ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 550 ชิงผนึกพันดาราเก้าเตาหลอม
บทที่ 550 ชิงผนึกพันดาราเก้าเตาหลอม
เพียงไม่กี่อึดใจ ลู่หยวนกับซ่งชิงที่อยู่ในซากปรักหักพังก็ประมือกันนับร้อยครั้ง พวกเขาทั้งสองพลันดึงศักยภาพทั้งหมดออกมา!
เสียงดังกึกก้องอย่างต่อเนื่องในซากปรักหักพังขณะสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงทั่วทุกแห่งหน!
ฟ้าดินสั่นไหว ไม่มีใครสามารถยืนอยู่บนพื้นดินได้อย่างปลอดภัย!
ซากปรักหักพังแห่งนี้ได้รับผลกระทบมากเช่นกัน มันเริ่มโดนบีบอัดอยู่เรื่อย ๆ ทางเข้าของมันเดิมทีถูกปิดเอาไว้ก็ถูกบังคับให้เปิดออก!
ผู้คนทั้งหลายใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อหลบหนีออกจากทางเข้าโดยไม่สนว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการจากซากปรักหักพังในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาหรือไม่ก็ตาม!
ยังไงตอนนี้ชีวิตก็สำคัญที่สุด!
ลู่หยวนทำการโจมตีอย่างดุเดือดอีกครั้งจนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น มันกระแทกเข้าใส่ดาบยาวของซ่งชิงจนกระเด็นออกไปอย่างรวดเร็ว!
ซ่งชิงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นลู่หยวน เขารู้เพียงว่ามือของตนเองเกิดอาการชา
ตอนนี้ดูเหมือนว่าในด้านพละกำลังบริสุทธิ์ระหว่างทั้งสอง นอกจากการเสริมพลังจากระบบแล้ว ซ่งชิงยังนับว่าด้อยกว่าลู่หยวนเล็กน้อย!
ลู่หยวนทราบเช่นกันว่าวันนี้ไม่มีทางจะสังหารซ่งชิงได้ นี่ยังไม่รวมเรื่องที่ทั้งสองทรงพลังจนไม่มีทางหาผู้แพ้ผู้ชนะได้
หากซ่งชิงอยากหนีจริง ๆ เขาก็สามารถออกจากที่นี่ด้วยการใช้พลังของระบบได้ ต่อให้ลู่หยวนใช้ค่าโชคชะตาของระบบไล่ตามมาอย่างต่อเนื่องก็ไม่อาจรู้ว่าจะไล่ตามได้ทันเมื่อไหร่
ในเมื่อลู่หยวนมีค่าโชคชะตาของดินแดนหนึ่งซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ ดังนั้นซ่งชิงก็ใช่ว่าจะไม่มีเหมือนกัน!
ขณะวิตกกังวล ลำแสงสีทองก็รวมตัวในท้องนภาประหนึ่งถังพลิกคว่ำ แล้วกลิ่นอายก็เคลื่อนเข้าสู่ด้านใน! หมู่เมฆรวมตัวกันหนาทึบ!
พลังที่ไม่ได้เป็นของโลกใบนี้เริ่มรวมตัวอย่างแข็งขัน!
ลู่หยวนและซ่งชิงต่างใจสั่นไหว!
“เหอะ ลู่หยวน ความพ่ายแพ้ของเจ้ามาถึงแล้ว!”
ซ่งชิงพอจะคาดเดาได้ว่าเหตุใดพลังนี้ถึงปรากฏ!
สีหน้าของลู่หยวนไม่แปรเปลี่ยน เขายังคงจับจ้องไปทางซ่งชิง!
“ไม่ต้องรีบร้อน ข้าฆ่าเจ้าแน่ แม้วันนี้ข้าไม่มีเวลาที่จะทำแบบนั้น แต่ข้าก็มีเวลาเหลือเฟือที่จะชิงผนึกพันดาราเก้าเตาหลอม!”
ลู่หยวนถือง้าวไว้ในมือด้วยแววตามืดมน!
“ลู่หยวน หากเจ้ามีของดีอะไรก็คงงัดออกมาแล้ว! เจ้าเข้าใกล้ข้าไม่ได้นานขนาดนั้น เหตุใดถึงมาพูดเรื่องผนึกพันดาราเก้าเตาหลอมเล่า? ช่างเพ้อฝันนัก!”
ดาบยาวของซ่งชิงสั่นไหวขณะพลังพลันเพิ่มขึ้น!
