ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ - บทที่ 236 เซียนทองวัฏจักรขั้นสมบูรณ์ ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ต้าฮวง
- Home
- ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
- บทที่ 236 เซียนทองวัฏจักรขั้นสมบูรณ์ ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ต้าฮวง
บทที่ 236 เซียนทองวัฏจักรขั้นสมบูรณ์ ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ต้าฮวง
เมื่อเจอคำถามของหานเจวี๋ย เซวียนฉิงจวินลังเลสักครู่หนึ่งก็พูดความจริงออกมา
ที่แท้นางก็มีหินมรรคาสวรรค์ก้อนหนึ่ง สามารถอำพรางกลไกสวรรค์ได้ ก่อนหน้านั้นนางเคยได้รับโอกาสวาสนาในแดนเซียน เรียนรู้พลังวิเศษแข็งแกร่งที่ใช้ทะลุมิติไปมา คล้ายกับพลังวิเศษวัฏจักรที่หานเจวี๋ยใช้หนีเข้าไปในยมโลก
ก่อนหน้านี้นางก็อาศัยพลังวิเศษนี้จับพลัดจับผลูเข้าไปในอาณาเขตของนิกายเจี๋ย
“ตอนนี้เจ้าเข้าร่วมวังสวรรค์แล้วหรือ”
เซวียนฉิงจวินถามขึ้นมา ขัดจังหวะความคิดของหานเจวี๋ย
หานเจวี๋ยกล่าว “ตอนนี้ข้าคือเทพในโลกมนุษย์ ดูแลโลกมนุษย์ใบนี้ เจ้าเข้าไปรักษาอาการบาดเจ็บในเขากับข้าเถอะ”
ดีเลวอย่างไรเซวียนฉิงจวินก็เป็นคู่บำเพ็ญเพียรคนแรกของเขา เมื่อก่อนก็ดูแลหานเจวี๋ยมามาก
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซวียนฉิงจวินพยักหน้า
ก่อนหน้านี้นางก็อยากเข้าไปในเขา แต่ถูกอาณาเขตเต๋าปิดกั้นพลังจิตไว้ นางยังคิดว่าเขาลูกนี้เปลี่ยนเจ้าของแล้ว จึงไม่กล้าบุกรุกเข้าไป
หานเจวี๋ยพาเซวียนฉิงจวินกลับมาถึงเขาเพียรบำเพ็ญเซียน และให้นางรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ในถ้ำเทวาของตน
สิงหงเสวียน เซียนซีเสวียน และฉางเยวี่ยเอ๋อร์ออกไปฝึกฝนหาประสบการณ์ด้านนอกเมื่อหลายสิบปีก่อนยังไม่กลับมา แต่หานเจวี๋ยเกรงใจไม่กล้าให้เซวียนฉิงจวินอาศัยอยู่ในถ้ำเทวาของพวกนาง
ครั้นอู้เต้าเจี้ยนเห็นเซวียนฉิงจวินก็ระแวดระวังขึ้นมา
เป็นสตรีอีกแล้ว!
สามารถทำให้หานเจวี๋ยพาเข้ามาได้ จะต้องมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาแน่
หานเจวี๋ยแนะนำพวกนางให้รู้จักกัน เซวียนฉิงจวินพยักหน้าให้อู้เต้าเจี้ยน จากนั้นไปนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงมุมและเริ่มรักษาอาการบาดเจ็บ
ศิษย์คนอื่นๆ ของสำนักซ่อนเร้นก็อยากรู้สถานะของเซวียนฉิงจวินนัก
ภายนอกเซวียนฉิงจวินสงบสุขุมมาก แต่ในใจเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
ไอเซียนบนเขาลูกนี้ไม่ด้อยไปกว่าเกาะเซียนของนิกายเจี๋ยเลย จุดสำคัญที่สุดคือปีศาจและลูกศิษย์ที่หานเจวี๋ยอบรมบ่มเพาะล้วนเติบโตอย่างรวดเร็ว
นางยังสัมผัสได้ด้วยว่ากลิ่นอายของตบะระดับเซียนบนภูเขาลูกนี้ไม่ได้มีแค่คนเดียว
หานเจวี๋ยกลายคนเป็นลึกลับในสายตานาง ราวกับถูกหมอกหนาปกคลุมไว้
จู่ๆ นางก็ตระหนักได้ว่าตนเองไม่เคยเข้าใจหานเจวี๋ยเลย ทั้งยังไม่รู้แน่ชัดว่าพรสวรรค์ของหานเจวี๋ยแข็งแกร่งเพียงไหน
นี่เพิ่งสองพันปีเท่านั้น เขากลับบรรลุถึงเซียนแท้ไท่อี่แล้ว!
