ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 570 วั่งไฉกลืนกินวิญญาณแห่งมังกรหยวน
บทที่ 570 วั่งไฉกลืนกินวิญญาณแห่งมังกรหยวน
บทที่ 570 วั่งไฉกลืนกินวิญญาณแห่งมังกรหยวน
ลมปราณลู่หยวนแผ่กระจายทุกทิศราวสายน้ำจากเบื้องบน สรรพสิ่งรอบข้างถูกกวาดหายไปจนสิ้น!
แม้แต่เปลือกหุ้มภายนอกอันมโหฬารของวังใต้ดินก็มลายหายไปในชั่วพริบตา สมบัติอื่น ๆ ที่อยู่ในวังก็กลับกลายเป็นผุยผง!
แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาจากฟากฟ้า ส่องมายังห้องคับแคบเบื้องหน้า บนผนังห้องมืดมีอักขระสีเขียวแกมน้ำเงินปรากฏแล้วหายไปอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ลอยอยู่กลางอากาศนี้ไม่ธรรมดา!
วั่งไฉที่อยู่ข้างกายลู่หยวนคำรามเสียงต่ำ ดวงตาของมันมีความหวาดกลัวและกระหายที่จะครอบครองมัน!
วัตถุชิ้นนี้สามารถทำให้วั่งไฉก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิมังกรได้ในพริบตา!
แม้ว่าวั่งไฉจะไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน แต่สัญชาตญาณความหวาดกลัวและความทะเยอทะยานที่มีต่อมัน ทำให้นางจ้องมองสิ่งนั้นอย่างไม่ละสายตา
ข้าง ๆ กันนั้น ลู่หยวนยกมือขวาขึ้นลูบเขาของวั่งไฉเบา ๆ พลางกระตุกรอยยิ้มมุมปาก “อย่าใจร้อนไป ของชิ้นนี้อย่างไรก็ต้องเป็นของเจ้า!”
“โฮกกกก! ——”
วั่งไฉกู่ร้องราวกับตอบรับลู่หยวน !
ฝ่ายลู่หยวนเคลื่อนมือไปทางห้องมืดแล้วประสานนิ้วเข้าหากัน!
“ตู้มมมม! ——”
ทั้งโลกราวกับหยุดนิ่ง แม้แต่นางที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกราวกับหัวใจตัวเองหยุดเต้นไปในชั่วขณะ
หลังจากนั้นไม่นาน หัวใจก็กลับมาเต้นเป็นปกติ ทว่าหญิงสาวกลับรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองเหมือนโดนชายหนุ่มตรงหน้ากำไว้ในมือ!
ในเวลานี้ ดวงตาของลู่หยวนมีความลุ่มลึก มองไปยังวิญญาณแห่งมังกรหยวนที่ล่องลอยไปมาในห้องมืดนั้นด้วยสีหน้าเย้ยหยันราวกับจะกลืนกินทั้งโลก!
ในขณะนี้ ขาเป็นราชาผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ เป็นเทพที่สูงศักดิ์ที่สุด!
ลู่หยวนค่อย ๆ อ้ามือออก จากนั้นห้องมืดก็มลายหายไปในพริบตา ปราณวิญญาณของลู่หยวนโอบล้อมเข้ามาบีบบังคับให้วิญญาณแห่งมังกรหยวนลอยสูงขึ้นทีละน้อยเพื่อครอบครองมันเอาไว้!
“ครืน! ——”
ราวกับวิญญาณแห่งมังกรหยวนนั้นจะรับรู้ได้ถึงทุกสิ่ง มันหมุนตัวอย่างรุนแรง อักขระท้ายหางที่จางหายไปก็สว่างไสวขึ้นมาและแผ่ขยายอย่างรวดเร็ว
ปราณมังกรแผ่ซ่านอย่างบ้าคลั่งพุ่งเข้าใส่ปราณของลู่หยวน และเริ่มต่อสู้กัน !
หญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ มองดูทุกอย่าง นับตั้งแต่ที่นางถือกำเนิด นางรู้ถึงการมีอยู่ของวิญญาณแห่งมังกรหยวน!
