ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 318 จักรพรรดิตกอยู่ในอันตราย!
บทที่ 318 จักรพรรดิตกอยู่ในอันตราย!
บทที่ 318 จักรพรรดิตกอยู่ในอันตราย!
ในท้องนภาไกล สิ่งปลูกสร้างที่ดูเหมือนห้องโถงทรุดโทรมขนาดใหญ่ลอยอยู่ในอากาศ
พลังมารรอบข้างโคจรทั่วฟ้าดินอันกว้างใหญ่ เศษดินกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่ง
โลกใบนี้ไร้ซึ่งชีวิต เนื่องจากพลังมารช่วงชิงทุกสิ่งในที่ที่มันเคลื่อนผ่าน
ส่วนโครงกระดูกสัตว์ประหลาดกำลังบินเข้าไปทางห้องโถงใหญ่บนท้องนภา
จักรพรรดินีสีหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว นางนอนแน่นิ่งอยู่บริเวณหัวใจของมัน ซึ่งเพลิงสวรรค์ที่ลอยอยู่รอบข้างไม่ร้อนแรงเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
เปลวเพลิงหมองหม่นคล้ายกับจะมอดดับลงทุกเมื่อ!
หมายความว่าร่างของจักรพรรดินีใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว!
ในเวลาเดียวกัน!
มีหลายร่างมารวมตัวกันในถ้ำลับวังจักรพรรดิแดนมัชฌิม
คนที่นั่งอยู่ตำแหน่งสูงสุดมีผมสีขาว พลังรอบข้างถูกสะกดเอาไว้ จึงยากจะบอกได้ว่ารากฐานการบ่มเพาะอยู่ขั้นใด
สายตาของร่างนั้นโหดเหี้ยมและน่าหวาดกลัวราวกับอาบไปด้วยพิษ กวาดมองผู้คนเบื้องล่างด้วยโทสะ
หลายคนผู้อยู่เบื้องล่างยืนนิ่งด้วยความระแวดระวัง จนไม่กล้าหายใจแรง!
ผู้ที่นั่งอยู่ตำแหน่งสูงสุดก็คือเนี่ยอิ่ง
เขากำสร้อยข้อมือระลอกคลื่นในมือขณะจ้องมองเบื้องล่าง “จนถึงตอนนี้พวกเจ้าก็ยังไม่ทราบว่าใครลักพาตัวฝ่าบาทไปอย่างนั้นหรือ?!”
เสียงตะโกนทำให้ทุกคนตัวสั่น มีคนผู้หนึ่งก้าวมาข้างหน้าด้วยอาการหวาดกลัวแล้วเอ่ยอย่างสั่นเทา “นายท่าน ข้า…”
ยังไม่ทันเอ่ยจบ แรงกดดันอันทรงพลังยิ่งของเนี่ยอิ่งพลันปกคุลมรอบข้างเอาไว้ สิ้นเสียง ‘พรวด’ คนผู้นั้นถูกบดขยี้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย โลหิตสาดกระเซ็นไปไกลสามฉื่อ
โลหิตที่กระเซ็นมาโดนร่างของผู้อื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้คนที่เหลือยิ่งหดคอ ขาสั่นเทา ศีรษะก้มต่ำ ไม่กล้าเอ่ยสิ่งใด
มีสองคนเดินมาจากข้างนอก เมื่อเห็นเนี่ยอิ่งเดือดดาล หนึ่งในพวกเขาก็เอ่ยว่า “อมิตตาภพุทธ เนี่ยอิ่ง เจ้าระบายโทสะกับพวกเขาไปก็ไม่มีประโยชน์!”
เนี่ยอิ่งปรายตามอง ก่อนจะพบว่าผู้มาใหม่คือสวีชู่กับสวี่หลิวอวิ๋น!
คนที่เหลือซึ่งยืนอยู่เบื้องล่างเริ่มโล่งอกเมื่อเห็นคนทั้งสองเดินเข้ามา
หากมีพวกเขาอยู่ เนี่ยอิ่งก็จะไม่ระบายโทสะใส่ผู้ใดอีก!