พรสวรรค์ระดับนี้ หากอยู่ในนิกายเจี๋ยก็นับว่ายอดเยี่ยมมาก
เดิมทีหานเจวี๋ยคิดว่าเซวียนฉิงจวินจะเข้าร่วมสำนักซ่อนเร้นตั้งแต่นี้ไป สุดท้ายหลังจากผ่านไปสามปี อาการบาดเจ็บของเซวียนฉิงจวินฟื้นฟูแล้วนางก็เตรียมจะจากไป
“ที่นี่มีไอเซียนเพียงพอ เจ้าฝึกบำเพ็ญได้อย่างสบายใจ” หานเจวี๋ยกล่าว
เซวียนฉิงจวินส่ายหน้าพลางยิ้มตอบ “ข้าไม่ได้มีพรสวรรค์เช่นเจ้า ไม่อาจมุมานะฝึกบำเพ็ญเพียงอย่างเดียวได้ จะเกียจคร้านจนเคยตัวง่ายนัก”
คำพูดนี้แทนใจสิงหงเสวียนและคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
หากพวกนางมีพรสวรรค์อย่างหานเจวี๋ย ใครจะอยากออกไปผ่านประสบการณ์ความเป็นความตายกันเล่า
หายเจวี๋ยนิ่งเงียบ ไม่มีคำพูดใดทัดทาน
ถึงแม้เขาจะชวนเซวียนฉิงจวินเข้าร่วมวังสวรรค์ เซวียนฉิงจวินก็ไม่ยินยอม นางบอกว่าเคยสังหารทหารสวรรค์ไปไม่น้อย ดังนั้นการเข้าร่วมวังสวรรค์คือหาเรื่องใส่ตัว
สุดท้าย หานเจวี๋ยก็ไม่บังคับให้นางอยู่ต่อ ก่อนที่เซวียนฉิงจวินจะจากไป เขาถ่ายทอดวิชาอัญเชิญเทพให้กับนาง บอกนางว่าแสดงพลังวิเศษนี้ในเวลาวิกฤตเท่านั้น
ใช้เวลาไปครึ่งเดือน หลังจากเซวียนฉิงจวินเชี่ยวชาญวิชาอัญเชิญเทพแล้ว นางก็จากไป
หานเจวี๋ยไม่ได้ไปส่ง เซวียนฉิงจวินกระโดดออกจากโลกเขย่าพิภพโดยตรง ไม่ได้ปะทะกับจอมเทพอู่เต๋อแต่อย่างใด
เมื่อเซวียนฉิงจวินไปแล้ว หานเจวี๋ยนำป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมาติดต่อกับตี้ไท่ไป๋
“ฮ่าๆ เจ้าหาข้ามีเรื่องอันใด” ตี้ไท่ไป๋ยิ้มถาม
หานเจวี๋ยกล่าว “ดูเหมือนท่านจะอารมณ์ดีไม่น้อยเลย?”
