ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 113 ชายผู้ที่กลืนขุมพลังสัตว์ทั้งเม็ด
ภายในลานบ้าน ดวงจันทร์ลอยเด่น เกิดริ้วคลื่นกระเพื่อมบนผิวน้ำของบ่อบัว
ในศาลาแห่งหนึ่ง อันหลินนั่งอยู่บนเก้าอี้ จดจ้องขุมพลังสัตว์บนโต๊ะอย่างเคร่งเครียด
ข้างๆ เขาคือสวีเสี่ยวหลาน เซวียนหยวนเฉิง ซูเฉี่ยนอวิ๋นและเจ้าอัปลักษณ์ ที่กำลังมองเขาด้วยสีหน้าลุ้นระทึก
เซวียนหยวนเฉิงเกลี้ยกล่อมจนปากเปียกปากแฉะ “สหายอันหลิน มีความในใจอะไรคุยกับหัวหน้าห้องได้ ไยต้องคิดสั้น ทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ด้วยเล่า”
ใบหน้างามล่มเมืองของซูเฉี่ยนอวิ๋นก็เต็มไปด้วยความตกใจ “สหายอันหลิน ใช่ว่าจะกินได้ทุกอย่าง นั่นมันขุมพลังสัตว์นะ ดีไม่ดีกินแล้วอาจจะระเบิดก็ได้!”
ราชาวานรเนตรทองก็เกาหัวเกาขนวานรบนศีรษะ และพูดเช่นเดียวกันว่า “เมื่อหกปีก่อน ราชาแรดจอมตะกละแห่งแดนสัตว์ของพวกเรา ก็เผลอกลืนขุมพลังสัตว์ลงไประหว่างที่กินจระเข้ดึกดำบรรพ์ลงท้องนี่แหละ”
“จากนั้นก็ระเบิดดังตูม”
“ตอนนี้หญ้าตรงหลุมศพของมันสูงหนึ่งจั้งแล้ว”
อันหลิน “…”
เดิมทีเขาอยากเรียกคนพวกนี้มาช่วยคุ้มกันเขา ไยตอนนี้ถึงทำเอาตนตึงเครียดขึ้นทุกทีเล่า
สวีเสี่ยวหลานยืนมือเท้าเอว ใบหน้าขาวผ่องดุจหยกขาวแสดงอาการกลัดกลุ้ม
บนหัวของนางมีดอกไม้สีแดง
เสี่ยวหงร้องไห้สะอึกสะอื้น หากเจ้านายตายมันก็อยู่ไม่ได้แล้วเช่นกัน แต่ก็จนใจเพราะเจ้านายเอาแต่รนหาที่ตาย
อันหลินเป็นเช่นนี้ทุกครั้ง มักจะทำเรื่องประหลาดและน่าตกใจ และอธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไร
“ได้ เจ้าดื้อเช่นนี้ ครั้งนี้ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะตายหรือไม่”
สวีเสี่ยวหลานแสดงอาการโกรธขึง พูดอย่างโมโห
อันหลินแค่นยิ้ม จ้องขุมพลังสัตว์ที่วางอยู่บนโต๊ะ สีหน้าเริ่มหนักแน่นขึ้นช้าๆ
หากต้องการเข้าสู่ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณ ข้อเสนอแนะที่ระบบให้คือ
‘ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณ บรรลุเงื่อนไข กินขุมพลังสัตว์สามเม็ด’
ระบุว่ากลืน แน่นอนว่าหมายถึงกลืนทั้งเม็ด
หากว่าค่อยๆ เคี้ยวละก็ พลังที่แฝงอยู่ในขุมพลังสัตว์จะปริแตก ทำให้ตายเพราะระเบิดได้จริงๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงหยิบขุมพลังสัตว์สีขาวขึ้นมาก่อน
ขุมพลังสัตว์เม็ดนี้เขาได้มาจากหมีขาวยักษ์ที่ถูกเขาฆ่าตาย รูปลักษณ์ใช้ได้ ซ้ำยังแผ่ไอเย็นออกมาเป็นระลอกๆ
สวย แถมยังแผ่ไอเย็น ไม่ค่อยสอดคล้องกับระเบิดสักเท่าใด…
ทำให้ขุมพลังสัตว์ของหมีขาวยักษ์กลายเป็นตัวเลือกที่หนึ่งของอันหลินไปโดยปริยาย!
เขาใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้หยิบขุมพลังสัตว์ขึ้นมา ความเย็นเยือกจู่โจมนิ้วเป็นระยะๆ
เขามองขุมพลังสัตว์ขนาดเท่าลูกองุ่นเม็ดนี้พลางกลืนน้ำลาย
คำถามหนึ่งผุดขึ้นมาในใจเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ‘กลืนลงไปแบบนี้ จะสำลักหรือเปล่า’
สามมนุษย์หนึ่งดอกไม้และสัตว์อีกตัวก็จ้องอันหลินด้วยความตึงเครียดอย่างยิ่งเช่นกัน เผลอกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
อันหลินอมขุมพลังสัตว์ไว้ในปาก แต่กลับไม่มีความกล้าจะกลืนลงไป เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองกำลังอมลูกระเบิด…
ความเย็นเริ่มจู่โจมปากของเขา เขาตกอยู่ในสภาวะขัดแย้งกับตนเอง
ตายเป็นตาย ก็แค่เรื่องลืมตาหลับตาไม่ใช่หรือไง!
