ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 351 ปล่อยไพ่ตายจนหมด
หลังชายหัวโล้นปล่อยหมัดใส่อันหลินจนกระเด็นไปแล้ว เซวียนหยวนเฉิงก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง หมายใช้วิชาธาตุแท้แห่งสรรพสิ่งถ่วงเวลาเขา
ไม่คาดคิดว่าหลังเซวียนหยวนเฉิงโดนหมัดคู่ของชายหัวโล้นซัดแล้ว พลันรู้สึกเหมือนร่างกายถูกสูบพลังจนหมดเกลี้ยง
ในตอนนั้นเอง หลิวเชียนฮ่วนก็เหาะขึ้นฟ้า ควงคทาขนนก ปล่อยลำแสงพลังงานกึ่งโปร่งแสงใส่ชายหัวโล้นประหนึ่งห่าฝน
เมื่อพลังงานระเบิด ชายหัวโล้นก็ก้าวออกมาจากฝุ่นควัน ศีรษะยังคงสว่างไสว แลดูค่อนข้างแยงตาเมื่ออยู่ภายใต้การสะท้อนของแสงอาทิตย์
“คุณพระ! ความปราดเปรียวกับพลังสุดยอดยังไม่พอ แม้แต่พลังป้องกันยังสุดยอดขนาดนี้เลยหรือ มีบั๊กชัดๆ!” หลิวเชียนฮ่วนเบิกตากว้าง เอ่ยด้วยความตกตะลึง
ทันใดนั้น ความรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีก็ผุดขึ้นในใจนาง นางจึงล่าถอยอย่างบ้าคลั่ง
แต่ร่างสีเหลืองนั่นกลับเร็วยิ่งกว่า กระโดดมาอยู่ตรงหน้านางในพริบตา ปล่อยหมัดลงมาอย่างไม่ปรานี
หลิวเชียนฮ่วนจ้องกำปั้นที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ กัดฟันแน่น ยกคทาขึ้นขวางหมายจะตอบโต้
ในขณะนั้นเอง ร่างสีขาวก็ปรากฏตรงหน้านาง กระบี่โบราณที่แฝงด้วยเจตจำนงของธาตุแท้แห่งสรรพสิ่งจู่โจมกำปั้น จากนั้นลากเข้ามาข้างตัว
พลังหมัดทะลวงอากาศ ก่อให้เกิดพายุหมุนพัดรุนแรง
หมัดที่ทรงพลังปานนี้ ไม่อาจทำลายได้อย่างสิ้นเชิง
หลังหมัดพุ่งลงมาแล้ว ร่างของเซวียนหยวนเฉิงก็บาดเจ็บอีกครั้ง ถอยหลังกรูด ใบหน้าซีดเผือด
ชายหัวโล้นรู้ว่าเซวียนหยวนเฉิงรับมือยาก จึงโจมตีเซวียนหยวนเฉิงอีกหน หลิวเชียนฮ่วนเห็นดังนั้นก็รีบปล่อยม่านแสงกำบังเซวียนหยวนเฉิงทันที
“อัสนีเหินเวหา!”
สวีเสี่ยวหลานถือกระบี่วิหคมังกร สายฟ้าเส้นหนึ่งพุ่งออกมาฟาดด้านขวาของชายหัวโล้น
แทบจะในเวลาเดียวกัน ฟ้าดินก็พลันมืดลง
ร่างของอันหลินปรากฏตัวด้านซ้ายของชายหัวโล้น ตวัดกระบี่พิชิตมารวาดลำแสงดำทะมึนพิฆาต
กระบวนท่าที่สอง เงาพยัคฆ์!
สีหน้าของชายหัวโล้นชะงัก เขาสัมผัสได้ถึงภัยอันตรายขึ้นมาทันที
กรงเล็บเหล็กคราม!
เขาใช้มือเป็นกรงเล็บ มือซ้ายกับมือขวาสาดแสงสีครามเจิดจ้าอย่างยิ่ง ตะปบยังทิศทางที่แตกต่างกัน
แควก เสียงกังวานสะเทือนความมืดมนของฟ้าดินจนแหลกลาญ
มือขวาของชายหัวโล้นกำกระบี่วิหคมังกรของสวีเสี่ยวหลานหมับ ชั่วขณะที่กระแสไฟแตกซ่าน กลับไม่อาจขยับได้อีก ส่วนมือของเขาคว้าคมกระบี่พิชิตมารไว้ พลังงานดำทะมึนถูกกรงเล็บสีครามของเขาพันธนาการ
แต่ทว่าในตอนนั้นเอง เสาพลังงานที่ร้อนระอุก็พุ่งทะลุอากาศ จู่โจมหน้าอกของชายหัวโล้นโดยพลัน!