“ย่อมเป็นเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ไม่นานนิกายเจี๋ยมาโจมตี ถูกวังสวรรค์ลงโทษประหารชีวิต ชื่อเสียงบารมีของวังสวรรค์เพิ่มขึ้นพุ่งพรวด เจ้าว่าข้าจะไม่ดีใจได้หรือ”
“ยินดีด้วย ยินดีด้วย ท่านช่วยข้าตรวจสอบคนผู้หนึ่งได้หรือไม่ เขาชื่อซูฉี เป็นศิษย์ของข้า”
“ซูฉี? ดาวตัวซวยผู้นั้นหรือ” น้ำเสียงของตี้ไท่ไป๋แปลกพิกล
หานเจวี๋ยถามด้วยความประหลาดใจ “ดาวตัวซวยอะไรกัน”
เป็นอย่างที่คาดไว้จริงๆ วังสวรรค์รู้ฐานะของซูฉีนานแล้ว แต่กลับไม่ออกตัวดึงตัวซูฉีไปเป็นพวก แสดงว่าที่ซูฉีจากวังสวรรค์ลงไปยังโลกมนุษย์ในตอนนั้นมีสาเหตุพิเศษอยู่
ตี้ไท่ไป๋เอ่ย “ซูฉีศิษย์ของเจ้าเดิมทีเป็นดาวตัวซวยของวังสวรรค์ ดวงชะตาโชคร้ายของเขาร้ายกาจเกินไป มักจะสร้างเคราะห์ภัยให้กับเทพเซียนคนอื่น ฝ่าบาทจักรพรรดิสวรรค์จำต้องขับไล่เขาไปที่โลกมนุษย์ หมายจะใช้การเวียนว่ายตายเกิดหมื่นโลกชำระล้างแรงกรรมของเขา
จะว่าไปแล้ว ดาวตัวซวยก็เป็นคนของนิกายเจี๋ย กำเนิดจากแรงกรรมฟ้าดินเมื่อนานมาแล้ว เนื่องจากมรรคาสวรรค์ต่อต้าน จึงยากจะสำเร็จเป็นจักรพรรดิเซียน ความสัมพันธ์ของเขากับคนในนิกายเจี๋ยก็ไม่ดี หากไม่ใช่ว่านิกายเจี๋ยสั่งสอนโดยไม่มีการแบ่งชนชั้น เกรงว่าเขาคงถูกหมื่นโลกขับไล่แล้ว”
หานเจวี๋ยมีสีหน้าแปลกๆ
‘อดีตชาติของซูฉีน่าเวทนาเช่นนี้เลยหรือ’
ตี้ไท่ไป๋กล่าวต่อ “ระดับต่ำกว่าจักรพรรดิเซียนลงมาจะพบหายนะเพราะดาวตัวซวยได้ง่ายมาก ส่วนจักรพรรดิเซียนยิ่งดูแคลนชะตาชีวิตของเขา เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเขา ไม่มีใครยอมสังหารเขาเพื่อรับช่วงต่อแรงกรรมมหาศาลนั้นหรอก ผู้ขลาดเขลาอยากจะสังหารเขาก็ยิ่งไม่มี
ในเมื่อเจ้าอยากตามหาเขา ข้าจะให้เนตรหมื่นลี้และกรรณลมกรดไปสืบดูสักรอบ”
หานเจวี๋ยรีบกล่าวขอบคุณ
ไม่ว่าอย่างไรซูฉีก็เป็นศิษย์ของเขา เคยช่วยเขาจัดการศัตรูตัวฉกาจสองคน เขาไม่อาจไม่สนใจซูฉีได้
หานเจวี๋ยเปลี่ยนหัวข้อถาม “นี่ก็หมายความว่าวังสวรรค์กลับคืนสู่ความสงบแล้วหรือ”
“ใช่ จะไม่พบเจอปัญหาในช่วงเวลาสั้นๆ นิกายเจี๋ยถูกปราบปราม วังปีศาจถูกขู่ขวัญจนว่านอนสอนง่ายยิ่ง ห้าสิบปีข้างหน้าวังสวรรค์จะจัดงานเลี้ยงใหญ่ชั้นเซียน เจ้าจะมาหรือไม่”
“ข้าไม่ไป ข้าไม่ได้ช่วยรับมือกับนิกายเจี๋ย จึงเกรงใจไม่กล้าไป”
“ไม่เกี่ยวกับนิกายเจี๋ยเลย เป็นการเฉลิมฉลองที่องค์ชายรัชทายาทฝากตัวเข้าสำนักของอริยะ”
“อริยะ?”
