ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 343 เพื่อนใหม่ของข้า
“นี่ เจ้าได้ข่าวไหม เพื่อหลอมกระบี่ ประมุขน้อยทำให้แม่ของตัวเองต้องตาย”
“ชู่…อย่าพูดส่งเดช เรื่องนี้แค่พวกเรารู้ก็พอแล้ว”
“ได้ยินว่ามีศิษย์ชายฝึกกระบี่กับนางเมื่อหลายวันก่อน ปรากฏว่าถูกฟันจนบาดเจ็บสาหัส!”
“ไม่หรอกกระมัง โหดเหี้ยมปานนั้นเชียวหรือ”
“ฉะนั้นตอนนี้เลยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้นางแล้ว…”
หลิวเชียนฮ่วนนั่งอยู่บนบันได แสงแดดสาดกระทบใบหน้าเรียบเฉยของนาง แลดูเย็นชาอย่างยิ่ง
นางกับกระบี่มหาเหมันต์ใจสื่อถึงกัน โสตประสาทจึงเฉียบแหลมเป็นล้นพ้น
เสียงกระซิบกระซาบของลูกศิษย์สองคนที่อยู่ไกลออกไป แน่นอนว่านางได้ยินชัดเจนแจ่มแจ้ง
แต่นางไม่ได้โมโหแต่อย่างใด เพียงนั่งเงียบๆ เพราะนางคิดว่าคนพวกนั้นพูดถูก
นางไม่มีเพื่อน เมื่อหวนคิดถึงอดีต ดูเหมือนจะมีเพียงท่านแม่ที่อยู่กับตนตลอดเวลา
ท่านแม่เป็นเพื่อนคนเดียวของนาง แต่ตอนนี้ นางกลับทำให้ท่านแม่ตาย
ชายคนนั้นฝึกกระบี่เป็นเพื่อนนางด้วยความหวังดี นางฝึกด้วยมาตรฐานที่เคยประลองกับท่านแม่ กลับพลาดท่าทำให้ชายคนนั้นบาดเจ็บสาหัส…
“ท่านแม่ นอกจากเรื่องคบเพื่อนแล้ว ทุกอย่างที่ท่านแม่สั่งเสียไว้ข้าทำได้หมดแล้ว ข้าฝึกกระบี่วันละสี่ชั่วยาม ไม่หลงระเริง สงบเสงี่ยม รู้จักกาลเทศะ ไม่อวดรวย ไม่เลือกกิน…”
“ฮ่วนฮ่วนผ่านแล้วใช่ไหม”
เด็กหญิงเงยหน้ามองฟ้าครามอย่างเหม่อลอย อยากเห็นอะไรบางอย่าง อยากได้ยินเสียงตอบกลับ แต่สิ่งที่ตอบกลับมีเพียงลมฤดูสารทกับความเงียบงันเท่านั้น
ห้าปีต่อมา
หลิวเชียนฮ่วนอายุสิบห้า ผมดำขลับปล่อยสยายจรดเอว รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น รูปโฉมงดงาม แต่กลับเย่อหยิ่ง กลายเป็นหญิงงามผู้เย็นชา
นางยังคงไม่มีเพื่อน
ไม่ใช่เพราะไม่มีใครเข้าใกล้นาง กล่าวตามตรงผู้หญิงรูปโฉมเช่นนาง ต่อให้จะมีนิสัยเฉยชาอย่างไร แต่ก็มีคนยอมทำความรู้จักกับนางเช่นกัน มิหนำซ้ำหลิวหมิงเซวียนยังลอบยุยุงให้ลูกศิษย์หนุ่มๆ สื่อสารกับนางด้วย
แต่ทุกอย่างล้วนไม่มีประโยชน์ นางเริ่มเก็บตัว
ฝึกกระบี่ตามลำพัง อ่านตำราเพียงคนเดียว ชมทิวทัศน์บนเขาหลังสำนักอย่างโดดเดี่ยว
กระทั่งวันหนึ่ง นางเห็นพี่ชายต่างแม่นำของเล่นประหลาดบางอย่างกลับมาจากโรงเรียน
“มันคืออะไรหรือ”
“อ้อ เจ้านี่ชื่อว่ามือถือ ภาพที่เคลื่อนไหวพวกนั้นเรียกว่าเกม”
“นี่เป็นของดีจากแดนมนุษย์ ถูกข้าดัดแปลงแล้ว แบตเตอรี่หมดก็ใช้พลังปราณชาร์จได้ อยากเล่นไหม”
ดวงตาสีม่วงของหลิวเชียนฮ่วนสะท้อนโลกที่เต็มไปด้วยสีสันบนหน้าจอ จ้องเงียบๆ อยู่นาน
แม้ภาพในโลกใบนั้นจะไม่ละเอียด แต่มันกลับแปลกใหม่ น่าสนใจนัก
มันตัดขาดจากโลกความจริง หากเข้าสู่โลกใบนั้น นางจะมีตัวตนใหม่เอี่ยม เป็นนักบินได้ เป็นแม่ทัพที่บังคับบัญชาพลทหารได้ เป็นขุนพลได้…สิ่งเดียวที่เป็นไม่ได้คือ หลิวเชียนฮ่วนที่กำกระบี่มหาเหมันต์สังหารมารดา
นางตกหลุมรักมือถือ หลงใหลเกม…
นางเจอคู่ที่ให้ความสุขกับตัวเองได้แล้ว หรือจะเรียกว่าเพื่อนก็ได้
อืม นั่นก็คือมือถือ!
และไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่นางเริ่มติดงอมแงม
ทุกวันนอกจากเวลาฝึกกระบี่ที่ไม่เปลี่ยนแปรแล้ว สิ่งที่อยู่กับนางก็คือมือถือเครื่องนี้
นางค่อยๆ ร่าเริงมากขึ้น ราวกับมีคู่รัก มีที่พักพิงก็ไม่ปาน ถึงขั้นว่ามีคนตามจีบ! เรียนตัวอักษรจีน เรียกภาษาจีน เรียนทุกอย่างเกี่ยวกับแดนมนุษย์…
ช่วงเวลานั้น นางนึกถึงคำสั่งเสียสุดท้ายก่อนจากไปของมารดา และทำได้สำเร็จสักที
“ท่านแม่ ข้ามีเพื่อนแล้ว และมีความสุขแล้ว สุขใจทุกวัน มีเกมมากมายให้เล่น”
“ฮ่วนฮ่วนทำได้ดีไหม รีบชมข้าที”
หญิงสาวกดปุ่มของมือถือพลางพูดอย่างเบิกบานใจ
หยดน้ำหยดหนึ่งกระทบหน้าจอโดยไม่รู้ตัว เป็นเหมือนดอกบัวที่โปร่งใส เบ่งบาน จากนั้นก็ถูกเช็ดออกไป
…
หลังราชาวิญญาณถูกกระบี่ฟัน พลังไม่ลดกลับเพิ่มพูน ลำแสงสีรุ้งมากเหลือคณานับพุ่งไปรวมตัวที่ร่างของมัน ก่อตัวเป็นเกราะที่สมจริงอย่างยิ่ง
หลิวเชียนฮ่วนจ้องราชาวิญญาณที่พลังไต่ขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย นัยน์ตามีประกายฉายวาบ
“เย็นเยือก” เมื่อสิ้นเสียง ไอเย็นสีน้ำเงินก็กลายเป็นผ้าพลิ้วสีรุ้งพันรอบกายอรชรของนาง
สีสันบิดเบี้ยวที่พิลึกพิลั่นรอบตัวพลันหยุดชะงัก มลายหายไป
สีน้ำเงินกับสีขาวกลายเป็นสีหลักของฟ้าดิน หิมะตกไม่หยุด หนาวเหน็บจับขั้วหัวใจ
ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นในพริบตาเดียว
ทุกสรรพสิ่งเงียบกริบ หิมะขาวโพลน!
