ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ - บทที่ 605 คุกนรกอันธการ อริยะร่วมมือกัน
บทที่ 605 คุกนรกอันธการ อริยะร่วมมือกัน
เมื่อหานเจวี๋ยเห็นคุกแห่งนี้ เขาอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ นี่มันที่ไหนกัน
ข้อความแถวหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
[คุกนรกอันธการ: คุกที่ตั้งอยู่ในแดนต้องห้ามอันธการ สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ ต่อให้ขึ้นชื่อว่าเป็นอริยะ ทว่าเมื่อเข้าสู่คุกก็ยากจะรอดพ้นจากความตายได้]
เจ้าเล่ห์ดีนี่!
หานเจวี๋ยลอบดูแคลน
ในเวลานี้เอง มีเสียงกึกก้องเสียงหนึ่งแว่วขึ้น
“เตรียมตัวให้ดี จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์กำลังจะเทศนาธรรมแล้ว เจ้าพวกเดรัจฉานอย่าได้ชักช้า!”
บนพื้นคุกนรกอันธการพลันปรากฏหนวดสีดำมากมาย เข้ารัดพันสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในคุก
แผ่นหลังของหานทั่วถูกหนวดสีดำเจาะทะลุเข้าไป เผยสีหน้าเจ็บปวดทรมานออกมา
อี๋เทียนผรุสวาทดังลั่น “เทศนาธรรมอันใดกัน! แค่อยากจะสยบพวกข้าให้เป็นทาสมิใช่หรือ คิดจะควบคุมผู้เฒ่าเช่นนั้นหรือ! อย่าให้ข้ามีโอกาสนะ ถ้าวันไหนข้ารอดออกไปได้ จะกำจัดพวกเจ้าให้สิ้นซากทั้งหมดแน่!”
ตูม!
สายฟ้าสีดำเส้นหนึ่งผ่าลงมา ผ่าร่างอี๋เทียนจนแหลกละเอียด โลหิตสาดกระจายเต็มพื้น
จากนั้น ลำแสงสายหนึ่งสาดส่องลงมาอีกครั้ง ฟื้นฟูกายเนื้อของอี๋เทียนขึ้นมาใหม่
สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ไม่ได้ตื่นตระหนกเลย แววตาเฉยชา
พวกเขาล้วนได้ลิ้มรสความทรมานเช่นนี้มาหมดแล้ว สิ้นชีพอย่างต่อเนื่อง ฟื้นคืนชีพอย่างต่อเนื่อง ไม่จบไม่สิ้น
ภาพลวงตาวิวัฒนาการพังทลายลงตรงนี้
หานเจวี๋ยถามต่อ ‘หากข้าทุ่มพลังทั้งหมดลงมืออย่างรวดเร็วที่สุด จะสามารถสังหารจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการในเสี้ยววินาทีได้หรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งหมื่นล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[มีความหวัง]
ไม่ได้บอกว่าตาย อย่างน้อยก็แปลว่าหากปะทะกันในสถานการณ์ปกติ หานเจวี๋ยสามารถสังหารจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการในเสี้ยววินาทีได้
‘เบื้องหลังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการมีผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่งกว่าข้าหรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งหมื่นล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[มี]
หานเจวี๋ยเงียบไป