ตูม การโจมตีของเสาพลังงานกลายเป็นความร้อนแผ่กระจายรอบทิศ
จากนั้นอันหลินกับสวีเสี่ยวหลานก็รู้สึกว่ามีพลังงานที่ยิ่งใหญ่แผ่ออกจากกระบี่ จากนั้นก็ถูกสะเทือนจนกระเด็นออกไป
เกิดซอนิกบูมดังขึ้นอีกครั้ง ชายหัวโล้นโผล่มาตรงหน้าหลิวเชียนฮ่วนอีกครา เสื้อผ้าบริเวณหน้าอกของเขาขาดรุ่งริ่ง เผยให้เห็นทรวงอกดำเกรียม
“เจ้าทำให้ข้าเจ็บได้สำเร็จ ขอมอบหมัดให้เจ้า!”
หมัดสีแดงพุ่งลงมาประหนึ่งภูเขาไท่ซาน ทำให้รู้สึกเหมือนจะหยุดหายใจ
ในตอนนั้นเอง เซวียนหยวนเฉิงก็โผล่มาตรงหน้าหลิวเชียนฮ่วนอีกครั้ง…
พลังหมัดที่น่ากลัวฉีกชั้นม่านแสงจนแหลกละเอียด ซัดยอดเขาที่อยู่ห่างไกลให้แตกทลาย
เซวียนหยวนเฉิงกับหลิวเชียนฮ่วนกระอักเลือดแล้วตกลงพื้นทั้งคู่
“เซวียนหยวนเฉิง เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม!”
หลิวเชียนฮ่วนอดทนต่อความเจ็บปวด พุ่งเข้าไปหาเซวียนหยวนเฉิงแล้วอุ้มเขาขึ้น เอ่ยถามด้วยความตื่นตระหนก
“ไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องสนข้า” เซวียนหยวนเฉินผละออกจากอ้อมแขนของหลิวเชียนฮ่วน กัดฟันลุกขึ้นยืนแล้วเช็ดเลือดตรงมุมปาก “เมื่อครู่ข้าผิดเอง ข้าพันธนาการชายคนนั้นไม่ได้ ทำให้พวกเจ้าบาดเจ็บ”
หลิวเชียนฮ่วนชะงักไปอีกครั้ง นัยน์ตาเลื่อนลอยไปครู่หนึ่ง
นางมองร่างที่บาดเจ็บสาหัส แต่ยังลุกขึ้นโดยไม่สนใจอะไร ในใจก็สั่นสะท้านชอบกล
เรากำลังกลัวอะไรกันแน่
กลัวการหยิบกระบี่เล่มนั้น กลัวจะนึกถึงเรื่องในอดีตงั้นหรือ
พวกเขาเดิมพันด้วยชีวิต ปกป้องเราโดยลืมความปลอดภัยของตัวเอง
แต่เรากลับไม่มีแม้แต่ความกล้าจะใช้กระบี่ต่อสู้ต่อหน้าทุกคนด้วยซ้ำ…
พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มของเรา เป็นสหายร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่อย่างแท้จริง!
หลิวเชียนฮ่วนหัวเราะเยาะตัวเอง รู้สึกขันในความโง่เง่าและอ่อนแอ
ครืน
เกลียวเมฆก่อตัวบนท้องนภา ร่างของชายหัวโล้นพุ่งใส่เซวียนหยวนเฉิงกับหลิวเชียนฮ่วนปานขีปนาวุธ ชัดเจนว่าความแค้นที่มีต่อสองคนนี้ค่อนข้างฝังลึก
เมื่อประจันหน้ากับอานุภาพที่ชวนให้รู้สึกหายใจไม่ออก เซวียนหยวนเฉิงก็ยืนขวางหลิวเชียนฮ่วนด้วยสีหน้าที่หนักแน่น รูปของมัจฉาสีขาวดำปรากฏใต้ฝ่าเท้า
นี่อาจจะเป็นหมัดสุดท้ายที่เขาจะขัดขวางได้ แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ต้องยืนหยัดให้ถึงที่สุด เพื่อหาโอกาสให้เพื่อนๆ กระทั่งตัวตาย!
ไม่รู้เพราะเหตุใด จู่ๆ เซวียนหยวนเฉิงก็สัมผัสได้ถึงความเย็นวาบ
ในตอนนั้น ชายหัวโล้นก็พุ่งมาตรงหน้าเขา ปล่อยหมัดออกมาอย่างไม่ปรานี
ทันใดนั้น น้ำค้างแข็งเต็มนภา
กระแสลมสีน้ำเงินขาวก่อตัวเป็นวงกลมแล้วกระจายตัว อุณหภูมิต่ำอย่างสมบูรณ์แช่แข็งกาลเวลา
หลิวเชียนฮ่วนยืนขวางหน้าเซวียนหยวนเฉิง เชือกสีน้ำเงินพันรอบผิวขาวราวหิมะของนาง
นางมีรูปร่างสะโอดสะอง ใบหน้าเรียบเฉยเย็นชา นัยน์ตาสีม่วงยโสทว่าเรียบเฉย เป็นดุจเซียนกระบี่หญิงที่ทะนงตน
ชายหัวโล้นถูกอุณหภูมิต่ำอันน่ากลัวปกคลุม ทำให้ร่างกายหยุดชะงัก
แต่มิติหยุดนิ่งแบบนี้ ไม่นานก็สลัดหลุดเขาด้วยพละกำลังมหาศาล หมัดสีแดงพุ่งมาโจมตีดังเดิม!
