ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 283 ต่อสู้กับคุนเผิง

บทที่ 283 ต่อสู้กับคุนเผิง

บทที่ 283 ต่อสู้กับคุนเผิง

ภายในหอคอยสมบัติแดนมัชฌิม ลู่หยวนถือหอกพันมังกรเก้าสวรรค์ขณะที่ยืนอยู่กลางอากาศ พลังอันมหาศาลสั่นไหวอยู่ที่ส่วนปลายหอก

ศพประหนึ่งขุนเขาของคุนเผิงซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามลุกขึ้น จนบดบังท้องนภาไปกว่าครึ่ง

ลู่หยวนผู้ยืนอยู่เบื้องหน้าราวกับมด ไม่ควรค่าที่จะเอ่ยถึง!

“ทิ้งมัน!”

“ทิ้งมัน!”

ร่างเน่าเปื่อยของคุนเผิงยังคงพึมพำคำเหล่านี้ออกมา

เงาสีดำนับไม่ถ้วนเบียดเสียดอยู่ภายในช่องว่างระหว่างกระดูก

ดวงตาของลู่หยวนมืดมนขณะใช้มือซ้ายถือแผ่นศิลา มุมปากยกยิ้มขึ้น

เขายังจำได้ว่าศิลาแผ่นนี้เกี่ยวข้องกับโชคชะตาของเซียวเทียน

ไม่มีใครทราบว่าเมื่อเปิดออกแล้วจะมีสิ่งใดอยู่ข้างใน!

แต่ว่า… จำเป็นต้องรวบรวมกลิ่นอายของสัตว์เทวะก่อนจึงจะเปิดได้ แสดงว่าโชคชะตาที่อยู่ภายในนั้นต้องไม่ธรรมดา!

ลู่หยวนกุมแผ่นศิลาเอาไว้มั่นขณะที่เงยหน้ามองร่างของคุนเผิง ทันใดนั้นก็เกิดการสั่นสะเทือนจนท้องฟ้าสั่นไหว แล้วร่างของเขาก็หายไป

ภายในศีรษะยักษ์ของคุนเผิงปรากฏเบ้าตาโบ๋สองข้าง ซึ่งปกคลุมด้วยพลังสีดำสองกลุ่มที่ทำหน้าที่เป็นดวงตา

เมื่อสัมผัสได้ว่าลู่หยวนหายไป ดวงตาทมิฬของมันก็ขยับอย่างรวดเร็ว ราวกับพยายามค้นหาอีกฝ่าย

จักรพรรดินียืนอยู่ไกลออกไป ดวงตาของนางเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเพื่อมองหาตำแหน่งของบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่

แต่เมื่ออีกฝ่ายเคลื่อนไหว ร่างก็อันตรธานไปจากอากาศโดยปราศจากร่องรอย

จักรพรรดินีคิ้วขมวดขณะที่อารมณ์มากมายผุดขึ้นภายในใจ

บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่เพิ่งเข้าสู่ครึ่งก้าวขั้นเทียมเทพ แต่กลับมีพลังในการปกปิดตำแหน่งของตนเอง!

คุนเผิงค้นหาอีกฝ่ายอยู่พักใหญ่

ทันใดนั้น!

คุนเผิงเพียงรู้สึกว่าห้วงอากาศซึ่งอยู่ด้านหลังผิดปกติราวกับมีเปลวเพลิงสีดำสองกลุ่มเคลื่อนไหวอยู่ จึงหมุนตัวกลับ

มันสะบัดมือออกไป ทำให้พลังสีดำทะยานออกจากร่างเน่าเปื่อย แล้วฉีกกระชากท้องนภา

ห้วงอากาศแตกสลาย หลุมดำระเบิดอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีร่องรอยของลู่หยวน

ร่างของคุนเผิงหยุดนิ่งขณะที่ดวงตาสีดำยังคงขยับไปมา เพื่อพยายามตามหาร่องรอยของอีกฝ่าย

“ตามหาข้าอยู่หรือ?”

เสียงของลู่หยวนมาจากท้องฟ้า

คุนเผินขยับร่างก่อนจะพบว่าความว่างเปล่าด้านข้างฉีกขาด โดยมีหอกยาวทะลวงออกมาจากอากาศ ทันใดนั้นพลังหอกนับไม่ถ้วนก็พุ่งตรงมาที่ร่างของมัน

พลังหอกปรากฏขึ้นพร้อมกับพลังมังกร

มังกรเจินหลงขดร่างขณะที่หอกพันมังกรเก้าสวรรค์ทะลวงออกไป

คุนเผิงไม่อาจตอบสนองได้ทัน ทำให้ลู่หยวนแทงหอกเข้าไปในร่างของมัน

วิ้ง!

ลู่หยวนพลิกมือ จากนั้นพลังหอกพลันพุ่งกวาดไปทั่วร่างยักษ์

แสงสีทองปกคลุมพลังสีดำทั้งหมดในร่างของคุนเผิง ก่อนที่หลุมดำจะฉีกกระชากสรรพสิ่งรอบข้าง พร้อมกับดึงร่างของคุนเผิงด้วยแรงมหาศาล

ลู่หยวนหยิบแผ่นศิลาสีดำพร้อมดึงหอกยาวออกมาบางส่วน ทำให้พลังของคุนเผิงโคจรเข้าสู่แผ่นศิลา

วิ้ง!

