ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 601 แบ่งปันเท่า ๆ กัน
บทที่ 601 แบ่งปันเท่า ๆ กัน
บทที่ 601 แบ่งปันเท่า ๆ กัน
ปีศาจตนนั้นมองไปที่ซากสัตว์อสูรซึ่งจมอยู่ในน้ำดำทมิฬซึ่งมีเลือดไหลเป็นทาง ราวกับต้องการจะเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่ก็ต้องกลืนถ้อยคำเหล่านั้นลงคอไป
น้ำเสียงที่อันเย็นเยียบของลู่หยวนก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเส้นทางนี้”
ในตอนนี้จิตใจของปีศาจเต็มไปด้วยความตกใจระคนหวาดกลัว มันเมื่อมองไปที่ลู่หยวนด้วยแววตาเหลือเชื่อ
เหล่าประมุขของมนุษย์ที่กล่าวขานกันว่ายิ่งใหญ่ เมื่อพวกเขามาถึงเส้นทางสายนี้ก็ล้วนแล้วแต่อาศัยทุกความสามารถของตนเองเพื่อปกป้องตนกว่าจะผ่านไปได้อย่างปลอดภัย
จะมีผู้ใดบ้างที่เหมือนลู่หยวน ซึ่งเพียงแค่ขยับนิ้วเดียวก็สังหารสัตว์อสูรได้ตลอดทาง?!
ด้วยปราณและอำนาจอันน่าเกรงขามเช่นนี้ ปีศาจจึงได้ยกย่องลู่หยวนให้เป็นเสมือนเทพเจ้า!
“ไปกันเถิด”
ลู่หยวนเอ่ยเสียงแผ่วเบา จากนั้นพันธนาการทั้งหมดก็ถูกปลดออก เขตแดนสิ้นสุดลง และแสงสว่างทั้งหมดก็กลับคืนมาในพลัน
ร่างของปีศาจค่อย ๆ ร่วงหล่นลงมาจนเกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดขึ้น แต่กลับไม่มีน้ำเพียงหยดเดียวที่กระเซ็นเข้าใส่แท่นหินนั้น
ปีศาจโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ เผยให้เห็นสันหลังอันกว้างใหญ่ของมัน “เชิญท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์!”
ฮ่วนซิงไป๋ที่อยู่ข้าง ๆ มองสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ตนนี้ซึ่งถูกลู่หยวนปราบลงได้อย่างง่ายดายก็อดที่ชื่นชมไม่ได้ “สมกับเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ สมควรแล้วที่สังหารสัตว์อสูรทอดยาวหลายพันลี้ได้เป็นล้านตัวด้วยนิ้วเดียว ดูเหมือนว่าในครั้งนี้ที่เราได้มาที่เกาะสังหารเซียนแห่งนี้ เราจะได้อะไรบางอย่างกลับไปอย่างแน่นอน”
เกาะสังหารเซียนที่เต็มไปด้วยความอันตราย ความน่าสะพรึงกลัว และลี้ลับมากที่สุด มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะสามารถเสาะหาใจกลางของดินแดนแห่งนี้ได้
ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีผู้ใดสำรวจไปถึงยังสถานที่สำคัญ แต่ด้วยการฝึกฝนอย่างลู่หยวนแล้ว อาจเพียงพอที่จะเข้าไปได้
ลู่หยวนหัวเราะ จากนั้นก็เหยียบย่ำเท้า แล้วพุ่งทะยานขึ้นไปยังตรงกลางหลังของสัตว์อสูรในทันที!
ส่วนคนอื่น ๆ ต่างก็ตามมาติด ๆ
เมื่อปีศาจเห็นว่าทุกคนได้ขึ้นมาอยู่บนหลังของมันหมดแล้ว จึงเอ่ยขึ้นว่า “ท่านยอดฝีมือทั้งหลาย โปรดทรงตัวให้มั่น เราจะออกเดินทางแล้ว!”
ทุกคนต่างก็ทรงตัวให้มั่นคง ยืนอยู่ด้านหลังของลู่หยวน
สัตว์อสูรโบกหาง แล้วก็พุ่งไปอย่างรวดเร็วในทิศทางหนึ่ง
ในผืนน้ำสีดำทมิฬที่กว้างใหญ่ ผิวน้ำนิ่งสงบ ไร้ลมไร้คลื่น มีเงาเล็ก ๆ กำลังว่ายอยู่ในน้ำ ทำให้เกิดคลื่นขนาดยาวสองด้านบนผิวน้ำบริเวณนั้น
“มองเห็นเกาะแล้ว!”
