ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 293 กุ่ยซู่ปรากฏตัวอีกครั้ง!
บทที่ 293 กุ่ยซู่ปรากฏตัวอีกครั้ง!
บทที่ 293 กุ่ยซู่ปรากฏตัวอีกครั้ง!
ด้านนอกฉวนจง ฉู่เชิ่งเดินไม่หยุดและครู่ต่อมาก็พลิ้วออกไปไกล
เมื่อรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองเบากว่าเดิม ฉู่เชิ่งผุดยิ้มเล็กน้อย
เม็ดยาวิญญาณของตระกูลชิวไม่เลวเลยจริง ๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาไม่เพียงแต่อาการบาดเจ็บจะฟื้นฟูดีแล้ว การฝึกฝนยังมีแนวโน้มเลื่อนระดับอยู่ราง ๆ
เขาติดอยู่ในขั้นเทียมเทพระดับกลางมาเป็นเวลานาน เดิมทีช่วงชิงจังหวะมากมายให้ได้มีโอกาสเลื่อนระดับการบ่มเพาะและพยายามก้าวเข้าสู่ขั้นเทียมเทพระดับสูงหรือแม้กระทั่งระดับสมบูรณ์
ทว่า… ในช่วงวันเวลาที่เขาได้รับโอกาสเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นช่วงเวลาที่ถูกกดดัน
ตอนนี้นับว่าโชคดีไม่เลวที่ไม่ได้ถูกอัดจนตาย
ดีที่ปราณวิญญาณภายในทะเลลมปราณพลิกผันอย่างต่อเนื่องและมีสัญญาณที่ดีของการทะลวงขั้น
หากช่วงชิงเพลิงเร้นลับได้ครานี้ เช่นนั้นก็จะใช้เพลิงเร้นลับได้อย่างสมบูรณ์ด้วยความช่วยเหลือจากวิชาเพลิงสวรรค์ผลาญภพ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสเลื่อนระดับการบ่มเพาะ!
ครานี้คงไม่มีลู่หยวนหรือใครมารบกวนกระมัง!
ฉู่เชิ่งลอยอยู่กลางอากาศอย่างชื่นมื่น ไม่นานก็หยิบเม็ดยาวิญญาณออกมาขบเคี้ยวและกลืนลงท้องราวกับลูกกวาด
หากผู้อื่นเห็นเม็ดยาวิญญาณในมือของฉู่เชิ่ง เกรงว่าทุกคนคงต้องอิจฉาแน่นอน
เม็ดยาวิญญาณที่อยู่ในมือของฉู่เชิ่งนั้นมีคุณภาพสูง และยังมีอักขระเม็ดยาชั้นยอดพันล้อมรอบ กลิ่นอายของเม็ดยานั้นหอมและอยู่ระดับสามหรือสี่
ยาเม็ดเหล่านี้ในสำนักนิกายระดับสูงต่าง ๆ ก็สร้างได้เพียงไม่กี่เม็ดในหนึ่งเดือน
คนส่วนใหญ่ล้วนเก็บมันไว้และกินเมื่อพวกเขาเลือกที่จะเลื่อนขั้นการบ่มเพาะ
จะมีผู้ใดเหมือนฉู่เชิ่งที่เคี้ยวราวลูกกวาด?!
กินทีเป็นกล่อง ๆ!
ฟุ่มเฟือยอย่างแท้จริง!
ฉู่เชิ่งคล้ายจะไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะเขาค้นเจอหลายสิบกล่องจากร่างของสมาชิกตระกูลชิวเหล่านั้น!
จิ๊! สมกับเป็นตระกูลชิวที่มีเบื้องหลังแข็งแกร่งจริงๆ
ในขณะที่ฉู่เชิ่งกำลังถอนหายใจ รอยยิ้มในดวงตาก็กลายเป็นเย็นชาทันที
เดิมที เขาวางแผนจะอาศัยอยู่ข้างกายคนตระกูลชิวจริง ๆ เพราะที่แห่งนี้มีทรัพยากรมากมายไม่รู้จบ และพวกเขาล้วนตอบรับคำขอทั้งหมดของฉู่เชิ่ง ตราบใดที่ไม่ใช่คนโง่ล้วนปฏิบัติอย่างเชื่อฟัง
จนกระทั่งเขาตื่นขึ้นในตอนเช้าวันนั้นก็รู้สึกร้อนรุ่มในใจ และมีความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้ก่อตัวไม่หยุด ปราณวิญญาณส่วนหนึ่งที่เป็นของวิชาเพลิงสวรรค์ผลาญภพจู่ ๆ ก็โคจรไปมาภายในทะเลลมปราณ ราวกับจะบอกอะไรบางอย่าง
แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้ยินชิวหลิงคุยกับคนของตระกูลชิวว่ามีนิมิตประหลาดปรากฏขึ้น
ในชั่วพริบตานี้เอง ฉู่เชิ่งพลันเข้าใจ!
