ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 48 เผ่าภูตผียอมจำนน (ปลาย)
บทที่ 48 เผ่าภูตผียอมจำนน (ปลาย)
บทที่ 48 เผ่าภูตผียอมจำนน (ปลาย)
“แต่ว่า…”
คุณชายลู่เลิกคิ้วขึ้น “ข้าผู้นี้จะปล่อยให้พวกเจ้าได้เห็นเดือนเห็นตะวัน ไม่ให้พวกเจ้าหลบซ่อนในที่มืดและอับชื้น สามารถเดินไปบนถนนได้อย่างผ่าเผย และสามารถอาละวาดและสังหารได้ตามใจชอบ”
กุ่ยซู่ตะคอก “อย่างนั้น เจ้าคงไม่รู้ว่าผู้คนในแผ่นดินหยวนหงล้วนแต่ปฏิเสธพวกเรา แล้วเจ้าจะทำเช่นไรให้พวกเราได้กลับมาใช้ชีวิตอยู่ใต้แสงตะวันอีกครั้งเล่า?!”
“เจ้าเพียงต้องการให้พวกข้าเชื่อใจ แล้วยอมรับใช้เจ้า!”
“จิตใจมนุษย์นั้น ข้ามองเห็นหมดสิ้นแล้ว!”
ลู่หยวนหยิบยันต์ออกมาโยนให้กับกุ่ยซู่ “แปะมันลงบนร่างของสหาย แล้วลองสัมผัสกลิ่นอายของเขาดู”
คนฟังลังเลครู่หนึ่งก่อนจะแปะมันลงบนร่างของสหายด้านข้าง ยันต์ค่อย ๆ หลอมรวมเข้ากับร่างกายของอีกฝ่าย ส่องแสงสว่างวาบสีทองอร่ามต่อหน้ากุ่ยซู่ สุดท้ายแล้ว กลิ่นอายของเผ่าภูตผีจึงค่อย ๆ เลือนหายไป
…หายไป?!
กุ่ยซู่หันศีรษะไปมองอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “เจ้าทำได้อย่างไร?!”
ชายหนุ่มยกยิ้ม ยันต์เหล่านี้ถูกเขียนขึ้นโดยมารดาของเขา
มารดาของเขาคืออู่หมิงเสวี่ย จักรพรรดินีแห่งสำนักยันต์แห่งแรกในแผ่นดินหยวนหง… สำนักอักขระสวรรค์
ยันต์ที่นางสร้างขึ้นไม่ธรรมดา และย่อมไม่ใช่สิ่งธรรมดาทั่วไป
ยันต์ที่ลู่หยวนเพิ่งมอบให้กับเผ่าภูตผีเมื่อครู่ถูกสร้างขึ้นโดยอู่หมิงเสวี่ย และถูกใช้เป็นของวิเศษเพื่อปกปิดกลิ่นอายมารในกายของลู่หยวน
มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงหากจะกล่าวว่าระดับของยันต์นี้เทียบเท่ากับสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่ล้ำค่าที่สุด
กลิ่นอายมารยังสามารถปกปิดได้ ดังนั้นเพียงกลิ่นอายของเผ่าภูตผีพวกนี้จึงเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
“อย่าได้กังวลว่าข้าทำได้อย่างไร แต่พวกเจ้าต้องทราบว่าข้าผู้นี้มีความสามารถที่จะปกปิดกลิ่นอายเผ่าภูตผีของพวกเจ้าได้ และเช่นนี้พวกเจ้าจะสามารถเดินเหินบนแผ่นดินใหญ่ได้ราวกับบุคคลทั่วไป”
ลู่หยวนหยุดลงสักครู่ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ข้าทราบว่าพวกเจ้าเกิดมาเพื่อเข่นฆ่า… เพื่อวิชาลับที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นของตระกูล พวกเจ้าจะต้องสังหาร สังหาร และสังหาร มีเพียงการสังหารเท่านั้นที่จะทำให้พวกเจ้าก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว”
“แต่อย่างไรเสีย วิชาลับของพวกเจ้ายังมีข้อบกพร่อง”
ชายหนุ่มหันมองกุ่ยซู่แล้วยกยิ้ม “อย่างเช่น มันไปสร้างขีดจำกัดในการเติบโต…”
สีหน้าของคนฟังกลายเป็นหนักใจ เขามองอีกฝ่ายสักครู่ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เจ้ากล่าวถูกต้องแล้ว ยิ่งพวกเราฝึกฝนวิชานี้เท่าไหร่ ร่างกายของพวกเรายิ่งถูกจำกัดมากเท่านั้น แต่อย่างไรนี่คือแนวทางปฏิบัติของเผ่าภูตผีของพวกเรา หากละทิ้งวิชาลับนี้ เราก็ไม่มีวิชาอื่นให้ฝึกฝนอีกแล้ว”
