ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 350 ผู้แข็งแกร่งหัวโล้นที่น่ากลัว
สมาชิกที่เหลือก็สังเกตเห็นชายหัวโล้นคนนั้นแล้ว
“เอ๊ะ ทำไมเขาไม่สวมชุดเกราะ” เหยาหมิงซีเอ่ยอย่างแปลกใจ
“ไม่ว่าเขาสวมชุดเกราะหรือไม่ แต่เป็นศัตรูแน่ๆ ข้าจะไปจัดการเขา”
หูก้วนกำมือแน่น พุ่งออกไปข้างหน้าด้วยความดุดัน
อันหลินสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นอากัปกิริยาของหูก้วน รีบคว้าตัวไว้ทันที “ศิษย์น้องหู อย่าบุ่มบ่าม!”
“ทำไมหรือพี่อัน” หูก้วนเห็นท่าทางวิตกกังวลของอันหลิน จึงเอ่ยถามอย่างสงสัย
อันหลินสูดหายใจเข้าลึกแล้วเอ่ยว่า “เจ้าพุ่งเข้าไปแบบนี้ ข้ากลัวว่าเจ้าจะถูกหมัดซัด”
เซวียนหยวนเฉิงเห็นด้วยเป็นอย่างมาก “สหายอันหลินพูดถูก สำหรับศัตรูที่ไม่รู้ที่มาแน่ชัด ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเช่นนี้แล้ว พวกเราระมัดระวังไว้หน่อยเป็นดี ให้ข้าไปลองหยั่งเชิงดูก่อน”
พูดจบ เขาก็ชักกระบี่โบราณของตัวเองออกมา ก้าวไปหาชายหัวโล้นด้วยท่าทีเตรียมพร้อม
อันหลินสะดุ้งโหยงอีกครั้ง รีบลากเซวียนหยวนเฉิงออกมา
เซวียนหยวนเฉิง “…”
อันหลินกลืนน้ำลายเอื๊อก พูดเสียงทุ้มว่า “การแต่งกายของคนคนนั้นพิลึกนัก ข้ากลัวว่าพวกเราทุกคน ไม่ว่าใครก็ต้านหมัดของเขาไม่ได้ ให้ต๋าอีกับต๋าเอ้อร์ไปหยั่งเชิงดีกว่า…”
เหยาหมิงซี หูก้วนและพญางูขาวต่างก็เบิกตากว้างมองอันหลิน ราวกับเห็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ
ในความทรงจำของพวกเขา พี่อันเพิ่งเคยขลาดกลัวแบบนี้เป็นครั้งแรก!
หลิวเชียนฮ่วนมองชายหัวโล้นที่แต่งตัวประหลาด ลูบคางขาวงดงามเล็กน้อยพลางพึมพำว่า “ข้ารู้สึกว่าชายคนนี้หน้าคุ้นๆ…”
อันหลินหันหน้ามองหลิวเชียนฮ่วน ราวกับเจอคนรู้ใจอย่างไรอย่างนั้น “วันพันช์แมน”
“อา…เขานั่นเอง!” หลิวเชียนฮ่วนตบมือฉาด แววตาทอประกายเย้ายวน พูดอย่างตื่นเต้นว่า “เขาคือไซตามะที่ฆ่าบอสตัวนั้นในหมัดเดียว!”
สมาชิกที่ไม่เข้าใจต่างก็ตะลึงงันเมื่อได้ยิน
ไซตามะหรือ ฆ่าบอสตัวหนึ่งในหมัดเดียว แข็งแกร่งปานนี้เชียวหรือ!
“ฮาย! ท่านไซตามะ ข้าคือลักซ์ สาวน้อยนักเวท!” หลิวเชียนฮ่วนทักทายชายหัวโล้นที่อยู่ไกลออกไปด้วยความตื่นเต้น รอยยิ้มสดใสอย่างยิ่ง
ราวกับคนที่หลงใหลในการคอสเพลย์สองคน พบเจอกับในโลกอันกว้างใหญ่
นี่แหละพรหมลิขิต!
ชายหัวโล้นเห็นสตรีที่งดงามยิ่งกำลังทักทายตนอย่างเป็นมิตร แถมยังเรียกตนว่าท่านไซตามะอีก จึงเผลอนิ่งอึ้งกับที่ ความอบอุ่นที่เรียกว่า ‘รู้ใจ’ แผ่ซ่านในหัวใจ
ก่อนหน้านี้เขายังกังวลว่าหลังหัวล้านแล้ว ทำอย่างไรถึงจะกู้ภาพลักษณ์อันเจิดจรัสของตนกลับมาได้
ไม่นานเขาก็นึกขึ้นได้ว่า ในโลกที่นายหญิงสร้างขึ้น มีผู้แข็งแกร่งหัวโล้นคนหนึ่งอหังการยิ่งนัก จึงแต่งตัวคอสเพลย์สักครั้ง ไม่คิดว่าแค่สวมชุดนี้ก็มีคนจำได้แล้ว!