นิมิตนั้นจะต้องเป็นการกำเนิดของเพลิงวิญญาณเป็นแน่!
วิชาเพลิงสวรรค์ผลาญภพกำลังบอกฉู่เชิ่งว่าเพลิงวิญญาณปรากฏขึ้นแล้ว!
ในใจของฉู่เชิ่งรู้สึกตื่นเต้นยินดี จากนั้นเขาจึงรีบออกจากลานบ้านเพื่อไปค้นหาเพลิงวิญญาณ!
แต่เมื่อเขาก้าวออกจากห้อง ก็พบว่าชิวหลิงที่ปกติจะอ่อนโยนพลันเปลี่ยนท่าทีและมองเขาด้วยความระแวดระวัง และพลังรอบตัวก็ผันผวนราวกับพร้อมจะลงมือทุกเมื่อ
ชิวหลิงถามฉู่เชิ่งด้วยใบหน้าเย็นชาว่าจะไปที่ใด
ฉู่เชิ่งลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ได้บอกว่านิมิตนั้นเป็นเพลิงวิญญาณ เพียงบอกว่าเขาต้องการออกไปข้างนอก
ชิวหลิงขัดขวางฉู่เชิ่งทันทีและหาข้ออ้างไม่ให้เขาจากไป
ภายในใจของฉู่เชิ่งในตอนนั้นตระหนักถึงอะไรบางอย่าง
ตระกูลชิวต้องการกักขังเขาไว้!
ยากที่ฉู่เชิ่งจะฉลาดสักครา เขาเริ่มสงสัยเกี่ยวกับคำพูดของชิวเฟิงจู้ก่อนหน้านี้ในทันที
เรื่องการกักขังเขาต้องไม่ใช่ความตั้งใจของชิวหลิงเพียงคนเดียว แต่เป็นความตั้งใจของชิวเฟิงจู้!
โชคดีที่ในวันนั้นฉู่เชิ่งเชื่อฟังคำพูดของชิวเฟิงจู้และยังวางแผนจะผูกมิตรกับตระกูลชิว เพื่อจัดการลู่หยวนกับชิวชิงหลี แล้วไปพบคุณชายใหญ่ของตระกูลชิว ชิวเสวียนคนนั้นสักครั้ง บางทีอาจจะได้รับเพลิงวิญญาณที่เขาแสวงหาได้จริง ๆ
ทว่าตอนนี้ฉู่เชิ่งไม่เชื่อ!
ชายหนุ่มไม่เพียงแต่ไม่เชื่อ ยังสงสัยด้วยว่าเหตุใดตระกูลชิวถึงช่วยเขา!
ฉู่เชิ่งนั่งคิดอยู่ในห้องตลอดทั้งคืน ระลึกถึงทุกประโยคที่พูดคุยกับชิวเฟิงจู้นับครั้งไม่ถ้วน และในที่สุดก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด
เกรงว่าชิวเฟิงจู้ต้องการอะไรบางอย่างจากคำพูดของเขา เพื่อเล่นงานชิวชิงหลี
ทว่า…ในระหว่างการสนทนาวันนั้น ฉู่เชิ่งเพียงหลีกเลี่ยงทุกคำที่ชี้ไปที่ชิวชิงหลี และโยนเรื่องนี้ไปที่ลู่หยวน!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฉู่เชิ่งจึงรู้สึกกลัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากเขาพูดอะไรออกไปในตอนนั้นจริง ๆ และยืนยันบางอย่างเกี่ยวกับชิวชิงหลีเช่นนั้น เขาจะรอดพ้นไปได้หรือ?!
บางทีเพียงคำพูดไม่กี่คำของชิวเฟิงจู้และคนอื่น ๆ เขาก็กลายเป็นผู้ช่วยของชิวชิงหลี และตระกูลชิวจะสั่งฆ่าปิดปากเขาด้วยเช่นกัน!
ถึงอย่างไร ยิ่งมีคนรู้เกี่ยวกับการฉุดผู้สืบทอดตระกูลลงมาและผลักดันใครสักคนขึ้นไปน้อยเท่าใดก็ยิ่งดี!
คืนนั้นฉู่เชิ่งคิดมากมายและในที่สุดก็ตัดสินใจหนีออกจากที่แห่งนี้!
