ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 233 ตรวจสอบฉู่เชิ่ง
บทที่ 233 ตรวจสอบฉู่เชิ่ง
บทที่ 233 ตรวจสอบฉู่เชิ่ง
ไม่นาน สามวันในหอคอยสวรรค์ก็ผันผ่าน ศิษย์บางส่วนเดินออกมาคนแล้วคนเล่า ใบหน้าของพวกเขาประดับไปด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าได้รับผลประโยชน์บางอย่าง
ยามฉู่เชิ่งออกมา ชิวชิงหลีก็ยังไม่ปรากฏตัว ดังนั้นเขาจึงยืนอยู่นอกหอคอยสวรรค์แล้วรออีกสักพัก
ก่อนจะทันได้เจอนาง เขาพบว่าฮ่วนซิงไป๋ออกมาก่อน
เมื่อฮ่วนซิงไป๋เห็นศิษย์เอกยอดเขาดาบ เขาก็หัวเราะเยาะอย่างเย็นชาอยู่ในใจ ก่อนเปิดปากพูดจาประชดประชันว่า “ว่าอย่างไร… กำลังรอชิวชิงหลีสินะ”
เมื่อฉู่เชิ่งพบว่าที่น้องเขยของจักรพรรดินี ดวงตาก็ฉายแววรังเกียจออกมา เขาย่อมทราบว่าอีกฝ่ายยืนอยู่ข้างลู่หยวน
“ใช่เรื่องของเจ้าหรือ?” ฉู่เชิ่งเบือนหน้าหนี “ฮ่วนซิงไป๋ ข้าแนะนำว่าเจ้าอย่าก้าวก่ายเรื่องผู้อื่นจะดีกว่า หาไม่แล้ว ต่อให้เจ้าจะเป็นนายน้อยแห่งตระกูลฮ่วนหรือน้องเขยของฉวนจง มันก็ช่วยชีวิตของเจ้าไม่ได้หรอกนะ!”
ฮ่วนซิงไป๋ขมวดคิ้ว เผยสีหน้าไม่พอใจยิ่งขึ้น “จริงหรือ? เจ้าจะเข้ามาฆ่าข้า หรือจะร้องไห้แล้วไปซ่อนใต้วงแขนของชิวชิงหลี เพื่อขอให้นางมาจัดการกันเล่า”
“จุ๊ ๆๆ ฉู่เชิ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะนางสนใจในตัวเจ้า เจ้ามันก็ไม่ได้ต่างจากสวะ!”
“ข้าขอบอกเจ้าหน่อยแล้วกัน ชิวชิงหลีคือผู้หญิงของบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ การที่นางยังคงอยู่ข้างกายเจ้า ก็เพราะหวนนึกถึงเรื่องในอดีตจนเกิดความเห็นใจขึ้นมา หากยังทำตัวก้าวร้าวระรานไปทั่วอีก ต่อให้เป็นชิวชิงหลีก็คงปกป้องเจ้าไม่ได้เช่นกัน!”
“หากเจ้าเป็นลูกผู้ชาย จงออกจากสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ แล้วไปใช้ชีวิตด้วยลำแข้งของตนเอง อย่าหลบซ่อนอยู่หลังผู้หญิง”
“หุบปาก!”
ฉู่เชิ่งแผดเสียงคำรามออกมา จิตสังหารปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา “ข้าขอพูดให้ชัดเลยว่า ทุกสิ่งที่ข้ามีจนถึงตอนนี้ คือสิ่งที่ข้าได้จากการฝึกฝน หาได้เกี่ยวกับนางไม่!”
“ต่อให้ไม่มีชิวชิงหลี ข้าก็สามารถกลายเป็นศิษย์เอกของบรรพชนดาบ ได้อันดับสามของการแข่งขันภายใน จนได้มาถึงจุดนี้อยู่ดี!”
ขณะนี้ ชิวชิงหลีและลู่หยวนเดินออกมาพร้อมกัน ทำให้ทั้งสองได้ยินวาจานั้นเต็มสองหู
ร่องรอยความเศร้าโศกปรากฏขึ้นในดวงตาของหญิงสาว แต่มันถูกปกปิดเอาไว้อย่างรวดเร็ว
ชิวชิงหลียกมือขึ้นทำความเคารพเจ้านาย “บุตรศักดิ์สิทธิ์ ข้าขอตัวก่อน”
คุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะพยักหน้า พลางมองชิวชิงหลีเดินไปหาฉู่เชิ่ง เห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายประหลาดใจที่เห็นนาง สายตาของเขาหลุบต่ำลง
“พี่ฉู่เชิ่ง กลับกันเถอะ”
สิ้นคำของผู้สืบทอดวิถีคุณธรรม นางก็มุ่งหน้าไปทางด้านนอกยอดเขาบรรพชน
ฉู่เชิ่งแน่นิ่งชั่วขณะ ก่อนเดินตามฝีเท้าของนางออกจากยอดเขาไปเช่นกัน
ลู่หยวนมองเห็นสีหน้าของทั้งสองได้อย่างแจ่มชัด จึงยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม
เขาทราบนิสัยของฉู่เชิ่งผู้นี้เป็นอย่างดี
เจ้าหนุ่มคนนี้ห่วงเรื่องการเสียหน้า เขาไม่อยากถูกมองว่าได้รับความเมตตาจากผู้อื่น
ข่าวลือในสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ทุกวันนี้ ล้วนแพร่งพรายมาจากลู่หยวนทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา โดยเป้าหมายเดิมทีมีคือเพื่อแยกทั้งสองออกจากกัน
ดูท่าว่าวันนี้… มันจะส่งผลขึ้นมาบ้างแล้ว
ฮ่วนซิงไป๋คลี่ยิ้มพลางเดินเข้ามาหา “บุตรศักดิ์สิทธิ์!”
