ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ - บทที่ 334 จักรพรรดิปีศาจพิโรธ แผ่นหยกนำโชค
บทที่ 334 จักรพรรดิปีศาจพิโรธ แผ่นหยกนำโชค
ซวีหวง!
ผู้ที่ย้อนเวลากลับไปปองร้ายหานเจวี๋ยในอดีตก็คือโอรสของจักรพรรดิปีศาจ ซวีหวง!
หานเจวี๋ยจำปีศาจตนนี้ได้ ก่อนหน้านี้ที่ตำหนักเอกอนันต์ คนผู้นี้เดินชนเขา แถมยังบังเกิดความเกลียดชังในตัวเขาอีกด้วย
เมื่อพบคนร้ายตัวจริงแล้ว หานเจวี๋ยไม่พูดพล่ามทำเพลง เริ่มสาปแช่งซวีหวงทันที
เขาสาปแช่งอีกฝ่ายพลางคิดด้วยความสงสัย ‘ระบบสามารถป้องกันศัตรูที่เดินทางข้ามเวลาได้หรือไม่’
ข้อความแถวหนึ่งผุดขึ้นตรงหน้าเขา
[ระบบป้องกันได้เพียงศัตรูในช่วงเวลาปัจจุบัน]
กล่าวอีกอย่างคือ ซวีหวงเพิ่งย้อนเวลาเมื่อไม่นานมานี้
‘ระบบสามารถป้องกันศัตรูที่มาจากอนาคตได้หรือไม่’
[นั่นขึ้นอยู่กับว่าตัวท่านซึ่งเป็นผู้ครอบครองระบบในอนาคต ยินยอมให้ความช่วยเหลือตัวท่านในปัจจุบันนี้หรือไม่]
กล่าวอีกแง่คือ หานเจวี๋ยทำได้เพียงจัดการศัตรูในช่วงเวลาปัจจุบันเท่านั้น
เขาอดไม่ได้ที่จะคิดให้ลึกลงไปอีก
หากว่าตัวเขาในตอนนี้เผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าระดับต้าหลัว เกรงว่าระบบคงปกป้องตัวเขาในอดีตไม่ได้
อย่างไรก็ตามตัวตนที่อยู่เหนือกว่าต้าหลัวขึ้นไปจำเป็นต้องย้อนเวลามาจัดการเขาด้วยหรือ
จัดการตรงๆ เลยก็ได้!
หากคิดดูดีๆ ซวีหวงใช้สิ่งใดถึงสามารถย้อนเวลาได้ แถมยังระบุตัวเขาได้อีก
จักรพรรดิปีศาจและบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ต่างก็ทำไม่ได้ด้วยซ้ำ!
ที่สำคัญคือหานเจวี๋ยไม่ได้รับแจ้งเตือนที่บ่งบอกระดับความเกลียดชังที่เพิ่มขึ้นเลย
เรื่องนี้พิกลนัก
….
