ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ - บทที่ 82 อายุขัยก้าวกระโดด คำคุยโวโอ้อวดของโจวฟาน
บทที่ 82 อายุขัยก้าวกระโดด คำคุยโวโอ้อวดของโจวฟาน
เมื่อเผชิญกับตัวเลือกที่ปรากฏ หานเจวี๋ยจึงเลือกตัวเลือกที่สองอย่างไม่ลังเล
แสดงตัวตอนนี้?
ไม่มีทาง!
หานเจวี๋ยเคยสัมผัสกับผู้บำเพ็ญระดับมหายานมาก่อน ในความเห็นของเขาหากยังไม่ทะลวงถึงระดับมหายาน ออกไปตอนนี้แน่นอนย่อมเจอกับอันตราย
ไม่อย่างนั้นชาติภพก่อนโจวฝานจะตายได้อย่างไร?
แม้จะเป็นผู้บำเพ็ญระดับมหายาน ในโลกมนุษย์นี้ก็ไม่แน่นอนว่าจะปลอดภัยเสมอไป!
[ท่านเลือกที่จะกักตนต่อไป ถ่อมตนฝึกฝน อยู่ห่างจากโลกิยะ ได้รับของล้ำค่าฟ้าดิน]
[ยินดีด้วย ท่านได้รับเมล็ดน้ำเต้าพิภพเซียน]
[เมล็ดน้ำเต้าพิภพเซียน: พันปีผลิดอก หมื่นปีออกผล สามารถรับประทานได้ สามารถหลอมของวิเศษได้ หากผลไหนใช้เวลาออกผลยาวนาน จะสามารถสร้างอาวุธวิเศษได้ด้วยตัวเอง ทั้งยังสามารถให้กำเนิดสรรพสิ่ง]
หานเจวี๋ยกะพริบตาเล็กน้อย
ได้อ่านข้อมูลของเมล็ดน้ำเต้าพิภพเซียน สิ่งแรกที่เขานึกถึงคือเจ้าหนูน้ำเต้า[1]
อย่างต่อมาคือตำนานน้ำเต้าฟ้าประทานที่ถูกกล่าวขานในยุคดึกดำบรรพ์
หานเจวี๋ยทำตบะให้แข็งแรงต่อ ขณะเดียวกันก็เรียกดูหน้าจอแสดงคุณสมบัติ
[ชื่อ: หานเจวี๋ย]
[อายุขัย: 356/27900]
[เผ่าพันธุ์: มนุษย์ (ช่วงหลุดพ้นโลกีย์)]
[ตบะ: ระดับรวมกายาขั้นหนึ่ง]
[วิชายุทธ์: วิชาวัฏจักรหกวิถี (สามารถสืบทอดได้)]
[วิชาเวท: ดรรชนีกระบี่เทพ ย่างก้าวลวงตาเจ็ดชั้น สามกระบี่แยกเงา (ไร้เทียมทาน) ตราประทับเก้ามังกรขจัดมาร มหาวายุอัสนี วิชาเทพวายุ วิชาเผยโฉม]
[พลังวิเศษ: พลังดูดวิญญาณหกสาย กระบี่ฟ้าสังหารเทพปีศาจ ค้ำฟ้าเสมือนพสุธา เมฆตีลังกา พลังเทพหมื่นกระบี่ คำสาปตถาคต ตราประทับหกวิถี ปราณกระบี่ฟ้าดิน]
[อาวุธเวท: อาภรณ์เทพทมิฬจักจั่นทอง (สมบัติวิญญาณระดับเจ็ด) เข็มขัดเก็บสมบัติ กระบี่กิเลน เชือกพันธนาการปีศาจ ระฆังเพลิงอัคคี (สมบัติวิญญาณระดับหก) รองเท้าวิญญาณเก้าดารา (สมบัติวิญญาณระดับห้า) มงกุฎแก้วเจ้าเหมันต์ (สมบัติวิญญาณระดับสี่) หนังสือแห่งความโชคร้าย (สมบัติวิญญาณชั้นเลิศ) ภูษาเทพพสุธาต้านวิญญาณ (สมบัติวิญญาณระดับสาม) สร้อยเซียนคุ้มจิต (สมบัติวิญญาณระดับสาม) เบาะสงบจิตใจ (สมบัติวิญญาณระดับหกขั้นไท่อี่)]
[จิตกระบี่: จิตกระบี่หวนคืน (ขั้นไท่อี่)]
[พลังวิเศษที่สร้างเอง: ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ (ระดับหมื่นบรรพกาล)]
[ของวิเศษคู่ชีวิต: กระบี่พิพากษาอนธการ]
[คุณสมบัติรากวิญญาณ: ร่างวิญญาณหกสาย ประกอบไปด้วยรากวิญญาณขั้นสูงสุดวายุ อัคคี วารี พสุธา พฤกษา อัสนี เสริมดวงชะตาอีกหนึ่งขั้น]
[ดวงชะตาแต่กำเนิดมีดังนี้]
[ไม่เป็นสองรองใคร: คุณสมบัติเซียน มหาเสน่ห์ขั้นสูงสุด]
[ชะตาเซียนกระบี่: คุณสมบัติมรรคกระบี่ขั้นสูงสุด เจตจำนงมรรคกระบี่ขั้นสูงสุด]
[ความไวของท่าร่าง: คุณสมบัติท่าร่างขั้นสูงสุด]
[ทายาทจักรพรรดิเซียน: ได้รับวิชายุทธ์บำเพ็ญเซียนชั้นเลิศหนึ่งชุด…]
[ตรวจสอบค่าความสัมพันธ์]
……
27,900 ปี!