ลู่หยวนละสายตากลับมา “ทำได้ดีมาก”
เมื่อได้รับคำชมจากอีกฝ่าย ในใจของว่าที่น้องเขยจักรพรรดินีก็บังเกิดความยินดีขึ้นมา “แหะ ๆ เรื่องแค่นี้เอง! ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าหนุ่มคนนั้นไม่มีน้ำอดน้ำทนต่างหาก!”
แม้ลู่หยวนจะไม่ได้ถ่ายทอดคำสั่งพิเศษให้ แต่บรรยากาศทั่วทั้งสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ในช่วงหลายวันมานี้ ต่างหยิบยกเรื่องของฉู่เชิ่งกับชิวชิงหลีขึ้นมาเป็นประเด็น
ต่อให้หลับตามอง เขาก็ทราบว่าเรื่องนี้อยู่ภายใต้คำสั่งของบุตรศักดิ์สิทธิ์
เพียงแต่…
ฮ่วนซิงไป๋ไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายถึงทำเช่นนี้
หากไม่ชอบหน้าฉู่เชิ่ง แค่ทุบตีเขาให้ตายก็พอแล้ว เหตุใดต้องทำเรื่องยุ่งยากเช่นนี้เล่า?
ทว่าสิ่งที่บุตรศักดิ์สิทธิ์อยากทำย่อมมีเหตุผลบางอย่าง ฮ่วนซิงไป๋ไม่คิดขุดคุ้ยให้มากความ ทำเพียงคอยช่วยผลักดัน
ถึงอย่างไร… ก็ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความสุขของลู่หยวนอยู่แล้ว
ช่วงเวลาเปิดหอคอยสวรรค์สิ้นสุดลง ที่เหลือก็คือราชวังจักรพรรดิแดนมัชฌิม!
เพื่อซากปรักหักพังของเผ่าวิหคเพลิง ฮ่วนซิงไป๋จำเป็นต้องพึ่งบุตรศักดิ์สิทธิ์!
เขาแค่พยายามไหลไปตามน้ำก็พอ มันใช่เรื่องยากเย็นตรงไหน?
ฮ่วนซิงไป๋พลันหันมาอย่างจริงจัง แล้วเอ่ยว่า “บุตรศักดิ์สิทธิ์ อีกไม่กี่วัน พวกเราจะถูกเชิญให้เข้าตำหนักจักรพรรดิแดนมัชฌิม”
“ข้าต้องกลับไปเตรียมความพร้อมก่อน พอถึงวันที่ศิษย์รวมตัว ข้าจะกลับมาหา!”
ลู่หยวนพยักหน้า ฮ่วนซิงไป๋จึงยกมือขึ้นกล่าวอำลา
ชิวชิงหลีไม่รั้งรอฉู่เชิ่ง นางกลับเข้าที่พักของตัวเองทันที
นางยืนอยู่บนยอดเขา โดยมีหญิงชราผู้หนึ่งคุกเข่าอยู่ด้านหลังด้วยท่าทีเปี่ยมด้วยความเคารพ ไม่กล้าเป็นฝ่ายเอ่ยวาจาก่อน
ผ่านไปนานเท่าใดไม่ทราบ ผู้สืบทอดวิถีคุณธรรมเอ่ยขึ้นว่า “หลายวันมานี้ ฉู่เชิ่งใช้ทรัพยากรของพวกเราหรือไม่?”
หญิงชราตอบทันทีว่า “รายงานคุณหนู เขาใช้ไปบางส่วน”
ชิวชิงหลีหันกลับมาด้วยสายตาสงบนิ่ง “แสดงรายการทรัพยากรมา”
หญิงชราหยิบรายการออกมาทันที ก่อนส่งมอบให้กับอีกฝ่าย
ผู้สืบทอดวิถีคุณธรรมรับรายการมาแล้วตรวจสอบสักพัก ไม่ทันไรสายตาของนางก็พลันเย็นชาขึ้นมา
ทรัพยากรถูกใช้ไปมากขนาดนี้ มันมากกว่าที่สำนักมายาศักดิ์สิทธิ์มอบให้ฉู่เชิ่งถึงสิบปีด้วยซ้ำ!