แน่นอนว่านางย่อมรู้ดีว่าวิญญาณแห่งมังกรหยวนนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด!
สิ่งนี้เป็นหัวใจหลักของเผ่ามังกรเจินหลง มังกรเจินหลงนับพันไร้สิ้นสุดนั้นเกิดขึ้นจากสิ่งนี้ และการดำรงอยู่ของมิติก็เป็นเพราะสิ่งนี้เช่นกัน!
ก่อนที่ลู่หยวนจะมา หญิงสาวแทบจะฟันธงแล้วว่าสิ่งนี้ไม่มีวันแพ้พ่าย!
เพราะตั้งแต่ที่นางเกิดมาก็ไม่เคยเห็นผู้ใดที่เข้ามาแล้วได้พบเข้ากับวิญญาณแห่งมังกรหยวนจะรอดชีวิตไปได้
ตามตำนานเล่าขานกันมา ว่ามีผู้มีพลังสูงสุดจากต่างแดน บุกเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ พลังของพวกเขานั้นยิ่งใหญ่จนสามารถฝ่าวงล้อมเหล่ามังกรเจินหลง และมาถึงหน้าวิญญาณแห่งมังกรหยวนได้ แต่แล้วอย่างไร?
ต่อหน้าพลังที่ไร้เทียมทานของวิญญาณแห่งมังกรหยวน แม้แต่พลังอมตยุทธ์ที่ว่าหายากในรอบหมื่นปีพวกนั้นก็ไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่เวลาจิบชา!
ความแข็งแกร่งของลู่หยวนตอนนี้ได้เกินความคาดหมายของหญิงสาวไปมากแล้ว
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณแห่งมังกรหยวน แต่ลู่หยวนกลับไม่ตกเป็นรองแต่อย่างใด!?
ความแข็งแกร่งของลู่หยวนในขณะนี้ได้เกินกว่าที่หญิงสาวจะจินตนาการไว้เสียแล้ว
“เจ้าไม่ยอมสยบอย่างนั้นรึ”
ลู่หยวนเอ่ยเสียงต่ำแฝงด้วยอำนาจดุจเทพเจ้า!
สติของนางกลับคืนสู่โลกแห่งความเป็นจริงในทันที สิ้นเสียงของลู่หยวน นางก็เกิดอาการมึนงงและทรุดกายลงศิโรราบ
ลู่หยวนมิได้หันไปมองหญิงสาวแม้แต่น้อย เพียงแค่เฝ้ามองวิญญาณแห่งมังกรหยวนที่ยังคงล่องลอยอยู่บนฟากฟ้าอย่างเฉยเมย
“ที่เจ้าสามารถบรรลุพลังมังกรได้ นั่นคือโชคของเจ้า แต่เจ้าไม่รู้ดีมีชั่ว ข้าจะให้เจ้ารู้จักพลังอำนาจอันแท้จริง!”
เมื่อคำเอ่ยของลู่หยวนจบลง ปราณรอบ ๆ วิญญาณแห่งมังกรหยวนก็มลายสิ้นไปในพริบตา!
ลมปราณที่แผ่ซ่านจากวิญญาณแห่งมังกรหยวนไม่สามารถหดกลับได้ทัน ปราณวิญญาณนั้นก็ได้ขยายออก แผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งดินแดน!
“ค่ายกล”
ลู่หยวนเปล่งวาจาออกมา เขายกมือขึ้นประสานกัน จากนั้นพลังอำนาจอันหาที่เปรียบมิได้ก็หลั่งไหลออกมาจากตัวของเขา พร้อมกับมีอักขระโบราณปรากฏขึ้นล้อมรอบกาย!
วิญญาณแห่งมังกรหยวนดูท่าจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ร่างที่ลอยอยู่ของมันก็หยุดชะงักลง แล้วมันก็ฟาดหางไปทางหนึ่ง ทันใดนั้นก็ปรากฏเป็นรูหนอนขึ้นมา!
“คิดจะหนีรึ?”
ลู่หยวนหัวเราะเบา ๆ “สายเกินไปแล้ว!”