เจ๋งนี่!
สมกับที่เป็นวิชาวัฏจักรหกวิถี ระดับยิ่งสูง อายุขัยยิ่งพุ่งเร็ว!
หานเจวี๋ยดีใจยิ่งนัก
อายุขัยที่เพิ่มขึ้นทำให้เขารู้สึกยินดีกว่ามีตบะที่เพิ่มขึ้น
ความรู้สึกปลอดภัยของหานเจวี๋ยเพิ่มขึ้นอย่างมาก ตบะระดับรวมกายา ไม่ว่าจะกวาดตาไปที่ใดในแดนบำเพ็ญพรตนี้ ก็ยังเป็นผู้แข็งแกร่งที่หนึ่ง!
แต่ยังไม่พอ!
ต้องหมั่นบำเพ็ญเพียรต่อไป!
ส่วนเรื่องออกไปเที่ยวเล่น ต้องรีบอะไรกัน!
รอให้หานเจวี๋ยฝึกบำเพ็ญถึงระดับมหายานแล้ว อายุขัยจะยาวนานเพียงใดกัน
เมื่อถึงเวลานั้นย่อมมีเวลาเที่ยวเล่นอย่างอิสระ วันนี้มุ่งมั่นเพียรบำเพ็ญ เป็นพื้นฐานของการเที่ยวเล่นในวันหน้า
หลายวันต่อมา
ตบะของหานเจวี๋ยแข็งแกร่งอย่างสมบูรณ์ เขาลุกขึ้นจากไปอย่างรวดเร็ว
เขาไม่ได้ทักทายผู้อาวุโสที่อยู่ไกลๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายที่ไม่จำเป็น
เหล่าผู้อาวุโสเองก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อย กลับเลื่อมใสศรัทธาในตัวเขามากยิ่งขึ้น
สมกับเป็นผู้อาวุโสสังหารเทพ มรรคจิตแข็งแกร่งมั่นคงจริงๆ หากคนระดับนี้ไม่ขึ้นเป็นเซียน แล้วผู้ใดจะคู่ควรเล่า
เมื่อกลับมาถึงทางเข้าถ้ำเทวาฟ้าประทาน หานเจวี๋ยก็พบเข้ากับสิงหงเสวียน
ไก่คุกรัตติกาลอยู่ข้างกาย กำลังพูดคุยสนทนากับนาง
ยามนี้ไก่คุกรัตติกาลสามารถยืดหดลำตัวได้อย่างคล่องแคล่ว ตอนนี้มีขนาดไม่ต่างจากไก่ตัวผู้ทั่วไป
สวินฉางอันยังคงนั่งเข้าฌานอยู่ใต้ต้นฝูซัง ไม่กล้าเข้าใกล้สิงหงเสวียน
ทันทีที่เห็นหานเจวี๋ย สิงหงเสวียนก็รีบกระโจนเข้ามา
“สามี เจ้าทะลวงระดับแล้วหรือ” สิงหงเสวียนเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น
น้อยครั้งที่หานเจวี๋ยจะออกจากถ้ำเทวา หากจะออกไป แน่นอนว่าเพื่อทะลวงระดับ
หานเจวี๋ยพยักหน้า เอ่ยว่า “เข้าไปคุยข้างในเถอะ”
ทั้งสองเดินเข้าไปในถ้ำเทวาฟ้าประทาน ไก่คุกรัตติกาลเองก็อยากจะตามเข้าไปเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ถูกค่ายกลขวางกั้นไว้
มันที่หน้าม่อยคอตกเดินเข้ามาหาสวินฉางอัน เอ่ยด้วรอยยิ้ม “เจ้าว่า สิงหงเสวียนจะกินนายท่านหรือไม่”
สวินฉางอันหน้ากระตุกเล็กน้อย เอ่ยขึ้น “อาจจะกระมัง”
เมื่อไก่คุกรัตติกาลพูดขึ้นมาเช่นนี้ สวินฉางอันก็พลันนึกถึงคนในดวงใจของตนขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ภายในใจมีเปลวไฟลุกโชนขึ้นลูกเล็กๆ
มารดาเถอะ!
