ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 652 สังหารในท่าเดียว
บทที่ 652 สังหารในท่าเดียว
หลังจากฮ่วนซิงไป๋กับเซียวเทียนปรากฏตัวออกมาจากอาณาเขต พวกเขาก็ได้รับคำสั่งจากลู่หยวนให้ถอยออกไปไกล มุ่งหน้าไปยังบริเวณที่มีแสงสว่าง แต่ก็ไม่ได้เข้าไปในเขตแดนที่ถูกห่อหุ้มด้วยค่ายกลก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้เทพจิ้วซิงสังเกตเห็น!
หลังจากได้รับการเสริมพลังด้วยพลังแห่งเทพจากลู่หยวนทั้งสองก็ออกเดินทางทันที พุ่งทะยานราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังลงจากภูเขามุ่งหน้าไปยังบริเวณที่มีแสงสว่างของซ่งชิงอย่างรวดเร็ว!
ดาบและกระบี่ในมือของทั้งสองถูกชักขึ้นในชั่วพริบตา จิตสังหารของพวกเขาราวกับจะฉีกซ่งชิงออกเป็นชิ้น ๆ!
เมื่อเทพจิ้วซิงเห็นเช่นนั้นก็พึมพำในใจว่า ‘ตกหลุมพรางแล้ว’
เดิมทีเขาคิดว่าสองคนที่อยู่ข้างกายลู่หยวนนั้นไม่ได้โดดเด่นอะไร วรยุทธ์ก็ไม่น่าสนใจ จึงไม่ได้ใส่ใจพวกเขามากนัก เพียงแค่ดึงลู่หยวนคนเดียวเข้ามาในอาณาเขตก็พอ
แต่ไม่คิดว่าสองคนที่ดูไม่น่าสนใจนี้จะกลายเป็นส่วนสำคัญเช่นนี้ ถึงกับสร้างภัยคุกคามให้กับซ่งชิงที่กำลังรับสืบทอดพลัง!
ช่วงเวลาแห่งการรับสืบทอดพลังนี้ เป็นช่วงที่สำคัญที่สุด
หากครั้งนี้ซ่งชิงได้รับสืบทอดพลังทั้งหมดของเทพจิ้วซิงตามปกติ ก็ยังพอมีความสามารถในการป้องกันตัวอยู่บ้าง แต่กลับต้องอาศัยโอกาสนี้ในการสร้างเทพด้วย!
นั่นก็คือต้องไม่ถูกรบกวนแม้แต่น้อย!
มิเช่นนั้น การสร้างเทพครั้งนี้อาจจะต้องล่าช้าออกไป!
เทพจิ้วซิงจึงปล่อยอักขระทั้งหมดที่จับไว้ในมือพุ่งไปยังชายทั้งสอง แสงสว่างจากอักขระปรากฏชัดพุ่งตรงไปยังพวกเขา!
ในขณะนี้ ชายทั้งสองกำลังบุกเข้าประชิดซ่งชิง พลังมหาศาลทั้งหมดถูกส่งเข้าสู่อาวุธ ในชั่วพริบตาก็จะฟันลงบนรัศมีของซ่งชิงแล้ว!
ทันใดนั้น เสียงของลู่หยวนก็ดังขึ้นข้างหูของทั้งสอง
“ถอย!”
เพียงคำเดียว ก็ทำให้ชายทั้งสองที่กำลังเดือดดาลหยุดชะงัก เท้าแตะพื้นเพียงครั้งเดียวก็กระโดดหลบไปด้านข้าง
อักขระเหล่านั้นพุ่งเข้าโจมตีไปแล้ว แต่เป้าหมายทั้งสองกลับหายวับไปในพริบตา เทพจิ้วซิงรีบปรับมือทำให้อักขระเหล่านั้นหายไปกลางอากาศ!
จึงหลีกเลี่ยงไม่ให้อักขระพุ่งเข้าไปในรัศมี รบกวนซ่งชิงได้!
ยังไม่ทันที่เทพจิ้วซิงจะถอนหายใจโล่งอก พลังแห่งเทพของลู่หยวนก็รวมตัวกันอย่างรวดเร็วจากด้านหลังของเขา!
เทพจิ้วซิงหันกลับทันที ในชั่วพริบตาเดียว อักขระในมือก็ถูกปั้นขึ้นใหม่อีกครั้ง!