อันหลินไม่สนแล้ว กระดกลิ้นขึ้น กลืนขุมพลังสัตว์ทั้งเม็ดลงท้องไป
“เอื๊อก…”
ความเย็นจับขั้วหัวใจ ทำให้เขาตัวสั่นเทาขึ้นมา
ความรู้สึกแบบนี้…
สุดยอด!
เมื่อเห็นอากัปกิริยาสุขสมของอันหลิน ทุกคนต่างก็เบิกตากว้าง
“ขุมพลังสัตว์อร่อยจริงหรือ” ซูเฉี่ยนอวิ๋นพูดด้วยเสียงนุ่มนวล ใบหน้าเปี่ยมด้วยความสงสัย
“นายท่าน ไม่เป็นไรใช่ไหม ท้องป่องท้องร้อนหรือไม่” เสี่ยวหงถามเสียงหวาน
อันหลินเพิ่งรู้สึกตัว จึงลูบท้องป้อยๆ แล้วพูดว่า “ไม่มีรสชาติ นอกจากชาและเย็นไปทั้งตัวแล้ว ไม่รู้สึกอะไรเลย”
เมื่อเห็นว่าขุมพลังสัตว์หนึ่งเม็ดไม่มีอันตรายร้ายแรงอะไรเกิดขึ้น เขาจึงหยิบขุมพลังสัตว์เม็ดที่สองขึ้น
ผิวของขุมพลังสัตว์เม็ดนี้เป็นสีทองพร่างพราว ซูเฉี่ยนอวิ๋นได้มาจากร่างของเสือปีศาจอัคคีสีชาด
อันหลินใช้นิ้วจับขุมพลังสัตว์เม็ดนี้ กระแสอุ่นห้อมล้อมปลายนิ้ว เห็นได้ชัดว่าขุมพลังสัตว์เม็ดนี้เป็นธาตุไฟ
เขากลืนขุมพลังสัตว์ลงท้องทันทีโดยที่ไม่คิดอะไร
กระแสอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายในทันที ทำให้เขาอ่อนเปลี้ยไปทั้งตัว
“อา…”
สบายเหลือเกิน เขาร้องออกมาอย่างอดไม่ได้
เมื่อเห็นอากัปกิริยาสุขสมของอันหลิน ทุกคนต่างก็เบิกตากว้าง
“หรือขุมพลังสัตว์จะอร่อยมากจริงๆ”
ซูเฉี่ยนอวิ๋นถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานอีกครั้ง ดวงตาสีน้ำเงินเป็นประกายวาบ
“นายท่านๆ ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม รู้สึกว่าท้องใหญ่ขึ้นบ้างหรือไม่” เสี่ยวหงถามอย่างเป็นกังวล
อันหลินกำลังจะพูดว่าไม่มี จู่ๆ ขุมพลังสัตว์สองเม็ดในท้องก็ประสานงากัน
ความขัดแย้งและการผสมผสานระหว่างไอเย็นและไอร้อน ทำให้ทั้งหนาวและร้อน เกิดความรู้สึกสองอย่างที่แตกต่างราวฟ้ากับเหว
อันหลินเบิกตากว้าง มีควันขาวลอยออกจากจมูกเป็นระลอกๆ
ฟิ้ว!
สามคนหนึ่งสัตว์ล้วนเป็นนักพรตหล่อเลี้ยงวิญญาณ พากันเคลื่อนตัวออกไปไกลสิบกว่าเมตรในพริบตา
อันหลิน “เอ่อ…”
เขาเรอออกมาเสียงดัง สีหน้าพออกพอใจ
“พี่อัน ไม่เป็นไรใช่ไหม เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง” เจ้าอัปลักษณ์เบิกตาดุจโคมไฟกว้าง เอ่ยถามด้วยความใส่ใจ
อันหลินมองทุกคนที่อยู่ไกลออกไป พูดอย่างเศร้าซึมว่า
“ไม่เป็นไร…เพียงแต่ว่าปฏิกิริยาของพวกเจ้าทำให้ข้ารู้สึกเศร้ามาก”
สวีเสี่ยวหลาน “…”
เซวียนหยวนเฉิง “…”
…
อันหลินหยิบขุมพลังสัตว์เม็ดสุดท้ายขึ้นมา มันเป็นของงูสามเศียร เซวียนหยวนเฉิงเป็นคนเอามาให้เขา
ขุมพลังสัตว์เม็ดนี้เขียวมรกตดุจหยก ท่าทางดูเหมือนมีพิษ เขาจึงเก็บไว้กินเป็นลำดับสุดท้าย
“ไม่ต้องห่วง ข้าเตรียมยาแก้พิษไว้ให้เจ้าแล้ว” สวีเสี่ยวหลานพูดอย่างรู้ใจอยู่อีกมุม
อันหลินมองสวีเสี่ยวหลานอย่างซาบซึ้งแวบหนึ่ง จากนั้นก็แลบลิ้นออกมาเลียขุมพลังสัตว์
“รสชาติเป็นอย่างไร” ซูเฉี่ยนอวิ๋นถามอย่างใคร่รู้
เมื่ออันหลินได้ฟังมุมปากก็กระตุก ท่าทางซูเฉี่ยนอวิ๋นจะยึดถือยึดมั่นกับคำถามที่ว่าขุมพลังสัตว์อร่อยหรือไม่เอามาก
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้หญิงสาวไร้เดียงสาคนนี้ถูกเขาชักจูงไปในทางที่ผิด เขาจึงพูดอย่างจริงจังว่า “ไม่มีรสชาติ หากว่ามี ก็คงเป็นรสชาติที่น่าสะอิดสะเอือน!”
