ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 352 ไร้ราตรี
ชายหัวโล้นมองอันหลินที่อยู่ไกลออกไป สีหน้าเปลี่ยนไปโดยพลัน
กลิ่นอายแบบนี้…แข็งแกร่งนัก!
อันหลินเงยหน้ามองชายหัวโล้นเช่นกัน ดวงตาดำขลับดุจน้ำหมึก ด้านหลังมีผ้าคลุมสีดำก่อตัวในพริบตา แม้แต่กระบี่พิชิตมารก็มีผ้าแถบสีดำพันรอบ ปานมีเสื้อกันหนาวสีดำเพิ่มมา
รอบกายเงียบสงัดไร้เสียง กลิ่นอายความตายและความดับสิ้นแผ่กระจายประหนึ่งริ้วคลื่น
อันหลินเป็นศูนย์กลางของความมืดมิด เป็นดั่งราชันผู้บงการรัตติกาล สุขุมเยือกเย็น แต่แฝงด้วยสุดยอดพลังที่ทำให้คนหลับใหลตลอดกาล
ลมโชยผ่านระลอกหนึ่ง ร่างของอันหลินอันตรธานหายไปเสียแล้ว
ชายหัวโล้นเพ่งสายตาโดยพลัน ยกหมัดขึ้นแล้วปล่อยออกไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล
ในตอนนั้นเอง คมกระบี่สีดำก็มาประชิดหน้าเขาด้วยอานุภาพที่ไร้เทียมทาน ปะทะกับกำปั้นแล้ว
ตูม
การประสานงาของสองพลัง ทำให้พลังปราณกระเพื่อมขึ้นพันเมตร คลื่นพลังที่น่ากลัวระเบิดทำลายทุกสิ่งอย่างในรัศมีร้อยจั้ง
อันหลินกับชายหัวโล้นถอยกรูดพร้อมกัน ถุงมือของชายหัวโล้นถูกคมกระบี่เฉือนจนขาด เผยให้เห็นรอยเลือดเด่นชัด แต่อันหลินไร้รอยขีดข่วน ใบหน้าเรียบเฉยถือกระบี่พุ่งใส่ชายหัวโล้นอีกครั้ง
กระบี่ที่อหังการอย่างยิ่งยวด การประสานงาที่ธรรมดาเรียบง่าย พลังที่ปะทุทำให้ดินแดนผืนนี้ถล่มทลาย
ชายหัวโล้นถูกกระบี่ที่พุ่งมาอย่างองอาจไม่หยุดของอันหลินบีบคั้นจนถอยกรูด ไม่นานบาดแผลก็ปรากฏตามตัวนับสิบกว่าแห่ง
ในสายตาของชายหัวโล้น ผ้าคลุมสีดำด้านหลังอันหลินใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกลายเป็นม่านฟ้ามืดมนบดบังท้องนภา และกระบี่ในมืออันหลินกลับกลายเป็นผู้บงการความตายและความสูญสิ้นในม่านฟ้า บัดนี้กำลังประกาศอำนาจของมัน
เซวียนหยวนเฉิงกับหลิวเชียนฮ่วนแหงนหน้ามองฟ้า ผ้าคลุมสีดำบังบดแสงตะวัน
ม่านรัตติกาลค่อยๆ คืบคลานเข้ามา เพลงกระบี่ไร้ราตรีของอันหลินสั่งสมพลังจนบรรลุถึงขีดสูงแล้ว!
ใช่แล้ว ครั้งนี้อันหลินไม่ได้ใช้หกกระบี่เทพสงคราม แต่ฟังคำแนะนำของเสี่ยวเสีย ใช้เพลงกระบี่ไร้ราตรีที่เพิ่งได้รับเมื่อครู่นี้!
สวีเสี่ยวหลานถูกลำแสงสีแดงบีบคั้นจนล่าถอย ชั่วขณะที่ผ้าสีดำพลิ้วไหว สายตาของนางก็หยุดอยู่ที่ชายหนุ่มที่อยู่ห่างไกลแล้ว
จักรพรรดิเจินหงแข็งแกร่งเกินไป แม้จะมีต๋าอีกับต๋าเอ้อร์คอยตรึงสุดชีวิต หูก้วนกับเหยาหมิงซีก็ตกอยู่ในวิกฤตแห่งความตายอยู่ดี สวีเสี่ยวหลานจึงฟังคำสั่งของอันหลิน ไปช่วยพวกหูก้วนก่อน
ก่อนแยกกันอันหลินเคยบอกว่า เขาจะเอาชนะชายหัวโล้นคนนั้นให้ได้ เมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังอย่างยิ่งของอันหลิน สวีเสี่ยวหลานเชื่อคำเขา และเชื่ออย่างไร้ข้อกังขา
และตอนนี้ก็ได้เห็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดแล้ว
ชายหัวโล้นถูกโจมตีจนเลือดร้อน สองมือกำแน่น พลังก็พุ่งทะยานจนถึงขีดสุด
“ไอ้หนุ่ม อย่าอวดดีเกินไป เอาหมัดจริงจังของข้าไปกิน!”
