ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 339 ทำแค่อย่างเดียว ปกป้องลู่หยวน!
บทที่ 339 ทำแค่อย่างเดียว ปกป้องลู่หยวน!
บทที่ 339 ทำแค่อย่างเดียว ปกป้องลู่หยวน!
สีหน้าของลู่หยวนพลันแปลกพิกล เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดอูโจ้วถึงยังหัวเราะออกมาได้
ผ่านไปหลายอึดใจ อูโจ้วเห็นลู่หยวนยังคงเงียบจึงเงยหน้ามอง ก่อนจะพบว่าใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขายิ่งตกตะลึงแล้วครุ่นคิดอย่างหนัก
หลังจากนั้น อูโจ้วก็คุกเข่ากับพื้นพร้อมกอดต้นขาของลู่หยวน แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “นายท่านไม่ต้องห่วง ข้าจะติดตามท่าน ข้าไม่คิดที่จะมีภรรยาอีกแล้ว!”
สิ้นคำ เขาครุ่นคิดสักพักแล้วเอ่ยเสริม “แน่นอนว่านายท่านทั้งปราดเปรื่อง ทรงพลัง โชคลาภวาสนามากมี เปี่ยมด้วยเหตุผล เป็นธรรมดาที่ท่านจะคิดถึงข้าและใช้เวลาว่างอันน้อยนิดเพื่อออกไปตามหาภรรยา”
อูโจ้วยื่นนิ้วออกมา “นายท่าน ข้าไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว สิ่งที่ต้องการมีเพียงหนึ่งเดียว! ข้าต้องการ…”
ยังไม่ทันเอ่ยจบประโยค เขารู้สึกได้ว่าต้นขาที่กำลังยึดจับไว้พลันเคลื่อนไหว ตามมาด้วยความเจ็บปวดที่ช่วงท้อง ก่อนจะทันตอบสนอง ร่างก็ลอยไปข้างหลังจนกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง
“กลับโลกปรภพไป อย่าออกมาจนกว่าข้าจะสั่ง!”
น้ำเสียงลุ่มลึกของลู่หยวนเต็มไปด้วยความกระสับกระส่าย
อูโจ้วกล้ำกลืนความเจ็บปวดแล้วรีบลุกขึ้นมา “น้อมรับคำสั่ง!”
จากนั้นเขาขยับกาย ก่อนค่ายกลจะปรากฏเพื่อพาเข้าสู่โลกปรภพ
ลู่หยวนกุมหน้าผาก แลกภรรยาสามคนกับอันธพาลผู้สามารถควบคุมโลกปรภพได้หรือ?
เขาจำได้ว่าเดิมที ฉู่เชิ่งเป็นผู้สร้างอูโจ้วขึ้นมา!
หรือว่าฉู่เชิ่งทำให้อูโจ้วยอมจำนนด้วยสัญญาว่าจะมอบภรรยาให้ตามแผนเดิมที่วางไว้?!
ลู่หยวนหยุดคิดแล้วเอนกายแผ่หราบนเตียง เขาสนทนากับฉินอี่หานอยู่ในใจสองสามคำ ก็เข้าใจถึงสถานการณ์ภายในแดนมัชฌิม หลังจากถ่ายทอดคำสั่งแล้ว ก็เอาผ้าห่มซึ่งอยู่ด้านข้างมาคลุมท้องไว้ก่อนจะผล็อยหลับไป
แม้อยู่ในห้วงนิทรา ลู่หยวนก็ยังคงโคจรพลัง ชุดเกราะเกล็ดพลังวิถีสวรรค์ซึ่งอยู่ภายในจิตเทวะ อันถูกช่วงชิงมาจากสุสานราชวงศ์ได้พุ่งเข้าสู่ทะเลลมปราณด้วยความคิดของตัวเอง มันหมุนเวียนไปมาประหนึ่งกำลังโคจรพลังอยู่ก่อนจะถูกหลอมเข้าไป
หลับไปได้ครู่หนึ่ง ลู่หยวนก็รู้สึกถึงพลังมหาวิถีอันเลือนรางที่ปกคลุมร่างกายเอาไว้ โดยมีอำนาจกดขี่อันแข็งแกร่งอยู่ภายในพลังนั้น ซึ่งมันสามารถทะลวงสรรพสิ่งนอกจากลู่หยวนได้
พลังมหาวิถีนี้คล้ายกับกำลังชี้นำไปสู่บางสิ่ง ลู่หยวนยังสัมผัสได้ว่าทะเลลมปราณกำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพร้อมกับชุดเกราะเกล็ดวิถีสวรรค์ที่ถูกหลอมเข้าด้วยกัน!