เมื่อชายชราเห็นทั้งสองคนนั้น ก็เอ่ยเย้ยหยันออกมา “พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
สวีชู่เช็ดมืออันมันเยิ้มกับเสื้อผ้าแล้วเอ่ยว่า “เนี่ยอิ่ง เจ้าพูดเรื่องอะไร? พวกข้าต่างก็เคยปกป้องฝ่าบาท ในเมื่อตอนนี้มีบางอย่างเกิดขึ้นกับพระองค์ ย่อมกังวลเป็นธรรมดา”
“เจ้าเป็นคนเดียวในวังจักรพรรดิแดนมัชฌิมที่พยายามจะปกป้องฝ่าบาทอย่างสุดความสามารถหรืออย่างไร?”
สวีชู่เอ่ยพร้อมกับยิ้มอ่อนออกมา
เนี่ยอิ่งเย้ยหยัน “สวีชู่ คิดหรือว่าข้าไม่ทราบว่าพวกเจ้าวางแผนจะทำอะไร!”
“ในสายตาพวกเจ้า ผู้ปกครองแดนมัชฌิมจะเป็นใครหาได้สำคัญไม่ ขอเพียงได้รับการปรนนิบัติต่อไปก็พอแล้ว!”
“ไม่ว่าจักรพรรดินีจะปลอดภัยหรือไม่ มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับพวกเจ้า”
“พวกเจ้ามาที่นี่เพียงเพื่ออยากทราบว่าตอนนี้ฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง หากทรงปลอดภัยดีก็จะแสดงความเคารพเพื่อให้นางตบรางวัล”
“หากฝ่าบาทไม่รอด พวกเจ้าก็แค่หาเจ้านายคนใหม่เพื่อคอยประจบก็เท่านั้น!”
สวี่หลิวอวิ๋นเพียงท่อง ขอเทียนจุนอำนวยพร จากนั้นจึงส่ายหน้า “เนี่ยอิ่ง เจ้าพูดเรื่องอะไร? พวกข้าย่อมเป็นห่วงฝ่าบาท แต่บางครั้งชะตาก็ชักนำให้พบเจอกับความยากลำบาก”
“เจ้าน่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าร่างของฝ่าบาทคงอยู่ได้อีกไม่นาน การที่พระองค์สูญเสียเพลิงสวรรค์อย่างต่อเนื่อง ย่อมไม่ต่างจากอายุขัยที่สั้นลง”
“พวกเราใช้ทรัพยากรมากมายเพื่อยื้อชีวิตนางมาได้จนถึงทุกวันนี้ แต่ก็มิอาจขัดขืนเจตจำนงสวรรค์ได้”
“เนี่ยอิ่ง เจ้าต้องเข้าใจนะว่าโชคชะตาเป็นสิ่งที่ขัดขืนไม่ได้!”
สวี่หลิวอวิ๋นปัดฝุ่นในมือแล้วเอ่ยอมิตตาภพุทธอีกครั้ง จากนั้นก็เอ่ยว่า “พวกข้าแค่น้อมฟังเจตจำนงสวรรค์พร้อมทั้งให้การสนับสนุน พวกข้าต่างจงรักภักดีต่อฝ่าบาทแห่งจักรวรรดิแดนมัชฌิม”
“หากจักรพรรดินีครองบัลลังก์แดนมัชฌิม พวกข้าย่อมพยายามสุดความสามารถที่จะแสดงความจงรักภักดีต่อนาง แต่ถ้านางไม่ใช่ผู้นำอีกต่อไป เช่นนั้นก็อย่าโทษพวกข้าที่ไม่รักษามิตรภาพอันเก่าแก่เอาไว้”
สวีชู่เอ่ยจากด้านข้าง “ใช่แล้ว ๆ เนี่ยอิ่ง อย่าทำให้พวกข้าดูแย่ขนาดนั้น ก็แค่เส้นทางที่เลือกเดิน มันต่างกัน”
“อย่าลืมสิว่าเจ้าเป็นใคร! เจ้าคือองครักษ์ของราชวงศ์แดนมัชฌิม หาใช่สุนัขรับใช้ของนางไม่!”
เนี่ยอิ่งยิ่งเดือดดาลจนพลังรอบข้างรุนแรงมากขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนี้
ตู้ม!
พลังกดทับลงมาจนทำให้ถ้ำพังทลาย!