โลกเมฆาแดง
ซวีหวงในชุดดำมุ่งผ่านห้วงอวกาศอย่างรวดเร็ว เขาขมวดคิ้วแน่น เอ่ยพึมพำ “ยอดสมบัติชี้ชัดว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการถือกำเนิดในโลกมนุษย์แห่งนี้ แต่เหตุใดพลังจิตของข้าถึงสืบหาไม่พบเล่า หรือนี่คือช่วงเวลาแรกเริ่มที่เจ้าแดนต้องห้ามอันธการเพิ่งปรากฏตัวขึ้น เจ้าแดนต้องห้ามอันธการยังอ่อนแอยิ่งนัก แต่เพราะมีสมบัติวิเศษบางอย่างถึงได้กลายเป็นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ”
ทั้งโลกล้วนอ่อนแอยิ่งนัก ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็เพิ่งเป็นระดับมหายานเท่านั้น
โอ้ ยังมีเซียนอิสระบางส่วนที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดด้วย
ในเวลานี้เอง ซวีหวงรับรู้ได้ถึงพลังคำสาปแช่งอันน่าพรั่นพรึงอย่างหนึ่งที่โจมตีเข้ามา
เขาเป็นเพียงจักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ แต่หนังสือแห่งความโชคร้ายเป็นสมบัติวิญญาณระดับเทพ เขาจะต้านไหวได้อย่างไร
เขาตกใจพลางรีบหาสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อซ่อนตัวทันที จากนั้นจึงเดินลมปราณเพื่อรักษาตัว
หานเจวี๋ยรู้สึกขุ่นเคืองในตัวเขาอย่างยิ่ง ไหนเลยจะปล่อยให้เขาได้ผ่อนคลาย
ผ่านไปห้าวัน อายุขัยของหานเจวี๋ยเริ่มลดลง
ในช่วงเวลานี้ ซวีหวงไม่มีเวลาไปตามหาเจ้าแดนต้องห้ามอันธการเลย ได้แต่เดินลมปราณต่อต้านพลังคำสาปแช่ง
น่าเสียดาย เขาต้านไม่อยู่
เขากระอักเลือดออกมาไม่หยุด ถึงขั้นที่ตบะเริ่มคลอนแคลนและมีแนวโน้มว่าจะถดถอยอยู่รางๆ
“อีกฝ่ายต้องเป็นต้าหลัวเป็นแน่! สามารถทำนายได้ว่าข้าย้อนเวลามา! ไม่สิ เขาอาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่านั้น!”
ซวีหวงรู้สึกหวาดกลัว เขาไม่กล้าอยู่ต่ออีกสักนาที รีบกระโจนเข้าสู่มิติเวลา ต้องการจะกลับไปยังช่วงเวลาเดิม
ตลอดการเดินทาง เขากระอักเลือดออกมาอยู่ตลอด สายเลือดปีศาจของเขากระเซ็นตกไปตามมิติเวลาต่างๆ ไม่อาจทราบได้เลยว่าได้ทำร้ายสิ่งมีชีวิตธรรมดาสามัญไปมากน้อยเพียงใด
โลหิตจักรพรรดิเซียน แม้กระทั่งเซียนทองไท่อี่ก็ยากจะทนรับไหว!
ท้ายที่สุด ซวีหวงก็กลับมาถึงตำหนักบรรทมของตนในวังปีศาจได้สำเร็จ เขามีท่าทางตื่นตระหนกหวาดผวา ร่างกายเริ่มมีโลหิตผุดซึม เขาพุ่งตัวออกไปที่ท้องพระโรงใหญ่อย่างรวดเร็ว
หนึ่งนาทีผ่านไป เขาบุกเข้าไปในตำหนักจักรพรรดิปีศาจ
จักรพรรดิปีศาจที่ฝึกบำเพ็ญอยู่ลืมตาขึ้นมา คำรามดุดันเปี่ยมไอสังหาร “มารยาทหายไปไหนหมด!”
ซวีหวงคุกเข่าลงตรงหน้าเขาทันที พลางร้องด้วยความหวาดผวา “เสด็จพ่อช่วยลูกด้วย เจ้าแดนต้องห้ามอันธการจะสังหารลูก!”
จักรพรรดิปีศาจตกใจยิ่งนัก รีบก้าวเข้าไปหาซวีหวงและใช้พลังเวทของตนรักษาเยียวยาให้เขา
ตูม!
ทันใดนั้นร่างของซวีหวงก็ระเบิดออก โลหิตสาดกระจาย เปรอะเปื้อนไปทั่วร่างของจักรพรรดิปีศาจ
จักรพรรดิปีศาจสีหน้ามืดครึ้มลง เขาใช้พลังเวทปกป้องวิญญาณของซวีหวงเอาไว้
จิตนึกคิดของซวีหวงพร่าเลือนยิ่งนัก แม้แต่วาจาก็กล่าวไม่ออกแล้ว
หานเจวี๋ยมีเจตนาสังหารจริงๆ เขาทุ่มพลังสาปแช่ง ตัวเขาเองก็ได้รับผลสะท้อนกลับมาเช่นกัน
“เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ…”
จิตสังหารอันเข้มข้นลุกโชนอยู่ในดวงตาของจักรพรรดิปีศาจ
คนผู้นี้อีกแล้ว!
