ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 348 เจ้าแห่งพิษสำแดงเดช
ปีศาจเก้าขุมนรกเหล่านี้มีพลังชีวิตสูงยิ่ง เทียบเคียงเผ่าพันธุ์ผีดูดเลือด
แต่ว่า
เผ่าพันธุ์ผีดูดเลือดที่มีพลังชีวิตยิ่งใหญ่กลับต้องตายเพราะเลือดคำเดียวของอันหลิน
ถ้าอย่างนั้นสิ่งมีชีวิตอย่างปีศาจเก้าขุมนรกจะตายเพราะเลือดของเขาได้หรือเปล่า
อันหลินคิดว่าควรค่าแก่การลองดูสักตั้ง แม้เขาจะรังเกียจที่คนอื่นพูดว่าเลือดของเขามีพิษ แต่บางครั้งความจริงก็คือความจริง มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้
เมื่อคิดว่าเลือดของตนช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้ มันก็เป็นเรื่องที่ไม่เลวเหมือนกันนี่นา!
อันหลินหลบการทะลวงของปีศาจเก้าขุมนรก หมัดกระแทกร่างดำทะมึน จากนั้นใช้กระบี่พิชิตมารเฉือนแขน เลือดเปรอะเปื้อนคมกระบี่
หลังคมกระบี่ดำขลับอาบเลือดแดงฉานแล้ว ในความเย็นเยือกมีความชั่วร้ายเจือปน
“เสี่ยวเสีย ชอบชุดแดงที่ข้าคลุมให้หรือไม่”
อันหลินมองคมกระบี่ที่เปื้อนเลือดแล้วโพล่งขึ้นมา
กระบี่พิชิตมาร “… เสียสติไปแล้วหรือ”
“ไม่…เจ้าไม่เข้าใจความเจ็บปวดของข้า…” อันหลินพรูลมหายใจยาวเหยียด สั่นศีรษะแล้วพูดอย่างเศร้าใจว่า “หากเลือดข้าเป็นพิษร้ายแรง เจ้ายังจะติดตามข้าอยู่ไหม”
กระบี่พิชิตมาร “… เจ้างั่ง!”
ในตอนนั้นเอง ปีศาจที่ถูกโจมตีจนล่าถอยก็พุ่งเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับพลังที่พลุ่งพล่าน
ดวงตาของอันหลินขาวโพลน วิชาญาณทิพย์เริ่มทำงานแล้ว
กระบวนท่าที่หนึ่ง กระบี่แห่งสายลม!
อันหลินหลบหลีกการทะลวงของปีศาจร้ายในระยะห่างเพียงน้อยนิด เงื้อมือขึ้น กระบี่พิชิตมารถูกกระแสลมสีขาวห้อมล้อม เจือด้วยแสงสีแดงรำไร ตวัดวาดเงากระบี่ที่อันตรายถึงชีวิตเฉือนหน้าอกของปีศาจเก้าขุมนรกจนเกิดแผลขนาดใหญ่
ฉัวะ เลือดสีดำสาดกระจาย ปีศาจร้ายถอยกรูดอีกครั้ง
อันหลินเพ่งมองปีศาจร้ายที่ถอยหลังไปด้วยความลุ้นระทึก
ตอนนี้ได้เวลาพิสูจน์แล้วว่าเลือดของเขาพิษเฉพาะเผ่าพันธุ์ หรือเป็นพิษต่อทุกเผ่าพันธุ์…
ปีศาจเก้าขุมนรกกุมบาดแผล ผิวหนังเริ่มขยับ ทำท่าจะสมานกัน
แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ มันก็ชะงัก ก้มหน้ามองบาดแผลของตนแวบหนึ่ง พบว่าเลือดสีดำไหลทะลักออกมามากกว่าเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ปีศาจเก้าขุมนรกเพิ่งเคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ครั้งแรก ดวงตาเผลอเบิกกว้าง ใช้คาถายับยั้งบาดแผลทันที
คิดไม่ถึงว่าครู่ต่อมา อิริยาบถของมันเริ่มแข็งทื่อ ขณะที่มุมปากขยับ ก็มีเลือดสีดำทะลักออกมาพร้อมกับฟองฟอด
ตุบ
ปีศาจเก้าขุมนรกล้มลงไป ใบหน้ายังเจือความหวาดกลัว ลมหายใจค่อยๆ ดับสูญ
“ที่แท้พิษในเลือดของเรามีผลกับทุกคน...”
