ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 639 เทพเจ้าหรือ?
บทที่ 639 เทพเจ้าหรือ?
อาวุธวิเศษทั้งสองพุ่งลงมาในพริบตาราวกับคำสาปจากสวรรค์ที่มาถึง!
ตูม!
พลังอันบ้าคลั่งและไร้เทียมทานทั้งสองรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวทำให้ทั้งโลกพังทลายลง กดดันไปที่ลู่หยวน!
รอบกายลู่หยวนแสงสว่างนับไม่ถ้วนพลันส่องประกาย มีแสงพุ่งออกมาเชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนาราวกับโซ่ตรวนกักขังลู่หยวนไว้กับที่
ก้าวเดินของลู่หยวนถูกโซ่ตรวนเหล่านี้หยุดชะงัก ถูกกดดันจนช้าลงชั่วขณะ
เพียงแค่ช่วงเวลาชั่วขณะนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้พลังทั้งสองที่รวมตัวกัน ด้วยท่าทีที่ครอบคลุมทั้ง
สวรรค์และโลกกดขี่ลู่หยวน!
ตูม!
พลังอันบ้าคลั่งบดขยี้ลู่หยวนและกลืนกินทุกสิ่ง!
ในห้วงอวกาศแห่งสวรรค์และโลก ทุกลมหายใจต่างดับสูญไปพร้อมกัน!
เซียวเทียนและฮ่วนซิงไป๋ที่ถูกกดให้อยู่กับที่ไม่อาจขยับเขยื้อนได้ต่างตะลึงงัน
เมื่อพลังเล็กน้อยรอบกายจางหายไปการผูกมัดทั้งสองก็หายไปด้วย
เจี่ยวหลิ่วเอ่อร์ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วไม่สนใจว่าเชือกจะยังคงรัดแน่นอยู่บนร่างกาย ใช้แรงทั้งหมดวิ่งหนีไปทางด้านหลังอย่างบ้าคลั่งห่างไกลจากทั้งสอง
เมื่อสงบลง มองเข้าไปในสนามรบยังคงเป็นแสงสว่างเจิดจ้าที่ยังไม่จางหายไป พลังอันยิ่งใหญ่ลอยลงมาจากฟ้ายังคงเติมเต็มโลกนี้ แสดงอำนาจอย่างอิสระ!
สายตาของเจี่ยวหลิ่วเอ่อร์มองไปที่ร่างทั้งสองบนท้องฟ้า พิจารณาอย่างละเอียด ในใจก็มีข้อสรุป
ร่างทั้งสองนี้ ดูคุ้นตาอยู่บ้าง
ดูคล้ายกับรูปปั้นในมุมห้องในวิหารของท่านเทพเจ้า!
แต่ร่างของลู่หยวนหายไปในอำนาจที่ถาโถมลงมา เจี่ยวหลิ่วเอ่อร์ยกยิ้มเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นจะวางแผนจนเกือบทำให้นางตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจกลับคืนมาได้ แต่โชคดีที่ท่านเทพเจ้ายังคิดถึงนาง ช่วยชีวิตนางในยามคับขัน!
ลู่หยวนถึงแม้จะเป็นครึ่งก้าวสู่เทพยุทธ์ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านเทพเจ้าก็ไม่คู่ควรพอที่จะมอง!
อย่างไรก็ตาม ลู่หยวนก็ยังมีกลอุบายบางอย่างอยู่ ถึงแม้ในตอนนี้จะถูกบีบคั้นจนถึงขั้นนี้ แต่กลับไม่มีร่องรอยใด ๆ ในรัศมีพื้นที่นี้เลย เจี่ยวหลิ่วเอ่อร์จึงกล้ายืนยันว่าลู่หยวนต้องไม่ตายแน่นอน!
ระดับนี้ยังไม่ถึงขั้นที่จะทำให้ลู่หยวนตายในทันที
และท่านเทพเจ้าก็ทรงประทานการลงโทษ ดูเหมือนจะมีแผนสำรองไว้ด้วย เหมือนจะไม่ได้ต้องการให้ลู่หยวนตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต
สิ่งสำคัญเร่งด่วนในตอนนี้ คือต้องฉวยโอกาสออกจากที่อันตรายแห่งนี้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากพบท่านเทพเจ้า เพื่อขอความคุ้มครอง!
เจี่ยวหลิ่วเอ่อร์ยังคงถอยหลังต่อไป ต้องการอ้อมผ่านทั้งสอง มุ่งหน้าไปยังวิหารเดียวกลางอากาศ
ขณะที่กำลังเดินทางไปถึงกลางอากาศก็เห็นฮ่วนซิงไป๋และเซียวเทียนที่เมื่อครู่ยังยืนนิ่งอยู่บนพื้นขยับตัวทันที!