ข้ามีความอหังการมาแต่กำเนิดจริงๆ งั้นหรือ!
ชายหัวโล้นดีใจอย่างมาก แต่เขาก็รู้ดีว่าภารกิจของตนคืออะไร หากไม่ทำภารกิจให้ดีละก็ ครั้งหน้าอาจไม่ได้คอสเพลย์เป็นผู้แข็งแกร่งหัวโล้น แต่เป็นนักรบไร้หัวแทน…
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังใช้ความคิดอยู่นั้น ร่างสีขาวก็มาปรากฏตัวเหนือศีรษะเขาแล้วอ้าปากกว้าง
ครืน ลูกไฟสีม่วงลอยลงมาจากฟ้า
มันคือไฟมังกรเวหาหาวที่มีพลังเจาะทะลวงสูงเป็นล้นพ้น แผ่คลุมชายหัวโล้นในพริบตา อุณหภูมิที่สูงจนน่ากลัวทำให้ปฐพีละลาย
แต่ขณะที่กันดั้มกำลังพ่นไฟอยู่นั้น ชายหัวโล้นก็หายวาบไปโผล่ด้านหลังกันดั้มแล้ว
อันหลินเบิกตากว้าง อุทานลั่น “เร็วชะมัด!”
ผ้าคลุมสีขาวด้านหลังชายหัวโล้นโบกสะบัดตามแรงลม หมัดที่สวมถุงมือสีแดงซัดแผ่นหลังของกันดั้มด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อในพริบตา
ตูม
เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว คลื่นพลังสีขาวพวยพุ่งขึ้นพันเมตร
แกรก… กันดั้มได้รับแรงกระทบที่น่ากลัวจนเกราะสีเงินด้านนอกเกิดรอยร้าว ร่างกายร่วงลงพื้นเป็นเส้นสีขาว กระแทกจนเกิดหลุมลึกดำทะมึน
อันหลินสูดหายใจเข้าลึก ดวงตาฉายความไม่กลัวเกรง “เหยาหมิงซี หูก้วน พวกเจ้าสองคนไปช่วยต๋าอีกับต๋าเอ้อร์จัดการจักรพรรดิเจินหง คนอื่นตามข้าไปรบกับชายหัวโล้นสักตั้ง!”
ความเร็วและพลังของชายหัวโล้นเหนือกว่าจักรพรรดิสงครามอยู่หลายขุม เหยาหมิงซีกับหูก้วนอ่อนด้อย และรู้แล้วว่าศึกนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสอดมือเข้ามายุ่งได้ จึงเหาะไปหาจักรพรรดิเจินหงอย่างไม่รั้งรอ
อันหลินสั่งการต๋าอีกับต๋าเอ้อร์ผ่านทางจิต พยายามถ่วงเวลาจักรพรรดิเจินหงสุดความสามารถ ไม่ขอสังหาร ขอเพียงเขาไม่เข้ามาข้องเกี่ยวกับสมรภูมิรบเป็นพอ
หลังชายหัวโล้นกระแทกกันดั้มตัวหนึ่งจมดินแล้ว ก็ไม่ไล่กวดอีก แต่ย่างกายไปหาพวกอันหลินทีละก้าว ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มสบายๆ
“สวัสดีทุกคน ข้าคือไซตามะ บอสคนสุดท้ายของการทดสอบนี้ ก่อนหน้านี้พวกเจ้าผ่อนคลายมามากแล้ว ตอนนี้ควรตายสักคนสองคน เตรียมพร้อมหรือยัง”
เขาไม่ลืมหรอกนะว่าตนหัวโล้นได้อย่างไร ตอนนี้มีโอกาสเอาคืน เขาย่อมต้องคว้าไว้ให้มั่น
เมื่อพูดจบ จิตสังหารอันตรายที่ประหนึ่งสสารเริ่มแผ่กระจายไปทั่วทุกหนแห่ง
อันหลินเห็นสายตาของผู้แข็งแกร่งหัวโล้นคนนั้นแปรเปลี่ยนเป็นดุดันอำมหิต ทำให้เขาเกิดความรู้สึกเหมือนจะถูกหมัดของเขากระแทกให้ตายคาหมัด
“ข้าจะพันธนาการไซตามะเอง พวกเจ้ารีบหาโอกาสจู่โจมเขา!” จู่ๆ เซวียนหยวนเฉิงก็โพล่งขึ้นมา
“ได้! เซวียนหยวนเฉิงจู่โจมเป็นหลักสร้างความโกรธแค้น ข้าจะจู่โจมอยู่แนวหลัง ซูเฉี่ยนอวิ๋นลอบโจมตี อันหลินกับสวีเสี่ยวหลานต่อสู้ระยะประชิด!” หลิวเชียนฮ่วนตะโกนสั่งการเสียงตื่นเต้นทันที
