ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 365 ฮ่วนซิงไป๋ปกป้องสุดชีวิต!
บทที่ 365 ฮ่วนซิงไป๋ปกป้องสุดชีวิต!
บทที่ 365 ฮ่วนซิงไป๋ปกป้องสุดชีวิต!
ชิวเสวียนหรี่ตามอง คนผู้นี้คือฉู่เชิ่งไม่ผิดแน่!
เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ยามได้ยินชื่อของตัวเอง!
น้อยคนนักที่จะขัดขืนได้!
คนผู้นี้จะต้องเป็นฉู่เชิ่งอย่างแน่นอน!
ชิวเสวียนกระซิบบอกทาสอารักขาผู้อยู่ข้างกาย “ข้าจะไปฆ่าเมล็ดพันธุ์มาร พวกเจ้าคอยคุ้มกันที่นี่!”
ทาสอารักขาตอบตกลงทันที “ขอรับ!”
ชิวเสวียนยกหอกในมือแล้วพยักหน้าไปทางฮ่วนซิงไป๋ “ขอบคุณ!”
เมื่อสิ้นคำ ร่างของเขาวูบไหว พลันมุ่งหน้าเข้าหาฉู่เชิ่งเพื่อปลิดชีพ!
ฉู่เชิ่งสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่อธิบายไม่ได้จากด้านหลัง ทำเอาหนังศีรษะชาด้านจนไม่กล้าลังเลอีกต่อไป เขากระตุ้นปราณวิญญาณทั้งหมดในร่างกายเพื่อหลบหนีไปไกล!
ชิวเสวียนตามติดไปอย่างไม่รีบร้อน หากต้องการฆ่าฉู่เชิ่งก็ต้องทำในที่ลับตา!
หาไม่แล้ว หากชายคนนี้แพร่งพรายสิ่งที่ไม่ควรเอื้อนเอ่ยขึ้นมา…
ร่างทั้งสองพุ่งออกจากเมืองหลวงแดนมัชฌิมอย่างรวดเร็วก่อนจะหลบหนีไปไกล
แม้ฮ่วนซิงไป๋จะเผยรอยยิ้มเจื่อน แต่แววตาของเขากลับไม่แย้มยิ้มตาม มันเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
มีปัญญาแค่นี้ แต่ยังอยากสังหารบุตรศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรือ?!
ยังเร็วไปแปดร้อยปี!
ในยามนี้ แสงสีขาวเคลื่อนลงมาจากท้องนภา สาดส่องมายังลู่หยวนผู้นั่งขัดสมาธิอยู่
พื้นที่แห่งนี้คือจุดซึ่งภัยพิบัติอัสนีเคลื่อนลงมา!
ฮ่วนซิงไป๋ถอนสายตาจากระยะไกล แล้วชำเลืองมองทาสอารักขาสามคนซึ่งอยู่ไม่ไกล รอยยิ้มของเขาพลันหายไป
ชายหนุ่มถือดาบยาวมังกรพลัดถิ่นขณะค่อย ๆ เดินมาข้างหน้า ก่อนจะเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย
ดาบในมือสั่นไหวพร้อมกับเสียงคำรามของมังกรทะยานสู่ท้องนภา
ฮ่วนซิงไป๋ขมวดคิ้วขณะดวงตาเต็มไปด้วยจิตวิญญาณต่อสู้ “พวกเจ้าสามคนจะยอมนิ่งเฉยแต่โดยดีหรือจะรนหาที่ตาย?!”
สายลมพัดผ่านจนทำให้ชุดคลุมของเขาปลิวไสว เงาของมังกรยังคงแหวกว่ายไปมาอยู่บนดาบ สะท้อนใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณต่อสู้ของผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตนคือชายหนุ่มผู้ไม่กลัวเกรงสิ่งใดในโลก!
ทาสอารักขาทั้งสามคนต่างพากันหัวเราะร่วนเมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้ชายตรงหน้าอาจเป็นคุณชายจากตระกูลชั้นสูง ระดับการบ่มเพาะจึงไม่อาจเทียบเคียงพวกเขาได้ แล้วอีกฝ่ายกล้ามายืนอยู่เบื้องหน้าลู่หยวนได้อย่างไร?!
รนหาที่ตาย!
ครืน!!!
