคุมมันได้เล็กน้อย พลังเนตรทั้งสองข้างเลือนหายไปก่อนจะกลับคืนสู่สภาพเดิม
จากนั้น เขาจึงเปิดข้อมูลในระบบเพื่อตรวจสอบ
[นาม : ลู่หยวน
สถานะ : บุตรศักดิ์สิทธิ์ตระกูลลู่ เเห่งเผ่าธารสุญญะแดนเหนือ
ฐานการบ่มเพาะ : ขั้นจักรพรรดิยุทธ์ ระดับต้น
พลัง : เนตรเทวะ, ยันต์ฟ้าบรรพกาล
สังขาร : สายเลือดมาร
สมบัติศักดิ์สิทธิ์ : ไม่มี
ผู้ติดตาม : เฉาหง]
เมื่อเห็นว่าค่าพลังเปลี่ยนไป ดูเหมือนมันจะขึ้นเฉพาะอันล่าสุดที่ใช้ อีกทั้งมีสุดยอดพลังเนตรเทวะอยู่ในระดับต้น เขาจึงกล่าวถามระบบ “เนตรเทวะสามารถทำอะไรได้บ้าง?”
[สามารถตรวจจับสิ่งที่ผู้อื่นมองไม่เห็นได้ หรือจะใช้พลังเนตรเทวะเสริมความแข็งแกร่งก็ย่อมได้]
ลู่หยวนรู้สึกยินดีขึ้นมาทันที ระบบของเขานับว่ายอดเยี่ยมแล้ว ไม่เพียงแต่ช่วยให้ได้รับสุดยอดพลัง แต่ยังสามารถเพิ่มความสามารถของร่างกายได้ด้วย
ระบบกล่าวต่อ [รวมถึงสามารถใช้ค่าชะตาวายร้ายนี้เพิ่มระดับเนตรเทวะได้!]
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเป็นนัยคำถาม “ระดับหรือ?”
[พลังจะแบ่งออกเป็น ระดับต้น ระดับกลาง ระดับสูง และระดับชั้นฟ้า!]
คุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะถามออกไปอย่างสงสัย “แล้วเนตรเทวะของหมัวเทียนก่อนหน้านี้อยู่ในระดับไหน?”
[ระดับต้น!]
เป็นเพราะเนตรเทวะระดับต้นอย่างหมัวเทียนยังสามารถพัฒนาขึ้นได้อีก หากเขาเพิ่มระดับของพลังนี้ เนตรเทวะก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นด้วยเช่นกัน
หากเนตรเทวะของเขาเข้าสู่ระดับชั้นฟ้าแล้ว ความแข็งแกร่งนั้นยากจะคาดเดาได้!
ลู่หยวนอดไม่ได้ที่จะถามต่อ “แล้วหลังจากเข้าสู่ระดับชั้นฟ้าแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ?”
ภาพเนตรเทวะปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะตามมาด้วยปรากฏการณ์ราวกับวันสิ้นโลก กระดูกนับหมื่นพันกลายเป็นเถ้าธุลี ภูเขาและแม่น้ำแตกออกเป็นเสี่ยง สวรรค์และโลกทั้งหมดสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น ทวยเทพและเหล่าอสูรกายล้มตาย
ทั้งหมดนี้ผุดขึ้นในความคิดของเขาด้วยฝีมือระบบ!
“มีพลังรุนแรงเพียงนั้นเชียว?”
ในแผ่นดินหยวนหงนี้ ไม่มีใครกล้าพูดว่าตนเองสามารถเคลื่อนย้ายภูเขาและแม่น้ำได้ในความคิดเดียว แม้จะเป็นผู้อยู่ในขั้นเทพยุทธ์ที่ทรงพลังที่สุดก็ตาม แต่เนตรเทวะกลับมีพลังยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้นหลังจากเข้าสู่ระดับชั้นฟ้า!
ลู่หยวนมองค่าชะตาวายร้ายที่เหลืออยู่ 3,000 แต้มแล้วถามว่า “ระบบ ถ้าข้าจะเพิ่มระดับของเนตรเทวะ จะต้องใช้แต้มเท่าใด?”
[ค่าชะตาวายร้าย 10,000 แต้ม!]
อืม… เหมือนว่าจะไม่พอ
เขาทำได้เพียงระงับความปรารถนาที่อยากจะเพิ่มระดับของพลังไว้ ก่อนจะกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง
คุณชายตำหนักธารสุญญะหันกลับมาอย่างใจเย็น เก็บกระบี่หักไป ก่อนจะหยิบยันต์เคลื่อนย้ายพริบตาและแหวนเก็บของของหมัวเทียนออกมา
จากนั้นเขาก็หันไปกล่าวกับผู้อาวุโสเทียนเหยียนว่า “ผู้อาวุโสเทียนเหยียน โปรดรอข้าสักครู่ อีกประเดี๋ยวข้าจะพาซวี่รั่วหลิงมาที่นี่”
หลังพูดจบ เขาพาเฉาหงและตู้เหิงตรงไปที่ห้องโถงใหญ่ของสำนักฟ้าประทาน