ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 350 ทะลวงกำแพง
บทที่ 350 ทะลวงกำแพง
บทที่ 350 ทะลวงกำแพง
เยวี่ยตงไห่ไม่ทราบว่าคนที่อยู่ด้านหลังกำลังสนทนาถึงตน เขายังคงจับจ้องไปยังกำแพงใหญ่ตรงหน้าด้วยสายตาหนักอึ้ง
ง้าวมังกรครามแปดแดนร้างในมือปกคลุมด้วยแสงสว่าง มันใช้ประโยชน์จากระดับการบ่มเพาะที่ก้าวกระโดดของเยวี่ยตงไห่ ทำให้มีอำนาจของเทพสังหาร!
ไม่ว่าตระกูลอื่นจะเป็นพันธมิตรกับเยวี่ยตงไห่หรือไม่ แต่ยามนี้สายตาทุกคู่ล้วนจับจ้องมาที่เขา
สายตาของเยวี่ยตงไห่มืดมนลง มือพลันยกง้าวขึ้น
โฮก!
เสียงคำรามของมังกรครามดังกึกก้องในชั่วพริบตา ทุกคนสัมผัสได้ถึงความอึดอัดในใจขณะเสียงดังกล่าวกว้างออกมา
บางคนที่มีการบ่มเพาะตื้นเขินจึงไม่สามารถทนต่อแรงกดดันอันทรงพลังนี้ได้ จึงหลั่งโลหิตออกจากรูทวารทั้งเจ็ดด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส!
ทันใดนั้น!
ง้าวในมือของเยวี่ยตงไห่ก็ทะยานออกไป พร้อมเสียงคำรามของมังกรสั่นสะเทือนพื้นที่รอบข้างก่อนจะแตกสลาย
พลังอันมหาศาลพลันกวาดผ่านไปในชั่วพริบตา ขณะพลังกดทับลงมาที่ฝูงชน เมื่อสายลมแรงกล้าพัดพามาอย่างบ้าคลั่ง
ตู้ม!
ปลายง้าวแทงไปที่กำแพงอย่างรุนแรงขณะพลังมังกรครามไร้พรมแดนกดทับลงมาจากทุกทิศทางทันที
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
กำแพงโยกไหวไปมาภายใต้พลังอันทรงอานุภาพ
ทุกคนโคจรการบ่มเพาะทั่วทั้งร่างขณะจับจ้องไปยังกำแพง
ทันทีที่กำแพงแตก พวกเขาจะทะยานตรงเข้าหาเส้นชีพจรจักรพรรดิ!
ผ่านไปหลายอึดใจ ทุกสิ่งจึงกลับมาสงบ
เยวี่ยตงไห่ดึงง้าวมังกรครามแปดแดนร้างกลับมา แล้วกำแพงที่กำลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรงก็กลับมาสงบเช่นกัน
กำแพงไม่แตกสลาย!
“แค่การโจมตีครั้งเดียวยังต้องใช้พลังของเยวี่ยตงไห่มากขนาดนี้ ถึงกระนั้นกำแพงก็ไม่แตกสลาย ทั้งหัวใจของเขายังถูกแผดเผาโดยเปล่าประโยชน์อีก!”
“ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป! ง้าวในมือของเขาเป็นของดี! ต่อให้เปิดกำแพงจนเปิดทางให้พวกเราไม่ได้ แต่อาวุธระดับครึ่งก้าวศักดิ์สิทธิ์ก็คุ้มค่าแก่การรอคอย!”
“ข้าไม่นึกเลยว่าตระกูลเยวี่ยจะมีรากฐานที่สามารถสร้างอาวุธระดับนั้นได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าอาจมีของดีชิ้นอื่นซ่อนอยู่ในตระกูลก็เป็นได้ จบเหตุการณ์ในวันนี้เมื่อไหร่ ข้าจะต้องไปเยี่ยมเยียนพวกเขาเสียหน่อย!”
คำพูดของพวกเขาเต็มไปด้วยความละโมบ ในสายตาของพวกเขา ตระกูลเยวี่ยกลายเป็นของหวานชิ้นโตไปแล้ว!
เยวี่ยตงไห่ผู้นี้คือประมุขตระกูลเยวี่ย ผู้คอยถ่ายทอดคำสั่งให้แก่ตระกูล คำพูดและการกระทำของเขาค่อนข้างทรงอำนาจ
ทันทีที่เขาตาย ตระกูลเยวี่ยก็จะตกต่ำอย่างหนัก!