อันหลินมองภาพตรงหน้าพลางพึมพำ
เขารู้สึกหดหู่ใจ เลือดสามารถปลิดชีพเผ่าพันธุ์ผีดูดเลือดกับปีศาจเก้าขุมนรกได้ นี่มันข้ามเผ่าพันธุ์แล้ว! ไม่แน่อาจจะฆ่าเผ่าพันธุ์อื่นได้อีก ถ้าเป็นแบบนี้ ดูเหมือนว่าเลือดของเขาจะมีพิษร้ายแรงทีเดียว
“รุ่นพี่ ท่านเจ้าแห่งพิษ สุดยอดไปเลย!” พญางูขาวสังเกตเห็นอันหลินเอาชนะปีศาจเก้าขุมนรกตัวนั้น จึงตะโกนอย่างดีใจ
เจ้าแห่งพิษเหรอ อันหลินรู้แล้ว นี่อาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาดก็ได้
หรือฉายาเจ้าแห่งพิษนี่ อาจจะเป็นพรหมลิขิตของตัวเองจริงๆ…
ในเมื่อนี่เป็นโชคชะตา งั้นก็ขอให้ฉายาเจ้าแห่งพิษได้สำแดงเดชอีกสักครั้งแล้วกัน!
อันหลินสูดหายใจเข้าลึก แบกปีกด้านหลังบินไปทางวิหคจตุบรรณ รวดเร็วถึงขั้นทำให้อากาศรอบข้างเกิดคลื่นอย่างรุนแรง
วิหคจตุบรรณกระพือปีกใส่อันหลิน ใบมีดลมที่ทรงพลังมากมายก็พุ่งไปโจมตีอันหลินด้วยคมมีดที่เชือดเฉือนทุกสิ่งอย่าง
อันหลินใช้วิชาญาณทิพย์ อาศัยความเร็วของปีกวายุและการวิเคราะห์ช่องโหว่อันยอดเยี่ยม กลายเป็นลำแสงที่ปราดเปรียวอย่างยิ่ง หลบหลีกใบมีดลมที่เนืองแน่นพวกนั้น
กระบวนท่าที่หนึ่ง กระบี่แห่งสายลม!
กระบี่ที่ผสานกระแสลมสีขาว เฉือนร่างของวิหคจตุบรรณเป็นรอยกระบี่ขนาดใหญ่
ชั่วขณะที่เลือดสาดกระจาย อันหลินก็เหาะลงพื้นด้วยความมั่นใจ ไม่มองวิหคปีศาจด้านหลังอีก
ไม่กี่วินาทีต่อมา วิหคปีศาจยักษ์ก็ร่วงหล่นสู่พสุธาประหนึ่งปีกหัก ลมหายใจก็สูญสิ้นโดยสิ้นเชิง
บัดนี้ เซวียนหยวนเฉิงช่วยซูเฉี่ยนอวิ๋นกำจัดปีศาจเก้าขุมนรกตัวหนึ่ง ส่วนสวีเสี่ยวหลานก็ใช้ค่ายกลเพลิงอัสนี แผดเผาพร้อมกับใช้สายฟ้าฟาดปีศาจช้างซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายก็ตัดลมหายใจของมันได้สำเร็จ
หลิวเชียนฮ่วนเหาะวนรอบพยัคฆ์สองเศียรดุจดั่งผีเสื้อแสนสวย คาถาที่ทรงพลังและแม่นยำถูกปล่อยออกจากคทาไม่ขาดสาย ควบคุม จู่โจม ควบคุมและระเบิด…
พยัคฆ์สองเศียรกระโจนใส่หลิวเชียนฮ่วนอย่างบ้าคลั่ง กลับไม่อาจแตะต้องได้แม้แต่ชายเสื้อของหญิงสาว แต่เวทมนตร์คาถาอันน่ากลัวที่พุ่งเข้าใส่เหล่านั้นกลับโดนเข้าอย่างจัง ต่อให้พยัคฆ์สองเศียรจะมีพลังชีวิตที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็หมดหนทางจะตอบโต้ ถูกระเบิดตายทั้งเป็น
“คุณพระ ปีศาจเก้าขุมนรกพวกนี้น่ารำคาญจริงๆ! ครั้งหน้าข้าควรจะเสริมค่าการเจาะทะลวงสักหน่อย” หลิวเชียนฮ่วนเช็ดเหงื่อแวววาวบนหน้าผาก พูดพลางหายใจหอบ
มุมปากของอันหลินกระตุกเมื่อได้ฟัง จึงพูดว่า “ค่าการทะลวงเสริมได้ด้วยหรือ ซื้อคทาโมฆะหรือ ศิษย์พี่หลิวคงไม่ได้เล่นเกมจนแยกโลกมายากับโลกความจริงไม่ออกหรอกนะ!”