ลู่หยวนเพียงรู้สึกว่ากลิ่นอายนี้ทำให้รู้สึกสบายกาย แต่เมื่อพลิกตัวก็คล้ายกับถูกบางสิ่งที่อ่อนนุ่มกดทับเอาไว้ เขาจึงยื่นมือออกไปจับและนวดคลึง ก่อนจะรู้สึกได้ว่ามันมีความสูงพอประมาณ รูปทรงคล้ายกับหมอน
ลู่หยวนจับส่วนอ่อนนุ่มนี้ไว้แล้วเงยหน้าขึ้นหนุน เขาพลันรู้สึกสบายขึ้น
เฮ้อ… หมอนใบนี้ช่างนุ่มสบายเสียจริง
ลู่หยวนลอบถอนหายใจ
หลังจากเงียบไปหลายอึดใจ ลู่หยวนพลันลืมตาขึ้น เขาขยับร่างอีกครั้ง แต่กลับได้ยินเสียงอันคุ้นเคยดังมาจากข้างกาย
“อย่าขยับ ข้ากำลังใช้เคล็ดวิชาหอกเพื่อหลอมชุดเกราะเกล็ดวิถีสวรรค์ให้เจ้าอยู่”
แม้น้ำเสียงจะเย็นชา แต่เสียงนี้ฟังดูอ่อนโยนกว่าปกติ
ลู่หยวนเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายคือหลิงอวิ๋น!
ลู่หยวนผ่อนคลายร่างกาย “เป็นอาจารย์สำนักนี่เอง ข้าคิดว่าเป็นคนอื่นเสียอีก”
หลิงอวิ๋นเงียบไปขณะเอนตัวลงบนเตียงพลางขมวดคิ้ว นางยื่นมือขวาออกมา เจตจำนงมหาวิถีอันบริสุทธิ์ก็กระจายออกมาเข้าสู่ทะเลลมปราณของลู่หยวน
เมื่อนั้น เขาจึงเข้าใจว่าส่วนอ่อนนุ่มที่หนุนอยู่เป็นขาขาวของหลิงอวิ๋น!
แค่ก!
ลู่หยวนลังเลสักพักและกำลังจะขยับศีรษะ แต่หลิงอวิ๋นใช้มือซ้ายกดไหล่ของเขาไว้เพื่อให้นอนลง
“อย่าขยับ”
ลู่หยวนพิงขาของหลิงอวิ๋นเพื่อรอนางหลอมชุดเกราะเกล็ดจนเสร็จ
ความจริง เขาเพียงให้ชุดเกราะเกล็ดหลอมตัวเองเพื่อจะได้โคจรพลังและฝึกฝนต่อไปได้
ตอนนี้เขาตื่นเต็มสองตาแล้ว จึงหลอมอาวุธด้วยตัวเองได้ ทั้งยังทำได้เร็วขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากพลังมหาวิถีที่หลิงอวิ๋นใช้
แต่ว่า…
ในเมื่ออาจารย์สำนักหวังดี ลู่หยวนจะปฏิเสธได้อย่างไร!
มีแต่เดรัจฉานที่ปฏิเสธมิใช่หรือ?!
ลู่หยวนนอนลงบนขาขาวของหลิงอวิ๋นพลางหรี่ตา
ทว่าภายในใจของลู่หยวนยิ่งบังเกิดความประหลาดใจ
ตอนที่หลิงอวิ๋นเข้ามาในห้อง เขาก็มองไม่เห็นแม้แต่น้อย
แม้กระทั่งตอนที่นางถ่ายทอดเจตจำนงมหาวิถีเข้าสู่ร่างกาย เขาก็ยังไม่ตอบสนอง!
หัวใจของลู่หยวนตึงเครียดขณะที่ความคิดมากมายพรั่งพรูออกมา
ในตอนนี้!
เสียงระบบก็ดังขึ้น
[แจ้งเตือนจากระบบ: หลิงอวิ๋นปรากฏตัว ระบบได้แจ้งเตือนท่านแล้ว!]
[แต่ความปรารถนาของท่านในยามนี้: หากไม่ต้องการถูกรบกวน ระบบจะไม่แจ้งเตือนท่านซ้ำอีกครั้ง!]
ไม่ต้องการถูกรบกวนหรือ?!
ลู่หยวนเอียงศีรษะ แสดงออกว่าเขาไม่เข้าใจ
หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป หลิงอวิ๋นจึงชักมือกลับ เจตจำนงหอกบนร่างจึงเงียบสงบ
ชุดเกราะเกล็ดในทะเลลมปราณของลู่หยวนถูกหลอมอย่างสมบูรณ์
[แจ้งเตือนจากระบบ: ขอแสดงความยินดีด้วย! ท่านหลอมชุดเกราะเกล็ดวิถีสวรรค์เสร็จสิ้น ท่านได้รับ: วิถีสวรรค์แห่งดาบ!]