มุมปากของลู่หยวนค่อย ๆ ยกยิ้ม เขาหมุนง้าวเล็กน้อยแล้วพลันเอ่ยว่า “ซ่งชิง หากข้าเข้าใจไม่ผิด เจ้ายังไม่รู้จักเคล็ดกายาสินะ”
ซ่งชิงไม่เข้าใจว่าเหตุใดลู่หยวนถึงพูดเช่นนี้ แน่นอนว่าเขาไม่รู้จักเคล็ดกายาจริง
ประการแรก เขาไม่เคยประสบกับเคล็ดกายาลับที่ดีเลยสักครั้ง ประการที่สอง ตนเองไม่เคยตระหนักถึงความหมายที่แท้จริงกับความสำคัญของมันในช่วงที่ผ่านมา
ดังนั้นซ่งชิงจึงแทบไม่เคยสัมผัสเคล็ดกายา!
ลู่หยวนกวาดสายตาขึ้นไป แล้วมุมปากของเขาก็ยิ่งยกยิ้มจนดูน่าขยะแขยง “คงไม่สินะ ไม่เป็นไร”
“ชิ้ง!”
กลิ่นอายแห่งความเป็นความตายก็ปกคลุมอากาศธาตุขณะห้อมล้อมบริเวณที่ทั้งสองอยู่เอาไว้!
ปราณวิญญาณเริ่มหยุดนิ่งและไม่ไหลเวียนอีกต่อไป
กลิ่นอายที่ไหลเวียนไปมาอย่างรวดเร็วบนร่างของซ่งชิงคล้ายกับถูกบางสิ่งสกัดกั้นไว้ ทำให้เขาไม่สามารถขยับได้อีก!
“นี่มันโลกปรภพหรือ?!”
ซ่งชิงเคยเห็นอุบายของลู่หยวนในโลกปรภพมาก่อน ทันทีที่โลกนี้ปรากฏ มันจะกลืนกินอาณาเขตของชายชราเข้าไป
แต่คาดไม่ถึงว่าลู่หยวนจะใช้กลิ่นอายโลกปรภพเพื่อกลืนกินปราณวิญญาณรอบข้าง!
ซ่งชิงขัดขืนสักพักขณะตะโกนเรียกระบบในใจ ตอนนี้เองที่ลู่หยวนใกล้เข้ามา!
แม้ไม่มีความผันผวนปราณวิญญาณอยู่บนง้าว แต่มันยังกวาดเข้ามาพร้อมกับพลังมหาศาล พร้อมกับกระแทกตรงไปที่หน้าอกของซ่งชิงทันที
“โครม!”
ทันทีที่ง้าวแทงเข้าใส่ ลำแสงสายหนึ่งก็พุ่งเข้ามาปกป้องหน้าอกของซ่งชิงเอาไว้ แล้วเสียงอันแหบพร่าก็ดังขึ้น “เจ้าหนู ข้าเคยเป็นคนแดนเซียนมาก่อน เห็นแก่ข้าเถอะ เจ้าช่วยไว้ชีวิตเจ้าหนูซ่งชิงได้หรือไม่?”
เงาร่างหนึ่งกำลังรวมตัวขึ้นทางฝั่งของซ่งชิง
ลู่หยวนทราบนานแล้วว่าซ่งชิงผู้มีระบบจะไม่มีความรู้และอุบายได้อย่างไร ขนาดเขายังมีเศษเสี้ยววิญญาณจำนวนมากที่ยังไม่มีกายเนื้อตามติด แล้วเหตุใดอีกฝ่ายจะไม่มีเล่า!
ตอนนี้เศษเสี้ยววิญญาณปรากฏแล้ว อีกฝ่ายอาจจะไม่เหลือไพ่ตายอีกก็เป็นได้ ลู่หยวนจึงดึงมือกลับมาพร้อมกับเก็บง้าว แล้วเขาก็หยิบแหวนเก็บของจากร่างของซ่งชิงทันที!
ซ่งชิงตอบสนองเช่นกันก่อนจะตะโกนออกมา “ชางเหล่า เอาปราณวิญญาณมาให้ข้า!”
“ขอรับ!”
ชางเหล่าเอ่ยตกลง แล้วกลุ่มปราณวิญญาณก็มาจากที่ใดไม่ทราบในพื้นที่ห่างไกลขณะทะลวงเข้าสู่ร่างของซ่งชิง!