ทุกวันนี้วิชาลับที่เผ่าภูตผีฝึกฝนอยู่ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่มันกลับกลายเป็นขีดจำกัดของพวกเขาทั้งสภาวะอารมณ์และสภาพร่างกาย นี่เองคือสาเหตุที่ทำให้กุ่ยซู่อยู่ในร่างเด็กหญิงตัวน้อย
ว่ากันว่าเมื่อวิชาลับพวกนี้ได้รับการบ่มเพาะจนกระทั่งสำเร็จ… ร่างนั้นจะกลายเป็นทารก
กุ่ยซู่เป็นสตรี ดังนั้นนางจึงไม่ต้องการให้ร่างกายเป็นเช่นนั้น นับตั้งแต่ยังเด็ก นางจึงจงใจชะลอการฝึกฝนของตนเอง เพื่อระงับโลหิตที่ปะทุอยู่ภายใน และหวังว่าจะสามารถทำให้ร่างกายนี้ค่อย ๆ ถูกลดการเจริญเติบโตให้ช้าลง
ลู่หยวนกล่าวสั้น ๆ “ข้ามีวิชาลับอยู่ในมือ ซึ่งสามารถแทนที่วิชาที่พวกเจ้ากำลังฝึกฝนอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาทางร่างกายที่พวกเจ้ากำลังกังวลได้ด้วย”
นางมองชายหนุ่มด้วยสายตาลุ่มลึก ในใจเริ่มดิ้นรนปรารถนา
“ที่เจ้าพูดมาเป็นความจริงหรือ?”
สตรีเผ่าภูติผีรู้สึกว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลลู่ผู้นี้มิใช่มนุษย์ วิธีการของเขามันยากหยั่งรู้ มีกระทั่งยันต์ที่สามารถปิดกั้นกลิ่นอายของเผ่าภูตผีได้
จะมีวิชาที่เผ่าภูตผีสามารถฝึกฝนได้โดยไม่มีผลกระทบต่อร่างกายอยู่หรือไม่? แม้จิตใต้สำนึกของนางยังกรีดร้องว่าไม่มีทาง
ทว่าในใจก็ยังลอบเชื่อในตัวของลู่หยวน
โดยธรรมชาติแล้ว ชายหนุ่มได้เห็นการต่อสู้ของเผ่าภูตผี ดังนั้นเขาจึงสอบถามระบบเกี่ยวกับวิชาของเผ่าภูตผี
[วิชาที่เหมาะสำหรับผู้มีสายเลือดเผ่าภูตผี!]
[ต้องการค่าชะตาวายร้าย 4,000 แต้ม!]
“ระบบ ใช้ค่าชะตาวายร้ายล่วงหน้า 10,000 แต้ม! เพื่อแลกกับวิชา!”
[แลกแต้มล่วงหน้าสำเร็จ!]
[การแลกเปลี่ยนสำเร็จ! ท่านสามารถตรวจสอบได้ทันที!]
ลู่หยวนถือวิชาภูตผีไว้ในมือแล้วพูดว่า “หากสิ่งที่อยู่ในมือของข้าคือวิชาที่เหมาะกับเผ่าของพวกเจ้า แล้วพวกเจ้าจะยอมจำนนต่อข้าหรือไม่?”
กุ่ยซู่หลุบสายตาลงอย่างใช้ความคิด ส่วนคนอื่น ๆ เริ่มมองหน้ากัน
หลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้าเล็กของร่างเล็กก็เงยขึ้น เวลานี้ใบหน้าอ่อนเยาว์คล้ายเด็กหญิงเผยความเคร่งขรึมอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “หากเป็นจริงเช่นนั้น และเจ้าสามารถปลดตราทาสของพวกเราได้ เผ่าภูตผีของพวกเราทั้งหมดจะยินยอมจำนนต่อเจ้า!”
บุตรศักดิ์สิทธิ์จึงมอบวิชาในมือของเขาออกไป
เขาไม่กลัวว่าคนเหล่านี้จะหักหลังผิดคำสัญญา สุดท้ายแล้วหากมันเลวร้ายที่สุด เขาก็จะใช้ร่างมาร… ในเวลานั้น เผ่าภูตผีก็จะเหลือเพียงเถ้ากระดูกแห้งกรัง
อย่างไรเสีย… ลู่หยวนทราบดีว่ารังของเผ่าภูตผีอยู่ที่ใด หลังจากฆ่าพวกมันสองสามตน พวกเขาก็จะออกตามหาพวกมันอีกครั้ง แล้วในเผ่าภูตผีกลุ่มใหญ่เหล่านั้นจะไม่มีสักสองสามตนที่ยอมเป็นสุนัขรับใช้ของเขาเชียวหรือ?