ผู้อ่อนแอในโลกใบนี้จะตกเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่ง การแข็งแกร่งกว่าผู้อื่นเท่านั้นที่จะทำให้อยู่ยงคงกระพัน!
“เพลิงวิญญาณอันดับที่สามสิบหก—— เพลิงเร้นลับ!”
ฉู่เชิ่งเลียริมฝีปาก ภายในร่างกายของเขาตอนนี้มีเพลิงสวรรค์และเพลิงเหมันต์สงัดอยู่ หากได้รับเพลิงวิญญาณมา ก็จะใช้วิชาเพลิงสวรรค์ผลาญภพทำให้เพลิงสวรรค์ในร่างกายก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น!
เมื่อเพลิงสวรรค์และเพลิงวิญญาณสองชนิดรวมตัวกัน พลังของบงกชพิโรธเพลิงสวรรค์ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!
ดวงตาของฉู่เชิ่งเต็มไปด้วยความเร่าร้อน เขาพุ่งไปข้างหน้าเร็วขึ้น
…
ด้านนอกฉวนจง บนเทือกเขาที่ทอดยาวแห่งหนึ่ง สัตว์อสูรกระจายตัวทั่วบริเวณ
ทันใดนั้น!
กลิ่นอายอันทรงพลังพัดออกมาจากบนภูเขา คลื่นพลังหมุนวนไปทั่วทุกทิศทาง!
หลังจากผ่านไปหนึ่งถ้วยชา พลังนั้นก็ค่อย ๆ สงบลง
หลังจากนั้นไม่นาน ร่างหนึ่งก็เดินออกมาจากถ้ำบนภูเขาช้า ๆ
ร่างนั้นผอมเพรียวสะโอดสะอง สวมชุดสีขาวโปร่ง มีท่าทางเย็นชาและสันโดษ ใบหน้างามหาใครเทียบมิได้ คิ้วสีดำขมวดแน่นราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
คนผู้นี้คือชิวชิงหลี
หลังจากที่ล่อมู่พ่านซานออกไป อีกฝ่ายก็รู้ตัวในไม่กี่ชั่วยามต่อมา ทั้งสองคนต่อสู้กัน แต่ชิวชิงหลีไม่ใช่คู่ต่อสู้ จึงเสียเปรียบ
โชคดีที่มู่พ่านซานไม่ได้คิดจะฆ่านาง เพียงจากไปหลังทำให้บาดเจ็บ
“แค่ก ๆๆ…”
ชิวชิงหลีไอสองสามครั้ง ใบหน้าสีขาวกลายเป็นแดงฝาดเล็กน้อย
นางปรับลมหายใจอยู่ที่นี่สองสามวัน ทว่าทำได้เพียงระงับการบาดเจ็บได้ชั่วคราว ไม่สามารถฟื้นฟูได้สมบูรณ์
แต่นางรอต่อไปไม่ได้แล้ว!
มู่พ่านซานกลับไปแล้ว ถ้าเขาพบกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ เกรงว่าจะเกิดปัญหา!
นางต้องกลับไปดูว่าจะช่วยบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ได้หรือไม่!
ชิวชิงหลีกำลังจะจากไป พลันเห็นท้องฟ้าตรงหน้าปรากฏรอยแยก และชายชุดสีดำก็โผล่ออกมาจากรอยแยกนั้น
ทันใดนั้น ร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น
ชิวชิงหลีเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าคนคนนั้นคล้ายเด็กผู้หญิงอายุสิบสามหรือสิบสี่ปี นางสวมเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่เหมือนเด็กสวมชุดผู้ใหญ่ ดูน่าขบขันเล็กน้อย
ทว่าสาวน้อยผู้นั้นยืนอยู่กลางอากาศ ดวงตาสีแดงเข้มไม่แยแส และไม่มีร่องรอยพลังใด ๆ รอบตัว
นับตั้งแต่ชิวชิงหลีเห็นคนคนนี้ ความกังวลก็เกิดขึ้นในใจของนาง แม้คนคนนี้จะดูไม่เป็นอันตราย แต่เมื่อได้สบตา ชิวชิงหลีรู้สึกราวกับได้เห็นเทพสังหารที่ไร้อารมณ์!
“เจ้าคือใคร?!”
ชิวชิงหลีลอบโคจรพลังและถามพลางขมวดคิ้ว
เด็กสาวมองไปที่ชิวชิงหลีโดยไม่มีร่องรอยของอารมณ์ในแววตา เพียงตอบว่า “ข้าคือผู้ใต้บังคับบัญชาของบุตรศักดิ์สิทธิ์ กุ่ยซู่!”