ซูเฉี่ยนอวิ๋นไม่คิดเช่นนั้น “แต่เมื่อครู่…เจ้าทำหน้าพอใจมากแท้ๆ”
อันหลิน “…”
เขาจะพูดอย่างไรได้อีก บอกซูเฉี่ยนอวิ๋นว่าความรู้สึกทั้งหนาวและร้อน แตกต่างกันสุดขั้วแบบนี้สบายมากงั้นเหรอ
แน่นอนว่าพูดแบบนี้ไม่ได้!
เขาถอนหายใจ ไม่พูดพร่ำทำเพลงอีก กลืนขุมพลังสัตว์ของงูสามเศียรลงท้องทันที
ลำดับต่อไป…ก็ถึงเวลาแห่งปาฏิหาริย์แล้ว!
เมื่อขุมพลังสัตว์เม็ดนี้เข้าสู่ร่างกาย มันไม่มีความรู้สึกอะไรเป็นพิเศษ แต่เขากลับวิตกกังวลอย่างมหันต์
สามารถเสริมสร้างรากปราณ ทะลวงสู่ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณได้จริงเหรอ
เขาเกิดความรู้สึกแบบนั้น ซึ่งก็คือขุมพลังสัตว์ทั้งสามกำลังรวมตัวกันในท้องของเขา เริ่มสัมผัสกันแล้ว
“สหายอันหลิน เป็นอย่างไรบ้าง”
เซวียนหยวนเฉิงเห็นอันหลินไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรมากนัก จึงอดถามไม่ได้
สวีเสี่ยวหลานไม่รู้ว่าทำไมอันหลินต้องกินขุมพลังสัตว์สามเม็ด ตอนนี้กินหมดแล้ว นางยังคงมองอันหลินด้วยความฉงนใจเช่นเดิม รอคอยเรื่องที่จะเกิดขึ้นในลำดับต่อไป
‘ติ้ง ภารกิจสำเร็จ ตอนนี้เริ่มทะลวงสู่ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณ’
จู่ๆ เสียงของระบบก็ดังขึ้น ทำให้อันหลินแสดงอาการดีใจออกมา
ขุมพลังสัตว์สามเม็ดที่อยู่ภายในช่องท้องของเขา ถูกพลังวิเศษบางอย่างโน้มนำ กำลังหลอมรวมกันช้าๆ
บริเวณจุดตันเถียน[1]กลางหัวใจของเขาก็เริ่มกระสับกระส่ายขึ้นมา หลังขุมพลังสัตว์ทั้งสามรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็เริ่มละลายเป็นของเหลว จากนั้นค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปในจุดตันเถียน
ทันใดนั้น พลังปราณในฟ้าดินก็เริ่มกระเพื่อมอย่างรุนแรง
พลังปราณมหาศาลก่อตัวกลางอากาศ ครอบคลุมทั่วรัศมีหนึ่งร้อยจั้ง
ขณะที่พลังปราณกำลังเคลื่อนไหว กระแสพลังงานก็เข้ามาใกล้ลานที่พวกเขาอยู่
“คุณพระ! มีนักเรียนจะทะลวงสู่ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณหรือ!” เซวียนหยวนเฉิงอุทาน
จากนั้นทุกคนก็เบนสายตาไปยังอันหลินที่มีควันสีขาวผุดออกจากร่างกายโดยไม่ได้นัดหมาย
“ไม่…ไม่มีทาง”
สวีเสี่ยวหลานพึมพำ จ้องมองฉากตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ ……………………
[1] จุดตันเถียน คือ จุดเลือดลมภายในร่างกาย ตำแหน่งตันเถียนในร่างกายมี 3 แห่ง ได้แก่ ตันเถียนบนอยู่บริเวณหว่างคิ้ว ตันเถียน กลางอยู่บริเวณใต้หัวใจ และตันเถียนล่างอยู่บริเวณใต้สะดือ