เขาไม่รู้สึกประหลาดใจเลย ต้องเข้าใจด้วยว่าเหล่าอริยะมรรคาสวรรค์ล้วนแต่มีผู้หนุนหลัง ภายใต้เงื่อนไขที่เอ่ยไปนี้ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการยังกล้ามารุกรานมรรคาสวรรค์ ต้องเป็นเพราะมั่นใจไร้ความเกรงกลัวเป็นแน่
ขณะที่เหล่าอริยะกำลังต่อสู้กัน ตัวตนในระดับเหนือกว่าที่อยู่เบื้องหลังก็กำลังงัดข้อกันอยู่เช่นกัน
หานเจวี๋ยใคร่ครวญดู ถามอีกครั้ง ‘เหตุใดจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการถึงจับตัวสิ่งมีชีวิตมรรคาสวรรค์เหล่านี้ไป’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งหมื่นล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
หานเจวี๋ยเข้าสู่ภาพลวงตาวิวัฒนาการอีกครั้ง
เขาลืมตาขึ้น มาโผล่ในตำหนักใหญ่อันลึกลับแห่งหนึ่ง
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการยืนอยู่เบื้องหน้าปะติมากรรมศิลาสูงใหญ่มโหฬารสามตน เขาไม่ได้ค้อมกายให้ แผ่นหลังยังคงเหยียดตรง
“แดนเทพหวนปัจฉิมเกิดความวุ่นวายแล้ว จากนี้เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป”
เสียงลึกลับเสียงหนึ่งแว่วดังขึ้น น้ำเสียงเฉยเมย
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการตอบ “จับตัวผู้มีดวงชะตายิ่งใหญ่ของมรรคาสวรรค์มา ใช้ความมืดมิดหล่อหลอม ทำให้กลายเป็นทาสของข้า ในอนาคตยามที่เข้าโจมตีมรรคาสวรรค์ จะให้ทาสเหล่านี้เป็นด่านหน้าโจมตี ฉีกทึ้งกฎเกณฑ์มรรคาสวรรค์”
“มีความมั่นใจกี่ส่วน”
“เต็มที่!”
“ดี ความวุ่นวายในแดนเทพหวนปัจฉิมครานี้จำเป็นต้องใช้พลังเวทมหาศาลของตัวตนยุคบรรพกาลบางท่าน อย่าได้ทำพลาด”
“ทราบแล้ว”
ภาพลวงตาวิวัฒนาการสิ้นสุดลงตรงนี้ สั้นยิ่งนัก แต่ข้อมูลที่ได้รับกลับสำคัญยิ่ง
ตัวตนที่อยู่เบื้องหลังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการคิดร้ายต่อแดนเทพหวนปัจฉิมด้วย
‘ข้าอยากรู้ว่ากลุ่มอิทธิพลใดอยู่เบื้องหลังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ ผู้นำเป็นใคร’ หานเจวี๋ยนึกเงียบๆ
[เนื่องจากบ่วงกรรมนี้เกี่ยวข้องกับตัวตนที่อยู่เหนือขีดจำกัดของระบบ ไม่สามารถวิวัฒนาการได้]
แข็งแกร่งขนาดนี้เชียวหรือ?
หานเจวี๋ยเริ่มไตร่ตรองดูว่าควรจะช่วยเหลือหานทั่วอย่างไรดี
หากอยู่ในแดนเซียน เขาสามารถปล่อยให้หานทั่วใช้ชีวิตเองได้ แต่ตอนนี้หานทั่วถูกจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการจับตัวไป หากเขาไม่ลงมือช่วย มีความเป็นไปได้สูงว่าหานทั่วคงไม่รอดแน่
คงทำได้เพียงถ่ายทอดวิชาอัญเชิญเทพให้หานทั่ว จากนั้นหานเจวี๋ยค่อยใช้วิถีอัญเชิญเทพเรียกตัวหานทั่วมาหา
ถึงแม้จะเป็นการเปิดเผยฐานะ แต่หานเจวี๋ยไม่ได้สนใจอะไรมากขนาดนั้นแล้ว
พอคิดได้ดังนั้น เขาก็เข้าฝันหานทั่วทันที
ทันใดนั้น หานเจวี๋ยพลันขมวดคิ้ว
หืม?
เข้าฝันไม่ได้!