[เนื่องจากชุดเกราะเกล็ดวิถีสวรรค์ถูกหลอมด้วยความช่วยเหลือของหลิงอวิ๋น มันจึงมีเจตจำนงหอกสูงสุดรวมอยู่ภายใน! ขอแสดงความยินดีที่ท่านทำความเข้าใจเจตจำนงหอกได้ในหนึ่งอึดใจ!]
ลู่หยวนยกยิ้ม
แน่นอนว่าไม่มีใครปฏิเสธเจตนาดีของอาจารย์สำนักได้!
“พวกเสวียนเทียนชวนรอเจ้าอยู่ ออกไปสิ”
หลิงอวิ๋นเอ่ย
ลู่หยวนลุกขึ้น เขาทราบเช่นกันว่าสถานการณ์ในแดนมัชฌิมได้เปลี่ยนไปแล้ว
ความโกลาหลเช่นนี้คือช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การจับปลาในน้ำขุ่น!
“ขอบคุณอาจารย์สำนัก”
ลู่หยวนยิ้มแล้วเอ่ย ก่อนจะเดินออกไปสองก้าว ทว่าพลันหยุดนิ่ง
“อาจารย์สำนัก เจ้าจะไม่กลับไปพักผ่อนหรือ?”
แม้ลู่หยวนจะไม่ทราบว่าหลิงอวิ๋นพบเขาได้อย่างไร ถึงอย่างไรตระกูลหลิงก็ใหญ่โต มีห้องมากมาย แต่นางก็ยังหาเขาจนพบ
มันคือโชคชะตาไม่ผิดแน่!
หลิงอวิ๋นมีท่าทีสงบขณะจัดผ้าห่มของลู่หยวนให้เรียบร้อย จากนั้นเอ่ยว่า “นี่คือห้องของข้า”
“แค่ก ๆ ๆ…”
ลู่หยวนแตะจมูก “ข้าขอตัวก่อน”
หลิงอวิ๋นหยุดส่งเสียงขณะกำลังจัดห้องให้เป็นระเบียบ
ลู่หยวนออกมาจากห้องในชั่วพริบตา
เขาเริ่มเรียกพวกฉินอี่หานด้วยจิตสำนึกทางวิญญาณ
หลังจากลู่หยวนออกไปแล้ว หลิงอวิ๋นก็จัดห้องจนเสร็จ เมื่อหลับตา อากาศในห้องก็สั่นไหว ก่อนที่ร่างจำนวนมากจะปรากฏขึ้นในอากาศ
คนเหล่านี้ต่างเป็นผู้อาวุโสระดับสูงในตระกูลหลิง
พวกเขายืนอยู่ข้างหลังหลิงอวิ๋นแล้วมองหน้ากันด้วยท่าทีลังเล
หนึ่งในพวกเขายังคงก้าวออกมาข้างหน้าแล้วประสานมือทำความเคารพหลิงอวิ๋น “ประมุขน้อย ตอนนี้ทั่วทั้งแดนมัชฌิมตกอยู่ในความโกลาหล ตระกูลหลิงควรทำเช่นไรดี?”
นับตั้งแต่หลิงอวิ๋นก้าวเข้าสู่วิถีหอกอำมหิตจนการบ่มเพาะทะลวงขั้นสู่สวรรค์ ประมุขคนปัจจุบันของตระกูลหลิงก็เข้าสู่การเก็บตัว จึงทิ้งเรื่องน้อยใหญ่ไว้ให้พวกผู้อาวุโสในตระกูลจัดการ
ปกติแล้วผู้อาวุโสเหล่านี้จะสนทนากันเองเพื่อคลี่คลายเรื่องตระกูลบางส่วนด้วยตัวเองได้
แต่บัดนี้สถานการณ์ในแดนมัชฌิมได้เปลี่ยนไปแล้ว การตัดสินใจอาจจะส่งผลต่อความเป็นไปได้ของทั้งตระกูล
พวกเขาจึงไม่กล้าลงมือ
ประมุขตระกูลเก็บตัวไปแล้ว หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน พวกเขาจึงมาขอคำชี้แนะจากหลิงอวิ๋น
หลิงอวิ๋นหันมาแล้วหลุบตา เอ่ยอย่างไม่ลังเล “ไม่ต้องทำอะไร ทำแค่อย่างเดียว ปกป้องลู่หยวน!”