เจ้าไก่เหม็นตัวนี้จงใจหรือไม่
พลังสังหารของประโยคนี้รุนแรงเกินไปแล้ว!
หัวใจที่เปรียบเสมือนบ่อน้ำแห้งผากของสวินฉางอันถูกคลื่นลูกใหญ่โหมซัดอีกครั้ง
ผนึกรักเริ่มที่จะคลายออก
ไก่คุกรัตติกาลยังคงถามต่อไปว่า “ถึงแม้นายท่านของข้าจะไม่ชอบออกไป แต่ก็มักจะมีสตรีมาหานายท่านถึงที่ ต้องการจะกินนายท่าน เจ้าว่าบุรุษสตรีอยู่ในห้องด้วยกันพตามลำพัง จะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ นายท่านของพวกเราจะตกอยู่ในอันตรายหรือเปล่า”
สวินฉางอันจ้องมันเขม็ง เอ่ยด่าออกไป “ไสหัวไป! ไปตั้งใจฝึกฝนไป!”
ไก่คุกรัตติกาลหน้าม่อยทันที
เจ้าหนูนี่เป็นอะไรไป
อารมณ์ฉุนเฉียวยิ่งนัก!
……
ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน
สิงหงเสวียนยืนอยู่ต่อหน้าหานเจวี๋ย กำลังพูดถึงเฒ่าประหลาดอู้เต้า ยิ่งพูดนางยิ่งรู้สึกเดือดดาล
นางก็ไม่พอใจท่าทีสูงส่งของเฒ่าประหลาดอู้เต้า ทำราวกับว่าสำนักหยกพิสุทธิ์เป็นสถานที่ทุรกันดาร และหานเจวี๋ยเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาตัวจ้อยเท่านั้น
หานเจวี๋ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สิ่งที่เขาพูดก็ล้วนเป็นความจริง เจ้าก็ไม่หวั่นไหวหรือ?”
สิงหงเสวียนนั่งลง เอ่ยขึ้นพลางยิ้ม “จะเป็นไปได้อย่างไร ถึงตายข้าก็ยังตามติดเจ้า สามีข้าจะต้องบรรลุเป็นเซียน ข้าก็พลอยมีวาสนาไปด้วย”
ขณะที่พูดนั้น นางหยิบโอสถขวดหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ เอ่ยว่า “นี่เป็นโอสถที่ข้าพบในดินแดนลึกลับ พลังวิญญาณเข้มข้น ข้าสูดดมไปเพียงเล็กน้อย แก่นปราณทองก็สูญเสียความมั่นคง เพราะอย่างนั้นจึงไม่เหมาะกับข้า น่าจะกับเจ้ามากกว่า”
หานเจวี๋ยรับขวดโอสถมา เปิดออกดมไปเล็กน้อย
หืม?
พลังวิญญาณเข้มข้นจริงๆ!
เขานำพลังวิญญาณหกสายเทเข้าไปในนั้น กลับไม่มีอันตรายใดเกิดขึ้น
“อือ ขอบใจเจ้ามาก” หานเจวี๋ยยิ้มเอ่ย
สิงหงเสวียนเผยใบหน้ายิ้มแย้มออกมาในทันใด
หลายวันหลังจากนั้น
สิงหงเสวียนออกจากถ้ำเทวาฟ้าประทานด้วยความพออกพอใจเป็นอย่างยิ่ง
……
เหนือดินแดนรกร้าง พระอาทิตย์อัสดงราวสีเลือด สาดย้อมท้องนภาสีแดงฉาน
โจวฝานและโม่ฟู่โฉวนั่งอยู่บนศิลาก้อนใหญ่
จิตใจของโจวฝานหลังจากทะลวงขั้นสำเร็จพลันเร่าร้อนฮึกเหิม เขาขยับคอเป็นบางครั้งบางคราว ชื่นชมกายเนื้อที่สมบูรณ์แบบของตนเอง
“ศิษย์พี่ ต่อไปก็ให้ข้าช่วยท่านแก้แค้นก่อนเถอะ หลังจากนั้นข้าจะเตรียมทำสงครามกับใต้หล้า ฆ่าสังหารจนเลื่องชื่อ ข้าก็อยากจะเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้า!”
โจวฝานกล่าวอย่างลำพอง น้ำเสียงของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
โม่ฟู่โฉวเอ่ยอย่างจนใจว่า “ตบะเจ้าแค่ระดับปราณก่อกำเนิด กล้าทระนงตนเช่นนี้ได้อย่างไร”
โจวฟานหัวเราะเอ่ย “ข้าก็ไม่ได้เขลา แน่นอนว่าย่อมเริ่มท้าประลองจากผู้บำเพ็ญที่มีตบะเทียบเคียงกันอยู่แล้ว ข้าจะพิสูจน์ให้นางเห็นว่าข้านั้นคู่ควรกับนาง!”
