ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 347 ปีศาจร้ายเก้าขุมนรก
พวกอันหลินเดินลอดเส้นทางมิติมายังด่านที่สอง
พวกเขาเห็นดินแดนประหลาด ที่นี่ท้องฟ้าเป็นชั้นหินหนาเตอะ พื้นเป็นแผ่นดินที่ร้อนระอุ มีหินหนืดสีแดงฉานไหลเอื่อยๆ อากาศอบอวลไปด้วยไอพิษฉุนจมูก
อันหลินมองสภาพแวดล้อม รู้สึกคล้ายๆ ชั้นที่แทรกอยู่ในโลกใต้พิภพ
ตอนการชุมนุมมรรคเทศนาสี่ทิศ ด่านแรกที่ทดสอบการเอาตัวรอดจากอันตราย คล้ายคลึงกับทัศนียภาพตรงหน้าอย่างมาก แต่มิติที่มาในครั้งนี้ กว้างกว่าครั้งนั้นหลายเท่าตัว ความสูงของชั้นหินเหนือศีรษะก็สูงขึ้นไม่น้อยเลย
ขณะที่อันหลินรู้สึกละเหี่ยใจอยู่นั้น จู่ๆ ชั้นหินเหนือศีรษะที่อยู่ไกลโพ้นก็เริ่มปริแตก
ตูม
จากนั้นตามมาด้วยเสียงระเบิดดังสนั่น ร่างดำทะมึนหลายร่างตกลงมากระแทกพื้น
เมื่ออันหลินเพ่งมอง นัยน์ตาฉายความตกตะลึง
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าเป็นสัตว์ประหลาดเก้าตัว พวกมันดำเมี่ยม โครงสร้างร่างกายมั่นคง ไม่บิดเบี้ยวเหมือนปีศาจร้าย ซ้ำยังแฝงด้วยพลังงานมหาศาล ชวนให้รู้สึกกดดัน
รูปลักษณ์ภายนอกของพวกมันแตกต่างกัน บ้างก็เดินเหินเหมือนมนุษย์ บ้างก็เป็นเสือที่มีสองเศียร และมีช้างที่มีปีกตาข่ายสีดำอีกด้วย…
“นี่เป็นปีศาจร้ายเก้าขุมนรกของแผ่นดินบรรพกาล เล่ากันว่าอาศัยอยู่ในรอยแยกใต้พิภพ เจริญเติบโตด้วยการดูดความร้อนและไอความตาย พวกมันมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งยิ่งซึ่งถูกยกย่องว่าเทียบเคียงเผ่าพันธุ์ผีดูดเลือด ทุกคนระวังตัวด้วยนะ!” เซวียนหยวนเฉิงพูดอย่างจริงจัง
เสียงหายใจของปีศาจเก้าขุมนรกทุ้มต่ำ ได้ยินเสียงหายใจชัดเจน ดวงตาสีแดงจ้องทุกคนที่นี่เขม็ง ทอประกายแดงฉานกระหายเลือด
ไม่รู้ว่าทำไม บรรยากาศที่นี่แปรเปลี่ยนเป็นตึงเครียดขึ้นมา
ขณะที่สองฝ่ายกำลังประจันหน้ากัน จู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“ข้าเปิดเอง!”
พูดจบ หญิงผมชมพูคนหนึ่งก็โยนคทาขนนกขึ้นตรงหน้าแล้วหมุนฉับไว
ครืนเสาแสงสีขาวที่ร้อนระอุแหวกปฐพี พุ่งไปหาพยัคฆ์สองเศียรที่อยู่หน้าสุดทันที
เสาแสงนั่นคือลำแสงสุดท้ายอันเป็นท่าไม้ตายของหลิวเชียนฮ่วน
พยัคฆ์สองเศียรที่เผชิญกับสาวน้อยนักเวทที่ปล่อยท่าไม้ตายทันทีที่พบเจอก็ตั้งตัวไม่ทัน ยังไม่ได้หลบหลีก หัวก็ถูกเสาแสงทะลวง เสาแสงที่แฝงด้วยพลังงานอันทรงอานุภาพระเบิดศีรษะของมันจนเกิดเป็นหลุมใหญ่ที่น่าสะพรึง!
“โฮก!”
ปีศาจเก้าขุมนรกอีกแปดตัวที่เหลือต่างก็ลุกฮือ พากันกระโจนใส่พวกอันหลิน!