สายฟ้านับไม่ถ้วนรวมตัวกันท่ามกลางหมู่เมฆบนท้องนภา โดยมีบางส่วนฟาดลงมาจนปกคลุมทั่วทั้งสี่ทิศซึ่งลู่หยวนนั่งอยู่
หมู่เมฆสีดำนับไม่ถ้วนเคลื่อนลงมาจากสวรรค์ชั้นเก้า พร้อมทั้งยังซ้อนทับกันไปมา
ราวกับกองทัพสวรรค์เกราะดำจำนวนมหาศาลกำลังเยื้องย่างลงมาทีละก้าว!
หัวใจของผู้คนต่างรู้สึกหนักอึ้งเมื่อเห็นผืนฟ้าเป็นเช่นนี้
ส่วนบรรพชนของตระกูลทั้งหลายในยามนี้ต่างพากันออกคำสั่งให้สมาชิกทุกคนผนึกรูทวารทั้งเจ็ดแล้วเข้าสู่การเก็บตัว!
ผ่านไปสักพัก ลูกหลานของตระกูลชั้นสูงที่ยังรอดชีวิตอยู่ในแดนมัชฌิมต่างทำตามคำชี้แนะของบรรพชนด้วยการเก็บตัว พวกเขาจึงไม่รับรู้ถึงความเป็นไปของโลกภายนอกอีกต่อไป!
ทาสอารักขาทั้งสามคนกำลังจะเอ่ยบางอย่าง แต่เสียงของชิวสิงดังขึ้นในหูของพวกเขา
“หยุดภัยพิบัติอัสนีของลู่หยวนให้ได้! ข้ากำลังจะไปในไม่ช้า! ไม่ว่าต้องใช้วิธีอะไรก็ต้องหยุดมันให้จงได้!”
ทาสอารักขาสงบสติทันทีก่อนจะตอบรับในใจ “น้อมรับคำสั่ง!”
พวกเขามองหน้ากัน เพียงหนึ่งอึดใจก็ตรงเข้าหาฮ่วนซิงไป๋อย่างรวดเร็ว!
ฮ่วนซิงไป๋ตกตะลึง พลันโพล่งคำพูดหยาบคายออกมา “มารดามันเถอะ ดีแต่ใช้กำลังรังแกคนกลุ่มน้อย!”
ทันทีที่สิ้นคำ เขาก็รวบรวมพลัง ก่อนเสียงคำรามของมังกรจะดังขึ้นทั่วทั้งตัวดาบ
เพียงชั่วพริบตา ร่างมายาของมังกรพเนจรลอยขึ้นจากทางด้านหลังของฮ่วนซิงไป๋!
พลังมังกรขยายตัวออกไป ก่อนจะปกคลุมทั่วทั้งร่างของเขาอย่างสมบูรณ์!
โฮก! โฮก! โฮก!
มังกรแผดเสียงคำรามออกไปไกลสามพันลี้ ทำให้อากาศใต้เท้าถูกบดขยี้ในชั่วพริบตา!
ทาสอารักขาสามคนก็รวบรวมพลังเช่นกันร่างวูบไหวอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือต่อสู้กับเขตแดนภัยพิบัติอัสนีของลู่หยวนแล้วต้านทานมันไว้ด้วยการบ่มเพาะของตนเอง!
เพียงชั่วพริบตา ทั้งสามคนกำลังจะตรงเข้าสังหารฮ่วนซิงไป๋
ในยามนี้ เจตจำนงหอกสูงสุดและเจตจำนงกระบี่ทะลวงสวรรค์ทะยานออกไปเพื่อหยุดยั้งการรุดหน้าของทาสอารักขาทั้งสอง
ร่างของหลิงอวิ๋นกับลู่เทียนเฟิ่งปรากฏขึ้น พร้อมกับหอกยาวและดาบยักษ์ซึ่งตั้งตระหง่านในอากาศ
จิตสังหารปรากฏในดวงตาของลู่เทียนเฟิ่ง “หากขยับอีกก้าวเดียว ตาย!”
พวกเขาเพิ่งประมือกับลู่เทียนเฟิ่งและหลิงอวิ๋นมา จึงทราบว่าไม่อาจดูถูกความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้!
ส่วนคนที่ไม่ถูกหยุดไว้ก็กำลังจะมาถึงตัวฮ่วนซิงไป๋
ฮ่วนอวี่หลันผู้อยู่ไม่ไกลคล้ายกับจะลงมือ แต่กลับถูกฮ่วนปั๋วห้ามเอาไว้
“คุณชายก็เติบใหญ่แล้ว ถึงเวลาที่เขาจะต้องขัดเกลาฝีมือเสียบ้าง ตอนนี้มาดูกันดีกว่าว่าพลังของเขามีมากน้อยแค่ไหน”
ฮ่วนอวี่หลันขมวดคิ้ว “พลังของคุณชายแตกต่างกับคนผู้นี้มากเกินไป แบบนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือ?”