ดวงตาของทั้งสองก็มุ่งมั่นในชั่วพริบตา ใบหน้าผ่อนคลาย ความตั้งใจต่อสู้ก็พุ่งสูงขึ้นฉับพลัน แม้แต่เจตนาแห่งการกวาดล้างโลกก็ปรากฏในดวงตาของทั้งสอง
การกดดันทั้งโลกที่มีต่อทั้งสอง เหมือนจะได้รับผลกระทบจากบางสิ่ง กลับอ่อนแอลงอย่างมาก สุดยอดพลังของทั้งสองจึงได้รับการปลดปล่อย!
ชิ้ง!
เสียงดาบและเสียงกระบี่ดังขึ้นพร้อมกัน
เมื่อฮ่วนซิงไป๋ใช้กระบี่ฟันลงมา พลังแห่งสายเลือดแตกออกมาในชั่วพริบตาปกคลุมรอบกายของเขาทันที จากด้านหลังของฮ่วนซิงไป๋ฉายภาพสวรรค์และโลกขึ้นกลางอากาศอย่างเลือนราง ปล่อยพลังกดดันที่น่าสะพรึงกลัวออกมา!
ส่วนเซียวเทียนถือดาบไว้ทั้งสองมือ พลังอันหนักหน่วงจากรอบกายผสมปนเปกับพลังเฉพาะของเผ่าพันธุ์มังกรคุกคามและกวาดต้อนมวลอากาศรอบตัวทุกอณู
ดวงตาของทั้งสองฝ่ายเปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจที่ไร้ผู้ต้านทานราวกับพบเสาหลักของจิตใจ ไม่มีสีหน้าเซื่องซึมเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว
“ข้าจะค่อย ๆ ดึงพลังที่ประทานให้เจ้าทั้งสองกลับมา เจ้าทั้งสองต้องใช้โอกาสนี้ทำความคุ้นเคยกับการต่อสู้ภายใต้แรงกดดันเช่นนี้ให้เร็วขึ้น”
เสียงของลู่หยวนดังขึ้นข้างหูของทั้งสอง
“ขอรับ!”
ทั้งสองตอบรับในใจ
บุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่เป็นอะไรแน่นอน!
เมื่อครู่ที่ทั้งสองเห็นร่างของลู่หยวนสลายไปในแสงสว่างกับตาตัวเองต่างก็ตะลึงไปชั่วขณะ แต่ก็ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ลู่หยวนจะพ่ายแพ้หรือเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว!
แม้ว่าตอนนี้ผู้ที่ขวางทางพวกเขาอยู่จะเป็นเทพเจ้าผู้ไม่อาจพ่ายแพ้ที่ควบคุมจิตใจผู้คน แต่เมื่อผู้ที่พวกเขาเคารพบูชาดั่งเทพสงครามผู้ไม่มีวันพ่ายแพ้ต้องเผชิญหน้ากับลู่หยวน ในขณะนั้น เซียวเทียนและฮ่วนซิงไป๋ก็รู้สึกในใจว่าลู่หยวนจะต้องเป็นฝ่ายชนะ!
“บุตรศักดิ์สิทธิ์ เทพเจ้าที่ว่านี้ปล่อยให้พวกข้าจัดการเถิด!”
ฮ่วนซิงไป๋ยิ้มมุมปากอย่างเหิมเกริมร่างกายย่อตัวลงเล็กน้อย พลังอำนาจอันไร้เทียมทานพุ่งทะยานขึ้นไม่หยุด พลังเลือดแห่งเทพที่รวมตัวกันเป็นภาพสวรรค์และโลกด้านหลังเขาค่อย ๆ เผยคมออกมาปราบปรามโลก!
เซียวเทียนก็ไม่ยอมแพ้ ค้ำรามเสียงต่ำ ดวงตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยเลือด พลังคำรามมังกรดุร้ายบนร่างของเขาระเบิดออกมาในชั่วพริบตา เส้นเลือดปูดโปนมีอำนาจมังกรรวมตัวปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วด้านหลัง!
จนถึงตอนนี้ ตรงข้ามกับร่างทั้งสองที่เหมือนเทพเจ้า กลับมีคนหนึ่งและมังกรหนึ่งตัวปรากฏขึ้นมาเพิ่ม
ทั้งสี่ฝ่ายยืนเผชิญหน้ากันอยู่ห่าง ๆ พลังการต่อสู้พร้อมจะปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อ รีบควบคุ้มพื้นที่ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
เจี่ยวหลิ่วเอ่อร์ที่พยายามหนีขึ้นไปกลางอากาศ ถูกพลังสี่ชนิดที่แตกต่างกันนี้กดดันไปมาจนตกลงมากระแทกพื้นอีกครั้งอย่างแรง!