หลายสิบปีก่อน โม่ฟู่โฉวและโจวฝานได้บังเอิญพบสตรีนางหนึ่ง โจวฝานตกหลุมรักนางตั้งแต่แรกเห็น คิดอยากตามเกี้ยวนาง แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายกลับมีภูมิหลังที่สูงส่ง กล่าวว่าเรื่องของนางกับเขาไม่มีทางเป็นไปได้ แม้ทั้งสองจะใจตรงกัน แต่บิดาของนางคงไม่ยินยอมแน่ คนที่นางจะแต่งด้วยต้องเป็นผู้บำเพ็ญทรงพลังที่มีชื่อเสียงเกริกก้องไปทั่วหล้าเท่านั้น
คำพูดเหล่านี้ทิ่มแทงจิตใจโจวฝานอยู่ไม่น้อย สิ่งที่เขารังเกียจมากที่สุดคือการที่คนอื่นดูแคลนเขา เพราะอย่างนั้น เขาจึงเลือกเดินในเส้นทางที่ผาดโผนเช่นนี้
โม่ฟู่โฉวมักจะตักเตือนเขา แต่เดิมทีก็ไม่ได้ผล
“เริ่มจากท้าประลองลัทธิสัจจะยุทธ์แล้วกัน ได้ยินว่าในลัทธิสัจจะยุทธ์มีบุตรแห่งสวรรค์มากมาย” โจวฝานเอ่ยด้วยรอยยิ้มกระตืนรือร้นเต็มเปี่ยม
เขาพลันนึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมา ยิ้มเอ่ยว่า “ศิษย์พี่ ท่านยังจำหานเจวี๋ยจากสำนักหยกพิสุทธิ์ได้หรือไม่ ก่อนหน้านี้ท่านกล่าวว่าเขาอาจจะเป็นผู้อาวุโสสังหารเทพ เขาเคยฆ่าสังหารระดับเปลี่ยนวิญญาณ ข้ารู้สึกว่าความสามารถของข้าในตอนนี้ก็สามารถต่อกรกับระดับเปลี่ยนวิญญาณได้ นับว่าข้าไล่ตามเขาทันหรือยัง”
หานเจวี๋ย?
โม่ฟู่โฉวขมวดคิ้วเอ่ย “คุณสมบัติของศิษย์พี่หานสูงส่งยิ่งนัก อีกทั้งยังปิดด่านฝึกฝนอยู่ตลอด ตบะของเขาคงสูงมากกระมัง เกรงว่าเพียงแค่ความสามารถระดับเปลี่ยนวิญญาณยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาแพ้พ่ายได้”
จากต้าเยี่ยนมานานเพียงนี้ ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้สำนักหยกพิสุทธิ์จะเป็นเช่นไร
โจวฝานส่ายหน้ายิ้มเอ่ย “จะเป็นไปได้อย่างไร การฝึกฝนอย่างหนักตลอดเวลาไม่ใช่สิ่งที่ถูก ท่านและข้าล้วนเป็นมนุษย์ธรรมดา หากมนุษย์จะบรรลุกลายเป็นเซียน พึ่งพาแค่การฝึกฝนไหนเลยจะบรรลุได้? ต้องแสวงหาโชควาสนาฟ้าดินต่างหากเล่าถึงจะถูก ท่านดูข้าสิ ตบะก้าวหน้าพุ่งทะยานเช่นนี้ ศัตรูในวันวานยังคงฝึกฝนอย่างตรากตรำ คาดว่ายังคงติดค้างอยู่ที่ระดับเดิม”
“หากวันหน้ากลับไป ข้าจะต้องแลกเปลี่ยนกับหานเจวี๋ยสักกระบวนท่า ทำให้เขาได้เข้าใจ เมื่อถึงเวลานั้นหากพาเขามาด้วย พวกเราสามคนออกเดินทางไปทั้งใต้หล้า ชื่อเสียงโดดเด่นเลื่องลือ ชีวิตนี้คงมีความสุขไม่น้อยมิใช่หรือ”
………………………………………………………………………
[1] เป็นตัวละครหลักจากการ์ตูนเรื่อง “พี่น้องน้ำเต้า” (葫芦兄弟) ฉายในปีค.ศ. 1991
Comments for chapter "บทที่ 82 อายุขัยก้าวกระโดด คำคุยโวโอ้อวดของโจวฟาน"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
Mayjj
อย่างน้อยก็คิดว่าอาเจวี๋ยเป็นสหายล่ะนะ