ทุกคน “…”
เซวียนหยวนเฉิงทำหน้าที่พันธนาการ อันหลินเชื่อใจ เพราะเขาสามารถประมือกับหวังเสวียนจ้านผู้มีพลังยุทธ์ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นปลายที่อยู่ในสภาวะพร้อมรบเต็มที่ได้ชั่วคราว ตั้งแต่เขามีพลังยุทธ์ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นต้นแล้ว
ตอนนี้เขาอยู่ในระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นปลายแล้ว การปกป้องและพันธนาการเป็นที่หนึ่งในหมู่ลูกทีมทุกคน
ทว่าเซวียนหยวนเฉิงยังไม่ทันได้ลงมือ เสาแสงพลังงานสีขาวก็แหวกธรณิน จู่โจมหน้าผากของชายหัวโล้น
ภาพติดตาเคลื่อนไหวทันใด ชายหัวโล้นเคลื่อนย้ายตำแหน่งด้วยความเร็วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
เสาแสงพลังงานเฉียดไหล่ไป ทะลวงแผ่นดินจนเกิดร่องลึกนับร้อยจั้ง
“คว้าน้ำเหลว…”
หลิวเชียนฮ่วนกะพริบดวงตาสีม่วงปริบๆ ด้วยความอึ้ง
“ตาข้าแล้ว” ชายหัวโล้นเอ่ยเสียงเรียบ
วินาทีต่อมา หมัดสีแดงก็มาถึงตรงหน้าทุกคนด้วยอานุภาพมหาศาล!
ครืน
ชั่วขณะที่เกิดเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น จู่ๆ แผ่นดินก็สั่นไหวและแตกทลาย!
กระบี่โบราณเล่มหนึ่งขวางตรงหน้าหมัดสีแดง ภาพลวงตาของมัจฉาสีขาวและดำว่ายวนบนพื้นอย่างต่อเนื่อง
“โอ้ น่าสนใจ…” แววตาของชายหัวโล้นฉายความตกใจ
เขาไม่คิดเลยว่าจะมีคนรับหมัดของเขาได้
เซวียนหยวนเฉิงทำหน้านิ่งเฉย ราวกับเข้าสู่ภวังค์บางอย่าง แต่เลือดที่ไหลออกจากมุมปากกลับบอกชัดว่าเขาบาดเจ็บ
จู่ๆ ลำแสงเพลิงก็จู่โจมชายหัวโล้นโดยพลัน มาประชิดอย่างรวดเร็ว
ชายหัวโล้นกระทืบเท้า ร่างกายกลายเป็นภาพติดตาถอยหลังไปสิบกว่าเมตร หลบหลีกลำแสงเส้นนั้น
มิติบิดเบี้ยว กงจักรจันทราสีน้ำเงินสร้างระลอกคลื่นกลางอากาศ พุ่งไปข้างหลังเขาอย่างเงียบเชียบพร้อมกับความแหลมคมหมายคร่าชีวิต ทิ้งเส้นสีน้ำเงินยาวเป็นทางกลางเวหา!
ชายหัวโล้นปล่อยหมัดไปข้างหลังอย่างไม่ลังเล!
ตูม
เสียงระเบิดดุจสายฟ้าคำราม หมัดสีแดงทำลายทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง ทำเอากงจักรจันทราสีน้ำเงินสั่นสะท้าน
ไม่อาจบรรยายได้ว่ามันเป็นพลังงานแบบใด ซูเฉี่ยนอวิ๋นที่อยู่ไกลร้อยจั้งรู้สึกเหมือนกระดูกในร่างกายได้รับแรงกระแทกอย่างแสนสาหัส ถูกหมัดสะเทือนจากทางไกลจนกระอักเลือดกระเด็นออกไป
ชายหัวโล้นพลันรู้สึกถึงลมเย็นที่โชยมาจากด้านข้าง เขาปล่อยหมัดออกไปทั้งที่ไม่ชายตามองด้วยซ้ำ!
อันหลินลากคมกระบี่ดำทะมึนที่มีกระแสลมโอบล้อม ขณะที่อยู่ห่างจากลำคอของชายหัวโล้นไม่ถึงหนึ่งนิ้วนั้น แรงหมัดที่น่ากลัวก็จู่โจมร่างของเขาอย่างจัง กระเด็นออกไปหลายร้อยเมตร...
แค่ไม่กี่อึดใจ ชายหัวโล้นก็ปล่อยสามหมัด ทำร้ายคนถึงสามคนแล้ว