ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ - บทที่ 597 อายุหนึ่งแสนปี อาณาเขตเต๋าแห่งที่สอง
บทที่ 597 อายุหนึ่งแสนปี อาณาเขตเต๋าแห่งที่สอง
ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งพันปี
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ตรวจดูจดหมายตามความเคยชิน ดูว่าระยะนี้มีเรื่องน่าสนใจเกิดขึ้นในแวดวงสหายบ้างหรือไม่
[หวงจุนเทียนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากหานทั่วบุตรชายของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงสหายของท่านออกจากแดนเซียน]
[เทพสูงสุดหนานจี๋สหายของท่านบุกเบิกฟ้าดิน ดวงชะตามรรคาสวรรค์อ่อนแอ]
[หลี่เต้าคงสหายของท่านตระหนักรู้พลังวิเศษ พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]
[มู่หรงฉี่ศิษย์หลานของท่านกลายเป็นเทพมารฟ้าบุพกาล]
[จักรพรรดิเซียนวัฏจักรสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังลึกลับ]
[ซูฉีศิษย์ของท่านเผชิญกับการเรียกหาจากตัวตนลึกลับ]
….
หานเจวี๋ยเห็นหวงจุนเทียนโดนหานทั่วโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส อดที่จะตกตะลึงไม่ได้
เป็นไปได้อย่างไร!
ตบะของทั้งสองห่างชั้นกันถึงเพียงนั้น ต่อให้หานทั่วระเบิดพลัง ก็ไม่มีทางทำอันตรายหวงจุนเทียนได้
อีกอย่างหวงจุนเทียนพบหานทั่วก็น่าจะคาดเดาความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคนได้
หรือว่าหวงจุนเทียนตั้งใจดึงดูดความสนใจของหานเจวี๋ย
โดยทั่วไปแล้ว บิดาต้องคอยสอดส่องบุตรชายของตนอย่างแน่นอน
หานเจวี๋ยคิดๆ ดูแล้ว ก็ยังคงเลือกเข้าฝันหวงจุนเทียน
ในแดนความฝัน
หวงจุนเทียนมองหานเจวี๋ยด้วยความปรีดา
“นายท่าน ท่านรับรู้ถึงข้าได้จริงๆ ด้วย!” หวงจุนเทียนเอ่ยอย่างตื่นเต้น
หานเจวี๋ยเอ่ยด้วยความหงุดหงิดว่า “มีเรื่องใด”
หวงจุนเทียนเล่าเรื่องภารกิจที่เจ้านิกายเทียนเจวี๋ยมอบหมายให้ตนออกมาทันที
ที่แท้ก็เป็นมรรคาสวรรค์แห่งใหม่
หานเจวี๋ยทราบจากจดหมายแล้ว แต่เขาก็มิได้ขัดหวงจุนเทียน จดหมายทำให้เห็นทุกด้าน ทว่าหวงจุนเทียนยอมทำร้ายตัวเองเพื่อแลกกับการรายงานข่าวต่อหานเจวี๋ย เรื่องนี้ทำให้เขาพอใจยิ่ง
ในบรรดาไส้ศึกที่เขาจัดวางไว้ หวงจุนเทียนยอดเยี่ยมที่สุด ไม่ก่อปัญหา ไม่ต้องการความช่วยเหลือ พึ่งพาตัวเอง ซ้ำยังให้ความช่วยเหลือเขาด้วย