หานเจวี๋ยสำแดงความฝันอันธการ ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ
ดูเหมือนคุกนรกอันธการแห่งนี้จะไม่ธรรมดาเลย
ช้าก่อน
จู่ๆ หานเจวี๋ยก็นึกถึงแดนลับหวนกำเนิดขึ้นมา
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการจับตัวคนผ่านช่องทางแดนลับหวนกำเนิด
หานเจวี๋ยสามารถส่งคนแทรกซึมเข้าไปในแดนลับหวนกำเนิด ปล่อยให้ถูกจับตัวไปแบบหานทั่วได้
เขาคิดไปคิดมา ก็เรียกหลิวเป้ยมาหา
หลิวเป้ยคือร่างแยกวัฏจักรของเขา ภายหลังได้ยึดครองกายเนื้อของพุทธะพิชิตชัย เวลาผ่านมานานถึงเพียงนี้ ตบะเขาบรรลุถึงระดับปฐมเทพขั้นห้าแล้ว
คุณสมบัติของพุทธะพิชิตชัยด้อยอยู่บ้าง ตอนที่หานเจวี๋ยสร้างร่างแยกวัฏจักรขึ้น ตอนนั้นคุณสมบัติก็ยังไม่ได้เรื่องเช่นกันดังนั้นจึงทำให้หลิวเป้ยมีพัฒนาการเชื่องช้ายิ่ง
แต่ในฐานะตัวหมาก นับว่าเพียงพอแล้ว
หลิวเป้ยเข้ามาในอารามเต๋า คุกเข่าคารวะหานเจวี๋ย
“ข้าจะส่งเจ้าไปที่แดนลับหวนกำเนิด”
หานเจวี๋ยบอกเล่าเรื่องราวออกมารอบหนึ่ง ถึงแม้หลิวเป้ยจะกังวล แต่ก็ยังทำใจกล้าตอบรับ
“เจ้าชำนาญวิชาอัญเชิญเทพ หากตกอยู่ในอันตราย จงเรียกหาข้า ในเมื่อเจ้าเข้าใจภารกิจแล้ว ข้าจะผนึกความทรงจำส่วนนี้ไว้ก่อน เจ้าจงจดจำเอาไว้เพียงว่าต้องมุ่งหน้าไปที่แดนลับหวนกำเนิด เมื่อพบจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการให้เรียกตัวข้าทันที”
“ข้าน้อยทราบแล้ว”
“ไปเถอะ”
หานเจวี๋ยโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง ส่งหลิวเป้ยออกไป
ถึงแม้หลิวเป้ยจะขี้ขลาดเหมือนหนู แต่มีความสามารถในการจัดการเรื่องราวยิ่งนัก ในอดีตครั้งอยู่ในยมโลก ก็เป็นเขาที่ค้นพบเกาะสำนักซ่อนเร้น
ทว่าหานเจวี๋ยยังไม่วางใจ
เขาเข้าฝันจอมอริยะเสวียนตู
แดนความฝันคือมหาสมุทรคลื่นเมฆา นภาแผ่ไพศาลงดงาม
จอมอริยะเสวียนตูลืมตาขึ้น เมื่อเห็นหานเจวี๋ย สองเนตรพลันฉายแววตื่นเต้น
หานเจวี๋ยไม่ได้รีบเอ่ยปากในทันที
เขาพนันได้เลยว่าผู้ทรงพลังที่โจมตีเหล่าอริยะก่อนหน้านี้ก็คือจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ ตอนนี้เหล่าอริยะน่าจะกำลังตั้งตารอคอยให้เขาลงมือจัดการจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ
การปรากฏตัวของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ นับว่าทำให้เหล่าอริยะมรรคาสวรรค์แขวนอยู่บนเชือกเส้นเดียวกัน
จอมอริยะเสวียนตูเปิดปากถาม “เจ้ามาเข้าฝันข้า คาดว่าคงเป็นเพราะเรื่องของบุตรชายเจ้า”
อันที่จริงเหล่าอริยะต่างทราบฐานะของหานทั่วหมดแล้ว เพียงแต่ไม่เคยเอ่ยถึงมาก่อน
อริยะมิได้โง่เขลา ไม่มีทางจับตัวหานทั่วไปเพื่อใช้ข่มขู่หานเจวี๋ย แผนใช้การไม่ได้จริง ซ้ำยังจะถูกถลกหนังเอาอีกด้วย
สามารถสำเร็จเป็นอริยะได้ ตัดขาดบ่วงกรรมเจ็ดอารมณ์หกปรารถนาได้ เป็นเรื่องปกติยิ่ง
หานเจวี๋ยถามขึ้น “พวกเจ้าอยากจัดการจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการหรือไม่”
“อยาก!”