“จงมา!”
เมื่อเสียงทุ้มต่ำของลู่หยวนจบลง อักขระทั้งหลายก็พลันแผ่กระจายสะท้านกระหึ่ม ม่านมหึมาแผ่ปกคลุมไปทั่วดินแดน!
เสียงกึกก้องราวกับเต่าแห่งสุริยคติ*[1] แผลงฤทธิ์ก็ดังสนั่นลงมาในทันที ช่องมิติข้างวิญญาณแห่งมังกรหยวนก็หยุดชะงักลง ภายใต้พลังอำนาจของลู่หยวน แม้แต่จะปิดตัวลงก็ยังยาก!
พื้นที่รอบ ๆ วิญญาณแห่งมังกรหยวนถูกตรึงแน่น มันไม่สามารถขยับเขยื้อนได้อีกต่อไป!
เมื่อม่านพลังเริ่มก่อตัวขึ้น วิญญาณแห่งมังกรหยวนก็กลายเป็นเต่าอยู่ในไห!
ลู่หยวนพึมพำเป็นคำที่ฟังไม่ออกเพียงแผ่วเบา อักขระต่าง ๆ พลันสั่นไหว แสงสว่างเจิดจ้า พลังอำนาจของวิญญาณแห่งมังกรหยวนก็ถูกกดขี่บีบคั้นจนสลายไป!
“วิญญาณแห่งมังกรหยวน บัดนี้หนทางที่วางอยู่เบื้องหน้าเจ้ามีเพียงเส้นทางเดียว นั่นคือการยอมสวามิภักดิ์!”
ทั่วทั้งดินแดนมืดมัวลงในพริบตา ราวกับว่าเป็นวันสิ้นโลก
พลังอำนาจมหาศาลกดขี่วิญญาณแห่งมังกรหยวนไว้
แผ่นดินทั้งผืนทรุดตัวลงในชั่วพริบตา!
“โฮกกกกก!”
วิญญาณแห่งมังกรหยวนที่มีรูปร่างคล้ายมังกรน้อยคำรามออกมาอย่างน่าเกรงขาม
ทว่าภายในม่านบังตาของลู่หยวน จะมีสิ่งใดต้านทานไหวอย่างนั้นหรือ!
ท่านวิญญาณแห่งมังกรหยวน ณ บัดนี้ก็แจ่มแจ้งชัดเจนแล้วว่า ตนมิได้มีโอกาสใดหลงเหลืออยู่เลย ต่อหน้าพละกำลังอันแท้จริงของบุรุษตรงหน้า ผลลัพธ์ของตนได้ถูกกำหนดมาแล้ว
แม้ว่าจะขัดขืนดิ้นรนต่อไป ก็เป็นเพียงการยื้อเวลาของความพ่ายแพ้เท่านั้น มิอาจเปลี่ยนแปลงจุดจบได้
ชั่วครู่ให้หลัง วิญญาณแห่งมังกรหยวนก็ขยับร่างเล็กน้อย ก่อนที่อักขระล่องลอยอยู่บนร่างจะหายวับไป
จากนั้นมันก็ก้มหัวต่ำลงราวกับยอมจำนนแล้ว
ในยามที่วิญญาณแห่งมังกรหยวนยอมจำนน ทั้งปฐพีและสวรรค์ของดินแดนนี้ก็เปลี่ยนแปลงตาม
เหล่ามังกรเจินหลงในดินแดนนี้ต่างก็ก้มหัวให้แก่ลู่หยวน ปากก็เปล่งเสียงราวกับได้พบเจอกับราชาแห่งตน
ลู่หยวนหันไปทางวั่งไฉ แล้วกล่าวว่า “ไปเถิด”
วั่งไฉรับคำแล้วพลิ้วกายอย่างรวดเร็วเข้าไปในม่านบังตา จากนั้นปากมังกรก็อ้าออก กลืนวิญญาณมังกรหยวนลงท้องโดยสมบูรณ์!
[1] เต่าแห่งสุริยคติ คือเต่าศักดิ์สิทธิ์ในตำนานจีน