ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 607 ตามหาซ่งชิง
บทที่ 607 ตามหาซ่งชิง
บทที่ 607 ตามหาซ่งชิง
ตู้หวงช่างยอมศิโรราบได้อย่างง่ายดายเสียจริง!
ริมฝีปากของลู่หยวนยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเก็บกระบี่เข้าฝักแล้วใช้พลังปราณสั่นสะเทือนจนมันกลายเป็นผงไปในพริบตา
พลังปราณที่กักขังตู้หวงเอาไว้ก็มลายหายสิ้น ทุกคนที่ลู่หยวนพาเข้ามาในที่ซ่อนต่างก็ปรากฏตัวออกมา
เซียวเทียนผู้ยืนอยู่ถัดไปด้านหลังแบกกระบี่เล่มใหญ่เอาไว้ จิตสังหารพวยพุ่งไม่หยุดราวกับว่าพร้อมจะทะยานออกไปสังหารศัตรูได้ทุกเมื่อ!
ซ่งชิง… คือปมในใจที่เขายังแก้ไม่ได้ในยามนี้!
ฮ่วนซิงไป๋ก้าวเข้ามาใกล้พลางเอ่ยว่า “ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ประสงค์จะให้พวกเรา…”
ฮ่วนซิงไป๋รู้ดีว่าระหว่างลู่หยวนกับซ่งชิงนั้นต้องมีการต่อสู้ถึงตายอย่างแน่นอน!
และเกาะสังหารเซียนแห่งนี้ก็คงเป็นสถานที่สำหรับการต่อสู้รอบตัดสิน!
ฮ่วนซิงไป๋เชื่อมั่นอย่างถึงที่สุดว่าลู่หยวนจะต้องเป็นฝ่ายชนะ
และแม้ซ่งชิงจะมีฝีมืออยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับลู่หยวนแล้วก็ยังคงห่างชั้นกันอยู่มาก
ทว่าสิ่งที่ฮ่วนซิงไป๋ไม่คาดคิดคือพวกเขาต้องเข้าสู่การต่อสู้ทันทีที่ก้าวเข้ามายังเกาะแห่งนี้
เขาคาดการณ์ว่าทั้งคู่จะต้องสำรวจส่วนลึกของเกาะเสียก่อนแล้วจึงค่อยปะทะฝีมือกันเพราะหากต้องตัดสินผลแพ้ชนะกันทันที เหตุใดจึงไม่ต่อสู้กันที่แผ่นดินหยวนหงหรือบริเวณน่านน้ำสีดำอันกว้างใหญ่ตั้งแต่ก้าวเข้ามายังเกาะเสียเลย
แต่กลับรอจนเข้ามาในเกาะแล้ว ซึ่งในใจของฮ่วนซิงไป๋รู้สึกว่ามันมีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่
“ข้ายังไม่คิดจะสู้ในตอนนี้ เพียงแค่ต้องการไปสืบหาข่าวสาร พวกเจ้าจงติดตามข้าไปด้วย”
สายตาของลู่หยวนหันไปทางตู้หวง “เหตุใดยังยืนงงอยู่? นำทางไปเสียสิ”
ทันใดนั้น ตู้หวงก็พยักหน้ารับและพุ่งตัวไปทางทิศหนึ่ง
ลู่หยวนทะยานตัวขึ้นด้วยกระบวนท่าม้วนตัวตามไปอย่างว่องไวและพวกพ้องที่เหลือก็ตามไปติด ๆ
สถานที่แห่งนี้แปลกประหลาดมาก หลังจากลู่หยวนเข้ามาที่นี่แล้วไม่ว่าจะเรียกระบบกี่ครั้งก็ไม่มีการตอบสนองใด ๆ
หากเป็นดินแดนลับอื่นก่อนหน้านี้ ลู่หยวนเพียงแค่เอ่ยก็จะมีระบบคอยมอบแผนที่ให้และนำทางไป แต่บัดนี้เพียงแค่ปรากฏข้อมูลพื้นฐานก็ยังไม่สามารถทำให้ได้ ราวกับว่าระบบได้หยุดทำงานไปแล้ว
ลู่หยวนอยากรู้ว่าระบบของเขามีปัญหาหรือว่าระบบของซ่งชิงก็ใช้งานไม่ได้กันแน่
ทุกคนต่างเร่งเดินทางต่อไปไม่หยุด มุ่งหน้าสู่เส้นทางอันไกลโพ้น
…
มุมหนึ่งบริเวณรอบนอกของเกาะสังหารเซียน มีอาคมขนาดมหึมาปรากฏขึ้นปกคลุมพื้นที่กว้างเอาไว้ทั้งหมด
เมื่ออาคมครอบคลุมผืนดินแห่งนี้ ไม่เพียงจะได้รับการปกป้องมิให้พวกคนนอกรุกล้ำเข้ามาโดยง่ายเท่านั้น แต่ยังทำให้สถานที่แห่งนี้ราวกับว่าไม่มีอยู่จริงได้อีกด้วย เว้นแต่จะมีผู้ฝึกฝนวิทยายุทธ์ได้สูงเกินกว่าขั้นอมตยุทธ์ขึ้นไปจึงจะตรวจจับได้โดยไม่ต้องใช้วิธีอื่นใด
มิฉะนั้น ผืนแผ่นดินแห่งนี้ก็จะเหมือนกับว่าไม่เคยปรากฏอยู่มาก่อน
ผืนแผ่นดินนี้กินอาณาเขตไปหลายสิบลี้ แม้จะไม่ได้กว้างใหญ่นักแต่ก็เพียงพอที่จะสร้างสิ่งปลูกสร้างมากมายได้
อีกทั้ง ในดินแดนยังมีวิหารใหญ่แห่งหนึ่งงดงามตั้งตระหง่านโดดเด่นที่สุดในผืนดินแห่งนี้!