พอนึกถึงจุดนี้ แววตาของหานเจวี๋ยอ่อนโยนลง
แสงเทพจากหยินหยางพิทักษ์ตะวันจันทราปกคลุมหานเจวี๋ยอยู่ ทำให้หวงจุนเทียนมองไม่เห็นสีหน้าของเขา
หานเจวี๋ยกล่าวว่า “อืม ข้าจะใคร่ครวญเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วน ต่อไปอย่าไปหาหานทั่วอีก หากทำบ่อยครั้งเข้าอริยะจะสงสัยเอาได้”
หวงจุนเทียนพยักหน้ารับ
“ข้าจะถ่ายทอดพลังวิเศษอย่างหนึ่งให้เจ้า ทันทีที่สำแดงพลัง ข้าจะรับรู้ได้ว่าเจ้าอยากพบข้า”
หานเจวี๋ยกล่าว จากนั้นยื่นนิ้วแตะหน้าผากหวงจุนเทียน
เขาถ่ายทอดวิชาอัญเชิญเทพให้หวงจุนเทียน
หลังจากแดนความฝันสิ้นสุดลง หานเจวี๋ยตรวจดูจดหมายต่อ
ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เขาเริ่มฝึกบำเพ็ญอีกครั้ง
เขาบรรลุถึงระดับเซียนทองต้าหลัวเบิกฟ้าระยะสมบูรณ์แล้ว ต่อไปก็สมควรพิจารณาถึงระดับอริยะเสรี
จะพิสูจน์มรรคสำเร็จเป็นอริยะเสรีได้อย่างไรน่ะหรือ ยังคงต้องพึ่งพามหามรรคต้นกำเนิด
มหามรรคต้นกำเนิดของหานเจวี๋ยแข็งแกร่งยิ่งนักแล้ว ครอบคลุมสารพัดสิ่ง อีกทั้งหานเจวี๋ยก็ฝึกฝนร่างจำลองเสรีสุญญตาอย่างต่อเนื่อง อานุภาพของมหามรรคต้นกำเนิดก็จะเพิ่มพูนขึ้น ในที่สุดสักวันหนึ่ง มหามรรคต้นกำเนิดจะรวบรวมมหามรรคทั้งสามพันวิถีได้ครบ กลายเป็นมหามรรคที่แข็งแกร่งที่สุด
ต่อมาหานเจวี๋ยก็จะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นมหามรรคต้นกำเนิด
มหามรรคคงอยู่ทุกแห่งหน เมื่อกลายเป็นมรรค ย่อมไม่เสื่อมสูญชั่วนิรันดร์
นี่ก็คือความหมายของการผสานมรรค
ในอดีตหลังจากบรรพชนเต๋าสำเร็จเป็นอริยะ เพื่อที่จะเหนือกว่าขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เขาจึงผสานรวมกับมรรคาสวรรค์ กลายเป็นตัวตนทรงอำนาจเหนืออริยะนับตั้งแต่นั้นมา
แต่การเชื่อมโยงของเขากลับแตกต่างไปจากของบรรพชนเต๋าและมรรคาสวรรค์ หานเจวี๋ยเป็นผู้สรรค์สร้างมหามรรคต้นกำเนิดขึ้น มันจึงศิโรราบต่อเขาโดยสมบูรณ์ ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกผลสะท้อนกลับเลย
หานเจวี๋ยจะพยายามพิสูจน์มรรคสำเร็จเป็นอริยะเสรีให้ได้ในเร็ววัน เช่นนั้นถึงจะเผชิญหน้ากับการโจมตีจากจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการและหลัวโหวได้
….