ด้านล่างกำลังจะเกิดศึกใหญ่ ส่วนบนวิหารที่ใหญ่โตและสง่างามนั้น ร่างของลู่หยวนยื่นอยู่ภายใน
มองจากภายนอก วิหารนี้ก็หรูหรามาก ตอนนี้เมื่อได้เข้ามาข้างในจึงรู้ว่าความสง่างามภายนอกนั้นเทียบไม่ติดแม้แต่หนึ่งส่วนสองของภายใน
ลู่หยวนสำรวจรอบ ๆ เล็กน้อยแล้วจึงมองไปที่บัลลังก์เดียวในนี้!
แม้แต่ลู่หยวน เมื่อเห็นบัลลังก์นั้นก็ยังขมวดคิ้วเล็กน้อย
บัลลังก์นี้ไม่เหมือนบัลลังก์ทั่วไป ตอนนี้มันกำลังแผ่พลังอำนาจที่ไม่ได้มาจากโลกนี้ออกมาเป็นระยะ ๆ พลังอำนาจนี้อยู่เหนือพลังทั้งปวงถึงกับกระตุ้นให้พลังที่ถูกผนึกอยู่ในจิตเทวะของลู่หยวน สั่นสะเทือนได้
ความรู้สึกที่อยู่เหนือสิ่งอื่นใดนี้ ทำให้ลู่หยวน นึกถึงบันทึกไม่กี่คำในตำราโบราณที่เคยอ่านมาเกี่ยวกับตำแหน่งเทพเจ้า
ครืน!
ระบบในใจของลู่หยวนสั่นสะเทือนขึ้นมาทันใด เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่หลังจากสั่นสะเทือนเบา ๆ แล้วกลับเงียบลงไป ไม่มีเสียงใด ๆ ดังออกมาเลย
ลู่หยวนขมวดคิ้วกำลังจะเรียกระบบเสียงอ่อนโยนก็ดังมาจากบัลลังก์เดียวนั้น
“ข้าคิดว่า เจ้าคงไม่อยากปลุกพลังในใจของเจ้าให้ตื่นขึ้นมาหรอก”
ลู่หยวนมองตามเสียงบนบัลลังก์ที่แต่เดิมไม่มีผู้ใด ตอนนี้กลับมีร่างหนึ่งนั่งขัดสมาธิพิงอยู่
ร่างนี้สวมชุดขาวทั้งตัว ท่ามกลางแสงสว่างด้านหลังบัลลังก์ ดูศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขาม
“ข้ามีนามว่า ‘อู่เปี่ยน’ พลังเทพไร้ขอบเขต!”
ร่างนั้นเอ่ยช้า ๆ ลมหายใจอ่อนโยน แต่เมื่อเอ่ยออกมา กลับมีลมปราณที่ยากจะบรรยายสั่นสะเทือนในห้วงอากาศ ทุกถ้อยคำที่ร่างนั้นเอ่ยก็มีอักขระประหลาดปรากฏและเลือนหายไปในห้วงอากาศราวกับการประกาศของเทพเจ้า!
“เด็กน้อย เห็นข้าแล้วไม่คุกเข่าหรือ?”
เสียงนี้ดังเอ่ยขึ้น ทั้งห้วงอากาศกดดันไปยังลู่หยวนราวกับปฏิบัติตามคำสั่งเทพ กดดันเด็กน้อยที่ไม่รู้กฎมารยาทตรงหน้าให้คุกเข่าลงในทันที!
“เหอะ”
ลู่หยวนหัวเราะเบา ๆ “ข้าไม่สนว่าเจ้าจะมีขอบเขตหรือไม่ เจ้าเรียกตัวเองว่าเทพเจ้าก็ควรรู้ว่าสำหรับผู้คน ส่วนหนึ่งคือพลังควบคุม ส่วนอีกส่วนหนึ่ง…คือการล่อลวง…”
ลู่หยวนกำมือขวาถือกระบี่เทวะผนึกสวรรค์ปรากฏขึ้นอย่างโดดเด่น!
ท่วงท่ากระบี่หลายพันจั้งห่อหุ้มทั้งสวรรค์และโลก เจตจำนงกระบี่รอบ ๆ เทพเจ้าแพร่ออกไปในอากาศจนทุกอณูแข็งตัว
“เป็นเทพเจ้าหรือไม่บอกไม่ได้ ให้ข้าฆ่าเจ้าสักครั้ง ดูซิว่าเจ้าจะลงจากตำแหน่งเทพเจ้าได้หรือไม่!”