จอมอริยะเสวียนตูเอ่ยไปตรงๆ “พวกเราร่วมมือกันเถอะ เป้าหมายของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการคือมรรคาสวรรค์ ภายในระยะเวลาอันสั้นนี้เขายังบุกเข้ามาไม่ได้ แต่หากเขากลืนกินมรรคาสวรรค์เล็กในเขตฟ้าบุพกาลไปเรื่อยๆ รอจนถึงยามที่เขามีพลังพอจะบุกเข้ามาในมรรคาสวรรค์อย่างแท้จริงได้ พวกเราเหล่าอริยะสู้เขาไม่ได้อย่างแน่นอน”
“หากพวกเราร่วมมือกันจัดการจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ จะถูกตัวตนที่อยู่เบื้องหลังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการเล่นงานหรือไม่”
“เขามีที่พึ่ง พวกเราก็มีที่พึ่งเช่นกัน!”
หานเจวี๋ยเงียบไป
จอมอริยะเสวียนตูใคร่ครวญดู จากนั้นจึงกล่าวว่า “พวกเราเหล่าอริยะสามารถติดต่อไปหาปรมาจารย์ที่อยู่ในแดนเทพหวนปัจฉิมพร้อมกันได้ ให้พวกเขาตรึงกำลังของตัวตนที่อยู่เบื้องหลังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการไว้ แต่ก่อนพวกเขาอาจจะรู้สึกพะวงอยู่บ้าง แต่ระยะนี้ตัวตนที่อยู่เบื้องหลังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการทำเกินไป ยั่วยุโทสะบรรดาผู้ทรงพลังในแดนเทพหวนปัจฉิมเข้าแล้ว เรื่องนี้สมควรมีการหารือกันสักที”
เขาจ้องมองหานเจวี๋ย ถามต่อว่า “หากว่าไม่มีผู้ทรงพลังรายอื่นสอดมือเข้ามายุ่ง พวกเราร่วมมือกัน คงสามารถสังหารจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการได้!”
เขารู้สึกหดหู่ใจยิ่งนัก เดิมทีเขาเป็นถึงอริยะเสรี รับมือกับจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการได้ไม่เหนือบ่ากว่าแรงเลย จนปัญญาที่ยามนี้ถูกตำแหน่งอริยะมรรคาสวรรค์ผูกมัดเอาไว้ จึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ
ตอนนี้เขาได้แต่ฝากความหวังเอาไว้กับหานเจวี๋ย
หานเจวี๋ยแข็งแกร่งยิ่ง ซ้ำยังเลือกเดินบนเส้นทางพิสูจน์มรรคด้วยพลัง อริยะมรรคาสวรรค์ต่างสู้เขาไม่ได้ เมื่อผนวกร่วมกับพวกเขา อาจจะสามารถสังหารจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการได้
หานเจวี๋ยจ้องจอมอริยะเสวียนตูตาเขม็ง ถามว่า “ข้าจะไว้ใจเจ้าได้หรือ”
จอมอริยะเสวียนตูตอบอย่างสงบว่า “ตอนนี้เจ้ายังไม่ไว้ใจ แต่ไม่ช้าก็เร็วจะไว้ใจแน่ รากเหง้าดั้งเดิมของเจ้าน่าจะเป็นเทพมารฟ้าบุพกาลกลับชาติมาเกิด จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการก็เป็นเช่นนี้ เขายังคงกลืนกินมรรคาสวรรค์เล็กอยู่ตลอด เจ้ากำลังแข็งแกร่งขึ้น เขาก็กำลังแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน เพียงแต่รวดเร็วกว่าเจ้า อีกทั้งตอนนี้เขายังแข็งแกร่งกว่าเจ้าด้วย”
………………………………………………………………