ฮ่วนปั๋วส่ายหน้า “คุณชายยังไม่ได้ปลุกพรสวรรค์ของตระกูลขึ้นมา นอกจากนี้ยังเผชิญกับการต่อสู้ที่มีความแตกต่างกันมาก เขาอาจจะปลุกพลังขึ้นมาได้หนึ่งถึงสองอย่างในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายก็ได้ ยิ่งกว่านั้น ไม่ได้มีเพียงเจ้ากับข้าซึ่งอยู่ที่นี่ คุณชายยังมีบางสิ่งที่ต้องปกป้องด้วยชีวิต ดังนั้นปล่อยให้เขาได้ลองสักครั้งเถอะ!”
ฮ่วนปั๋วนิ่งสักพักขณะชำเลืองมองลู่หยวนผู้กำลังนั่งขัดสมาธิ ก่อนจะถอนหายใจ “คณชายเลือกเจ้าเด็กคนนี้แล้ว เกรงว่าภายภาคหน้าคงมีหลายสิ่งที่ต้องทำ…”
ขณะทั้งสองสนทนา ทาสอารักขาก็มาถึงตัวฮ่วนซิงไป๋แล้ว
พลังอันมหาศาลรวมตัวกันอยู่ในมือของเขา เพียงชั่วพริบตา พลันระเบิดออกมุ่งตรงเข้าหาฮ่วนซิงไป๋!
แม้จะสัมผัสได้ถึงพลังที่กำลังเข้ามา แต่เขากลับไม่หวาดกลัวพลางครุ่นคิดว่าต่อให้วันนี้จะเกิดอะไรขึ้น ก็จะปล่อยให้คนเหล่านี้เข้าไปรบกวนลู่หยวนในเขตแดนภัยพิบัติอัสนีไม่ได้เด็ดขาด!
ทันทีที่พลังอันมหาศาลพุ่งเข้ามา ฮ่วนซิงไป๋ก็ยกดาบ พร้อมกับเสียงคำรามของมังกรที่ดังขึ้น เพียงพริบตา ร่างมังกรขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ด้านหลัง ก็ทะยานเข้าต่อกรกับทาสอารักขา!
ตู้ม!
ฝ่ามือของทาสอารักขาปะทะเข้ากับเงามังกรที่พุ่งเข้ามาจนเกิดเสียงปะทะดังกึกก้อง
“เหอะ คิดจะใช้พลังนี้ขัดขวางข้างั้นหรือ?! ไม่รู้จักประมาณตน!”
ทาสอารักขาปลดปล่อยพลังเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ร่างมังกรขนาดใหญ่พังทลายในชั่วพริบตา!
ร่างของอีกฝ่ายยังคงพุ่งตรงเข้ามา ทำให้ฮ่วนซิงไป๋ต้องรีบยกดาบขึ้นปัดป้อง
ชิ้ง!
ฝ่ามือและดาบเข้าปะทะกัน เพียงพริบตา พลังไร้ที่สิ้นสุดก็กระจายไปทุกทิศทาง
ฮ่วนซิงไป๋รับรู้ถึงพลังที่ส่งผ่านตัวดาบอย่างรวดเร็วจนทำเอาแขนสั่นสะท้าน
กร็อบ! กร็อบ! กร็อบ!
ตอนนี้พลังของฮ่วนซิงไป๋ถูกสยบจนสิ้น ทำให้กระดูกแขนทั้งท่อนพลันแตกสลาย
ใบหน้าของเขาซีดเผือดขณะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ดวงตาถมึงทึง ขณะที่ปราณวิญญาณโคจรรักษารอบแขนซึ่งกำลังจะแตกสลาย!
ผ่านไปสักพัก พลังของทาสอารักขายังคงเพิ่มขึ้น ฮ่วนซิงไป๋ยังคงถูกกดดันให้ถอยร่นไป!
ทันใดนั้น ฮ่วนซิงไป๋ก็ก้าวไปขวางทางพลังของทาสอารักขาอย่างยากลำบาก
เขารู้ดีว่า ถอยมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว!
เพราะอีกเพียงก้าวเดียวก็จะถึงเขตแดนภัยพิบัติอัสนีของลู่หยวน!