แถมนี่ยังเป็นส่วนที่ใช้เพียงไม่กี่วันเท่านั้นเอง!
ฉู่เชิ่งเป็นชายผู้กลัวเสียหน้า นางทราบเรื่องนั้นดี
หลายวันที่ผ่านมา ภายในสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์มีใครบางคนจงใจกล่าวถึงข่าวลือ เพื่อสร้างความอับอายให้กับฉู่เชิ่ง เรื่องนี้ชิวชิงหลีก็ทราบดีเช่นกัน
หากเป็นยามปกติ หญิงสาวย่อมออกหน้าจัดการให้ แต่เรื่องในคราวนี้มีต้นตอมาจากลู่หยวน
หากชิวชิงหลีลงมือ ย่อมเป็นการต่อต้านบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่
ด้วยนิสัยของชายผู้นั้นที่ไม่ต่างจากปีศาจร้ายในคราบมนุษย์ หากลงมือขึ้นมา นางก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าจะมีสิ่งใดรออยู่
ยิ่งกว่านั้น เมื่อไม่กี่วันก่อน บิดาของนางติดต่อผ่านยันต์ฉุกเฉิน แจ้งมาว่าตระกูลอยากตรวจสอบนาง
ในไม่ช้า ผู้คนรอบข้างนางคงต้องถอนตัวออกไป โดยจะมียอดฝีมือกลุ่มใหม่มาติดตามแทน
หากเกิดความวุ่นวายขึ้นในยามนี้ ย่อมเป็นการสร้างความไม่พอใจให้ตระกูล
ชิวชิงหลีเก็บรายชื่อเข้าไป ดวงตาของนางทอประกายความสับสน
หลายวันมานี้ ฉู่เชิ่งผิดปกติเกินไป!
ตอนเขาเข้าสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ครั้งแรก นางได้มอบทรัพยากรให้เขาเป็นจำนวนมาก
ฉู่เชิ่งรับพวกมันไว้บางส่วน จนทำให้เกิดข่าวลือแพร่สะพัดว่าเขาพึ่งใบบุญนางจนกลายเป็นศิษย์เอกของบรรพชนดาบ
ในตอนนั้นฉู่เชิ่งก็หาได้สนใจเรื่องเหล่านี้ไม่ เขาวางตัวอยู่เหนือข่าวลือ และไม่ปริปากพูดอะไรออกมา
บัดนี้แม้สถานการณ์จะเหมือนเดิม แต่มันก็มีแนวโน้มดีขึ้น
ทว่าฉู่เชิ่งกลับไม่คิดเช่นนั้น ไม่ว่าผู้ใดจะหยิบยกเรื่องดังกล่าวมาพูดต่อหน้า เขาเป็นอันต้องโต้เถียงด้วยสองสามประโยค
ไม่กี่วันก่อน เรื่องเหล่านี้ถึงกับทำให้เขาทะเลาะกับผู้อื่น จนถึงขั้นจะทุบตีอีกฝ่ายให้ตายคามือ
ยิ่งกว่านั้นหากเป็นเมื่อก่อน ฉู่เชิ่งไม่มีทางใช้ทรัพยากรของนางมากมายขนาดนี้
แต่บัดนี้เขาคล้ายกับมีความกระหายจนถึงขั้นอยากกลืนกินทรัพยากรเข้าไป
แค่สมุนไพรวิญญาณกับโอสถเพียงอย่างเดียว ก็มีจำนวนมากกว่าปกติหลายร้อยเท่า
หากยึดตามรากฐานการบ่มเพาะของฉู่เชิ่งในตอนนี้ เขาไม่มีความจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมากขนาดนั้น!
แม้ทรัพยากรเหล่านี้จะเป็นเพียงเมฆหมอกผ่านตาสำหรับชิวชิงหลี ทว่าหากฉู่เชิ่งต้องการใช้พวกมัน นางย่อมยกทั้งหมดให้กับเขาได้
แต่ยามนี้ท่าทีของฉู่เชิ่งผิดวิสัยเกินไป
ชิวชิงหลีรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป เขาไม่เหมือนกับคนที่นางเคยรู้จักอีกแล้ว
หญิงสาวเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะถามว่า “ตระกูลบอกให้เจ้ากลับไปเมื่อไหร่?”
หญิงชราตอบว่า “พวกเขาบอกว่าต้องกลับไปภายในสามวัน”
ชิวชิงหลีปริปากพร้อมดวงตาที่เต็มไปด้วยไอเย็นเยือกประมาณหนึ่ง “สามวันต่อจากนี้ จงไปตรวจสอบเรื่องหนึ่งให้ข้า”
คู่สนทนายกมือขึ้นทันที “คุณหนูโปรดออกคำสั่งด้วย!”
ผู้สืบทอดวิถีคุณธรรมลั่นวาจา “ตรวจสอบฉู่เชิ่ง ตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา หลังจากไปแดนลับแห่งหุบเขาเมฆา!”