ยามนี้จักรพรรดิปีศาจรู้สึกเกลียดชังเจ้าแดนต้องห้ามอันธการยิ่งกว่าเก่า แม้แต่โอรสสุดที่รักของเขาก็ยังถูกเจ้าแดนต้องห้ามอันธการเล่นงาน เขาจะทนไหวได้อย่างไร
ในเวลานี้เอง พลังคำสาปแช่งก็เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง วิญญาณของซวีหวงเริ่มสั่นระริก พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
จักรพรรดิปีศาจข่มความโกรธเอาไว้ ปกป้องโอรสต่อไป
อีกด้านหนึ่ง
ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน หานเจวี๋ยเลือดออกเจ็ดทวาร อายุขัยของเขาลดลงไปหนึ่งพันล้านปีแล้ว แต่ก็ยังแช่งซวีหวงให้สิ้นชีพไม่ได้
‘ผู้เฒ่าจะรอดูว่าเจ้าจะยืนหยัดได้อีกนานแค่ไหน!’
หานเจวี๋ยมีสีหน้าท่าทางเย็นชา แสงสีดำที่แผ่ออกมาจากหนังสือแห่งความโชคร้ายส่องกระทบใบหน้าเขา ทำให้เขาดูเหี้ยมเกรียมอย่างยิ่ง
คนผู้นี้กับเขาไม่เคยมีเรื่องวิวาทกัน แต่กลับย้อนเวลาไปเพื่อกำจัดตน เขาจะทนไหวได้อย่างไร
ตายไปซะ!
อายุขัยหนึ่งพันสองร้อยล้านปี!
อายุขัยหนึ่งพันห้าร้อยล้านปี!
อายุขัยสองพันล้านปี!
อายุขัยสองพันห้าร้อยล้านปี!
ในที่สุดหานเจวี๋ยก็เห็นว่ารูปประจำตัวซวีหวงหายไปแล้ว ขณะเดียวเขามองเห็นจดหมายสองฉบับ
[ซวีหวงศัตรูคู่อาฆาตของท่าน ตัวตายมรรคผลสลาย วิญญาณแตกดับ เนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน]
[จักพรรดิปีศาจศัตรูคู่อาฆาตของท่านเนื่องจากสกัดกั้นคำสาปแช่งของท่าน จึงเผชิญผลสะท้อนกลับ จิตมารเพิ่มพูน]
จักรพรรดิปีศาจก็อยู่ด้วยหรือ
ช้าก่อน
เป็นจักรพรรดิปีศาจพาซวีหวงไป หรือแค่ติดตามเขาข้ามเวลาไปด้วย
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว
อย่างไรก็ตามระดับความเกลียดชังที่ซวีหวงมีต่อเขาไม่ได้เพิ่มขึ้น แสดงว่าซวีหวงไม่ได้พุ่งเป้ามาที่เขา แต่พุ่งเป้าไปที่อีกตัวตนหนึ่งของเขา
หรือพวกเขาจะพุ่งเป้าไปที่เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ
ยิ่งคิดหานเจวี๋ยยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้
อย่างไรก็ไม่ดีทั้งนั้น ต้องหาทางป้องกันจักรพรรดิปีศาจ!