เห็นได้ชัดว่าม่านเลือดที่กักขังลู่หยวนไว้ถูกทะลวงแล้ว ลู่หยวนจึงพุ่งออกมาจากจุดนั้น ขณะนี้มือของเขากำหอกยาวแน่น บนลำหอกสัตว์เทวะเหล่านั้นได้กลับเข้าที่แล้ว พลังแห่งเทพที่เรียกใช้พลังของสัตว์เทวะ ผสานเข้ากับพลังแห่งเทพที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวลู่หยวนเอง กลายเป็นพลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิมหลายส่วน
หอกยาวภายใต้การผสานของพลังเช่นนี้ ยิ่งทรงพลังมากขึ้น คลื่นพลังที่แผ่ออกมาอย่างช้า ๆ พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ท้าทายความสูงส่ง!
ลู่หยวนจับหอกยาวด้วยมือทั้งสองข้าง กวัดแกว่งลงมาอย่างรวดเร็ว พุ่งตรงไปที่ใบหน้าของเทพจิ้วซิง!
เทพจิ้วซิงปล่อยอักขระออกมาทันที อักขระลอยขึ้นระหว่างทั้งสอง ก่อตัวเป็นกำแพงป้องกัน เพื่อต้านทานการโจมตีครั้งนี้อย่างสุดกำลัง!
ในช่วงเวลานั้น เทพจิ้วซิงยังไม่ลืมซ่งชิงจึงปั้นอักขระแบบเดียวกันขึ้นมาอีกครั้ง ในพริบตา รอบ ๆ ซ่งชิงก็มีกำแพงป้องกันล้อมรอบ แม้แต่ฮ่วนซิงไป๋และเซียวเทียนที่มีพลังแห่งเทพก็ยากที่จะสังหารเขาได้!
โครม!
การโจมตีของลู่หยวนลงมาอย่างเต็มกำลังในขณะนั้น ตกลงบนกำแพงป้องกันทันที
พลังอันบ้าคลั่งแผ่กระจายไปทั่วกำแพงป้องกัน พลังแห่งเทพแผ่ปกคลุมทั่วทั้งกำแพงในชั่วพริบตา กดทับลงมาอย่างหนักหน่วง
อักขระกำแพงป้องกันที่รับมือกับพลังของลู่หยวน กลับจางสีลงเล็กน้อย ราวกับว่าจะสลายไปได้ทุกเมื่อ
เทพจิ้วซิงเห็นเช่นนี้ ในใจก็รู้สึกตกตะลึงอยู่บ้าง
คิดดูว่าตัวเขา เทพจิ้วซิงกับเทพไร้ขอบเขต แม้จะเป็นเทพเก่าที่ถูกปลดจากตำแหน่งเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร
เทพจิ้วซิงยกย่องตนเองว่ายังคงรักษาพลังแห่งเทพไว้ได้มากกว่า และแข็งแกร่งกว่าเทพไร้ขอบเขตอยู่หลายส่วน
แต่วันนี้หลังจากลู่หยวนแย่งชิงพลังแห่งเทพมาได้ พลังที่แสดงออกมากลับทำให้เทพจิ้วซิงถึงกับรับมือแทบไม่ไหว
เห็นได้ชัดว่าพลังนั้นร้ายกาจเพียงใด!
เทพจิ้วซิงถึงกับไม่เข้าใจชั่วขณะว่าเป็นเพราะพลังแห่งเทพของเขาอ่อนแอกว่าของเทพไร้ขอบเขตอยู่แล้ว หรือว่าหลังจากลู่หยวนสืบทอด พลังแห่งเทพแล้วสามารถใช้พลังนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมกว่ากันแน่
“โอ้ ยังมีเวลามาเหม่อลอยอีกหรือ?”
ลู่หยวนถือหอกโจมตีลงบนกำแพงป้องกันอย่างต่อเนื่อง พลังของเขาเพิ่มขึ้นไม่หยุด
เทพจิ้วซิงถูกเสียงนี้ดึงกลับสู่ความเป็นจริง จึงรีบเพิ่มอักขระป้องกันอีกชั้นทันที
“ความสามารถในการสร้างอักขระของเจ้านี่ ไม่มีขีดจำกัดเลยใช่หรือไม่?”