ลูกไฟในดวงตาของราชาวิญญาณเหมือนจะพลอยถูกแช่แข็งไปด้วย แต่มันกลับไม่เกรงกลัว ระเบิดพลังที่น่าสะพรึงออกมา มือถือเคียววาดลวดลายสีชาด หมายฟันหญิงสาวตรงหน้า
ร่างของมันรวดเร็วจนกลายเป็นภาพติดตา แต่ความเร็วกลับช้าลงทุกทีอย่างน่าแปลกใจ ยามเข้าประชิดหญิงสาวจนเหลือระยะห่างเพียงสามเซี๊ยะนั้น กลับหยุดนิ่งกับที่ไปเสียอย่างนั้น
ดวงตาของราชาวิญญาณเผยความกลัวครั้งแรก ความเย็นที่บาดลึกไปถึงจิตวิญญาณแผ่คลุมทั่วร่าง
สีหน้าของหลิวเชียนฮ่วนไม่แปรเปลี่ยน มือถือกระบี่มหาเหมันต์ตวัดฟันราชาวิญญาณที่นางจะฆ่าอย่างไรก็ได้ตามใจชอบลง เงากระบี่สีน้ำเงินก็พุ่งลงมาเช่นกัน
ไม่มีเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา แต่กลับเจือแก่นแท้ของจิตวิญญาณแห่งกระบี่
เส้นสีขาวปรากฏบนร่างของราชาวิญญาณ แบ่งร่างของมันเป็นสองซีก ตกลงบนพื้นหิมะสีขาว กลายเป็นควันเขียวสลายหายไป ตายอย่างไร้สุ้มเสียง
“ยินดีด้วย การทดสอบเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณสำเร็จลุล่วง”
หลิวเชียนฮ่วนเก็บกระบี่ เขตอาคมหิมะหายไป ท่าทางที่เย็นชาเย่อหยิ่งก็ค่อยๆ จางหายไปช้าๆ
“น่าเบื่อจริงๆ นึกว่าระดับนรกจะยากเย็นแสนเข็ญเสียอีก ดันเจี้ยนขยะ!”
“เผ่าพันธุ์จิตวิญญาณแบบนี้ ข้าฆ่าได้สิบเผ่าพันธุ์!”
นางเหยียดหยันการทดสอบอย่างไม่ปรานีแล้วรับการสืบทอดที่ลอยลงมาจากท้องฟ้า
ภายในมิติมืดมนแห่งหนึ่ง
ดันเจี้ยนขยะ การทดสอบขยะ จัดการได้สิบเผ่าพันธุ์งั้นหรือ
ชายหัวโล้นที่ได้ยินประโยคนี้ทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก
คุณพระคุณเจ้า ขอร้องเจ้าให้อภัยข้าเถอะ!
ไม่ใช่เพราะราชาวิญญาณไม่แข็งแกร่ง แต่เจ้าแข็งแกร่งจนผิดมนุษย์ต่างหากเล่า!
ภายในห้องหิน หลิวเชียนฮ่วนได้เจอเหล่าสมาชิกที่รอนางแล้ว
“นี่ศิษย์พี่หลิว ทำไมช้าขนาดนี้ คงไม่ได้ติดใจข้างในหรอกนะ” อันหลินทักทาย
หลิวเชียนฮ่วนยกมือขึ้นแปะมืออันหลินอย่างเริงร่า “ไม่ได้ติดใจข้างใน แต่โหมดยากระดับนรกอารัมภบทยาวเหลือเกิน กว่าบอสจะปรากฏตัวใช้เวลานานมาก จากนั้นบอสแปลงร่างระหว่างรบก็รออีกตั้งนาน…”
“โอ้โฮ! พี่หลิวยากระดับนรกเลยเหรอ! สัตว์ประหลาดข้างในแข็งแกร่งไหม” เถียนหลิงหลิงได้ยินว่าเป็นระดับนรกก็มองหลิวเชียนฮ่วนด้วยความนับถือ
“อืม…อ่อนแอนัก แค่สองกระบี่ก็ตายเรียบ ยังไม่ได้ใช้ท่าไม้ตายเลย”
หลิวเชียนฮ่วนหยุดคิดครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างจริงจัง
ไม่พูดยังดี พอพูดเถียนหลิงหลิงก็แทบจะกลายเป็นแฟนคลับแล้ว
แม้แต่อันหลินก็พยักหน้ารัวๆ รู้สึกว่ามาดของศิษย์พี่หลิวนับว่าจะยิ่งเหมือนตัวเองขึ้นไปทุกที น่าปลาบปลื้มเหลือเกิน
“เอ๊ะ ถังซีเหมินยังไม่ออกมาหรือ” หลิวเชียนฮ่วนนึกว่าตนเป็นคนที่ออกมาช้าที่สุด แต่พอนึกขึ้นได้กลับพบว่ายังขาดอีกคน
ถังซีเหมินในตอนนี้ยังไล่กวดมังกรสีดำตัวหนึ่งไม่ลดละ แต่ไล่อย่างไรก็ตามไม่ทัน…