วันเดือนเคลื่อนคล้อย
ผ่านไปกว่าสองพันปีแล้ว
โดยไม่ทันรู้ตัว หานเจวี๋ยก็อายุครบหนึ่งแสนปีแล้ว
[ตรวจสอบพบว่าท่านอายุครบหนึ่งแสนปีบริบูรณ์ ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]
[หนึ่ง ออกจากการปิดด่านทันที บุกเบิกมหามรรคของตน จะได้รับสืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง ชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น หินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน ยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]
[สอง เก็บตัวบำเพ็ญ หลีกเลี่ยงข้อพิพาทขัดแย้ง จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น เปิดใช้งานอาณาเขตเต๋าแห่งที่สอง]
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น อาณาเขตเต๋าแห่งที่สองหรือ
เขาเกิดความสนใจขึ้นมาทันที
อาณาเขตเต๋าแห่งสองคือสิ่งใด
บุกเบิกอาณาเต๋าแห่งใหม่ขึ้นมาอย่างนั้นหรือ
เขาเลือกตัวเลือกที่สองทันที
[ท่านเลือกเก็บตัวบำเพ็ญ จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น เปิดใช้งานอาณาเขตเต๋าแห่งที่สอง]
[อาณาเต๋าแห่งที่สอง: หลังจากเลือกสถานที่ติดตั้งอาณาเขตเต๋าแห่งที่สองแล้ว ระดับพลังวิญญาณและค่ายกลของอาณาเขตเต๋าแห่งที่สองจะถูกยกระดับเทียบเท่าอาณาเขตเต๋าหลักในทันที สามารถเคลื่อนย้ายส่งตัวข้ามไปมาระหว่างอาณาเขตเต๋าหลักและอาณาเขตเต๋าแห่งที่สองได้ทุกเมื่อ ตามความประสงค์ของเจ้าของอาณาเขตเต๋า]
หานเจวี๋ยเบิกตากว้าง
ไม่จำเป็นต้องยกระดับอาณาเขตเต๋าแห่งที่สอง ความแข็งแกร่งก็เทียบเท่าอาณาเขตเต๋าหลักตั้งแต่แรก!
เคลื่อนย้ายส่งตัวได้อีกอย่างนั้นหรือ
ใช้เป็นทางหนีทีไล่ได้!
หานเจวี๋ยตื่นเต้นอย่างยิ่ง ความสามารถนี้ไม่เลวเลย หากว่าวันใดวันหนึ่งเขตเซียนร้อยคีรีเผชิญกับการโจมตีจากบรรพชนเต๋า เขาก็หนีได้ตลอดเวลา
ควรสร้างอาณาเขตเต๋าแห่งที่สองไว้ที่ไหนดีล่ะ
แดนต้องห้ามอันธการ
หรือว่าแดนเทพหวนปัจฉิม
หานเจวี๋ยตัดแดนเทพหวนปัจฉิมทิ้งเป็นอันดับแรก ใกล้เกินไป บรรพชนเต๋าต้องตามตัวเจอแน่
จะต้องเป็นสถานที่ที่อยู่ห่างไกลจากแดนเซียนอย่างยิ่ง
หานเจวี๋ยพลันนึกถึงแดนเซียนพิภพขึ้นมา
เจิ้นหยวนจือแห่งแดนเซียนพิภพพลังด้อยกว่าบรรพชนเต๋า เพียงแต่เขาไม่ทราบเลยว่าแดนเซียนพิภพอยู่ห่างจากแดนเซียนมากแค่ไหน
‘ข้าอยากรู้ว่าสถานที่ที่ห่างไกลจากแดนเซียนที่สุดคือที่ใด’
[ไม่สามารถวิวัฒนาการได้ เนื่องจากแดนเซียนคือศูนย์กลางของเขตฟ้าบุพกาล]
หานเจวี๋ยยิ้มเยาะตัวเอง
ต่อให้รู้ว่าที่ไหนไกลที่สุด เขาก็ไปไม่ได้อยู่ดี
เช่นนั้นก็มีแค่แดนเซียนพิภพแล้ว
หานเจวี๋ยเข้าฝันจักรพรรดิเซียนวัฏจักรทันที เขาถ่ายทอดวิชาอัญเชิญเทพให้จักรพรรดิเซียนวัฏจักร
หลายวันต่อมา