จู่ๆ กล้ามเนื้อบนท่อนแขนของชายหนุ่มก็ปูดขึ้นมา พลังปราณพุ่งขึ้นพันเมตร ก่อตัวเป็นกระแสวนขนาดใหญ่ และศูนย์กลางกลับเป็นหมัดขวาของเขา
หมัดปล่อยออกไป!
กำปั้นสีแดงคล้ายว่าจะทลายสรรพสิ่ง ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในสายตาของอันหลิน
มันทรงพลังมหาศาลดุจท้องทะเล ความรุนแรงของมันทลายฟ้าดิน!
สีหน้าของอันหลินเคร่งขรึมอย่างยิ่ง เขายกกระบี่ขึ้นขวางหน้าแล้วควงมันอย่างรวดเร็ว ผ้าคลุมสีดำกลายเป็นม่านฟ้าและเหมือนสายธารสีดำเทกระหน่ำลงมา ก่อตัวเป็นกระแสวนที่ดูดกลืนฟ้าดินกำบังตรงหน้า
กระแสวนสีดำเก้าสิบเก้าชั้นเริ่มปรากฏให้เห็น ใจกลางของมันลึกล้ำชนิดที่แม้แต่จิตวิญญาณของคนก็หลบหลีกไม่ได้ มันเหมือนหลุมดำที่กลืนกินทำลายสรรพสิ่ง พุ่งตอบโต้หมัดสีแดงทันที
ตูม
พลังที่น่ากลัวทำลายกระแสวนชั้นแล้วชั้นเล่า มิติเริ่มบิดเบี้ยว ชั้นที่สิบ ชั้นยี่สิบ ชั้นสามสิบ…ชั้นเก้าสิบ
รอยแยกสีดำปรากฏกลางนภาพร้อมกับกลิ่นอายของพลังแรกกำเนิด มันเป็นเค้าลางของมิติที่ถูกสะเทือนจนปริแตก
อวัยวะภายในของอันหลินฉีกขาดแล้ว กระดูกก็เริ่มเต็มไปด้วยรอยร้าว มันเป็นอาการบาดเจ็บที่สาหัสปางตายแล้ว แต่เขากลับไม่มีความกลัวและความคิดจะถอยเลยสักนิด แววตาสุกใสชัดเจน
แต่ในใจของเขา ตอนนี้ต่างหากที่เป็นเวลาแห่งการตัดสินแพ้ชนะ!
กระบี่พิชิตมารกลายเป็นเงาดำกลับมาที่มือของเขา ในความเย็นเยียบมีเสียงที่เจือความตื่นเต้นดังขึ้น
“อันหลิน หลับตา!”
อันหลินหลับตาลง จากนั้นเขาก็เห็นแสงสว่าง
มันเป็นแสงที่อยู่ในจิต ลำแสงที่แหวกความมืดมิด เจิดจ้าเป็นล้นพ้น!
กระบี่พิชิตมารระเบิดแสงสว่างที่โชติช่วงอย่างยิ่ง ราวกับความมืดพบกับแสงสว่าง ประหนึ่งความดับสูญบังเกิดความหวัง
ม่านฟ้าสีดำถูกแสงสีขาวฉีกกระจาย ผ้าคลุมของอันหลิน แถบผ้าสีดำของกระบี่พิชิตมารหายไปจนหมดสิ้น
ลำแสงกระบี่สีขาวพวยพุ่งขึ้นฟ้า ราวกับได้รับการหลุดพ้นหลังเก็บกลั้นมาเนิ่นนาน ปล่อยพลังของตัวเองอย่างสบายอุราด้วยความบ้าคลั่ง
“กระบวนท่าสุดท้าย อวสานไร้ราตรี แสงสว่าง!”
ชายหัวโล้นมองลำแสงกระบี่สีขาวเส้นนั้น มันกระชากความมืด ทลายฟ้าดิน กลายเป็นสีสันเพียงหนึ่งเดียวของโลกใบนี้ ยิ่งใหญ่ พร่างพราย แต่เปี่ยมด้วยความหวัง!
ไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือเหล่าสมาชิกในทีม ต่างก็เผลอจับจ้องกระบี่ที่โลดแล่นกลางนภาโดยไม่รู้ตัว ในใจสั่นสะท้านอย่างยิ่ง
หน้าอกของชายหัวโล้นถูกลำแสงสีขาวทะลวงตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบได้ เลือดสาดกระจายเต็มท้องฟ้า ร่างกายหล่นร่วงลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
อันหลินก็ตกลงมาอย่างหมดแรงเช่นกัน ตอนนี้ร่างกายของเขาไร้เรี่ยวแรงแล้วอย่างสิ้นเชิง ผลข้างเคียงจากการใช้พลังปราณอนธการเป็นเวลานานไม่ใช่เพียงอ่อนแรงเท่านั้น อาจกระทบกับพื้นฐานการบำเพ็ญเพียรด้วย
ร่างของเขาถูกแขนที่อบอุ่นรับไว้ เมื่อพยายามลืมตามองก็เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาและเต็มไปด้วยความห่วงใยของเซวียนหยวนเฉิง
“สหายอันหลิน เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ไม่…ไม่เป็นไร”
อันหลินส่ายหน้าอย่างไม่มีแรง คิดไม่ถึงว่าเลือดลมจะเกลือกกลิ้ง กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง
ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่หมดสิ้นเรี่ยวแรงเท่านั้น แต่อวัยวะทั้งหลายในร่างกายก็ถูกหมัดนั้นกระแทกจนพังหมดแล้ว
กระบี่พิชิตมารอุทานว่าสะใจแล้วก็กลับเข้าไปซ่อนตัวในแหวนมิติ ไม่สนใจสภาพอนาถในตอนนี้ของผู้เป็นเจ้านายเลย
เซวียนหยวนเฉิงวางสมาชิกที่บาดเจ็บสาหัสอย่างอันหลินกับหลิวเชียนฮ่วนไว้ด้วยกัน ป้อนยาฟื้นฟูบาดแผลให้ทั้งคู่ ความจริงตัวเขาเองก็บาดเจ็บสาหัสเช่นกัน เพียงแต่ยังฝืนยืนได้อยู่
ขณะที่อันหลินคิดว่าเอาชนะไซตามะตัวปลอม สามารถผ่อนคลายได้สักครู่แล้วนั้น
เสียงหนึ่งกลับทำให้เขาสะดุ้งโหยง ในใจเกิดความเย็นเยียบ
“แค่กๆ…ประเมินพวกเจ้าต่ำไปจริงๆ”
ร่างหัวโล้นตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากซากปรักหักพังช้าๆ ศีรษะที่เปื้อนเลือดยังคงเจิดจ้าภายใต้การส่องสะท้อนของแสงแดด
เขากุมบาดแผลตรงหน้าอกที่เลือดไหลไม่หยุดแล้วเดินไปหาพวกอันหลินทีละก้าว ในแววตาเจือความฮึกเหิมที่ลุกโชน “พลังต่อสู้ของพวกเจ้าเหนือความคาดหมายของข้าเป็นอย่างมาก แต่ยังห่างจากการเอาชนะข้าอยู่อีกนิดหน่อย”
ชายหัวโล้นพูดกลั้วหัวเราะ “ประหลาดใจหรือไม่ แปลกใจหรือไม่ ตื่นเต้นหรือไม่”
เขากำมือแน่น เดินหน้าไม่หยุด ปางตายสามคน…เขาจะจัดการให้เหี้ยน! ระยะห่างของเขากับพวกอันหลินเหลือน้อยลงทุกที ประหนึ่งเทพเจ้าปีศาจบรรพกาลที่อำมหิตที่สุด เตรียมจะแยกเขี้ยวปลิดชีพของมันแล้ว
ขณะนั้นเอง พลันเกิดริ้วคลื่นเส้นเล็กกลางอากาศ
ลำแสงสีน้ำเงินพาดผ่านด้านหลังของชายหัวโล้น ราวกับพญาอินทรีแตะสัมผัสผิวน้ำแผ่วเบา หายวับทันตา
เพียงครู่เดียว! ไม่ทันตั้งตัวเลยสักนิด!
ขณะที่ชายหัวโล้นอ่อนแรงที่สุด คลื่นอารมณ์รุนแรงที่สุด เคียวของเทพมรณะก็ตวัดลงมาเบาๆ…
ชายหัวโล้นมองรอยเลือดบนลำคอ ดวงตาเบิกกว้าง ใบหน้ายังฉายความตะลึง
อันหลินและพวกหลิวเชียนฮ่วนมองร่างสีเงินที่อยู่ห่างไกล ต่างก็หายใจเข้าดังเฮือก
“สวยไปเลย! สมบูรณ์แบบ!” อันหลินลุกพรวดขึ้นด้วยอาการปางตายแล้วตะโกนลั่น
“นี่แหละประโยชน์ของมือสังหารยามเล่นเป็นทีม…”
นัยน์ตาสีม่วงของหลิวเชียนฮ่วนเป็นประกาย มุมปากยกขึ้นส่งยิ้มงดงาม
กงจักรแสงจันทร์สีน้ำเงินที่อยู่ห่างไกลหมุนรอบซูเฉี่ยนอวิ๋นอย่างสุขใจ ราวกำลังประกาศชัย
ซูเฉี่ยนอวิ๋นปาดเลือดตรงมุมปาก ยิ้มให้พวกอันหลินอย่างดีใจ ใบหน้าขาวผุดผ่องมีลักยิ้มตื้นๆ สองข้าง มีเสน่ห์น่ารัก