ถึงตอนนั้น ทุกสิ่งในตระกูลเยวี่ยจะตกอยู่ในการครอบครองของพวกเขา!
ยิ่งเวลาผ่านไป พลังของเยวี่ยตงไห่ก็ยิ่งลดลง แต่เขายังคงยกง้าวขึ้นแล้วพุ่งออกไปทะลวงกำแพงอย่างบ้าคลั่ง
หลายคนที่อยู่แนวหลังกำลังมุ่งหน้าไปทางเยวี่ยตงไห่ พวกเขาเพียงกำลังรอให้อีกฝ่ายตายเพื่อจะได้แย่งชิงง้าวมังกรครามแปดแดนร้าง!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ง้าวยังคงกระแทกเข้าใส่กำแพงจนเกิดเสียงคำรามดังกึกก้อง
แม้ปลายง้าวจะกระทบกำแพงจนเกิดประกายไฟลอยขึ้นสู่ท้องนภา แต่พลังของเยวี่ยตงไห่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง
ซุยชิงหยางผู้อยู่ท่ามกลางฝูงชนดูไม่สบายใจอย่างยิ่ง เขารีบรายงานสภาพของอีกฝ่ายลงบนยันต์แล้วส่งออกไป
อาวุธระดับครึ่งก้าวศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่ได้เป็นของตระกูลซุย!
แต่เป็นสิ่งที่คุณชายมอบให้!
แต่ซุยชิงหยางมอบง้าวให้เยวี่ยตงไห่เพื่อทะลวงกำแพงเมือง!
แต่บัดนี้ความหวังที่จะทะลวงเข้าไปช่างริบหรี่ ดูจากการเคลื่อนไหวของผู้คนแล้ว หากเยวี่ยตงไห่ตายขึ้นมา ง้าวมังกรครามแปดแดนร้างจะต้องถูกแย่งชิงไปแน่นอน!
ซุยชิงหยางยิ่งวิตกกังวล แต่ผ่านไปสักพัก ยันต์อีกแผ่นก็ปรากฏขึ้นในมือ
เขาลอบเปิดดูก่อนจะพบคำว่า “ไม่มีปัญหา” ถูกเขียนเอาไว้
สองคำนี้ถูกเขียนขึ้นอย่างทรงพลัง โดยเส้นตัวอักษรที่เคลื่อนไหวอิสระมีศักยภาพมากพอจะชักนำแผ่นดิน!
เมื่อซุยชิงหยางเห็นลายมือนี้ เขาพลันรู้สึกโล่งอก
หากคนผู้นั้นบอกว่าไม่มีปัญหา แสดงว่าไม่มีปัญหาจริง!
เยวี่ยตงไห่ผู้อยู่ตรงหน้าทุกคนยังคงตวัดง้าวอย่างบ้าคลั่งไม่หยุดพัก
แม้พวกเขาจะเลิกหวังกับเยวี่ยตงไห่ไปนานแล้ว แต่ตระกูลทั้งหลายที่สนับสนุนอีกฝ่ายกลับรู้สึกกังวล
หากไม่ได้เข้าวังจักรพรรดิในวันนี้ พวกเขาก็จะกลายเป็นเรื่องตลกขบขันของทั่วทั้งแผ่นดิน
ไม่ว่าเส้นชีพจรจักรพรรดิจะตกอยู่ในมือของใครในภายภาคหน้า แต่พวกเขาจะกลายเป็นหัวข้อสนทนายามรับประทานอาหารมื้อเย็น!
พวกเขายังพอมีหวังหากมันตกอยู่ในมือของผู้อื่น อย่างเลวร้ายที่สุดก็คือออกจากแดนมัชฌิม ไปหาสถานที่ห่างไกลแล้วมาเริ่มต้นกันใหม่
แต่ถ้าเส้นชีพจรจักรพรรดิไม่ถูกพรากไปแล้วยังอยู่ในการคุ้มครองของตระกูลกู่ เช่นนั้นสิ่งที่พวกเขาทำในวันนี้เท่ากับเป็นการยั่วยุอีกฝ่าย!
ก่อเรื่องขนาดนี้ พวกเขายังจะเหลือศพให้เก็บอีกหรือ?!