พยัคฆ์สองเศียรที่ถูกลำแสงสุดท้ายทะลวงไม่ล้มแต่อย่างใด ชั่วขณะที่หลุมเลือดขยับ เนื้อสีดำก็ค่อยๆ เชื่อมแล้วสมานกัน จากนั้นกลับมาอยู่ในสภาพเดิม
เมื่อหลิวเชียนฮ่วนเห็นภาพนี้ ก็รู้ทันทีว่าศึกนี้ไม่อาจจัดการได้ง่ายๆ
นางก็ไม่ยอมจำนน ขี่คทาแล้วพุ่งใส่พยัคฆ์สองเศียรอย่างตื่นเต้น
ปีศาจเก้าขุมนรกที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์พุ่งใส่อันหลิน มือถือกระบี่เล่มบางยื่นออกไปหมายทะลวง ร่างกลายเป็นภาพติดตาสีดำชั่วขณะ รวดเร็วจนอันหลินก็ตามแทบไม่ทัน
เพิ่งประมือเขาก็รู้แล้วว่าปีศาจเก้าขุมนรกพวกนี้แข็งแกร่งมาก! ถึงขั้นที่มีเพียงเซวียนหยวนเฉิง ซูเฉี่ยนอวิ๋น สวีเสี่ยวหลานและหลิวเชียนฮ่วนเท่านั้นที่รับมือได้ เหยาหมิงซีกับหูก้วนไม่อาจต้านทานได้เพียงลำพัง
ไม่นานหูก้วนก็ถูกงูเหลือมสีดำตัวหนึ่งฟาดเข้าที่อก พลังมหาศาลจู่โจมประหนึ่งโค่นขุนเขาพลิกทะเล กระแทกจนเขากระอักเลือดกระเด็นออกไป
หลังอันหลินตวัดกระบี่ปล่อยลำแสงสีดำจนปีศาจเก้าขุมนรกล่าถอย ฉวยจังหวะปล่อยต๋าอีกับต๋าเอ้อร์ไปช่วยพวกหูก้วน
กระบวนท่าที่หนึ่ง กระบี่แห่งสายลม!
ปีกวายุปรากฏขึ้นด้านหลัง เมื่อความเร็วพุ่งทะยาน กระบี่พิชิตมารก็ปล่อยลำแสงสีขาวปลิดชีวิต เชือดลำคอของปีศาจเก้าขุมนรกร่างมนุษย์ เลือดสีดำพุ่งทะลักออกมา
ปีศาจเก้าขุมนรกกุมลำคอถอยกรูด ครั้นกล้ามเนื้อกระตุก บาดแผลที่มีอันตรายถึงชีวิตก็สมานกันกลับมาเป็นเหมือนเดิม
เมื่ออันหลินเห็นเห็นพลังชีวิตแบบนี้ก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที ปีศาจเก้าขุมนรกจัดการยากกว่าปีศาจร้ายเสียอีก!
ปีศาจร้ายถนัดจู่โจม ส่วนปีศาจเก้าขุมนรกมีค่าพลังชีวิตสูง ไม่ต่างอะไรกับผีดูดเลือดเลย!
“โฮก...”
เสียงโหยหวนแว่วมาไกลๆ
อันหลินใช้หางตาเหลือบมองตำแหน่งนั้น เห็นปีศาจรูปร่างเหมือนตะขาบยักษ์หน้าเซวียนหยวนเฉิงล้มลง ลมหายใจดับดิ้น เริ่มละลายช้าๆ
เอ๊ะ พี่เฉิงสุดยอดปานนี้เชียว!
ในตอนนั้นเอง เซวียนหยวนเฉิงก็ถือกระบี่โบราณฟันงูเหลือมที่กำลังโรมรันกับกันดั้ม
เพลงกระบี่ของพี่เฉิงฉับไวเป็นธรรมชาติ เงากระบี่สีขาวล้นเหลือมกลายเป็นตาข่ายนับไม่ถ้วน ผิวของงูเหลือมฉีกขาด การโจมตีเหล่านี้ไม่อันตรายถึงชีวิต แต่งูเหลือมที่มีพลังชีวิตสูงยิ่งกลับไม่อาจสมานมันได้
การโจมตีที่ทรงพลังของงูเหลือมมักถูกการป้องกันของเซวียนหยวนเฉิงปัดป้อง ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือนแตกระแหง เกิดหลุมใหญ่หลายแห่ง
หลังสู้รบดุเดือดอยู่ครู่หนึ่ง ร่างของเซวียนหยวนเฉิงก็ลอยไปข้างหลังปานอินทรี
“ชะตากรรมสรรพสิ่ง ตาย!”
เขายกกระบี่เทียมคิ้ว คลื่นประหลาดทะลุมิติ ทำปฏิกิริยากับร่างของงูเหลือม
“ซี่…” งูเหลือมกรีดร้อง บาดแผลที่ถูกเซวียนหยวนเฉิงฟันเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว พลังชีวิตก็ถดถอยอย่างบ้าคลั่ง พลังชีวิตยิ่งใหญ่ที่มันภาคภูมิใจ ไร้ภูมิต้านทานเมื่อพลังชีวิตลงฮวบเช่นนี้
อันหลินที่กำลังรบกับปีศาจเก้าขุมนรกได้เห็นกับตาว่า พี่เฉิงเอาชนะปีศาจร้ายที่น่ารำคาญพวกนี้อย่างไร
วิชาธาตุแท้แห่งสรรพสิ่ง เป็นวิถีแห่งชะตาของความเป็นความตายแห่งสรรพสิ่ง สำหรับสิ่งมีชีวิตพิเศษทั้งหลายแหล่ ความจริงท่านี้เท่าเทียมกัน ฟันแล้วต้องอาคม เมื่อต้องอาคมก็ต้องตาย
วิชานี้เป็นวิชายิ่งใหญ่จนวิปริตหยั่งรู้ได้ยาก แต่พี่เฉิงกลับศึกษาอย่างลึกซึ้ง นี่เป็นสาเหตุที่เขาเป็นที่โปรดปรานของผู้เที่ยงแท้
เมื่อเห็นดังนั้น อันหลินก็รู้แล้วว่าตนหยิบยืมวิธีการของพี่เฉิงไม่ได้ ผู้กุมการทดสอบนี้คือพี่เฉิง!