“ชิ้ง!”
ดาบยาวในมือของซ่งชิงส่งเสียงร้องออกมา แล้วแสงสีทองก็ระเบิดออกมาก่อนจะฟันตรงไปข้างหน้า!
แสงสว่างวูบไหวด้วยความเร็วมหาศาล ลู่หยวนทำการขัดขืนการโจมตีของซ่งชิงด้วยพลังสามสั่นสะเทือน!
“โครม!”
สิ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แหวนเก็บของที่ตกอยู่ระหว่างลู่หยวนกับซ่งชิงก็ถูกฟัน!
ทุกสิ่งในแหวนเก็บของพุ่งออกมาทันทีประหนึ่งแม่น้ำรั่วสามพันลี้!
ลู่หยวนกับซ่งชิงจับจ้องไปที่คัมภีร์ผนึกพันดาราเก้าเตาหลอมทันที!
ทั้งสองลงมือพร้อมกัน!
“ชางเหล่า ช่วยข้า!”
“อูโจ้ว เจิ้งชิงเทียน อู๋เต้า สือจิ่ว!”
เสียงตอบรับจำนวนมากดังขึ้นพร้อมกัน นอกจากพวกเขาทั้งสองแล้ว ยังมีอีกห้าคนที่ปรากฏตัวขึ้น!
อูโจ้วไม่ก้าวไปข้างหน้าแต่กลับควบคุมทางเข้าโลกปรภพไปอยู่ข้างซ่งชิงเพื่อกลืนกินปราณวิญญาณที่เพิ่งก่อตัวขึ้นจนสิ้น!
เจิ้งชิงเทียนร่วมมือกับอู๋เต้า ถึงอย่างไรทั้งพวกเขากับคนที่ชื่อ “ชางเหล่า” ต่างก็เป็นเศษเสี้ยววิญญาณ!
แล้วการต่อสู้ก็อุบัติขึ้น!
สือจิ่วยังหลงเหลือปราณวิญญาณอยู่ในร่างกายก่อนจะค้นพบหนทางทะลวงในทันที นางจึงเข้าต่อสู้ขณะตรงเข้าหาผนึกพันดาราเก้าเตาหลอม!
แต่ชางเหล่าคาดการณ์ไว้อยู่ก่อนแล้ว จึงลงมือหยุดยั้งสือจิ่วไว้! นั่นหมายความว่า เขาจะไม่สามารถไปช่วยอีกคนได้แล้ว!
ในเมื่อทั้งห้าพัวพันกันไปมา จึงเหลือเพียงลู่หยวนกับซ่งชิงที่มีสิทธิ์จะคว้ามันมาได้!
ลู่หยวนหรี่ตาขณะเอ่ยคำสี่พยางค์ “ตี้อู่เหอซ่าน!”
“น้อมรับ!”
ตี้อู่เหอซ่านตอบรับทันที แล้วบางสิ่งที่เหมือนกับเงาก็ปรากฏที่ด้านหลังของลู่หยวนก่อนร่างกายจะมีแสงสว่างวาบ แม้กระทั่งในสถานที่ที่ไม่มีร่องรอยของปราณวิญญาณ แต่เขาคล้ายกับได้รับการค้ำจุนด้วยปราณวิญญาณ!
ในที่สุดลู่หยวนก็ลงมือเร็วกว่าหนึ่งขั้นก่อนจะชิงผนึกพันดาราเก้าเตาหลอมมาได้!
จากนั้นเขาเก็บมันไว้ แล้วหันหลังกลับมาพร้อมกำหมัด โดยพละกำลังของมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!
“ซ่งชิง มาดูกันว่าเจ้าจะตายด้วยหมัดของข้าหรือไม่!”
“ตู้ม!”
ลู่หยวนพลันปล่อยหมัดกระแทกใส่บริเวณหัวใจของซ่งชิงทันที ซ่งชิงตอบสนองทันควัน เขาเรียกระบบก่อนจะหายไปทันที
ลู่หยวนคาดเอาไว้อยู่แล้วว่าร่างกายของอีกฝ่ายจะหายไป หลังจากนั้นเขาก็ปรากฏตัวตรงหน้าซ่งชิงอีกครั้ง!
“หนีหรือ? จะหนีไปไหน?!”
ลู่หยวนซัดหมัดออกไปอย่างแรง แรงกระแทกมหาศาลได้ระเบิดพื้นที่โดยรอบในพริบตา!