เมื่อคิดได้ดังนี้ ผู้คนต่างก็เริ่มรู้สึกเย็นเยือกอยู่ภายในใจ ทั้งแข้งขาและเท้าเริ่มอ่อนกำลัง
คมกระบี่ที่มองไม่เห็นลอยอยู่เหนือศีรษะพวกเขาแล้ว พวกมันคล้ายกับจะฟาดฟันลงมาผ่ากลางร่างของพวกเขาได้ทุกเมื่อ!
เมื่อเห็นว่าเยวี่ยตงไห่ยังคงทำในสิ่งที่เปล่าประโยชน์ คนเหล่านี้ก็ยิ่งเดือดดาล หลายคนถึงขั้นรู้สึกเสียใจที่ก่อกบฏในครั้งนี้!
แต่ก่อนจะทันได้ลงมือ พวกเขาก็รู้สึกถึงคนจำนวนมากกำลังมุ่งไปทางอีกฝ่าย
ทันใดนั้น!
เยวี่ยตงไห่ก็หยุดมือขณะเสียงหนึ่งลอยเข้ามาในหู
“ท่านประมุข! องครักษ์ทมิฬหนึ่งร้อยห้าสิบเก้าคนของตระกูลเยวี่ยมาถึงแล้ว!”
เยวี่ยตงไห่ดึงง้าวกลับมาพลางยกยิ้ม เขาเงยหน้าด้วยความองอาจ
เวลา…มาถึงแล้ว!
เยวี่ยตงไห่ออกแรงที่มือขวาจนแขนปูดโปนและหนาเท่ากับร่างกาย เส้นเลือดบนมัดกล้ามปรากฏขึ้นพร้อมกับพละกำลังของร่างกายที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง!
เขายกง้าวขึ้นแล้วตวัดออกไปอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับเสียงคำรามของมังกร ก่อนมังกรครามจะทะยานออกมาจากมันแล้วตรงเข้าสู่กำแพง
ตู้ม!
พลังไร้พรมแดนเคลื่อนผ่านง้าวแล้วจมเข้าสู่กำแพง
หลังจากเงียบไปชั่วขณะ เสียง ‘เปรี๊ยะ ๆ ๆ’ ก็ดังขึ้น
กำแพงซึ่งปกคลุมทั่วทั้งวังจักรพรรดิแดนมัชฌิมเริ่มพังทลายในทันที!
ทั่วทั้งแดนมัชฌิมในตอนนี้ก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด ไม่เพียงตระกูลที่รวมตัวใกล้วังจักรพรรดิเท่านั้น แม้กระทั่งผู้ที่ลอบเฝ้ามองอยู่ต่างก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา
หลายคนในตระกูลต่างเตรียมตัวพร้อมอยู่แล้ว สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่วังจักรพรรดิ ตอนนี้เองที่ประมุขตระกูลได้ถ่ายทอดคำสั่ง
“โจมตี!”
เมื่อผู้คนนับไม่ถ้วนได้รับคำสั่ง พวกเขาต่างทะยานออกไป พร้อมทั้งกระตุ้นการบ่มเพาะทั่วร่าง เพื่อตรงเข้าสู่วังจักรพรรดิแดนมัชฌิม
วูบ! วูบ! วูบ!
แสงรุ้งนับไม่ถ้วนพาดผ่านท้องนภา ขณะมุ่งตรงสู่ภายในวังจักรพรรดิ
สายตาที่กำลังจับจ้องอยู่บริเวณด้านนอกของเหล่าประมุขตระกูลยิ่งร้อนแรง
บัดนี้พวกเขาอยู่ใกล้เส้นชีพจรจักรพรรดิมาก!
เยวี่ยตงไห่ใช้กำลังไปมากที่สุดเพื่อเปิดกำแพงนี้!
เขาจึงไม่มีทางเทียบผู้อื่นได้!
ส่วนตระกูลเหล่านั้นที่ยังคงเฝ้ามองเมื่อครู่ ต่อให้ส่งคนมาก็ไปถึงจุดหมายไม่ได้ในทันที!
พวกเขาคือผู้มีสิทธิ์ที่จะได้เส้นชีพจรจักรพรรดิมากที่สุด!
หลังจากนี้ก็มีแต่พวกตนที่ต้องต่อสู้แย่งชิงกัน!