ลู่หยวนถามขึ้น แต่เทพจิ้วซิงไม่ยอมตอบ
อย่างไรก็ตาม ลู่หยวนดูเหมือนจะไม่ได้ต้องการคำตอบจากเทพจิ้วซิง แต่กลับพูดต่อไปว่า “หากเจ้าไม่ได้มอบพลังให้ซ่งชิง ขีดจำกัดของเจ้าคงจะสูงมากทีเดียว แต่ตอนนี้ เพียงแค่ใช้อักขระไม่กี่ตัว เจ้าก็คงจะใกล้ถึงขีดจำกัดแล้วกระมัง”
“ฮึ ไม่ว่าอย่างไร การกักขังพวกเจ้าไว้ที่นี่ก็เพียงพอแล้ว” เทพจิ้วซิงเอ่ยขึ้น
คราวนี้เขาฉลาดขึ้นแล้ว รวมฮ่วนซิงไป๋และเซียวเทียนเข้าไปด้วย
ขณะนี้ เขาไม่เพียงแต่จดจ่ออยู่ที่ลู่หยวนเท่านั้น แต่ยังแบ่งความสนใจไปยังอีกสองคนด้วย คอยระวังไม่ให้สองคนนั้นสมคบคิดกับลู่หยวนแล้วทำอะไรแปลก ๆ
นอกจากนี้ เทพจิ้วซิงก็กำลังคิดหาวิธีที่จะหลุดพ้นจากสถานการณ์เชิงรับนี้
ดังที่ลู่หยวนกล่าวไปเมื่อครู่ ตอนนี้เขามอบพลังให้ซ่งชิงไปแล้ว ดังนั้นพลังที่เหลืออยู่กับตัวก็มีไม่มาก การสลักอักขระของเขาจึงมีข้อจำกัด
ตอนนี้เขาได้แยกอักขระออกไปหลายตัวแล้ว อักขระที่เขาจะสลักได้จึงเหลือไม่มาก…
“ยังคิดอยู่อีกหรือ?”
ลู่หยวนหัวเราะเบา ๆ “เป้าหมายแรกของข้าไม่ใช่ซ่งชิงหรอก”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ เทพจิ้วซิงก็เข้าใจในทันที!
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะมีการเคลื่อนไหวต่อไป ฮ่วนซิงไป๋และเซียวเทียนที่เขาแบ่งจิตใจไปสนใจอยู่นั้น กลับหายวับไปต่อหน้าต่อตา!
ในชั่วพริบตา ฮ่วนซิงไป๋พุ่งออกมาจากด้านหลังของเขาอย่างรวดเร็ว มือกำดาบยาวแน่น ภายใต้การรักษาพลังแห่งเทพของลู่หยวน สายเลือดเทพที่ถูกเนรเทศของเขาก็ปะทุขึ้นในทันที
“กฎแห่งสวรรค์! สัญลักษณ์แห่งพิภพ!”
ฮ่วนซิงไป๋ตะโกนก้อง ร่างทองขนาดมหึมาปรากฏขึ้นด้านหลังเขาในพริบตา จากนั้นก็เข้าสู่ร่างของฮ่วนซิงไป๋ทันที พลังรอบกายของเขาพุ่งสูงขึ้น แสงสีทองก็ปรากฏขึ้นรอบกายไม่หยุด!
ในขณะที่ร่างนั้นเข้าสู่ตัวเขา พลังแห่งเทพที่ลู่หยวนมอบให้ฮ่วนซิงไป๋ก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า!
ฮ่วนซิงไป๋ถือดาบด้วยมือเดียว ฟันฉับลงมา!
เทพจิ้วซิงรีบโยนอักขระออกไปทันที พลังสังหารมหาศาลพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ากลายเป็นคมดาบนับพันนับหมื่น พุ่งขึ้นจากอักขระเพื่อปะทะกับฮ่วนซิงไป๋!
ตู้ม!
แสงดาบนับล้าน ๆ เล่ม ฮ่วนซิงไป๋รับเอาไว้ทั้งหมด แสงสีทองบนร่างของเขาปกป้องอย่างแน่นหนา แต่ดาบยาวในมือเป็นเพียงอาวุธธรรมดาของ แผ่นดินหยวนหง ภายใต้การโจมตีอันรุนแรงเช่นนี้ มันก็คงจะถูกทำลายในไม่ช้า
“พี่รอง ข้าจะช่วยเจ้า!”
เสียงของเซียวเทียนดังมาจากด้านหลังของฮ่วนซิงไป๋ กระบี่ยักษ์ขนาดเท่าคนคมหนึ่งฟันลงมาอย่างทรงพลัง ทำให้เมฆหมอกพังทลายลงมาด้วย
ตู้ม!
พลังของคมดาบนับล้าน ๆ เล่มนั้นโจมตีลงมาอีกครั้ง ฮ่วนซิงไป๋ฉวยโอกาสนี้ มือซ้ายของเขาหมุนดาบยาวเข้ามาอยู่ในมือ แล้วฟันขวางลงไปปะทะกับพลังที่โถมเข้ามา!