หลิวเชียนฮ่วนกลอกตาใส่อันหลิน “เจ้าเด็กไร้เดียงสา ฝังแร่รวมจิตกับไขวิญญาณเลือดปีศาจ ทำให้พลังงานของเวทมนตร์แหลมคมและมีค่าทะลวงสูงขึ้น และเพิ่มอัตราการตายได้ด้วยเลือดปีศาจ…”
อันหลินอ้าปากกว้าง ถูกคำสั่งสอนที่จริงจังของหลิวเชียนฮ่วนทำเอาพูดไม่ออก
ให้ตายสิ…ที่แท้ศิษย์พี่หลิวไม่ได้พูดเล่น บนโลกใบนี้สามารถเสริมค่าการทะลวงได้จริงๆ!
ปีศาจเก้าขุมนรกตัวสุดท้ายคือหมาป่าปีศาจที่ถูกปี้ฉงขังไว้ในกรงเวท
มันเห็นนักพรตที่น่ากลัวอีกหลายคนกรูกันเข้ามา พลันก็รู้สึกสิ้นหวัง
จักรพรรดินีปี้ฉงเห็นคนอื่นๆ ต่างก็รบเสร็จแล้ว ก็ไม่อยากทำให้ทุกคนเสียเวลา จึงปล่อยหมาป่าปีศาจออกมา
หมาป่าปีศาจได้รับอิสระอีกครั้ง ยังไม่ทันได้ฉลองอิสรภาพ วินาทีต่อมา มันก็ถูกเวทมนตร์ที่ท่วมท้นนภาแผ่คลุม…
หากเบื้องบนให้โอกาสมันเลือก มันจะเลือกกลับเข้าไปในกรงอีกครั้ง น้อมรับแส้หวดของพญางูขาว ที่นั่นมันสวรรค์ชัดๆ!
“ยินดีด้วย การทดสอบพิทักษ์แดนภาคปีศาจเก้าขุมนรกสำเร็จลุล่วง!”
จากนั้นม่านแสงก็ลอยลงมา ด้านบนมีตัวอักษรระบุไว้ว่า
เซวียนหยวนเฉิง 6400 คะแนน อันหลิน 3400 คะแนน สวีเสี่ยวหลาน 2100 คะแนน หลิวเชียนฮ่วน 2100 คะแนน ซูเฉี่ยนอวิ๋น 1800 คะแนน เหยาหมิงซี 700 คะแนน หูก้วน 500 คะแนน พญางูขาว 100 คะแนน เถียนหลิงหลิง 10 คะแนน ถังซีเหมิน 0 คะแนน
จักรพรรดิสงครามไม่มีคะแนน
ทุกคนไม่แปลกใจกับคะแนนของเซวียนหยวนเฉิง เพราะในการทดสอบครั้งนี้ เขาช่วยเหลือทุกคน เป็นยอดฝีมือที่สร้างคุณูปการนับครั้งไม่ถ้วน!
จักรพรรดินีปี้ฉงเห็นหนึ่งร้อยคะแนนของพญางูขาว ก็เบะปากด้วยความไม่พอใจ
หวดแส้นานขนาดนั้นได้แค่หนึ่งร้อยคะแนนงั้นหรือ คำนวณคะแนนผิดหรืออย่างไร!
เถียนหลิงหลิงมองสิบคะแนนที่น่าสงสารของตัวเอง ดวงตาสุกใสปรากฏความเศร้า
แต่ครั้นมองถังซีเหมินที่นอนอยู่บนก้อนอิฐสีดำแล้ว ไม่รู้ทำไม สีหน้าผ่อนคลาย ปล่อยวางได้แล้ว
ถังซีเหมินสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าของหญิงสาว ก็เกือบจะกระอักเลือด เถียนหลิงหลิงเห็นศูนย์คะแนนของเขา ในใจจึงสงบลงงั้นหรือ!
ขณะที่ทุกคนหยุดพัก ฟื้นฟูเลือดลมอยู่นั้น
ภายในมิติอันมืดมิดที่เหลือเพียงหญิงสาวร่างมนุษย์หางงู นางนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน
นางมองพวกอันหลินที่อยู่ในจอ มุมปากยกขึ้น ผิดแผกไปจากปกติ เผยรอยยิ้มที่น่าหลงใหล
จากนั้นเสียงที่ไพเราะน่าฟังก็ดังก้องมิติที่มืดมน
“เรื่องสนุกจะเริ่มขึ้นแล้ว”