อักขระแปลกประหลาดปรากฏขึ้นบนแผ่นศิลา รูปทรงของมันคล้ายกับคุนเผิง ก่อนที่จะหายไปอย่างรวดเร็ว

ลู่หยวนหมุนแผ่นศิลาในมือ ทำให้มองเห็นอักขระทั้งสามซึ่งถูกประทับอยู่บนนั้น

พวกมันถูกจัดเรียงที่ตำแหน่งบน ล่างและซ้ายตามลำดับ มีเพียงด้านขวาที่ไม่มีรอยประทับ

ลู่หยวนสัมผัสได้ว่า หากรวบรวมตราประทับสัตว์เทวะด้านขวาได้ ความลับของแผ่นศิลาก็จะเปิดเผย

ลู่หยวนเก็บมันไป

ร่างของคุนเผิงในยามนี้พลันทะลวงออกจากแสงสีทองของลู่หยวน

“โฮก!”

คุนเผิงคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ทำให้พลังสีดำปรากฏขึ้นทั่วทั้งร่างแล้วกระจายออกไปทุกทิศทาง ห้วงอากาศรอบข้างพังทลายด้วยกลิ่นอายดังกล่าว

เครื่องหมายยันต์ซึ่งเป็นของค่ายกลปรภพพลันวูบไหวจากร่างของคุนเผิง ก่อนที่กลิ่นอายทรงพลังจะปรากฏขึ้น

ตูม! ตูม! ตูม!

พลังสีดำนับไม่ถ้วนกวาดเข้ามาก่อนจะระเบิด

ราวกับท้องนภาในพื้นที่นี้กำลังจะพังทลาย ราวกับมีมือขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นกดทับลงมาบดขยี้ผืนฟ้าและพื้นจากภายนอก

พลังรอบข้างพลันกระจายออกไป แล้วผสานเข้าด้วยกันอย่างต่อเนื่อง

ลมพายุพัดผ่าน ฟ้าดินเริ่มสั่นสะเทือน

จักรพรรดินีหรี่ตาพลางลอบสบถ ก่อนจะหยิบอาวุธวิเศษแล้วถอยห่างออกมา

ส่วนลู่หยวนผู้อยู่กลางอากาศเก็บหอกพันมังกรเก้าสวรรค์ไว้ข้างหลังขณะที่ล่าถอย

แรงกดดันอันบ้าคลั่งซึ่งมาจากท้องนภาคล้ายกับพุ่งเป้าไปที่ลู่หยวน!

ตูม! ตูม! ตูม!

ห้วงอากาศรอบกายของลู่หยวนไม่อาจทนแรงกดดันอันแข็งแกร่งได้ จึงพังทลาย

ร่างสูงโปร่งของลู่หยวนยืนอยู่ท่ามกลางพื้นที่พังทลาย ชุดสีชาดห่มดำปลิวไสวไปตามแรงลม สีหน้าปราศจากความทุกข์ร้อน

เขาจับจ้องไปที่อักขระค่ายกลปรภพบนร่างของคุนเผิงขณะที่เริ่มครุ่นคิดบางอย่าง

ใครบางคนจะต้องควบคุมยันต์ค่ายกลปรภพเป็นแน่!

แต่ที่แห่งนี้คือหอคอยสมบัติแดนมัชฌิม มีเพียงสมาชิกของวังจักรพรรดิแดนมัชฌิมเท่านั้นที่สามารถเข้าได้!

อักขระค่ายกลปรภพที่ควบคุมคุนเผิงจะต้องเกี่ยวข้องกับราชวงศ์แดนมัชฌิม!

ลู่หยวนชำเลืองมองจักรพรรดินีผู้อยู่ด้านหลัง คนผู้นี้ได้สังเวยอาวุธวิเศษไปหลายชิ้นเพื่อป้องกันตัว

“เหอะ…”

ลู่หยวนพลันหัวเราะก่อนจะได้ข้อสรุป

จักรพรรดินีต้องรู้เรื่องความลึกลับของที่นี่อย่างแน่นอน!

เพียงปรายตา เขาก็ตระหนักได้ว่าอาวุธวิเศษซึ่งอยู่รอบกายของจักรพรรดินีพิเศษมาก

มันคือกระบี่สั้นธรรมดา แม้จะไม่มีความสามารถในการโจมตี แต่พลังของมันนับว่าทรงพลังมาก

ราวกับมีบางอย่างที่ป้องกันคำสาปร้ายได้!

จักรพรรดินีย่อมไม่สังเวยอาวุธวิเศษโดยไม่มีเหตุผล นางต้องทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นจึงได้ทำการสังเวยกระบี่สั้นเล่มนี้!

เมื่อทราบถึงความลึกลับแล้ว!

ถ้าอย่างนั้นก็ต้องยับยั้งร่างคุนเผิงก่อน แล้วค่อยซักถามถึงเรื่องราวทั้งหมดจากจักรพรรดินี!

ลู่หยวนรู้สึกว่าการตัดสินใจก่อนหน้านี้ถูกต้อง ดังนั้นเขาควรพาจักรพรรดินีร่วมทางไปด้วยเพื่อให้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในภายหลังได้รับการคลี่คลาย!

เขาตัดสินใจสะบัดหอกพันมังกรเก้าสวรรค์ แล้วพลังอันมหาศาลก็ปรากฏขึ้น

ตรงหว่างคิ้วของเขาฉีกขาด เมื่อเนตรเทวะสีโลหิตปรากฏขึ้น หมอกสีแดงพลันปกคลุมท้องนภา

เมื่อเห็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่เตรียมทุ่มสุดกำลัง จักรพรรดินีผู้ยืนอยู่ข้างกายจึงเฝ้าดูด้วยท่าทางครุ่นคิด