จักรพรรดิเซียนวัฏจักรเริ่มเรียกหาหานเจวี๋ย
หานเจวี๋ยระแวดระวังยิ่ง สอบถามในใจว่า ‘แดนเซียนพิภพมีตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าข้าหรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยสามพันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[ขณะนี้ไม่มี]
หานเจวี๋ยโล่งอก จากนั้นจึงกระโดดเข้าไปในคลื่นวนสีดำของวิชาอัญเชิญเทพ ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าจักรพรรดิเซียนวัฏจักร
ที่นี่คือตำหนักใหญ่มืดสลัวแห่งหนึ่ง มืดมนดั่งถ้ำของมารร้าย
จักรพรรดิเซียนวัฏจักรคุกเข่าข้างหนึ่งลง คารวะหานเจวี๋ย
หานเจวี๋ยเอ่ยถาม “ระยะนี้มิติวัฏจักรเป็นอย่างไรบ้าง”
เขากระตุ้นยอดสมบัติทั่วร่าง พร้อมป้องกันการโจมตีจากศัตรูตลอดเวลา ถึงแม้แดนเซียนพิภพจะไม่มีตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าเขา แต่หากจู่ๆ ก็มีผู้แข็งแกร่งที่น่าหวาดหวั่นจากนอกแดนเซียนพิภพบุกเข้ามาโจมตีเล่า
ระวังเอาไว้หน่อยย่อมไม่เสียหายอะไร
จักรพรรดิเซียนวัฏจักรเริ่มบอกเล่าความก้าวหน้าของมิติวัฏจักร หานเจวี๋ยเองก็แผ่จิตศักดิ์สิทธิ์ของตนออกไป สอดส่องแดนเซียนพิภพ
แดนเซียนพิภพกลายเป็นจักรวาลไปแล้ว กว้างใหญ่ไพศาลยิ่ง มีดาวเคราะห์นับไม่ถ้วน ส่วนมิติวัฏจักรตั้งอยู่ในเขตฟ้าบุพกาลเหนือแดนเซียนพิภพ
เขาเริ่มค้นหาสถานที่ติดตั้งอาณาเขตเต๋าที่เหมาะสม
ดาวโลกอย่างนั้นหรือ
ไม่ได้!
ดาวโลกอ่อนแอเกินไป
ถ้าหากถูกผู้บำเพ็ญทำลายล้าง อาณาเขตเต๋ามิเผยออกมาหรอกหรือ
สายตาของหานเจวี๋ยเหลือบไปเห็นพระอาทิตย์เข้า
น่าจะติดตั้งอาณาเขตเต๋าไว้บนดวงอาทิตย์ได้
หลังจากตัดสินใจได้แล้ว หานเจวี๋ยเอ่ยขัดจักรพรรดิเซียนวัฏจักร กล่าวว่า “ข้าจะออกไปเดินดูรอบๆ เจ้าทำงานต่อเถอะ”
พอพูดจบ เขาก็เลือนหายไปจากจุดเดิมทันที
จักรพรรดิเซียนวัฏจักรขมวดคิ้ว นึกหวาดระแวงอยู่ในใจ
หรือว่าจะมีอริยะปรากฏตัวขึ้นในแดนเซียนพิภพ
เจิ้นหยวนจือผู้นั้นกลับมาแล้วหรือ
ยิ่งคิดจักรพรรดิเซียนวัฏจักรก็ยิ่งไม่สบายใจ ได้แต่ภาวนาขอให้หานเจวี๋ยสามารถกำจัดศัตรูผู้แข็งแกร่งได้
เขายังคงเชื่อมั่นในตัวหานเจวี๋ยยิ่งนัก
คนผู้นี้หากไม่มีความมั่นใจเต็มที่ ไม่มีทางลงมือแน่
อีกด้านหนึ่ง
หานเจวี๋ยมาถึงใจกลางดวงอาทิตย์แล้ว
อุณหภูมิอันร้อนแรงไม่มีผลกระทบต่อเขาเลย เขามุดลงไปใต้พื้นผิวดวงอาทิตย์ บุกเบิกมิติแห่งหนึ่งขึ้นภายในดวงอาทิตย์ จากนั้นก็สั่งให้ระบบติดตั้งอาณาเขตเต๋าแห่งที่สอง
[เริ่มติดตั้งอาณาเขตเต๋าแห่งที่สอง ท่านสามารถจากไปได้เลย ไม่จำเป็นต้องเฝ้ารอ]
สะดวกต่อการใช้งานจริงๆ
หานเจวี๋ยยิ้มอย่างพอใจแวบหนึ่ง กลับไปปรากฏตัวตรงหน้าจักรพรรดิเซียนวัฏจักรทันที
………………………………………………………………