เซวียนหยวนเฉิงฆ่างูเหลือมเสร็จ ร่างกายก็ไม่ได้หยุดนิ่ง พุ่งไปยังทิศทางที่เหยาหมิงซีกำลังต่อสู้แล้วเริ่มช่วยเหลือทันที
อันหลินตั้งใจต่อสู้ ฟันปีศาจร้ายตรงหน้าไปสองทีอย่างยากเย็น ปรากฏว่ามันกลับสมานแผลอย่างหน้าไม่อายอีกครั้ง กลับมารบต่ออย่างกระปรี้กระเปร่า
การสมานแผลจะทำให้พลังของปีศาจเก้าขุมนรกอ่อนลงเล็กน้อย แต่ความสามารถไม่กลับลดลงเท่าใดนัก สงครามนี้จึงกลายเป็นการประชันระหว่างพลังชีวิตของปีศาจเก้าขุมนรกกับความอดทนของพวกเขา
อันหลินเหลือบมองไปทางพญางูขาว จักรพรรดินีปี้ฉงกำลังใช้คาถาพันธนาการปีศาจเก้าขุมนรกตัวหนึ่ง จากนั้นให้พญางูขาวเฆี่ยนตีไม่หยุด
“เอาเลยนายหญิง หวดให้แรง!”
“ยิ่งแรงมากเท่าใด ประเดี๋ยวตอนที่ชนะ คะแนนของท่านจะยิ่งสูงเท่านั้น!”
จักรพรรดินีปี้ฉงพูดอย่างรักใคร่
“ได้เลยเสี่ยวชิง ข้าจะพยายาม!” ใบหน้างดงามของพญางูขาวมีแต่ความขึงขัง มือถือแส้อัสนีกระดูกขาวหวดหมาป่าปีศาจอย่างแรงไม่หยุด
หมาป่าปีศาจหวีดร้องอย่างอดสู มันไม่ได้รู้สึกอับอายที่แพ้ แต่เพราะถูกแส้อัสนีหวด จึงรู้สึกว่าน่าอดสู
ความรู้สึกก็เหมือนชายชาตรีผู้ผงาดง้ำค้ำฟ้าถูกขังในกรง จากนั้นให้เด็กเล็กใช้ปืนฉีดน้ำฉีดใส่หน้า…
อันหลินเห็นฉากนี้ก็รู้สึกละเหี่ยใจ มีสัตว์เลี้ยงที่ดี สามารถไต่ขึ้นจุดสูงสุดของชีวิตได้จริงๆ…
จากนั้นมองเถียนหลิงหลิงที่ถูกปล่อยไว้ เธอไม่ได้โชคดีขนาดนั้น โยนยันต์ออกไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่โดนวิหคจตุบรรณที่อยู่กลางนภาสักที
วิหคจตุบรรณถูกหมัดกระแทกจนลอยลิ่วหลังพุ่งใส่จักรพรรดิจื่อหยางในครั้งแรก ก็รู้ทันทีว่าต่อกรกับมนุษย์คนนี้ไม่ได้ จึงคิดจะโจมตีอย่างขาดเขลาอยู่ไกลๆ ปล่อยใบมีดลมออกไปอย่างแรงเป็นครั้งคราว
แต่การโจมตีเหล่านี้ก็ไม่พอ ล้วนถูกจื่อหยางขัดขวางอย่างง่ายดาย
จักรพรรดิจื่อหยางกลับไม่เป็นฝ่ายจู่โจมวิหคปีศาจ อย่างไรเสียหน้าที่ของเขาก็คือปกป้องสองคนนี้ มีคนโจมตีเขาขวาง ไม่มีใครโจมตีเขายืนเฉย ไม่จริงจังกับงานเลยสักนิด
อันหลินถอนหายใจเบาๆ ท่าทางสงครามนี้รอพี่เฉิงมาปิดฉากจะน่าเชื่อถือกว่า
เอ๊ะ เดี๋ยวสิ!
ความคิดบางอย่างฉายวาบในสมองของอันหลิน หวนคิดถึงเรื่องในอดีต
ดวงตาของเขาเป็นประกาย เรื่องนี้ไม่แน่ว่าเขาก็ทำได้เหมือนกัน!