หานเจวี๋ยวางหนังสือแห่งความโชคร้าย เริ่มรักษาตัว
เขาซักถามในใจ ‘ซวีหวงย้อนอดีตเพื่อตามหาเจ้าแดนต้องห้ามอันธการใช่หรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งหมื่นปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[ใช่]
อายุขัยหนึ่งหมื่นปีแลกได้เพียงคำคำเดียว
หานเจวี๋ยหมดสิ้นหนทาง จึงได้แต่ถามต่อ
‘จักรพรรดิปีศาจทราบหรือไม่ว่าข้าทำให้โอรสของเขาตาย’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งแสนปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[ไม่ทราบ]
หานเจวี๋ยรู้สึกโล่งอก
ดูเหมือนซวีหวงและจักพรรดิปีศาจจะพุ่งเป้าไปที่เจ้าแดนต้องห้ามอันธการเท่านั้น
หานเจวี๋ยถามต่อ ‘ซวีหวงสืบสาวไปถึงเจ้าแดนต้องห้ามอันธการได้อย่างไร’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งร้ายล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
เรื่องเกี่ยวพันถึงชีวิต จำเป็นต้องถาม
เวลานี้ หานเจวี๋ยรับรู้ได้ว่าฟ้าดินพลิกหมุน
จากนั้น เขาก็มาโผล่ในตำหนักมืดสลัวแห่งหนึ่ง
ซวีหวงนั่งอยู่บนเบาะ เบื้องหน้ามีแผ่นหยกชิ้นหนึ่งลอยอยู่
ซวีหวงเอ่ยถาม “ข้าอยากรู้ว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการอยู่ที่ไหนและเขาคือผู้ใด”
แผ่นหยกหมุนเป็นวง เสียงแหบแห้งแว่วออกมาจากสิ่งนั้น “หยกนำโชค ใช้ได้เพียงครั้งเดียว หลังจากใช้แล้ว แผ่นหยกจะสลายไป เจ้าแน่ใจหรือว่าจะใช้มัน”
หานเจวี๋ยเลิกคิ้ว
ทำไมดูคล้ายกับระบบนิดๆ กันนะ
ซวีหวงกัดฟันตอบ “ข้าจะใช้ เสด็จพ่อถูกเจ้าแดนต้องห้ามอันธการบีบคั้นจนสติฟั่นเฟือน ข้ารอต่อไปไม่ได้แล้ว!”
แผ่นหยกนำโชคหมุนวนเร็วขึ้นกว่าเดิม ผ่านไปสักพัก ความเร็วในการหมุนพลันเชื่องช้าลง เสียงแหบแห้งเสียงนั้นแว่วขึ้นอีกครั้ง “ทำนายถึงเจ้าแดนต้องห้ามอันธการไม่ได้ นามนี้อาจมิใช่นามที่แท้จริง เป็นสมญานามที่สรรพสิ่งเรียกขาน ขณะนี้เจ้าแดนต้องห้ามอันธการยังไม่บังเกิดบ่วงกรรมที่เชื่อมโยงกับตัวข้า”
ซวีหวงรู้สึกตกใจยิ่งนัก เอ่ยถาม “หาเขาไม่พบจริงๆ น่ะหรือ”
“แผ่นหยกนำโชคสามารถทำนายช่วงเวลาที่เจ้าแดนต้องห้ามถือกำเนิดขึ้นได้ ถึงอย่างไรเจ้าแดนต้องห้ามอันธการก็สร้างชื่อจากการสาปแช่ง หากทำนายถึงการสาปแช่ง ยกนำโชคสามารถทำได้ ทว่าไม่สามารถระบุตำแหน่งอย่างแม่นยำชัดเจนได้ เจ้ายังคงต้องคลำหาทางเอง”
“ได้ รีบบอกข้ามา!”
ซวีหวงเอ่ยเร่ง
หยกนำโชคลายเป็นลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพุ่งเข้าสู่สมองของซวีหวง จากนั้นฉากรอบข้างพังทลายลง จิตนึกคิดของหานเจวี๋ยกลับสู่ความเป็นจริง
หยกนำโชคเป็นของดีอย่างหนึ่งเลย!
โชคดีที่เป็นวัตถุประเภทใช้ได้เพียงครั้งเดียว
อย่างไรก็ตามหยกนำโชคน่าจะไม่ได้มีเพียงชิ้นเดียว ในมือจักรพรรดิปีศาจมีอยู่กี่ชิ้นกันแน่
ในใจหานเจวี๋ยบังเกิดลางสังหรณ์อันตรายอันแรงกล้าขึ้น
ไม่ได้การแล้ว
ต้องหาทางเล่นงานจักรพรรดิปีศาจให้ตาย!
มิเช่นนั้นภายหน้าต้องวุ่นวายแน่!
………………………………………………………………