มีคนตะโกนขึ้นมา
สายตาของทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่ระยะไกลเบื้องหน้า
ที่จุดกึ่งกลางระยะไกลโน่น ปรากฏเป็นแผ่นดินขนาดเล็ก ๆ ซึ่งอาจเป็นเกาะสังหารเซียน!
ในใจของทุกคนรู้สึกสับสน บางคนก็รู้สึกดีใจ บางคนก็กังวล หรืออาจหวาดกลัวเล็กน้อย
เซียวเทียนก็จ้องมองด้วยสายตาอันเฉียบแหลม เขาแบกกระบี่ขนาดยักษ์ไว้ราวกับเหยี่ยวที่โบยบินอยู่บนฟากฟ้า สีหน้าเคร่งขรึม ลมปราณรอบตัวพวยพุ่งอย่างกดดัน ราวกับว่าพร้อมที่จะใช้ปราณทั้งหมดเพื่อฆ่าฟัน!
เมื่อขึ้นไปบนเกาะแล้ว เขาก็จะได้พบกับฆาตกรตัวจริงที่สังหารตระกูลเซียวของเขา!
ในเวลานี้ลู่หยวนก็หันหน้ากลับมาในทันใด เขามองไปยังทางด้านซ้าย ริมฝีปากก็ปรากฏรอยยิ้มบาง ๆ
ฮ่วนซิงไป๋สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของลู่หยวนก็รีบมองไปทางที่สายตาของลู่หยวนจับจ้อง แต่ฝั่งซ้ายก็มีเพียงน่านน้ำสีดำซึ่งไม่มีที่สิ้นสุด ไม่เห็นว่ามีสิ่งใดเลย!
“ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ท่านจ้องสิ่งใดอยู่?”
ฮ่วนซิงไป๋ถามด้วยความสงสัย
“ซ่งชิง”
ลู่หยวนเอ่ยเพียงสั้น ๆ
สีหน้าเซียวเทียนแข็งกร้าวขึ้นในทันที และมีจิตสังหารแผ่ซ่านออกมา จนร่างทั้งร่างสั่นเทา
ขณะเดียวกัน เซียวเทียนก็คว้ากระบี่ที่อยู่ด้านหลังออกมาด้วยมือข้างที่ว่างอยู่
“ชิ้ง!”
ตัวกระบี่พุ่งชนกับโขดหินด้านหลังของอสุรกายจนเกิดเสียงดัง
เซียวเทียนจับที่ด้ามกระบี่ราวกับว่าพร้อมจะฟาดฟันออกไปทุกเมื่อ!
“เจ้าฆ่าเขาไม่ได้”
ลู่หยวนมองไปที่เซียวเทียน “แม้ว่าเจ้าจะสละเลือดเนื้อของตัวเอง ก็คงจะบีบให้เขาใช้ท่าไม้ตายออกมาได้มากที่สุดเท่านั้นเอง”
จิตสังหารที่เพิ่งจะแผ่ซ่านออกมาก่อนหน้านี้ของเซียวเทียนก็ค่อย ๆ เบาบางลง
เขาหลับตาลง แล้วลืมตาขึ้นใหม่ จิตสังหารก็มอดลงไปบ้างแล้ว เขายกมือขึ้นคำนับลู่หยวนอย่างนอบน้อม “ข้าต้องการความช่วยเหลือจากท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์”
ถึงแม้เซียวเทียนจะไม่เคยได้ประมือกับซ่งชิง แต่ในช่วงที่อยู่ในแดนมัชฌิม เขาก็ได้ยินเสวียนเทียนชวนและคนอื่น ๆ เอ่ยถึง
ซ่งชิงผู้นี้สามารถต่อสู้กับลู่หยวนได้อย่างสูสี หรือแม้กระทั่งหนีออกมาจากเงื้อมมือของลู่หยวนได้อย่างปลอดภัย
เซียวเทียนเข้าใจดีว่าด้วยความสามารถเช่นนี้ของเขาในตอนนี้ยังไม่สามารถสังหารเขาได้
ถ้าหากต้องการที่จะสังหารซ่งชิงจริง ๆ ก็ต้องขอความช่วยเหลือจากลู่หยวน !
ลู่หยวนกดมือที่ยกขึ้นของเซียวเทียนลงไป เซียวเทียนจึงเงยหน้าขึ้นสบตากับลู่หยวน
ลู่หยวนก็เอ่ยอย่างจริงจัง “ข้าจะสังหารเขาเอง แต่จ้าวเยี่ยนและฉือเซ่าคือสองคนที่สังหารตระกูลเซียวของเจ้า ข้าไม่จำเป็นต้องเป็นคนลงมือเองกระมัง!”
นี่คือการมอบคนให้เซียวเทียนสังหารด้วยตนเอง!