กุ่ยซู่รับมันพร้อมกับตรวจสอบอย่างระมัดระวัง เพียงไม่กี่ลมหายใจ ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นก็แปรเปลี่ยนไปเป็นหลากหลายอารมณ์
ท้ายที่สุด กุ่ยซู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกราวกับตัดสินใจบางอย่างได้แล้ว นางถือวิชาลับไว้ในมือก่อนจะคุกเข่าลงข้างหนึ่งให้กับชายตรงหน้า “เผ่าภูตผีขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อนายท่านไปจนวันตาย!”
ร่างเล็กยินยอมแล้ว สมบัติลับในมือของอีกฝ่ายนั้นล้ำค่าเหนือกว่าที่นางจะจินตนาการถึง แม้นางจะมีสมองหมู แต่สุดท้ายก็ตระหนักได้ว่าตราบใดที่นางติดตามลู่หยวน เผ่าภูตผีจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันจะต้องมุ่งหน้าสู่เส้นทางอนาคตยิ่งใหญ่แน่นอน!
เมื่อเห็นว่าผู้นำคุกเข่าลงแล้ว ที่เหลือจึงรีบทำตามทันทีและพูดเสียงดังว่า “เผ่าภูตผีขอสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อนายท่านจนวันตาย!”
ระบบแจ้งว่า [เผ่าภูตผียอมจำนนต่อท่านและกลายเป็นผู้ติดตาม ความภักดีในปัจจุบันคือ 100 แต้ม!]
ชายหนุ่มไม่คาดคิดว่าเผ่าภูตผีเหล่านี้จะกลายเป็นผู้ติดตามของเขาโดยตรง แต่นั่นก็ดีแล้ว เพราะมันจะทำให้เขาผ่านพ้นปัญหาได้มาก
“เอาละ ข้าจะปลดผนึกตราทาสให้กับพวกเจ้า!”
ลู่หยวนก้าวไปด้านหน้าพร้อมกับชี้นิ้วระหว่างคิ้วของกุ่ยซู่
“ระบบ ปลดผนึกตราทาส!”
[หักค่าชะตาวายร้าย 6,000 แต้ม!]
[ปลดผนึกตราทาส!]
ฟุ่บ
กลิ่นอายกว้างใหญ่แผ่กระจายออกมาและกวาดไปทั่วบริเวณทั้งหมด
ตราประทับ ‘ทาส’ ล่องลอยอยู่บนหน้าผากของเผ่าภูตผีทุกคนในที่แห่งนี้ จากนั้นลำแสงสีทองพลันสว่างวาบขึ้นก่อนที่มันจะแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ
ลู่หยวนถอนนิ้วกลับ ก่อนจะมองสีหน้าของพวกเขา และเวลานี้สีหน้าของกุ่ยซู่ก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างจริงใจ
ในที่สุดพวกเขาก็เป็นอิสระเสียที!
บุตรศักดิ์สิทธิ์กล่าวเตือนเสียงแผ่วเบา “กุ่ยซู่ ดูแลคนของเจ้าให้ดี”
ในเวลานี้ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น แต่ยังมีตราทาสของเผ่าภูตผีใต้บ่อน้ำตระกูลไป๋ด้วย หากเวลานี้มีผู้ใดกระทำการบางอย่างตามใจชอบ เขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
นางเข้าใจทันทีก่อนจะพยักหน้ารับหนักแน่น แล้วกล่าวคำกับทุกคนในเผ่าว่า “ทุกคนในเผ่าภูตผีโปรดฟังคุณชายลู่ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากไม่ได้รับอนุญาตจากข้า ก็ห้ามเคลื่อนไหวโดยพละการเด็ดขาด มิฉะนั้นเจ้าจะต้องตายอย่างน่าสังเวช!”
“นอกจากนี้ เผ่าภูตผีของข้าจะถือว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่หยวนแห่งตระกูลลู่คือเจ้านาย และเราจะไม่มีวันทรยศอย่างเด็ดขาด ผู้ที่ฝ่าฝืนจะต้องตายตกอย่างน่าสังเวชเช่นกัน!”
เผ่าภูตผีทั้งหมดต่างก้มศีรษะลง เวลานี้พวกเขากำลังจะเคลื่อนไหวเพื่อเข่นฆ่าให้หายอยาก แต่ความคิดที่อยากจะเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่ตราผนึกทาสหายไปถูกระงับอย่างกะทันหัน ทั้งหมดจึงทำได้เพียงตอบรับอย่างเชื่อฟังเท่านั้น