และผู้มีวิทยายุทธ์ขั้นสูงคอยเฝ้าระวังอยู่อีกมากมายรอบวิหาร
ส่วนคนรอบข้างก็ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้บริเวณนั้น ทุกคนต่างก็กำลังวุ่นวายอยู่กับเรื่องของตน แต่เมื่อถอยห่างออกมาบ้างแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มเอ่ยถึงเรื่องนี้
“ได้ยินมาว่าคุณชายจะเลือกคนเข้าไปในส่วนลึกของเกาะสังหารเซียน อีกทั้งยังเปิดรับสมัครเสียด้วย บอกว่าผู้ใดอยากไปให้ลงนามได้เลย เจ้าจะไปหรือไม่?”
“ไปแน่นอน! ข้าร่อนเร่มานานมากแล้ว กว่าจะมีโอกาสได้เข้าไปดูด้านในได้สักครั้ง จะปล่อยโอกาสนี้ไปได้อย่างไร ที่นั่นคงมีของดี ๆ อยู่ไม่น้อย หากข้าได้สักชิ้นสองชิ้นก็จะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินแล้ว หากหาทางยกระดับขึ้นไปถึงขั้นอมตยุทธ์ได้ล่ะก็ฮ่า ๆ ชื่อของข้าคงจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชั่วกาลนาน”
“เฮ้อ…อย่าโง่เขลานักเลย พวกเจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าคุณชายจะเลือกคนติดตามไปด้วยจริง ๆ อีกไม่นานก็เป็นได้แค่ตัวตายเปล่า หากมิใช่เพราะคุณชายไม่แน่ใจว่าข้างในนั้นอันตรายเพียงใด ท่านจะพาพวกเราไปเป็นภาระเช่นนี้หรือ? พวกเจ้าก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าตนเองเก่งกาจพอหรือไม่ หากเป็นโอกาสดีจริง ท่านจะมอบโอกาสนั้นให้กับพวกเราหรือ?”
“เจ้าพูดได้ถูก พวกเราต้องไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน”
แล้วพวกเขาก็เงียบไป ต่างคิดไตร่ตรองกันอยู่เงียบ ๆ เช่นนั้น…
ที่วิหารใหญ่นั้นมีคนสวมอาภรณ์สีขาวนั่งอยู่บนบัลลังก์ ใบหน้ายังเป็นหนุ่มแต่กลับมีผมสีขาว
คนผู้นั้นคือซ่งชิง!
คนทั้งหลายที่นั่งอยู่เบื้องล่าง บางคนก็เป็นผู้ที่ติดตามซ่งชิงมา บางคนก็เป็นผู้ดูแลของสถานที่แห่งนี้ต่างก็มีพลังปราณอันกล้าแกร่ง ถึงแม้ว่าคนเหล่านี้จะอาวุโสกว่าซ่งชิง แต่ในตอนนี้ซ่งชิงได้เป็นคุณชาย พลังปราณของเขาได้กดคนเหล่านี้เอาไว้จึงไม่มีผู้ใดปีนป่ายขึ้นไปได้
ดังนั้น ทุกคนจึงนั่งอยู่ด้านล่างรอคอยคำสั่งของซ่งชิง
“ข้าต้องการคนห้าคน คนหนึ่งเป็นผู้นำทาง ส่วนคนอื่นก็ไม่ต้องทำอันใดมาก”
ซ่งชิงเอ่ยเสียงเรียบสั่งคนที่อยู่ด้านล่าง
คนที่นั่งเป็นคนแรกชื่อว่า ‘ซ่งอวี่’ เป็นผู้ดูแลฐานทัพแห่งนี้
เขารีบลุกขึ้นยกมือทำความเคารพซ่งชิง “สิ่งที่คุณชายสั่งข้าจะจัดการให้เรียบร้อย! คำสั่งได้ประกาศออกไปแล้ว หลังจากวันนี้ก็เลือกรายนามได้เลย!”
ซ่งชิงพยักหน้าจากนั้นก็เอ่ยอีกว่า “สิ่งของที่ข้าสั่งให้เจ้าจัดเตรียมได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วหรือไม่?”