ยิ่งไปกว่านั้น ยังหมายความว่าลู่หยวนจะร่วมมือกับเขาด้วย!
อย่างไรก็ตาม เซียวเทียนจำเป็นต้องประเมินกำลังตัวเอง เขาฆ่าซ่งชิงไม่ได้ แต่ลูกน้องตัวเล็ก ๆ สองคนข้างล่างนั้นน่าจะพอไหว!
เซียวเทียนกลืนน้ำลายลงคอ เขากำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่างแต่ก็มีมือวางลงบนมือของลู่หยวนและเซียวเทียน ทันใดนั้นก็กำมือทั้งสองเอาไว้!
“ไหน ๆ ฝั่งตรงข้ามก็มีสามคน พวกเราเองก็ต้องมีสามคนมิใช่หรือ?”
เสียงของฮ่วนซิงไป๋ดังขึ้น “ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์เลือกซ่งชิง แล้วก็ยังเหลืออีกสองคน เซียวเทียนเจ้าเลือกสักคน และคนที่เหลือข้าจะช่วยเจ้า แต่วางใจเถิด ข้าจะให้เจ้าลงกระบี่ด้วยมือของเจ้าเอง!”
ทั้งสามคนสบตากัน มุมปากก็ปรากฏรอยยิ้ม
“เอาเช่นนี้แล้วกัน ข้าจะประลองฝีมือกับพวกนั้นดูก่อน ดูว่าจะฆ่าใครได้เร็วกว่ากัน!”
“วาจาของท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ดังทองคำ เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้! เซียวเทียน โอกาสดีแบบนี้ที่เราจะได้เอาชนะท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์มิได้มีบ่อยนัก พวกเราต้องไม่ลังเล”
“เช่นนั้นย่อมได้! ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ ท่านอย่าแพ้ข้าล่ะ!”
“เจ้าพวกนี้!”
…
อีกฟากหนึ่ง ซ่งชิงผู้มีอาภรณ์สีขาวและเส้นผมสีเงินได้ตกลงมายังอักขระยันต์ขนาดมหึมา
เหล่าบริวารที่ติดตามต่างก็ยืนอยู่เบื้องหลังซ่งชิง ซึ่งมีทั้งจ้าวเยี่ยนและฉือเซ่า
อักขระยันต์ขนาดใหญ่เบื้องล่าง สัตว์อสูรที่กระโดดโลดเต้นอยู่กลางสายน้ำต่างถูกปราบปรามจนขยับเขยื้อนไม่ได้ ทั้งหมดล้วนถูกปราณไร้รูปร่างกดให้จมลงไปในน้ำ ไม่สามารถโผล่ขึ้นมาได้แม้แต่น้อย!
“เพียงแค่คุณชายขีดเขียนอักขระยันต์ขึ้นมา ก็สามารถทำลายพื้นที่ไร้นภาของอาณาเขตนี้ได้ทันที ทำได้เช่นนี้หาได้ยากในใต้หล้าแล้ว”
ฉือเซ่ากล่าวกับคนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ
คนอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
พวกเขารู้สึกได้ว่าหลังจากที่ซ่งชิงออกจากการบ่มเพาะครั้งนี้ ปราณวิญญาณของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ปราณในทุก ๆ ด้านราวกับเพิ่มพูนขึ้นจนสูงเสียดฟ้า!
ส่วนจ้าวเยี่ยนนั้น กำลังโอบอุ้มกระบี่ยาวสีแดงอันแข็งแกร่ง กล้ามเนื้อมัดใหญ่บนร่างกำยำล่ำสันของเขาตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สายตาทอประกายแห่งความแน่วแน่ เขาเพียงแค่เหม่อมองไปยังเบื้องหน้าโดยไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับบทสนทนาของคนอื่น ๆ
ซ่งชิงหันไปมองทางทิศไกลอย่างฉับพลัน เขารู้ดีว่าลู่หยวนอยู่ในทิศทางนั้น
“ถึงเวลาต้องเผชิญหน้ากันแล้ว…”
ซ่งชิงพึมพำประโยคหนึ่ง คนอื่น ๆ ต่างได้ยินและปิดปากลงเงียบ ๆ ฟังคำเอ่ยของซ่งชิง
ซ่งชิงมองอยู่ครู่หนึ่งก็หันกลับมามอง
จากการพบกันครั้งนี้ พลังของลู่หยวนคงเพิ่มขึ้นไปถึงขีดสุดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ลู่หยวนก็น่าจะทำเหมือนกับเขา มีค่าโชคชะตาเหลืออยู่เล็กน้อย
งั้นมาดูกันว่าระบบของผู้ใดจะเก่งกล้ากว่ากัน!