“อืม นั่นเป็นตัวตนที่สูงส่งเทียบเท่ามรรคาสวรรค์ หมื่นสมัยไม่ออกมา มีแค่ยามมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตปรากฏเท่านั้น ถึงจะเผยตัวในบรรดาสวรรค์หมื่นโลกา”
“ยินดีกับองค์รัชทายาทด้วย ส่วนตัวข้านั้นช่างเถิด ถึงไปก็ปรับตัวไม่ได้อยู่ดี”
“ฮ่าๆ”
หลังจากตัดการเชื่อมต่อพลังจิต หานเจวี๋ยก็ฝึกบำเพ็ญต่อไป
……
ชั่วแวบเดียว เวลาก็ผ่านไปอีกสามสิบปี
ในที่สุดหานเจวี๋ยก็บรรลุระดับเซียนทองวัฏจักรขั้นสมบูรณ์ เขาแทบจะน้ำตาไหล
ภายใต้ความตื่นเต้น เขานำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาอวยพรให้ศัตรูทุกคนหนึ่งรอบ ทุกคนบวกเพิ่มให้หนึ่งวัน สาปแช่งคนละหกวัน
แม้อายุขัยจะลดไปหลายร้อยปี แต่หานเจวี๋ยคิดว่าคุ้มค่า
หานเจวี๋ยสาปแช่งไปพลาง ตรวจดูจดหมายไปพลาง
[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านกลืนกินเสี้ยววิญญาณของผู้ทรงพลัง พลังมรรคเพิ่มพูน]
[โจวฝานสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากโม่ฟู่โฉวสหายของท่าน ทั้งสองคนบาดเจ็บสาหัส]
[เซวียนฉิงจวินคู่บำเพ็ญเพียรของท่านได้รับถ่ายทอดยอดวิชาของนิกายเจี๋ย]
[ซูฉีศิษย์ของท่านแพร่กระจายความโชคร้าย ดวงชะตาของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ต้าฮวงตกต่ำลง]
[จี้เซียนเสินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากปีศาจ] x340,032
[เจียงอี้สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิเซียน]
[ตี้หงเย่สหายของท่านตระหนักรู้สัจธรรมเวลา พลังมรรคเพิ่มพูน]
……
มองลงมาจนจบก็นับว่าราบรื่นดี
ในที่สุดหานเจวี๋ยก็รู้ว่าราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ที่จับซูฉีไปคือกลุ่มอิทธิพลใด
ก่อนหน้านี้ตี้ไท่ไป๋ตรวจสอบไม่พบ หานเจวี๋ยจึงได้แต่ปล่อยไป
ก็ไม่รู้ว่าสามารถสาปแช่งกลุ่มอิทธิพลหนึ่งโดยตรงได้หรือไม่
หานเจวี๋ยตัดสินใจลองดู ต่อไปราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ต้าฮวงถูกเพิ่มไว้ในรายการสาปแช่งแล้ว
นอกจากนี้ โจวฝานต่อสู้กับโม่ฟู่โฉวอีกแล้ว หานเจวี๋ยคาดไม่ถึงเลย
สองคนนี้ทั้งรักทั้งชังกันจริงๆ จับมือเดินมาด้วยกันจนถึงวันนี้ ก็ยังขัดแย้งกันเองอีก พี่น้องรักใคร่กันดีโดยแท้
หานเจวี๋ยยังสังเกตเห็นว่าเซวียนฉิงจวินกลับไปที่นิกายเจี๋ยอีกแล้ว
ตอนนี้ดูท่าทางนิกายเจี๋ยจะเหมาะสมกับเซวียนฉิงจวินจริง หลังผ่านศึกเมื่อหลายสิบปีก่อนมา นิกายเจี๋ยคงไม่สร้างเรื่องอีก นิกายเจี๋ยเป็นถึงหนึ่งในสามนิกายสำนักเต๋า ต่อให้โดดเดี่ยวก็ไม่กล้าปราบปราม
ในเวลานี้เอง มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาในใจของหานเจวี๋ย “นายท่าน ข้าพบปัญหาแล้ว”
เสียงนี้มาจากหลิวเป้ย ร่างแยกวัฏจักรที่ตั้งมั่นดูแลแม่น้ำมรรคกระบี่
น้ำเสียงของหลิวเป้ยดูจนปัญญาเป็นอย่างยิ่ง
……………………………………….