เมื่อแรงกดทับเคลื่อนลงมา ผู้ที่มีรากฐานการบ่มเพาะต่ำก็กระอักโลหิต แรงกดดันลามมาถึงหัวใจและปอดของพวกเขาจนถูกบดขยี้เป็นผุยผง
มีหลายคนถึงแก่ความตายภายใต้การโจมตีนี้
แต่สวี่หลิวอวิ๋นกับสวีชู่ยังคงยืนนิ่ง พลังของทั้งสองทะยานออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อขัดขืนแรงกดดันของเนี่ยอิ่ง
พลังทั้งสามแห่งยังคงปะทะเข้าหากัน ทำให้เกิดการปะทะหลายครั้งในพริบตา
แม้เนี่ยอิ่งจะมั่นใจว่าสังหารทั้งสองคนได้ แต่เขาจะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หากลงมือขึ้นมา!
จักรพรรดินียังไม่ทราบว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร นางอาจกำลังรอให้เขาไปช่วยอยู่ก็เป็นได้
มันได้ไม่คุ้มเสียที่จะมาเสียแรงกับขยะทั้งสองนี้!
ส่วนสวี่หลิวอวิ๋นกับสวีชู่ผู้อยู่ฝั่งตรงข้ามมีสีหน้าเฉยชา พวกเขามั่นใจว่าเนี่ยอิ่งไม่กล้าลงมือแน่นอน
การที่พวกเขามาในวันนี้ก็เพราะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
ใครบางคนถึงกับลักพาตัวจักรพรรดินี แม้กระทั่งเนี่ยอิ่งก็ไม่ทราบสถานการณ์แน่ชัด ดูท่าคนผู้นี้จะมีฝีมือไม่ธรรมดา!
ยิ่งกว่านั้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พระวรกายของจักรพรรดินียิ่งย่ำแย่ หากนางออกจากวังจักรพรรดิแดนมัชฌิมโดยที่ไม่พกโอสถวิญญาณติดตัวไปด้วย การสูญเสียพลังสวรรค์เพียงอย่างเดียวก็สามารถคุกคามนางจนถึงแก่ชีวิตได้!
หลังจากคำนวณอย่างถ้วนถี่แล้ว เกรงว่าทั่วทั้งแดนมัชฌิมจะเกิดการเปลี่ยนมือ!
ไม่เพียงแค่พวกเขาเท่านั้น แต่ยังมีองครักษ์บางส่วนจากวังจักรพรรดิแดนมัชฌิมที่ทราบเบื้องลึกเบื้องหลังจนพอจะคาดเดาทิศทางของเรื่องราวหลังจากนี้ได้
หากจักรพรรดินีสวรรคต น้องสาวของนางก็จะเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์!
ทว่าบัดนี้นางยังคงเก็บตัวอยู่ ไม่ยอมออกมาพบหน้าใคร
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็มีผู้ฉวยโอกาสบางส่วนกระตือรือร้นที่จะไปหาฮ่วนซิงไป๋เพื่อประจบสอพลอ!
ถึงอย่างไร หากองค์หญิงขึ้นครองบัลลังก์ เขาก็จะกลายเป็นพระสวามีของนาง!
การประจบสอพลอจึงนับเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง!
พลังของทั้งสามคนต่างไม่มีใครยอมใคร ราวกับจะโค่นล้มอีกฝ่ายลงให้ได้
ในตอนนี้เอง!
สร้อยข้อมือระลอกคลื่นที่อยู่ในมือของเนี่ยอิ่งพลันปรากฏแสงเลือนราง
ทั้งสามหันมาสนใจทันที
เนี่ยอิ่งสูดหายใจก่อนจะตรวจสอบ เขาเพียงจับร่องรอยของกลิ่นอายจักรพรรดินีได้ แต่เมื่อจะระบุตำแหน่งที่แม่นยำ สิ่งนั้นพลันอันตรธานหายไป
แสงบนสร้อยข้อมือหมองหม่นไร้สีสัน ดูไม่ต่างจากขยะเมื่อเทียบก่อนหน้านี้
ใบหน้าของเนี่ยอิ่งซีดเผือด แม้เพิ่งจับร่องรอยของจักรพรรดินีได้ แต่เขาก็สัมผัสได้เช่นกันว่าสภาพของนางในตอนนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก!
สวีชู่กับสวี่หลิวอวิ๋นสังเกตเห็นเช่นกัน พวกเขาต่างมองหน้ากัน ก่อนจะตระหนักว่าจุดประสงค์ของการมาที่นี่ได้บรรลุแล้ว
มุมปากของพวกเขายกยิ้ม “เนี่ยอิ่ง พวกข้าขอเตรียมตัวไปรับใช้เจ้านายคนใหม่ก่อน ขอตัว!”