“คุณชายโปรดวางใจ ข้าเตรียมไว้หมดแล้ว”
แล้วซ่งอวี่ส่งแหวนเก็บของให้ทันที
ซ่งชิงยกมือขึ้นรับแหวนเก็บของไว้ในมือของตน
ซ่งชิงตรวจดูแหวนเก็บของอยู่ครู่หนึ่ง ในนั้นมีสิ่งของที่เขาต้องการครบถ้วน ไม่ขาดแม้แต่ชิ้นเดียว
สิ่งของเหล่านี้ล้วนเป็นของที่ได้จากเกาะสังหารเซียนทั้งสิ้น แผ่นดินหยวนหงไม่มีของเช่นนี้
หากมิได้เห็นซ่งอวี่ใช้คาถาลับในการส่งรายงานต่อซ่งชิงคงไม่รู้ว่ามีของเหล่านี้อยู่
ของพวกนี้เพียงพอให้ซ่งชิงสร้างอาวุธวิเศษที่เหนือกว่าชิ้นเดิมได้แล้ว!
“ระบบ ของพวกนี้เพียงพอหรือไม่?”
[เพียงพอแล้ว!]
“เช่นนั้นก็เริ่มกันเลย!”
[ระบบได้รับแล้ว! การสร้างอาวุธวิเศษจะใช้ค่าโชคชะตาเมื่อสร้างเสร็จในทันที!]
เมื่อได้ยินเสียงเย็นชาของระบบ หมอกบาง ๆ ก็พวยพุ่งออกมาจากแหวนเก็บของจากนั้นหมอกเหล่านี้ก็สลายไปในพริบตา
แล้วแหวนเก็บของที่เพิ่งจะเต็มเมื่อครู่ก็ว่างเปล่าโดยพลัน ซ่งชิงโยนแหวนเก็บของกลับไปแล้วเอ่ยว่า “ข้าจะฝึกตนสามวัน ในสามวันนี้ จัดการเรื่องที่ข้าสั่งไปให้เรียบร้อย”
“รับทราบ!”
ซ่งอวี่จึงรับแหวนเก็บของจากไปพร้อมกับทุกคนในห้องโถง!
ซ่งชิงหลับตา ครั้นเมื่อกำลังจะเข้าสู่ฌาน ทันใดนั้นกลับมีพลังปราณแผ่วเบาลอยมาจากระยะไกล
ดวงตาของซ่งชิงเบิกโพลงในทันที แววตาของเขาฉายแววบางอย่าง มุมปากของเขาก็พลันยิ้มขึ้น “อ้าว…ลู่หยวน”
ทันใดนั้น ร่างของซ่งชิงก็หายวับไปจากวิหารใหญ่ อึดลมหายใจต่อมาก็ปรากฏตัวอยู่เหนือเวหา
ซ่งอวี่ที่เพิ่งจะออกไปพร้อมทุกคนก็ต้องตกตะลึงไปชั่วขณะ
ยังไม่ทันจะได้ถามก็รู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งแผ่นดิน แสงสีขาวเจิดจ้าพุ่งลงมาจากบนฟากฟ้า พร้อมกับพลังปราณอันสูงส่งแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณในพริบตา!
วูบ!
แผ่นดินก็พลันมืดมัวลง
แสงอันเจิดจ้าหมุนวนกลืนกินฝุ่นละอองอันไม่มีที่สิ้นสุดจากนั้นก็พัดพาผู้คนในบริเวณนั้นเข้าไปด้วย
ทุกคนรีบหยิบอาวุธขึ้นมา ทั่วทั้งวิหารมีบรรยากาศตึงเครียด
บนฟากฟ้ามีเขตแดนบาง ๆ ได้หลุดลุ่ยลงมา แสงสว่างที่แท้จริงจากโลกภายนอกส่องเข้ามายังแผ่นดินแห่งนี้
ซ่งอวี่และคนอื่น ๆ ถึงกับอ้าปากค้าง พวกเขารู้ดีว่าม่านอาคมอันแข็งแกร่งที่ปกป้องดินแดนแห่งนี้เอาไว้ได้ถูกทำลายลงด้วยเหตุใด!
นี่คือม่านอาคมที่แม้แต่ผู้แข็งแกร่งขั้นอมตยุทธ์ยังยากจะทำลาย!
“โอ้…ซ่งชิง ไม่เจอกันสองสามวัน เหตุใดจึงแก่เร็วเช่นนี้ ดูสิ! ผมเผ้าหงอกหมดแล้ว คงคิดหนักถึงขั้นนอนไม่หลับเพราะคิดว่าสู้ข้าไม่ได้อยู่รึ? จะให้ข้าหายามารักษาให้หรือไม่?”
น้ำเสียงดูถูกดังมาจากฟากฟ้า ทุกคนจ้องมองขึ้นไปก็เห็นเงาร่างไม่กี่คนลอยอยู่บนอากาศ
ผู้นำหน้าเป็นชายหนุ่มรูปร่างสง่าใบหน้าคมคายดูมีเค้าโครงของวีรบุรุษ!