“หิมะผวา!”
หลิวเชียนฮ่วนตะโกน มือเรียวผุดผ่องกำกระบี่มหาเหมันต์ไว้แน่น งัดหมัดสีแดงขึ้นฟ้าพร้อมกับหิมะเป็นพันกองทันที
หมัดของชายหัวโล้นเหมือนกระแทกความอ่อนนุ่มประหนึ่งปุยนุ่น พายุหิมะอันหนาวเหน็บโหมกระหน่ำจู่โจมร่างของเขาไม่หยุด
“ต้านเหมันต์!”
กระบี่ของหลิวเชียนฮ่วนประกายแสง กระบี่มหาเหมนต์พุ่งไปจะแทงหัวใจของชายหัวโล้น
ทันใดนั้น หิมะหยุดโปรยปราย ทุกสรรพสิ่งไร้สุ้มเสียง
มีเพียงคมกระบี่ที่แฝงพลังแห่งเหมันต์ที่วาดลำแสงสีน้ำเงินอันงดงาม แหวกพายุหิมะพุ่งตรงสู่หัวใจของศัตรู
เลือดสาดกระจาย หิมะโปรยปราย
กระบี่ของหลิวเชียนฮ่วนปักทะลุหน้าอกของชายหัวโล้น
แต่ปลายกระบี่ก็ไม่อาจสัมผัสหัวใจดวงนั้น คมกระบี่ถูกมือใหญ่ข้างหนึ่งจับไว้แน่น ไม่อาจขยับได้อีก
เลือดไหลเลียบตามคมกระบี่แล้วหยุดลงตรงพื้นหิมะ กลายเป็นจุดสีแดงจางๆ ค่อยๆ จางหายไป
ใบหน้าของชายหัวโล้นขึงขังอย่างสิ้นเชิง “ดีมาก ครั้งนี้ทำข้าเจ็บอีกแล้ว ข้าขอมอบให้เจ้าอีกหมัด!”
หมัดพุ่งลงมา หนึ่งพลังทลายหมื่นวิชา! แรงที่น่ากลัวกระแทกเขตอาคมเหมันต์จนแตกละเอียด
หลิวเชียนฮ่วนกระอักเลือด ร่างกายถูกแรงหมัดม้วนขึ้นฟ้าไปพร้อมกับเสียงของเลือดลมที่ซัดสาดและกระดูกแตกหัก
เซวียนหยวนเฉิงเพิ่งมีความหวังกับเพลงกระบี่อันไร้เทียมทานของหลิวเชียนฮ่วน แต่วินาทีต่อมา ความหวังก็ถูกหมัดของชายหัวโล้นทำลายจนแหลกลาญ
เพลงกระบี่ที่ยิ่งใหญ่และน่าเหลือเชื่อปานนี้ก็ยังเอาชนะเขาไม่ได้… ความสามารถของชายหัวโล้นคนนี้แข็งแกร่งเกินไปแล้วจริงๆ!
ชายหัวโล้นกระทืบเท้าข้างหนึ่งแล้วพุ่งใส่หลิวเชียนฮ่วน ปล่อยหมัดออกไปอีกครั้ง!
หลิวเชียนฮ่วนมองหมัดที่แฝงด้วยพลังที่น่าสะพรึง ในที่สุดความสิ้นหวังก็ผุดขึ้นในใจ
นางรู้ดีว่า หมัดนี้นางต้านไม่ได้!
แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ มือที่มีพลังก็โอบเอวอรชรคอดกิ่วของนางไว้ กลายเป็นภาพติดตาสายฟ้าแลบ เคลื่อนตัวออกไปร่วมร้อยจั้งในพริบตา
ตูม หมัดกระแทกมา พลังหมัดแทบจะทะลวงผืนฟ้าแล้ว
หมัดของชายหัวโล้นพบกับความว่างเปล่า…
“หึๆ…วีรบุรุษช่วยสตรีแล้วหรือ ขอกดไลค์ให้เลย!” หลิวเชียนฮ่วนมองใบหน้าด้านข้างอันหล่อเหลาของชายหนุ่มตรงหน้าพลางยิ้มอย่างเบิกบานใจ เลือดแดงฉานยังเปื้อนใบหน้าขาวปลอดงดงามของนาง รอยยิ้มทั้งเศร้าและเย้ายวนใจ
“อยู่ที่นี่แล้วคอยตะโกนให้กำลังใจก็พอแล้ว”
“ศึกต่อจากนี้ คอยดูฝีมือข้าเอง!”
ชายหนุ่มวางหลิวเชียนฮ่วนลงบนพื้น ไอสีดำกำลังแผ่ออกมาจากร่างกายของเขาไม่ขาดสาย
เขาคืออันหลินที่ใช้พลังปราณอนธการแล้วนั่นเอง